ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“เจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือก !”
‘เสิ่นหมิง’คำรามด้วยความโกรธ และรวมร่างกับวิญญาณอสูรหมีหิมะ ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตู้มมม !!
หมัดของ’ลู่เปียว’ก็กระแทกเข้าที่ท้องของ’เสิ่นหมิง’เต็ม ๆ ทำให้’เสิ่นหมิง’รู้สึกเจ็บไปถึงลำไส้
ถึงแม้ว่า’เสิ่นหมิง’จะเป็นคนที่มีตำแหน่งฐานะสูงในตระกูลศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโส ที่คอยดูแลเรื่องการเงินของตระกูลเท่านั้น เขาไมได้มีความสามารถด้านการต่อสู้มากนัก เขาจึงเป็นเพียงแค่ระดับซิลเวอร์เท่านั้น ซึ่งเมื่อเขาโดน’ลู่เปียว’ต่อยเข้าที่ท้อง ทำให้เขากระเด็นไปตกอยู่บนพื้น
ในเวลาไม่นานนัก ฝ่าย’เสิ่นหมิง’ทุกคนก็ลงไปนอนกองกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ หุ่นเชิดวิญญาณบินมาเกาะที่ไหล่ของ’เนี่ยหลี่’ เหตุผลที่’เนี่ยหลี่’และพรรคพวกสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย ก็เพราะเจ้าหุ่นเชิดวิญญาณที่ทำหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจจากพวกระดับโกลด์ หากไม่แล้ว การต่อสู้คงจะกินเวลายืดเยื้อกว่านี้เป็นแน่
‘ลู่เปียว’เหยียบ’เสิ่นหมิง’เอาไว้ แล้วก็ถาม’เนี่ยหลี่’ว่า
“เนี่ยหลี่ พวกเราจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร?”
“ปล่อยข้าซะ ! ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้า ตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ !”
‘เสิ่นหมิง’ยังคงดิ้นรนที่จะเอาตัวรอด เพราะตั้งแต่ที่เขามาเป็นผู้อาวุโสที่ดูแลคลังของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่เคยมีผู้ใดเคยดูถูกเขามาก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากจบการแข่งขันครั้งนี้ ตำแหน่งของเขาในตระกูลศักดิ์สิทธิ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“ไอ้ตาแก่ตดเหม็นเอ้ย ข้าได้ยินเรื่องราวสกปรกของตระกูลศักดิ์สิทธิ์มามาก ครั้งนี้เจ้ายังจะกล้าขู่พวกเราอีกหรือ ? พวกเราไม่กลัวเจ้าหรอก แล้วถ้าเจ้ายังไม่หุบปากของเจ้าเอาไว้ล่ะก็ ถ้าจะขุดหลุมสำหรับฝังศพเจ้าเลยแล้วกัน”
‘ลู่เปียว’ตอบกลับด้วยความโกรธ ด้วยเดิมทีตัวเขาเองก็ไม่ชอบตระกูลศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว ดังนั้นการได้เหยียบคนของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ด้วยเท้าจึงทำให้เขารู้สึกสะใจมาก
เมื่อได้ยินสิ่งที่’ลู่เปียว’พูด ‘เสิ่นหมิง’ก็เงียบในทันที และไม่พูดอะไรออกมาอีก
“ที่แท้ตาแก่นี่ก็กลัวตาย !”
‘ลู่เปียว’พูด พร้อมกับหัวเราะออกมา
‘ตู่เซ่อ’มอง’เนี่ยหลี่’แล้วถามด้วยความกังวลว่า
“เนี่ยหลี่ พวกเราควรจะทำอย่างไรกับพวกมันดี เราต้องรีบแล้วนะ เพราะถ้าหากกำลังเสริมของตระกูลศักดิ์สิทธิ์มาถึงล่ะก็ …”
“นำตัวเสิ่นหมิงและเจ้านั่นไป พวกที่เหลือก็ปล่อยไว้ตรงนี้แหละ !”
‘เนี่ยหลี่’พูด แล้วชี้ไปที่’เดียคอนหยุนฮัว’ ที่อยู่ไกลออกไป
“ทำไมเจ้าถึงปล่อยเจ้าพวกนี้ไปล่ะ ?”
‘ลู่เปียว’ถาม เขารู้สึกไม่ดีนักที่จะปล่อยให้พวกนี้ไปง่าย ๆ เพราะเขาอุตส่าห์ตั้งใจทำให้พวกมันสลบ ถ้าปล่อยไปง่าย ๆ เขาก็เหนื่อยฟรีน่ะสิ
“ข้าวางแผนเอาไว้แล้ว”
‘เนี่ยหลี่’ตอบ พร้อมกับรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“เพราะพวกเจ้าระดับโกลด์สามคนนั่น บาดเจ็บจากการต่อสู่กับหุ่นเชิดวิญญาณ พวกมันคงไม่สามารถรักษาตัวให้หายดีได้อีกหลายปี หรืออาจจะถึงสิบปี กว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนพวกระดับซิลเวอร์ พวกมันไม่สามารถทำอะไรเราได้อยู่แล้ว ดังนั้นการปล่อยพวกมันไปจึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องกัลวล”
“การจับตัวระดับผู้นำได้ถึงสองคนก็ถือว่าดีมากแล้ว ! แล้วเราจะไปไหนกันต่อล่ะ ? ตำหนักท่านเจ้าเมืองงั้นรึ ?”
‘ตู่เซ่อ’ถาม หลังจากที่’เนี่ยหลี่’บอกให้จับสองคนนั้นมาแล้ว แล้วจะจับไปไว้ที่ไหนล่ะ ?
‘เนี่ยหลี่’คิดสักครู่ แล้วจึงตอบว่า
“ต่อให้เราส่งตัวพวกมันให้ท่านเจ้าเมือง ก็ไม่มีประโยชน์ หนำซ้ำจะเป็นการง่ายต่อตระกูลศักดิ์สิทธืในการนำตัวพวกมันกลับไป ดังนั้นเราจะเอาพวกมันไปไว้ที่สมาคมนักปรุงยาก่อนก็แล้วกัน”
เขาจะส่งพวกมันทั้งคู่ให้’หยางซิน’ เพื่อให้อยู่ในการดูแลของสมาคมนักปรุงยา ทั้ง’เสิ่นหมิง’และ’เดียคอนหยุนฮัว’นั้น คนหนึ่งก็เป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านผู้นำตระกูล’เสิ่นฮง’ จากตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีกคนก็เป็นคนสำคัญในกิลด์มืด พวกเขาทั้งคู่น่าจะรู้ความลับอะไรบางอย่าง และพวกเขาอาจจะช่วยทำให้เราสามารถเปิดเผยว่าแท้จริงแล้วตระกูลศักดิ์สิทธิ์เป็นคนเช่นไร !
“เดินไป !”
สหายทั้งสี่คนช่วยกันนำ’เสิ่นหมิง’และ’เดียคอนหยุนฮัว’ที่ถูกมัดอย่างแน่นหนา มุ่งหน้าตรงไปที่สมาคมนักปรุงยา
เมื่อไปถึงสมาคมนักปรุงยาแล้ว ‘เนี่ยหลี่’และเพื่อน ๆ ได้ส่งตัวของ’เสิ่นหมิง’และ’เดียคอนหยุนฮัว’ให้กับ’หยางซิน’ เพื่อควบคุมตัวเอาไว้ และสอบปากคำ
ณ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์
“เจ้าพวกขยะ ไร้น้ำยา !! แค่เด็กไม่กี่คน พวกเจ้ายังจับมันมาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่พวกเจ้ามีคนตั้งมากมาย”
‘เสิ่นฮง’พูดด้วยความไม่พอใจมาก
ตู้มมม !!
ที่วางแขนของเก้าอี้ที่เขานั่งถูกป่นเป็นชิ้น ๆ แสดงให้เห็นถึงความโกรธที่เขามี
“ให้อภัยพวกเราด้วยเถอะท่านผู้นำตระกูล พวกข้าไม่คิดว่าเจ้าเด็กพวกนั้นจะพัฒนาตนเองไปจนถึงระดับซิลเวอร์แล้ว ในกลุ่มพวกเรา ผู้ที่ระดับสูงที่สุดก็เพียงระดับโกลด์เท่านั้น แม้แต่เดียคอนหยุนฮัวยังพ่ายแพ้แก่พวกมัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีนกประหลาด ที่แม้แต่ระดับโกลด์ก็ไม่สามารถต่อกรได้อยู่ด้วย !”
ทหารผู้น้อยคุกเข่าต่อ’เสิ่นฮง’
‘เสินฮง’ทำหน้าเครียดกว่าเดิม เขาไม่เคยคิดว่าสถานการณ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ใครจะคิดล่ะว่าระดับโกลด์ 4 คน กับระดับซิลเวอร์อีก 23 คน จะไม่สามารถจับเด็กอายุ 14 เพียง 4 คนได้ ? ขนาดส่งคนไปมากถึงเพียงนี้ก็ยังล้มเหลว เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และสิ่งทิ่ทำให้’เสิ่นฮง’ยิ่งโกรธก็คือ’เสิ่นหมิง’และ’เดียคอนหยุนฮัว’นั้นถูก’เนี่ยหลี่’จับตัวไปด้วย
การที่จับสองคนนั้นได้ เปรียบเหมือนกับว่าพวกนั้นจับจุดตายของ’เสิ่นฮง’ได้เลยทีเดียว !
‘เสิ่นหมิง’นั้นอยู่ในตระกูลศักดิ์สิทธิ์มาหลายปี เขารู้อะไรหลาย ๆ ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ และสำหรับ’หยุนฮัว’ ก็เป็นผู้ติดต่อระหว่างกิลด์มืดกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ‘เสิ่นฮง’คิดว่าพวกมันน่าจะโดน’เนี่ยหลี่’ฆ่าเสียยังดีกว่าถูกจับไปแบบนี้ การพ่ายแพ้ต่อระดับซิลเวอร์ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ’เสิ่นหมิง’ แต่พวก’เนี่ยหลี่’สามารถจับเป็น’เสิ่นหมิง’และ’หยุนฮัว’ได้ !
มันแสดงให้เห็นถึงว่า เจ้าเด็กนั่นจะต้องรู้อะไรบางอย่าง ‘เนี่ยหลี่’จะต้องเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ต่อเขาอย่างแน่นอน เขาจะต้องรีบกำจัด’เนี่ยหลี่’ซะ
“เจ้ากำลังบังคับให้ข้าฆ่าเจ้าเองนะ! เจ้าคิดว่าการซ่อนตัวอยู่ในตำหนักของท่านเจ้าเมืองจะทำให้เจ้าปลอดภัยจากข้างั้นหรือ ? เจ้าประเมินความสามารถของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ต่ำเกินไปเสียแล้ว”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏอยู่ที่มุมปากของ’เสิ่นฮง’ แสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังมาจากหัวใจ !
“จงไปสืบมา ว่าเสิ่นหมิงและหยุนฮัวถูกเก็บตัวไว้ที่ใด แล้วก็อย่าลืมสืบไปถึงว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเนี่ยหลี่ ตระกูลบันทึกสวรรค์จะต้องชดใช้ ต่อให้มีสมาคมนักปรุงยาคุ้มครองอยู่ก็เถอะ ส่งข้อความไปถึงกิลด์มืด บอกให้กิลด์มืดฆ่าทุกคนที่มาจากตระกูลบันทึกสวรรค์ เมื่อพวกมันออกนอกอาณาเขต !”
ดวงตาของ’เสิ่นฮง’แสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้าย พวกทหารทุกคนคุกเข่าลงด้วยความกลัว พร้อมกับตอบรับคำสั่ง ‘เสิ่นฮง’หยุดคิดบางอย่าง แล้วสั่งว่า
“ไปพาตัวผู้อาวุโสเสิ่นซู่ และผู้อาวุโสเสิ่นหยวน มาหาข้า !”
“ครับท่าน”
‘เสิ่นซู่’และ’เสิ่นหนวก’นั่นเป็นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ ‘เสิ่นฮง’คิดถึงแผนการฆ่า’เนี่ยหลี่’อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักสู้ระดับโกลด์ต้องพ่ายแพ้ให้แก่’เนี้ยหลี่’ ครั้งนี้เขาจะไม่ประมาท’เนี่ยหลี่’อีกแล้ว
ณ ขณะนั้น ที่สมาคมนักปรุงยา
“น้องชายเนี่ยหลี่ ที่เจ้าพูดว่าเดียคอนหยุนฮัว นั้นเป็นผู้ติดต่อระหว่างกิลด์มืดและตระกูลศักดิ์สิทธิ์นั้น จริงหรือไม่”
“ถูกต้องแล้ว”
‘เนี่ยหลี่’พยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเปิดปากมันให้ได้ พวกเราจะได้รู้ว่าตระกูลศักดิ์สิทธิ์กำลังคิดวางแผนอะไรอยู่ !”
‘หยางซิน’กล่าว , เมืองกลอรี่เป็นที่ เดียวที่มีผู้รอดชีวิต หากเมืองกลอรี่ถูกทำลายลงไป เธอก็ไม่รู้จะไปอยู่ทีไหน และหากใครกล้าที่จะทำลายเมืองกลอรี่ หรือทำลายความสงบสุขของเมืองกลอรี่ล่ะก็ สมาคมปรุงยาจะทำทุกวิถึทางเพื่อฆ่ามันพวก !
‘หยางซิน’จ้องไปที่ดาบเทพเจ้าอัสนีบาตที่อยู่ด้านหลัง’เนี่ยหลี่’ ยิ้มแล้วพูดว่า
“น้องชายเนี่ยหลี่ ทำไมเจ้าถึงแบกดาบสนิมเขรอะเอาไว้แบบนั้นล่ะ แถมเจ้ายังมีนกแปลก ๆ เกาะอยู่บนไหล่เจ้าด้วย ถ้าเจ้าต้องการเงินเพื่อไปซื้อดาบดี ๆ ล่ะก็ บอกพี่สาวคนนี้ได้เลย ส่วนเจ้านกนั่น เจ้าเพียงโยนทิ้งไป แล้วข้าจะหาสัตว์เลี้ยงระดับโกลด์มาให้ !”
ใช้เงินซื้อดาบเทพเจ้าอัสนีบาต ? ต้องใช้เงินมากมายขนาดไหนกัน หากต้องการจะซื้อดาบเล่มนี้ ?
พลังที่แท้จริงของดาบเทพเจ้าอัสนีบาตนั้น หากถูกใช้โดยร่างทรงอสูรระดับตำนานนั้น จะสามารถใช้วิชาลับต้องห้ามได้ !ส่วนนกแปลก ๆ ที่’หยางซิน’พูดถึงนั้น หากเธอได้รู้ว่าวิญญาณที่อยู่ในนกแปลก ๆ นั่นคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งเมืองกลอรี่ เธอจะพูดอย่างไรกันนะ ?
“เจ้าเด็กบ้า ! นี่มันคือการแนะนำให้ฆ่าข้าทิ้งชัด ๆ”
‘เอียหยาน’กล่าวด้วยความโกรธ แต่สิ่งที่’เอียหยาน’พูดนั้น คนที่พลังจิตที่แข็งแกร็งมาก ๆ จึงจะสามารถได้ยินได้ คนทั่วไปจะได้ยินเพียงเสี่ยงจิ๊บ ๆ ของนกเท่านั้น
“เนี่ยหลี่ ดูเหมือนสัตว์เลี้ยงของเจ้าจะพูดได้ด้วยนะ มันพูดว่าอะไรบ้างล่ะ ?”
‘หยางซิน’มองหุ่นเชิดวิญญาณด้วยความสนใจ พลางลูบไล้ไปด้วย ‘เอียหยาน’รู้สึกทนไม่ได้ จึงบินออกไป
‘หยางซิน’รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่คิดว่าเจ้านกแปลก ๆ นั่นจะทำมาจากเหล็ก และดูเหมือนกับว่าจะมีจิตวิญญาณเสียด้วย
อะไรที่ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ’เนี่ยหลี่’ มักจะทำให้เธอรู้สึกทึ่งได้เสมอ‘เนี่ยหลี่’มองไปที่’หยางซิน’ และพูดว่า
“พี่สาวหยางซินครับ หนิงเอ๋อและเพื่อน ๆ รอข้าอยู่ด้านนอก ข้าคงต้องไปแล้ว หากมีความคืบหน้าจากการสืบสวนสองคนนั้น โปรดแจ้งให้ข้าทราบทันที”
“ได้เลยน้องชาย”
‘หยางซิน’รับคำ เธอไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่นอน เพราะมันเกี่ยวข้องถึงความเป็นอยู่ของเมืองกลอรี่ ในตอนแรกเธอตั้งใจว่าแกล้ง’เนี่ยหลี่’สักเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทีเร่งรีบของ’เนี่ยหลี่’แล้ว เธอจึงล้มเลิกความตั้งใจนั้นเสีย แล้วพูดว่า
“พวกเจ้าอยู่ข้างนอกมานานแล้ว เจ้าอาจจะกำลังถูกจับตามองอยู่ ข้าจะส่งนักสู้ระดับแบล็คโกลด์ไปคุ้มครองเจ้า เพื่อเดินทางกลับก็แล้วกัน”
“ได้เลย”
‘เนี่ยหลี่’พยักหน้า หากมีนักสู้ระดับแบล็คโกลด์จากสมาคมนักปรุงยาตามไปด้วยล่ะก็ ต่อให้เป็น’เสิ่นฮง’ ก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อย่างแน่นอน เพราะหากมีการต่อสู้ของระดับแบล็คโกลด์เกิดขึ้น ทั้งเมืองกลอรี่จะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
“บ๊ายบาย น้องชาย”
‘หยางซิน’ก้มลง และมองไปที่’เนี่ยหลี่’ เสื้อผ้าซาตินที่เธอใส่อยู่นั้นรัดรูปร่างรัดส่วนของเธอให้เห็นอย่างชัดเจน ‘เนี่ยหลี่’สามารถมองเห็นถึงร่องลึกอยู่ระหว่างภูเขานั้น (ร่องนมนั่นเอง !!) เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับความขาวโบ๊ะ จนเกือบจะเห็นอะไรสีชมพู ๆ อยู่แล้ว กลิ่นของหญิงสาวนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนัก
ผู้หญิงคนนี้ช่างมีสเน่ห์ และเย้ายวนยิ่นัก นี่เธอไม่ใส่แม้กระทั่งเสื้อชั้นในด้วยซ้ำ !! (อื้อหือ ขาว อึ๋ม ไม่ใส่ชั้นใน ก้มตัวลงมา … อิจฉาครับ !!) ‘เนี่ยหลี่’รู้สึกถึงความรุ่มร้อนที่อยู่ในใจเมื่อเห็นฉากแบบนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาเห็นฉากที่เร้าอารมณ์แบบนี้
‘หยางซิน’ไม่สนใจสายตาที่กำลังจ้องมองของ’เนี่ยหลี่’ เธอจุ๊บหน้าผาก’เนี่ยหลี่’แล้วพูดว่า
“พี่สาวจะไปเยี่ยมเจ้าในเร็ว ๆ นี้”
‘เนี่ยหลี่’ยิ้มอย่างอาย ๆ เจ้าปิศาจแห่งความยั่วยวนคนนี้ จะต้องทำเพื่อหวังผลอะไรแน่นอน นี่เขาเป็นเพียงเด็กอายุ 14 ปีนะ เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?
“ข้าจะไปแล้ว”
‘เนี่ยหลี่’รีบหันหน้าหนีแล้วออกไป เพราะถ้าหากเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาอาจจะลำบากใจก็ได้ เมื่อเห็นท่าทีที่แปลกไปของเนี่ยหลี่ ทำให้’หยางซิน’อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
(แหม่ .. เนี่ยหลี่มันไม่เอากระบองหงอคงฟาดให้ก็ดีแค่ไหนแล้วเนี่ย ยั่วกันขนาดนี้ =w=)
เมื่อ’เนี่ยหลี่’ออกมาจากสมาคมนักปรุงยาได้ เขาจึงได้หายใจด้วยความโล่งใจ และเมื่อเขาเจอกับ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’และพรรคพวก เขาจึงกล่าวว่า
“หนิงเอ๋อ ไปกันเถอะ กลับไปที่ตำหนักของท่านเจ้าเมืองกัน !”
“โอเค ไปกันเถอะ”
‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’พยักหน้ารับ
‘เนี่ยหลี่’รู้สึกได้ถึงรังสีทั้งสองที่อยู่ด้านหลังพวกเขา พวกเขาจะต้องเป็นนักสู้ระดับแบล็คโกลด์จากสมาคมนักปรุงยา ที่’หยางซิน’ส่งมาคุ้มครองพวกเขาแน่ ๆ เพียงเท่านี้เขาก็เดินทางกลับตำหนักท่านเจ้าเมืองได้อย่างปลอดภัยแล้ว
จบตอน
ที่มา :