ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘เชาหมิงเฟิง’ กลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับผลึกวิญญาณอสูรเป็นจำนวนมากเหล่าอสูรที่ถูกจับได้ จะถูกพันธนาการและเก็บเอาไว้ในผลึกวิญญาณอสูร
ผลึกวิญญาณอสูรที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ หลายต่อหลายแถวนับเป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งนัก
“พวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายระดับซิลเวอร์ ราคารวมทั้งหมดประมาน 60,000เหรียญจิตมาร ส่วนพวกนี้คือวิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายระดับโกลด์ ราคารวมทั้งหมดประมาณ300,000 เหรียญจิตมาร”
‘เชาหมิงเฟิง’อธิบายราคาของผลึกหินวิญญาณทั้งสองส่วนแก่’เนี้ยหลี่’
นอกเหนือจากการรวมร่างกับร่างทรงอสูรแล้ว วิญญาณอสูรยังสามารถนำไปใส่ในชุดเกราะ เพื่อเพิ่มความสามารถของชุดเกราะได้ด้วยวิญญาณอสูรตั้งแต่ระดับซิลเวอร์ขึ้นไป มักจะมีราคาค่อนข้างแพง
เริ่มตั้งแต่ 10,000 ไปจนถึง 100,000 เหรียญจิตมาร ซึ่งราคาระดับนี้ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปคงจะหาซื้อมาใช้ได้ยาก
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเนี้ยหลี่ !!
“อืมมม.. ราคาสมเหตุสมผลดี ข้าซื้อหมดนี่เลยละกัน”
‘เนี้ยหลี่’พยักหน้าในเชิงตกลง
‘เชาหมิงเฟิง’หันไปหา ‘เนี้ยไฮ้’และ’เนี้ยอิ้ง’ ในเชิงขออนุญาติ
ซึ่งทั้งสองคนกำลังจ้องหน้ากันไปมาพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ โดยที่’เชาหมิงเฟิง’ไม่ได้รู้เลยว่า ..
ทั้ง’เนี้ยไฮ้’และ’เนี้ยอิ้ง’นั้น ไม่ใช่คนที่จะสามารถตัดสินใจแทน’เนี้ยหลี่’ได้
‘เนี้ยหลี’โบกมือขวาเล็กน้อย แล้วการ์ดอสูรคริสตัลจำนวนหนึ่งก็หล่นลงมาจากแหวนมิติของเขา เขาวางการ์ดเหล่านั้นไว้บนโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า
“ท่านลองตรวจสอบดู เงินเท่านี้น่าจะพอนะ”
การ์ดอสูรคริสตัล 1 ใบ = 10,000 เหรียญจิตมารเพราะถ้าเก็บเป็นเงินสดมันจะเปลืองพื้นที่
‘เนี้ยหลี่’จ่ายเองงั้นรึ ? เมื่อเขามองไปที่การ์ดอสูรคริสตัลกองนั้น ‘เชาหมิงเฟิง’ ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะเค้าไม่คิดว่าตระกูลบันทึกสวรรค์จะให้เด็กถือเงินไว้กับตัวมากมายขนาดนี้ นี่น่าจะหมายความว่าตระกูลบันทึกสวรรค์นั้นร่ำรวยมากแน่ ๆ แต่อย่างไรเสีย
เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะเขาเป็นพ่อค้า ถ้า’เนี้ยหลี่’มีเงินจ่าย เขาก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว‘เนี้ยหลี่’โบกมือขวาอีกที แล้วก็โยนการ์ดอสูรคริสตัล 50 ใบกลับเข้าไปในแหวนมิติของเขา
“อย่าลืมกลับมาอุดหนุนข้าอีกนะ”
เมื่อ’เชาหมิงเฟิง’นับการ์ดอสูรคริสตัลเสร็จแล้ว บนหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง เพราะการขายของในครั้งนี้เป็นการทำธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขานับตั้งแต่เริ่มขายวิญญาณอสูรมาเลย
“ท่านเจ้าของร้านช่างสุภาพจริง ๆ แต่พวกเราอยากจะซื้ออย่างอื่นอีกสักหน่อย ท่านเจ้าของร้านคงไม่ได้ไล่ลูกค้าหรอก ใช่ไหม ?”
‘เนี้ยหลี่’พูด พลางมองไปที่’เชาหมิงเฟิง’
“ไม่เลย ๆ ข้าไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น นายน้อยยังต้องการวิญญาณอสูรอย่างอื่นอีกงั้นรึ?”
‘เชาหมิงเฟิง’ถาม ความสุขุมของ’เนี้ยหลี่’ทำให้เขารู้สึกกดดันเล็กน้อย เขายิ้มเจื่อน ๆ พร้อมกับคิดในใจว่า เด็กคนนี้อายุ 13 ปีจริง ๆ
หรือ เขาช่างร้ายกาจยิ่งนัก !“แน่นอน ! การซื้อวิญญาณอสูรฝันร้ายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ข้าอยากได้เท่านั้น”
‘เนี้ยหลี่’พูดอย่างสุขุม’เชาหมิงเฟิง’ตกใจอย่างมาก !!
‘เนี้ยหลี่’ต้องการจะซื้อวิญญาณอสูรเยอะขนาดไหนกันนะ แต่อย่างไรก็ตามร้านค้าของเขาก็มีไว้เพื่อธุรกิจ เพราะฉะนั้นยิ่งขายวิญญาณอสูรได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
“ข้าต้องการวิญญาณอสูรประเภทพิษ, วิญญาณอสูรประเภทลมหิมะ และวิญญาณอสูรประเภทต่อสู้ ท่านเจ้าของร้านช่วยนำวิญญาณอสูรประเภทเหล่านี้ออกมาให้หมดร้านนะ”
เหมาหมดร้านอีกแล้วหรือ ? โอ้พระเจ้า !
เชาหมิงเฟยไม่รอช้า รีบนำวิญญาณอสูรประเภทต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาจนหมดร้าน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าวิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายหลายเท่า วิญญาณอสูรที่เนี้ยหลี่ต้องการนั้นมีจำนวนร่วมหมื่นใบ แต่ราคาต่อใบนั้นจะถูกกว่าวิญญาณอสูรประเภทฝันร้ายอยู่เล็กน้อย
“ราคารวมทั้งหมด 65 ล้านเหรียญจิตมาร!”
‘เชาหมิงเฟิง’รีบคำนวณราคาของสินค้าอย่างรวดเร็ว แค่เพียงการคำนวณราคาก็ทำให้เขาเหงื่อแตกเสียแล้ว
“อ่ะนี่ 65 ล้านเหรียญจิตมาร ท่านลองนับดูนะ”
เนี้ยหลี่หยิบการ์ดอสูรคริสตัลออกมา 6,500ใบ แล้ววางกองไว้บนโต๊ะ
‘เชาหมิงเฟิง’ต้องรู้สึกตกใจอีกครั้ง ขี้ตกใจจริง ๆ เลยลุง เพราะตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสเห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญก็คือว่าเงินทั้งหมดนี่มันออกมาจากแหวนมิติของเด็กอายุ 13 ปี !
“ท่านเจ้าของร้าน ข้ายังอยากจะซื้อวิญญาณอสูรประเภทอื่นอีกสักหน่อย”
‘เนี้ยหลี่’พูดพลางมองไปที่เชาหมิงเฟย
“นายน้อยสั่งข้ามาได้เลย หรือเพียงท่านส่งคนมาบอกข้า ข้าจะรีบจัดส่งวิญญาณอสูรทั้งหมดไปให้ถึงที่ตระกูลบันทึกสวรรค์เลย!”
‘เชาหมิงเฟย’รีบตอบรีบอย่างดีใจ
เขาไม่กล้าที่จะปฏิบัติกับ’เนี้ยหลี่’เหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป เพราะ’เนี้ยหลี่’คือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเขา การขายของให้’เนี้ยหลี่’หนึ่งครึ่งมีมูลค่ามากกว่าที่เขาขายมาตลอดหลาย ๆ ปีเสียอีก
เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องปฏิบัติต่อ’เนี้ยหลี่’ให้ดีเข้าไว้ เพราะถ้าลูกค้ารายใหญ่แบบนี้หนีหายไปล่ะก็ เขาคงจะต้องมาร้องไห้เสียใจในภายหลังแน่นอน
“โอเค ! ท่านผู้นำตระกูล ท่านผู้อาวุโส เรากลับกันเถอะ”
‘เนี้ยหลี่’พูดกับ’เนี้ยไฮ้’และ’เนี้ยอิ้ง’
“โอเค ! ”
‘เนี้ยไฮ้’และ’เนี้ยอิ้ง’พยักหน้า แต่เดิมแล้ว เขาทั้งคู่เตรียมที่จะเซอไพรส์’เนี้ยหลี่’ แต่กลายเป็นว่าเขากลับถูก’เนี้ยหลี่’เซอไพรส์เสียเอง ในตอนนี้หัวใจของพวกเขายังไม่อาจจะหยุดเต้นรัว ๆ ได้เลย
จะโทษใครได้หล่ะ ? ตระกูลบันทึกสวรรค์มีรายรับทั้งปีเพียง 1 ล้านเหรียญจิตมาร แต่’เนี้ยหลี่’เพิ่งจะซื้อหม้ออสูรด้วยราคากว่า 100 ล้านเหรียญ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังใช้เงินอีกกว่า 60 ล้านเหรียญเพื่อซื้อวิญญาณอสูรในครั้งนี้ด้วย
หลังจากที่ร่ำลากับ’เชาหมิงเฟย’เรียบร้อยแล้ว ‘เนี้ยหลี่’ ‘เนี้ยไฮ้’ และ’เนี้ยอิ้ง’ก็ขึ้นรถม้าเพื่อกลับสู่ตระกูลบันทึกสวรรค์
ในการเดินทางออกมาครั้งนี้ ‘เนี้ยหลี่’ ‘เนี้ยไฮ้’ และ’เนี้ยอิ้ง’ต่างได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไป
เมื่อกลับไปถึงตระกูล ‘เนี้ยไฮ้’และ’เนี้ยอิ้ง’ ก็ประกาศเรียกรวมสมาชิกทุกคนของตระกูลทันที พร้อมกับแจกจ่ายยาบำรุงที่ได้มาจาก’เนี้ยหลี่’ เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถพัฒนาความสามารถได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อ’เนี้ยหลี่’กลับมา ภายใต้การจัดการของ’เนี้ยไฮ้’
‘เนี้ยหลี่’และครอบครัวถูกย้ายไปที่บ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกันกับบ้านของผู้นำตระกูล เพราะนี่น่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในตระกูลบันทึกสวรรค์ ซึ่ง’เนี้ยหลี่’ก็รู้สึกดีไม่น้อย จากการจัดการของ’เนี้ยไฮ้’ในครั้งนี้
‘เนี้ยหลี่’ทิ้งยาบำรุงต่าง ๆ การ์ดอสูรคริสตัล และอุปกรณ์อื่น ๆ เอาไว้ในบ้าน เพื่อที่จะให้ครอบครัวของเขาได้นำไปใช้ได้อย่างสะดวก
เมื่อจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เสร็จแล้ว ‘เนี้ยหลี่’ก็กลับเข้าห้องของเขา เพื่อทำการฝึกฝนต่อไปในตอนเย็นนั้นเอง ก็มีข่าวมาจากสมาคมนักปรุงยา ‘หยางซิน’บอกว่ามีกลุ่มนักฆ่าพยายามที่จะปล้นเธอ และพยายามที่จะขโมยหม้ออสูรฝันร้าย แต่พวกนักฆ่าเหล่านั้นได้โดนองค์รักษ์ของเธอฆ่าทิ้งหมดแล้ว
‘เนี้ยหลี่’ทำหน้ามุ่ย พร้อมกับคิดว่า จะมีใครในเมืองกลอรี่ที่กล้าทำเรื่องเช่นนี้ ? มันจะกล้ามากเกินไปแล้ว
จะเป็นไปได้ไหมว่าคนที่พยายามจะขโมยหม้ออสูรฝันร้ายจะรู้ประโยชน์ที่แท้จริงของมัน ? เพราะถ้าไม่ พวกมันคงไม่กล้าทำเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนี้แน่ ๆ ซึ่งคงจะมีเพียงกิลด์มืดเท่านั้นที่จะกล้าที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ อย่างไรเสีย ทั้งตระกูลศักดิ์สิทธิ์ และกิลด์มืด จะต้องโดนจัดการอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!
ถึงแม้ว่าการฝึกฝนของ’เนี้ยหลี่’จะพัฒนาไปมาก แต่ตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในระดับซิลเวอร์ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการที่จะจัดการเรื่องต่าง ๆ
ถึงแม้ว่าวิญญาณอสูรเงาปิศาจจะแข็งแกร่งมากในการฆ่า แต่ก็ไม่ควรจะใช้มันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลมากเกินไป
‘เนี้ยหลี่’นั้นต้องการที่จะรวมร่างกับวิญญาณอสูรหลาย ๆ ตัว แต่วิธีการบำเพ็ญตนเทพสวรรค์ที่’เนี้ยหลี่’ใช้นั้น จะทำให้เขาสามารถรวมร่างกับวิญญาณอสูรได้เพียง 7 ชนิดเท่านั้น โดยทุกการรวมร่างจะทำให้ ความแข็งแกร่ง และความรวดเร็วในการฝึกฝนของ’เนี้ยหลี่’จะเพิ่มขึ้นอย่างมากตามไปด้วย
ซึ่งแน่นอนว่า ‘เนี้ยหลี่’จะต้องพิถีพิถีนในการเลือกวิญญาณอสูรที่เขาจะรวมร่างด้วยเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาได้กลับมาในชาตินี้ เขาจะไม่รวมร่างกับอสูรขยะทั่ว ๆ ไปอีกแล้ว และยิ่งในตอนนี้ เขามีวิญญาณอสูรเงาปิศาจ เขาจึงคิดที่จะออกสำรวจซากโบราณสถานต่าง ๆ เพื่อหาวิญญาณอสูรดี ๆ ที่เหมาะกับตัวเขา
แต่ในตอนนี้ เมื่อเขามีหม้ออสูรฝันร้าย เขาก็มีความคิดใหม่ ๆ ที่จะใช้หม้ออสูรฝันร้ายในการเสริมความแข็งแกร่งของวิญญาณอสูร !!
..จบตอน…
แปลโดย มินนี่ งิงิ
: แปลเก่งขึ้นเรื่อย ๆนะครับ
ที่มา: