ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” เจ้าสำนักมังกรฟ้าช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!!! “
ในเวลานั้นใบหน้าของผู้คนโดยรอบ ต่างพากันตกใจอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงพวกสำนัก # 2 แม้แต่เจ้าสำนักต่างๆที่มากับเมืองเต่าทมิฬก็ยังไม่สามารถสงบใจ เพราะ ปัจจุบัน ‘หลี่ จางฉิง’ นั้นเหนือกว่าพวกเขา
” ไม่เคยนึกเลยว่าสำนักมังกรฟ้าจะมียอดฝีมือหลบซ่อนอยู่ภายใน ด้วยพลังวิญญาณของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าสำนักมังกรฟ้าจะก้าวเป็นสำนัก #1 “
” ถูกต้อง หลี่ จางฉิง ค่อนข้างน่าประทับใจ และยังดูเหมือนว่าเขาได้พบเมล็ดพันธ์ชั้นยอด อย่างชูเฟิงเมื่อปีที่แล้ว “
” ตอนนี้ เป็นเพราะ ชูเฟิง ที่ทำให้ หลี่ จางฉิง ตัดสินใจลงมือกับ ตระกูลกง แม้ว่ามันจะดูไม่สมเหตุสมผลโดยพื้นผิว แต่มันก็คุ้ม ที่พอจะแรกทุกอย่างในการช่วยเหลือ ชูเฟิง ตราบใดที่มีชูเฟิงยังคงพัฒนา วันข้างหน้าสำนักมังกรฟ้าก็ต้องยกระดับขึ้นเช่นกัน “
” เจ้ากล่าวถูกแล้ว ไม่เพียงแต่ปีศาจจะถือกำเนิดในสำนักมังกรฟ้า อีกทั้งยังมี สัตว์ประหลาดอย่าง หลี่ จางฉิง อีก ดูเหมือนว่าสำนักมังกรฟ้าจะต้องเป็นที่จับตามองมากขึ้น และไม่ช้า ในอาณาจักรมังกรฟ้าจะต้องมีสำนัก # 1 เพิ่มขึ้น “
‘หลี่ จางฉิง’ แสดงความสามารถของเขาให้ทุกคนได้เห็น ดังนั้น ทุกคนจึงรู้สึกว่า ‘ชูเฟิง’ และ ‘หลี่ จางฉิง’ เหมือนกับปีศาจที่จับคู่กับสัตว์ประหลาด ปรากฏขึ้นในสำนักมังกรฟ้า แน่นอนว่าสำนักของพวกเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ผู้คนต่างพากันประเมินสำนักมังฟ้า เพื่อทบทวนว่าคุ้มหรือไม่ ที่จะผูกมิตรกับพวกเขา หรือไม่พวกเขาก็ต้องตัดสินใจทางใดทางหนึ่ง ก่อนที่สำนักมังกรฟ้าจะครอบครองอำนาจอย่างสมบูรณ์ หากไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกมองด้วยสายตาที่ไม่ดี
* โห~~~~~~~~~ *
แต่ในขณะนั้น มีบางอย่างดูผิดปกติเกิดขึ้น เสียงแตรดังออกมาด้านนอกเวทีลานประลอง เสียงนั้นดูน่าเกรงขาม มันไม่ใช่เสียงโห่ร้อง แต่เป็นเสียงคำรามของมังกร ซึ่งส่งให้บรรยากาศที่น่ากลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั้งท้องฟ้าสั่นสะท้าน
” เสียงนี้ . . . . แตรเขาอสูร ของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน !!!! “
จู่ๆ ศิษย์จากสำนัก #1 ก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
” อะไรนะ เจ้าจะบอกว่าพวกเขาคือคนจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลนงั้นหรอ แล้วการที่เป่าแตรนั้นก็หมายถึงต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น หรือว่าพวกเขาคิดจะมาโจมตี “
หลังจากที่คำพูดนั้นหลุดออกมา ผู้คนต่างตกลงไปในความวุ่นวาย แล้วเหตุใดประมุขของอาณาจักรมังกรฟ้า อย่างคฤหาสน์องค์ชายกิเลน ที่แม้แต่สำนัก ‘หลิง หยุน’ ยังไม่กล้าขัดใจ ถึงได้มาที่นี่
* ก้องก้องก้องก้องก้อง *
ไม่นานหลังจากเสียงนั้นดัง ยอดเขาทั้งหมดก็เรื่มสั่นสะเทือน หินขนาดใหญ่เรื่มจะกลิ้งตกไปตามทางลาดชัน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากพร้อมกับม้าที่ใกล้เข้ามา
” ตาแก่นี้มาจริงๆด้วย!! “
ตอนนั้นแม้แต่’ชูเฟิง’ยังต้องขมวดคิ้ว ขณะที่ยังไม่ได้ทำอะไรกับ ‘กง ลู่หยุน’ เพราะเขารู้ว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งที่คอยหนุนหลัง ‘กง ลู่หยุน’ มาถึงแล้ว
สำหรับ ‘กง ลู่หยุน’ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและบอบช้ำ จนไม่สามารถพูดได้ แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงแตร รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
ขบวนทัพที่เดินมาทำให้ฝุ่นปกคลุมไปทั่ว แต่มันก็ถูกแสงสว่างสีทองกลบไว้จนหมด แน่นอนว่าเป็นฝีเท้าทั้งคนและม้า
พวกเขาหลายหมื่นคน ทั้งหมดล้วนแต่สวมเกราะสีทอง และบนหน้าอกก็มีสัญลักษณ์กิเลนติดไว้ แม้แต่ม้าที่พวกเขาขี่ยังสวมชุดเกราะสีทอง
พวกเขาดูน่าเกรงขามอย่างมาก อีกทั้งพวกเขายังปล่อยบรรยากาศน่ากลวออกมา กลุ่มคนพวกนั้นคือกองทัพ ของประมุขที่แท้จริงในอาณาจักรมังกรฟ้า กองทัพ คฤหาสน์องค์ชายกิเลน
” ประมุขของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนมาเองเลยหรอ !!! ไม่ใช่สิ คนที่เป็นผู้นำทัพคือผู้จัดการคฤหาสน์องค์ชายกิเลน หลิน หลาน “
” ไม่นึกเลยว่าเขาจะมา ในการประลองครั้งนี้ด้วย “
” แน่นอนว่าเขาต้องมา หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่า กง ลู่หยุน เป็นหลานบุญธรรมของเขา ของสนุกกำลังจะเริ่มแล้ว ข้าล่ะสังสัยจริงๆว่าเขาจะทำสีหน้ายังไงที่เห็น หลานของเขา ถูกทำร้ายแบบนี้ “
‘หลิน หลาน’สวมเกราะทองเช่นเกียวกับทหารม้า ซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนเลย แต่ยังไงก็ตาม ขณะที่เขาอยู่ในคนกลุ่มนั้น บรรยากาศของพวกเขาช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่มาจากพลังวิญญาณของเขา แต่เป็นบรรยากาศแปลกๆที่บอกไม่ถูก
ตอนนั้น ‘หลิน หลาน’ ก็มองเห็น ‘กง ลู่หยุน’ ที่อยู่บนเวทีการต่อสู้ คิ้วที่เหมือนดาบหิมะคิ้วขาวขมวดลง เห็นได้ชัดว่าเปลวเพลิงแห่งความโกรธได้ปรากฏขึ้นในจิตใจเขา เนื่องจากคนๆนั้นไม่ใช่หลานบุญธรรม แต่เป็นลูกชายของเขาเองแล้วทำไม’หลิน หลาน’จึงจะไม่โกรธ
เมื่อเขาเห็นว่าลูกชายตัวเองต้องบาดเจ็บเช่นนั้น แต่เขาก็ต้องทนไปก่อน เพราะเขามองเห็นกลุ่มคนจาก นิกายโลกวิญญาณ ในพื้นที่ของแขกอาวุโสเป็นธรรมดาที่’หลิน หลาน’จะรู้จักผู้คนจาก นิกายโลกวิญญาณ ต่อหน้าคนกลุ่มนั้น เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรผีผลาม หากทำให้ นิกายโลกวิญญาณไม่พอใจ
คฤหาสน์องค์ชายกิเลนจะได้รับผลกระทบนั้นไปด้วย
” ใช้สหายชูเฟิงหรือไม่ที่อยู่บนเวทีประลอง ? “
หลังจากจัดการอารมณ์ หลิน หลานก็พูด
” ข้าเอง!!! “
‘ชูเฟิง’ตอบ
” สหายเจ้าเก่งมาก ที่สามารถเอาชนะหลานชายของข้าได้ “
‘หลิน หลาน’ ยิ้มไปแล้วหันไปที่ ‘หลี่ จางฉิง’ พร้อมกับถาม
” อาวุโสท่านคือเจ้าสำนักมังกรฟ้า หลี่ จางผิง ใช่หรือไม่ ? “
” ข้าเอง!!! “
หลังจากที่กองทัพคฤหาสน์องค์ชายกิเลนมาถึง ‘หลี่ จางผิง’ ก็หยุดการต่อสู้กับคนจากเมืองเต่าทมิฬ
” เจ้าสำนักหลี่ ท่านแข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่พวกเขาก็เทียบท่านไม่ได้ อีกอย่างนึกไม่ถึงว่าท่านจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ อาณาจักรแก่นแท้ระดับ 7 ด้วยพลังวิญญาณของท่าน ตอนนี้ท่านสามารถส่งใบสมัครเพื่อเปลี่ยนสำนักมังกรฟ้า ให้เป็นสำนัก # 1 พรุ่งนี้ ท่านสามารถส่งคนไปยังคฤหาสน์องค์ชายกิเลนและข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างให้ ข้านั้นอยากให้สำนักมังกรฟ้าเข้าเป็นหนึ่งในสำนักชั้นยอด “
‘หลิน หลาน’ ยิ้มแต่น้ำเสียงของเขานั้นส่อให้เห็นถึงการคุกคาม เพื่อจะบ่งบอกถึงอำนาจให้ ‘หลี่ จางฉิง’ ได้รับรู้ เขาจึงต้องยกเอาคฤหาสน์องค์ชายกิเลนมาอ้าง ว่าสำนักมังกรฟ้าจะได้เป็นสำนัก # 1 หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับเขาว่าจะอนุมัติให้หรือเปล่า
” สำนักมังกรฟ้าไม่สนใจของเหล่านั้น อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อยากเป็นสำนัก # 1 ดังนั้นคงไม่รบกวนท่าน “
‘หลี่ จางผิง’ ไม่สนใจเรื่องที่เขาฝอยเหล่านั้น และในความเป็นจริง เขาก็ไม่ต้องรบกวน ‘หลิน หลาน’ เนื่องจากเขาไม่ได้สนใจว่าสำนักจะเป็น # 1 หรือ # 2 ดงนั้นเขาจึงไม่กลัวคำขู่เหล่านั้น
” ฮ่าๆๆ เจ้าสำนัก เจ้าช่างเป็นคนที่หยิ่งยโสยิ่งนัก ดูเหมือนว่าข้า หลิน หลาน จะยุ่งไม่เข้าเรื่องสินะ “
‘หลิน หลาน’ หัวเราะและหันไปกล่าวกับ ‘ชูเฟิง’
” สหาย ชูเฟิง เจ้ามีความโกรธแค้นอันใด “
” เจ้าทำเหมือนว่า เกลียดชัง กง ลู่หยุน เอามากๆ ในปีนั้น เจ้าท้าประลองกันด้วยเรื่องเล็กน้อยไม่ใช่หรอ แล้วจำเป็นไม๊ที่ต้องฆ่ากันให้ตาย “
” วันนี้เจ้าก็ให้บทเรียนเขามากพอแล้ว เห็นแก่หน้าข้า แล้วปล่อยเขาไปสักครั้ง “
” โฮ . . . . . “
หลังจากได้ยินคำพูดของ ‘หลิน หลาน’
‘ชูเฟิง’ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับถลึงตาใส่เขาพร้อมกับกล่าว
” ความเกลียดชังที่ถูกฆ่าล้างตระกูลมันยังเล็กน้อยอีกหรอ ? “
” อะไรนะ ฆ่าล้างตระกูล !!! “
หลังจาก ‘ชูเฟิง’ พูด มันกับมีหินก้อนยักษ์ตกลงไปในทะเลสาบ จนทำให้ผู้คนเกิดความวุ่นวาย
ฆ่าล้างตระกูล ???
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตัวเขาจะแก้ตัวว่ายังไง ???
เพื่อให้ ลูกชายเขาพ้นความผิด
จริง หรือ เท็จ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะเขามีเหตุจูงใจ
แล้วชูเฟิง จะใช้อะไรเป็นหลักฐาน . . . . .
แล้วใครจะเป็นพยานให้เขา . . . .
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ถึงตัวจะเป็นเด็ก แต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาคือ ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน . . . .
ที่มา: