ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เนี้ยหลี่’สอนบทสวดแรกของ เนื้อแท้แห่งจารึกสวรรค์ แก่เนี้ยยู่ หลังจากที่เธอจดจำมันได้ ‘เนี้ยยู่’ก็ไปค้นหาพื้นที่ว่างแห่งหนึ่งและเธอก็เริ่มฝึกฝน
เวลาค่ำคืนที่ล่วงเลยไป ความมืดเริ่มมีมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ มีซึ่งบางเงาบางสิ่งได้ก้าวอย่างรวดเร็วข้ามผ่านป่าแห่งนี้
‘เนี้ยหลี่’สัมผัสได้ถึงบางสิ่งจะระยะห่างที่ไกลออกไป เขาสังเกตุว่ามีร่างหลายร่างกำลังเคลื่อนไหวใกล้กับหน้าผาห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร คิ้วเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย และเคลื่อนมือขวาของเขา เงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่ในอากาศและล่องไปยังป่าเบื้องหน้า
เขาได้ปล่อยจิตอสูรแห่งเงาออกไปโดยมิได้รวมร่างกับมัน จิตอสูรนั้นไม่สามารถต่อสู้ได้ถ้าไม่ได้รวมร่างกับร่างของร่างทรงอสูร อย่างไรก็ตาม ร่างทรงอสูรสามารถมีสัมผัสรู้สึกได้ถึงสิ่งที่จิตรอสูรนั้นเห็นและได้ยิน ซึ่งมันเป็นประโยชน์มากในบางครั้ง
พลังงานรอบ ๆ ของจิตอสูรทั่วไปนั้นสามารถถูกพบได้โดยง่าย แต่จิตอสูรแห่งเงานี้สามมารถซ่อนพลังรอบ ๆ ตัวและร่องรอยของมันได้ ดังนั้น มันจึงเหมาะยิ่งนักสำหรับใช้ในการสอดแนมและตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ
ในไม่ช้าจิตอสูรแห่งเงาก็พบกับรูปร่างหลายร่างห่างไกลออกไป ผ่านสายตาของจิตอสูรแห่งเงา ‘เนี้ยหลี่’สามารถเห็นคนสามคนที่ได้สวมใส่ชุดคลุมสีดำ ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในป่า
‘เนี้ยหลี่’ควบคุมจิตอสูรแห่งเงาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และระบุตำแหน่งที่แน่ชัดของคนทั้งสาม
คนเหล่านั้นกำลังพูดคุยระหว่างพวกเขาเอง
“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลบันทึกสวรรค์”
“พวกเราต้องระมัดระวังตัวให้มาก ที่นี่ยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับทองอยู่หลายคน ถ้าพวกเราไปพบกับเจ้าพวกนั้น พวกเราต้องตายเป็นแน่”
“พวกเจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าหนูนั่นที่ชื่อเนี้ยหลี่ตอนนี้ได้อยู่ในบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่งภายใต้ภูเขาแห่งนี้”
“แน่นอน ข้าได้ไปตรวจสอบเมื่อตอนกลางวันมาแล้ว พ่อของเจ้าหนูนั่นไม่ได้ฝึกพลัง ดังนั้นพวกเราจะสามารถจัดการพวกมันโดยไม่ถูกสังเกตุได้”
ผ่านการได้ยินจากจิตอสูรแห่งเงา เนี้ยหลี่ได้ยินการสนทนาของพวกมัน คิ้วของเขาขมวดเข้าเล็กน้อย ‘พวกมันเหล่านี้มาจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นหรือ?’
จากการดูพวกมันแล้ว พวกคนทั้งสามเหล่านี้ตั้งใจเพื่อมาจัดการเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสามน่าจะอยู่แค่ระดับเงิน
เสียงหนึ่งของบางคนรู้สึกคุ้นหูของ’เนี้ยหลี่’เป็นอย่างมาก เขาจำมันได้ในทันที หนึ่งในสามคนนี้คือ ‘หยุน หัวดิคอน’ จากสมาคมทมิฬ
หลังจากได้พบกันที่เมืองนครกล้วยไม้โบราณ ‘เนี่ยหลี่’ก็ได้จำน้ำเสียงของคนผู้นี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในสมองของเขา โชคยังดี
พวกมันที่มานั้นล้วนอยู่เพียงแค่ระดับเงิน จำนวนของผู้เชี่ยวชาญที่อยุ่ระดับทองมีอยู่น้อยมากในเมืองกลอรี่นี้ ทุก ๆ คนจะมีป้ายชื่อพิเศษติดอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องอย่างสำหรับผุ้เชี่ยวชาญระดับทองของสมาคมทมิฬที่จะแทรกซึมสู่เมืองกลอรี่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในพวกมันเหล่านี้มีเพียง’หยุนหัว ดิคอน’เท่านั้นคิ้วของ’เนี้ยหลี่’ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยและปลดปล่อยการรับรู้แรงกล้าออกจากจิตอสูรแห่งเงาอย่างลาง ๆ เนี้ยรู้สึกได้ถึงกำลังของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับเงินทั้งสามนี้ หนึ่งคนอยู่ที่ระดับเงิน 5 ดาว และอีกสองคนนั้นอยู่ที่ระดับเงิน3 ดาว
“นี่ค่อนข้าจะเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ”
‘เนี้ยหลี่’พึมพำ คิ้วขมวดอีกครั้ง ถ้าพวกเขาอยู่ที่ระดับเงิน 1 ดาวหรือ ระดับเงิน 2 ดาว ‘เนี้ยหลี่’จะสามารถรับมือกับพวกมันได้ และสำหรับระดับเงิน 3 ดาวแล้ว’เนี้ยหลี่’ก็ยังสามารถหาทางที่จะจัดการพวกมันได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันมีระดับเงิน 5 ดาวมาด้วยซึ่งนั่นค่อนข้างจะจัดการยากอยู่สักหน่อย
ถ้าพวกมันทั้งสามได้เข้ามายังบ้านของ’เนี้ยหลี่’นั่นจะเป็นปัญหาอย่างมาก
“เซี่ยวยู่ รีบไปเร็วเข้าและแจ้งพวกผู้ใหญ่บอกพวกเขาว่ามีคนหลายคนจากสมาคมทมิฬถูกพบเห็นอยู่ในป่า!”
‘เนี้ยหลี่’คิดอยู่ชั่วครูแล้วค่อยพูดกับ’เนี้ยยู่’เช่นนั้น
“คนจากสมาคมทมิฬ?”
ตาของเนี้ยอยู่ปรากฏความกลัวอยู่ภายใน ด้วยอายุเท่านี้ เธอก็เคยได้ยินเรื่องราวอันน่ากลัวของสมาทมิฬว่าเป็นเช่นไร่
“เช่นนั้นแล้วท่านกำลังจะไปไหน? พี่ใหญ่เนี้ยหลี่ ไปด้วยกันเถอะ!”
“ข้านั้นไม่เป็นไรหรอก ข้าจะไม่เข้าไปปะทะกับพวกมัน ข้าจะรอคอยจับตาดูพวกมันเอาไว้ รีบไปและแจ้งพวกผู้ใหญ่ ภายกลุ่มคนเหล่านี้ มีอยู่หนึ่งคนที่อยู่ระดับเงินห้าดาว ผู้ที่อยู่ระดับทองต้องมาที่นี่!”
‘เนี้ยหลี่’กล่าว เพื่อป้องการการถูกโจมตีจากเหล่าสัตว์อสูร บริเวรของตระกูลบันทึกสวรรค์จะต้องมีผู้ที่อยู่ระดับทองคอยตรวจตราทุก
ๆ วัน ทั้งหมดที่เธอต้องทำคือเรียกผู้ลาดตระเวนอาวุโสมายังที่แห่งนี้“เซี่ยวยู่ เร็วเข้า ! เจ้าไม่สามารถมัวชักช้าอยู่ได้อีกต่อไป!”
‘เนี้ยหลี่’เร่งด้วยความกังวล
เมื่อเห็น’เนี้ยยู่’กำลังวิ่งออกไกลออกไป ‘เนี้ยหลี่’รู้สึกโล่งใจขึ้น มีอยู่สองเหตุผลที่ให้’เนี้ยยู่’ไปตามพวกผู้ใหญ่ อย่างแรกเพื่อขอความช่วยเหลือ และอีกอย่างเพื่อส่งเธอออกไปจากบริเวณนี้ ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถมีสมาธิไปที่การจัดการกับสถานการณ์ ณ ขณะนี้ได้
‘เนี้ยหลี่’พรางตัวเขาอย่างระมัดระวังค่อย ๆ เข้าไปไกลบริเวณที่พวกมันทั้งสามกำลังอยู่ในตอนนี้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้จะมากยิ่งนัก แต่ศัตรูก็อยู่ในที่โล่งซึ่งเขาสามารถรับรู้ได้แต่ตัวเขานั้นได้ซ่อนตัวอยู่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปะทะกันเข้า
‘หยุนหัว ดิคอน’ นำนักต่อสู้ระดับเงิน 3 ดาวทั้งสองไปโดยค่อย ๆ มุ่งผ่านเหล่าต้นไม้
“เกิดอะไรขึ้นกัน?”
‘หยุนหัว ดิคอน’ก็รู้สึกได้ทันใดถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด เหมือนบางสิ่งบางอย่างกำลังอยู่ที่มุมหนึ่งตรงนั้น กำลังสอดแนมพวกเขา แม้ว่าความรู้สึกนี้จะค่อนข้างคลุมเครือ เขาก็ไม่สามารถพบสิ่งใดเกี่ยวกับมัน
“มีอะไรผิดไปรึ ท่านหัวหน้า?”
นักต่อสู้ระดับเงินทั้ง 2 ได้ถามด้วยความงุนงง
“สัมผัสของข้าต่อสิ่งนั้นผิดไปหรือ?”
‘หยุนหัว ดิคอน’ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเขาก็ได้ดีดนิ้ว เสือประกายดำร่างใหญ่ปรากฏออกมาบนอากาศ ดวงตาเย็นเฉียบของมันสอดส่องไปรอบ ๆ ต้นไม้
เขาคือร่างทรงอสูรระดับเงิน 5 ดาวซึ่งมีจิตอสูรแห่งเสือประกายดำ!
‘นั่นมันทำให้ยิ่งจัดการยากขึ้นเข้าไปอีก!’
‘เนี้ยหลี่’ขมวดคิ้วของเขาอยู่ชั่วครู่ ซ่อนตัวภายใต้เงามืด กลั้นลมหายใจของเขาไว้ จิตอสูรแห่งเงาก็ด้วยเช่นกันได้ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ไม่เคลื่อนไหว
ระยะห่างของ’เนี้ยหลี่’จาก’หยุนหัวดิคอน’อยู่ราว ๆ ห้าสิบถึงหกสิบเมตร เจ้าจิตอสูรเสือประกายดำนั้นอยู่ที่ระดับเงินเท่านั้น
มันเป็นไปไม่ได้สำหรับมันที่จะพบเขาจากระห่างที่ไกลเช่นนี้ และสำหรับจิตอสูรแห่งเงา มันซ่อนอยู่ห่างออกไปห้าเมตรจาก’หยุนหัว ดิคอน’ ร่างกายของมันเข้าสู่รูปแบบการหายหัวอย่างสมบูรณ์แบบดวงตาของจิตอสูรเสือประกายดำได้จ้องมองไปด้านบน มันกวาดตาไปทั่วสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แต่ก็ไม่สามารถตรวจพบสิ่งใด ‘หยุนหัว
ดิคอน’รู้สึกโล่งใจและกล่าวว่า“บางที ข้านั้นคงคิดมากไป”
‘หยุนหัว ดิคอน’เรียกจิตอสูประกายดำกลับ การปล่อยจิตรอสูรของตัวเองสามารถทำให้ร่างทรงอสูรผู้อื่นสามารถตรวจพบถึงพลังงานรอบตัวของจิตอสูรนั้นได้ ดังนั้น เขาจึงต้องระวังตัวให้มาก
“พวกเราทั้งสองจะรออยู่ที่แห่งนี้ ลิ่วค่วงจงไปและตรวจสอบว่ามีผู้ใดลาดตระเวนอยู่ภายในตระกูลบันทึกสวรรค์หรือไม่และส่งสัญญาณมาให้แก่พวกเรา!”
‘หยุนหัว ดิคอน’พูดอย่างนิ่มนวล
เกี่ยวกับเรื่องนี้มันค่อนข้างจะอันตรายอยู่บ้าง ดังนั้น เขาถึงไม่เต็มใจเสี่ยงด้วยตัวเขาเอง
‘ลิ่วค่วง’รู้สึกหดหู่ใจอยู่บ้างคิดขึ้นมาว่า ‘ทำไมข้าต้องไปด้วย?’ อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าปฏิเสธ’หยุนหัว ดิคอน’ เขาไม่มีทางเลือกทำได้เพียงแต่ก้มศรีษะของเขาและมุ่งลงไปจากยอดเขา
‘หยุนหัว ดิคอน’และอีกผู้หนึ่งมีนามว่า’ลิ่วหยาน’ชะลอฝีเท้าลง
เมื่อเห็น’ลิ่วค่วง’แยกตัวออกจาก ‘หยุนหัว ดิคอน’ ‘เนี้ยหลี่’คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ‘นั่นเป็นโอกาสที่ดีมาก’
ซึ่งกำลังของเขาในตอนนี้นั้น การจัดการกับบุคคลทั้งสามในคราวเดียวยังคงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเพียงนักต่อสู้ระดับเงินสามดาวเพียงคนเดียวแล้วล่ะก็ มันจะเป็นเรื่องที่ง่ายอย่างมาก แม้ว่าการบ่มเพาะพลังของ’ลิ่วค่วง’นั้นสูงกว่า’เนี้ยหลี่’อยู่ 2 ระดับ แต่เขานั้นเป็นแค่ระดับนักต่อสู้ส่วน’เนี้ยหลี่’คือร่างทรงอสูร
จิตอสูรที่’เนี้ยหลี่’กำลังใช้อยู่นี้ไม่เคยถูกพบเห็นมาก่อน บุคคลธรรมดาจะไม่รู้ความสามารถพิเศษของจิตอสูรแห่งเงาได้เลย
ภายใต้การควบคุมของ’เนี้ยหลี่’ เจ้าจิตอสูรแห่งเงาได้กลายเป็นแสงดำมืด ลอยกลับมาและผสานอย่างเร็วเข้ากับ’เนี้ยหลี่’ ทำให้ร่างกายของเขานั้นเปลี่ยนไป
‘เนี้ยหลี่’มองไปยังทิศทางที่ไม่ไกลนัก เห็น’ลิ่วค่วง’และมุมปากที่บิวเบี้ยวของเขา ด้วยความคิดหนึ่งเขาได้ซ่อนร่างของเขาและค่อย ๆ เข้าใกล้’ลิ่วค่วง’
“เกิดอะไรขึ้น”
หลังจาก’ลิ่วค่วง’รีบออกมาเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร เขารู้สึกถึงพลังแปลก ๆ รอบ ๆ ได้ในทันใด เขายังคงยืนนิ่งอยู่ มองอย่างสงสัยไปยังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
ภายในค่ำคืนอันมืดมิด นอกจากเสียงเสียดสีกันของเหล่าต้นไม้ผ่านสายลมนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวอื่นอยู่อีก
“เป็นไปได้ว่าข้านั้นคิดมากเกินไป”
‘ลิ่วค่วง’หัวเราะแก่ตัวเขาเอง และเริ่มเดินหน้าต่อไป เขาได้ชะลอฝีเท้าลง คิดกับตัวเขาเองว่าเขาสามารถทำการบางสิ่งอันเป็นที่พอใจแก่’หยุนหัว ดิคอน’แล้ว
คงไม่จำเป็นต้องมาวิตกและเสี่ยงชีวิตเช่นนี้
‘เนี้ยหลี่’กลั้นหายใจของเขาเข้าใกล้เงียบ ๆ ไปที่ลิ่วค่วง ด้วยทักษะการหายตัวของจิตอสูรแห่งเงา มันเป็นเรื่องยากที่บุคคลทั่วไปจะสามารถตรวจจับพลังงานของเขาได้
5 เมตร, 3 เมตร, 2 เมตร,……………….
‘ลิ่วค่วง’ไม่ได้รู้เลยว่า’เนี้ยหลี่’นั้นในตอนนี้ได้อยู่ด้านหลังเขาเสียแล้ว
ทันใดนั้น ‘ลิ่วค่วง’รู้สึกถึงจิตสังหารที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเขา ความรู้สึกตระหนกได้ทิ่มแทงผ่านสู่หัวใจของเขา เขารู้สึกแปลกใจมาก ทันใดเขาก็ได้หันหลังกลับ และเตะเท้าออกไปหนึ่งครั้ง
อย่างไรก็ตาม ลูกเตะของเขานั้นไม่ได้ปะทะเข้ากับสิ่งใด ไม่มีผู้ใดอยู่ด้านหลังของเขา
“ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
‘ลิ่วค่วง’รู้สึกสั่นกลัวภายในใจไม่รู้จบเขารู้สึกชัดเจตได้ถึงจิตสังหารแต่เมื่อเขาหันหลังกลับ เขากลับไม่พบสิ่งใดอยู่เลย
เพียงเมื่อ’ลิ่วค่วง’รู้สึกโล่งใจเท่านั้นร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏอยู่ใกล้ตัวเขา
‘ฟื้ด’
แสงสะท้อนเย็นเฉียบในเงามืดได้พาดผ่านคอของ’ลิ่วค่วง’
คอของ’ลิ่วค่วง’ถูกตัด ร่องรอยของเลือดสด ๆ พุ่งออก ปากของเขาเปิดอ้ากว้าง ยังไม่ทันได้พูดสิ่งใด ดวงตาของเขาค่อย ๆ มืดลง
‘พล๊อบ’
ศรีษะของเขาล่วงหล่นสู่พื่นดิน
‘ลิ่วค่วง’ไม่เข้าใจได้แม้กระทั่งการตายของเขา อะไรกันแน่ที่ได้จู่โจมเขา ตั้งแต่เริ่มการบ่มเพาะพลังจนกระทั่งบัดนี้ เขาผ่านประสบการณ์มาแล้วหลายพันสิ่ง และการถูกจู่โจมนับร้อย แต่เขาไม่เคยเจอรูปแบบการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีโอกาสค้นหาสิ่งเหล่านั้นได้อีกต่อไป
หลังจาก’เนี้ยหลี่’จู่โจมสำเร็จ เขาเข้าสู่รูปแบบหายตัวอีกครั้ง กลับไปซ่อนตัวเองต่อ
เขาพลางรอบ ๆ ศพของ’ลิ่วค่วง’และเตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตีครั้งถัดไป
สำหรับ การลอบจู่โจมครั้งแรกของเขานั้น ‘เนี้ยหลี่’ไม่ค่อยพอใจกับมันมากสักเท่าใดนัก ดังที่ก่อนเขาจะลงมือ จิตสังหารของเขาถูกตรวจจับได้โดย’ลิ่วค่วง’ แม้ว่าในที่สุดเขาก็จู่โจมได้สำเร็จ สำหรับ’เนี้ยหลี่’มันยังคงเป็นความล้มเหลว
นักลอบสังหารที่แท้จริงต้องฆ่าศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย
เพราะว่า’เนี้ยหลี่’เพิ่งเริ่มรวมร่างกับจิตรอสูรแห่งเงา การควบคุมทักษะของจิตอสูรแห่งเงายังคงไม่เต็มที่ มีความผิดพลาดเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ในครั้งแรกของเขาก็สามารถทำสิ่งนี้ได้แล้ว
ถ้าเป็นผู้อื่นแล้วพวกเขาจะพึงพอใจเป็นอย่างมากกับผลลัพธ์เช่นนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม’เนี้ยหลี่’มีข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับตัวเขาเอง การค้นหาซึ่งความสมบูรณ์แบบ
กลิ่นของเลือดลอยฟุ้งไปในอากาศภายในป่าแห่งนี้
“เกิดอะไรขึ้น?”
คิ้วของ’หยุนหัว ดิคอน’ขมวดเข้าหากัน ด้วยความรู้สึกอย่างฉลาดหลักแหลมว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าและ’ลิ่วหยาน’ก็ตามติดมาด้านหลัง
หลังจากรีบเร่งมาไม่กี่เมตรเบื้องหน้าพวกเขาเห็นศพของ’ลิ่วค่วง’อยู่บนพื้นดิน
“มีใครบางคนอยู่ที่นี้!”
‘หยุนหัว ดิคอน’อ้าปากค้างและเข้าสู่สถานะเตรียมตัวสู้ ‘ฝ่ายตรงข้ามฆ่านักต่อสู้ระดับเงินที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเราโดยปราศจากซึ่งเสียงใดได้ สามารถเป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นอยู่ที่ระดับทองเช่นนั้นรึ?’
‘ลิ่วหยาน’ตกใจกลัวเมื่อเขาเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ‘ลิ่วค่วง’เพียงแค่วิ่งออกไปเพียงไม่กี่เมตรจากพวกเรา
และเขาถูกฆ่าอย่างเงียบงัน ฝ่ายตรงข้ามทำสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน?’พวกเขาค่อยถอยกลับ โดยหันหลังชนกัน ตรวจสอบอย่างตื่นตัวไปตามเหล่าต้นไม้รอบ ๆ
ในค่ำคืนที่มืดมิดเช่นนี้ มีเพียงเสียงของนกร้องที่ได้ยินในป่าอันเงียบเชียบนี้ พวกเขาไม่สามารถพบผู้ใดอีกในป่าแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม
พวกเขามีความรู้สึกหวาดกลัวของการถูกจ้องมองอยู่ เป็นเหตุให้ขนต่าง ๆ ตามร่างกายของพวกเขาลุกขึ้นเมื่อเห็นว่า ไม่มีการโต้ตอบใดจาก’หยุนหัว ดิคอน’ และ’ลิ่วหยาน’ ‘เนี้ยหลี่’ก็มิได้ทำการเคลื่อนไหวใดใด และรอคอยอยู่อย่างเงียบ ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น การยื้อเวลาเป็นผลดีแก่ตัวเขา ยิ่งนานเท่าไหร่’เนี้ยยู่’จะสามารถเรียวผู้อาวุโสมากจากตระกูลได้ทันยิ่งขึ้น
เวลากำลังเดินอยู่
หลังจากเขาสังเกตุว่าบางสิ่งไม่ถูกต้องแล้วนั้น ‘หยุนหัว ดิคอน’ขมวดคิ้วของเขาและกล่าวว่า
“ไปจากที่นี่กันเถอะ!”
เขาเป็นชายผู้มีความรอบคอบสูง เพราะว่าเขาเผชิญเข้ากับการสูญเสียที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เขาจะถอยกลับไปก่อน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียง
‘หยุนหัว ดิคอน’ ก้าวไป พร้อมที่จะถอยกลับ’ลิ่วหยาน’ที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเขาก็เตรียมที่จะตามเขาไป
“เจ้าต้องการหนีไปรึ? ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปง่าย ๆ หรอก!”
แสงเย็นเฉียบพุ่งผ่านดวงตาของ’เนี้ยหลี่’ในขณะที่เขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขายกเคียวกระดูกขึ้นและตัดผ่านไปยังลิ่วหยาน
หลังจากที่เข้าสู่รูปแบบหายตัว ‘เนี้ยหลี่’ได้ซุ่มซ่อนอยู่ใกล้ ๆ ‘ลิ่วหยาน’มาเป็นเวลานานแล้ว ระยะห่างจาก’ลิ่วหยาน’จากเขามีเพียงห้าถึงหกเมตร เขาได้เร่งความเร็วขึ้นทันที
เพียงเมื่อ’เนี้ยหลี่’ปรากฏตัว ม่านตาของ’ลิ่วหยาน’และ’หยุนหัว ดิคอน’ก็จ้องเขม็งมา
“ใคร?”
มีใครบางคนที่ได้ซุ่มซ่อนอยู่ใกล้ ๆ กับพวกเขาและพวกเขาไม่สามารถสัมผัสถึงเรื่องเหล่านี้ในตลอดเวลาที่ผ่านได้เลย!
“ฆ่า!”
ตาของ’เนี้ยหลี่’ค่อย ๆ หลี่ลง ปลดปล่อยจิตสังหารเลือดเย็นออกมา และฟันผ่านไปที่ลิ้วหยานด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
‘ลิ้วหยาน’กระโดดถอยหนี ร่างของเขาสะท้อนแสงหนึ่งออกมา บนตัวเจานั้น มีที่ป้องกันแขนทั้งสองข้าง เขายกการ์ดแขนขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของ’เนี้ยหลี่’ และในเวลาเดียวกันก็ปล่อยลูกเตะไปยัง’เนี้ยหลี่’ลูกหนึ่ง
ด้วยเขาเป็นนักสู้ระดับเงิน ‘ลิ่วหยาน’ได้ผ่านสู้รบมาเป็นร้อย และมีประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วน ภายใต้การสู้รบประชิดตัวเช่นนี้ การตอบสนองของเขารวดเร็วทีเดียว
น่าเสียดายที่ผู้หนึ่งที่ได้จู่โจมเขานั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็น’เนี้ยหลี่’ที่ได้ร่วมร่างกับจิตอสูรแห่งเงา!
‘เนี้ยหลี่’เผชิญหน้ากับ’ลิ่วหยาน’และทันใดก็ยืดแขนของเขาออก เงี่ยงหนึ่งของเคียวพุ่งไปในทันทีเข้าสู่ด้านหลังของศรีษะ ‘ลิ่วหยาน’ ซึ่งเคียวอันละเมียดละไม
“ฟื้ด”
เงี่ยงหนึ่งทะลุผ่านด้านหลังของศรีษะ ‘ลิ่วหยาน’
ตาของ’ลิ่วหยาน’ค่อย ๆ ปิดลง แม้กระทั่งตอนตาย เขายังไม่สามารถเข้าใจได้ ทำไมชายผู้นี้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาถึงมีแขนที่ยืดยาวเช่นนี้? เขาสามารถอ้อมไปด้านหลังของศรีษะและจู่โจมเขามาได้จริง ๆ
ภายในเวลาไม่นาน ‘เนี้ยหลี่’ก็ได้จัดการอีกคนหนึ่งแล้ว
ถ้าเทียบด้านพละกำลังเพียงอย่างเดียว ‘ลิ่วหยาน’แข็งแรงกว่า’เนี้ยหลี่’เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม’เนี้ยหลี่’ไม่ได้เผชิญหน้า ‘ลิ่วหยาน ‘แบบตรง ๆ โดยทีเขาจู่โจมออกไปในทันที และในเวลาเดียวกันการโจมตีนั้นก็ไม่ถูก ‘ลิ่วหยาน’ คาดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาอันสั้น ไม่มีทางเลยที่’ลิ่วหยาน’จะสามารถตอบสนองกลับได้ ดังนั้น จึงทำให้การลอบสังหารของ’เนี้ยหลี่’ครั้งนี้สำเร็จ
โดยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
จบตอน…
แปลโดย –
ที่มา: