ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘ซิคงยี่’คำรามอย่างเกรี้ยวกราด พลังที่ปกคลุมทั่วร่างลุกโชนขึ้นและปลดปล่อยลูกพลังงานสีเงินออกมา ในกลุ่มก้อนนั้นพลันปรากฏวิหคร่างหนึ่งที่มีปีกขนาดใหญ่ รอบตัวของมันมีสายฟ้าอยู่นับไม่ถ้วน จากนั้นมันก็พุ่งเข้าใส่’ต้วนเจี้ยน’
ตูม !!
สายฟ้าผ่าลงมายัง’ต้วนเจี้ยน’ เขากรีดร้องอย่างมาอย่างเจ็บปวดในทันที สายฟ้านั้นทะลวงผ่านการป้องกันโดยสมบูรณ์ มันตรงเข้าทำลายห้วงวิญญาณของเขาโดยตรง
“เด็กน้อย เจ้ายังอ่อนหัดเกินกว่าจะมาต่อกรกับข้า ถึงอย่างนั้นข้าต้องยอมรับว่าการพัฒนาของเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะมาท้าทายข้า!! ดังนั้น….ตายซะเถอะ!!”
‘ซิคงยี่’ค่อย ๆ หายเข้าไปในวิหคสายฟ้า จากนั้นวิหคตัวนั้นก็กู่ร้องลั่น
ตูม ตูม ตูม !!
เสาสายฟ้ากระหน่ำผ่าลงมาอย่างต่อเนื่องเข้าใส่ร่างกายของ’ต้วนเจี้ยน’
ราวกับว่าร่างกายจะฉีกออกจากกัน ‘ต้วนเจี้ยน’กัดฟันแน่น อาศัยความอดทนอย่างถึงที่สุดและจ้องเขม็งไปยัง’ซิคงยี่’
ปีกเขาเขาขยับขึ้นลง ค่อย ๆ บินเข้าหาซิคงยี่ จนระยะห่างระหว่างกันหมดลง
“เป็นไปไม่ได้!!”
‘ซิคงยี่’เบิกตาอย่างตื่นตระหนก เขาไม่คิดเลยว่า’ต้วนเจี้ยน’จะสามารถกระพือปีกของมันขณะที่ถูกโจมตีด้วยสายฟ้าที่หนาแน่นเช่นนั้นได้
“เหอะ! เจ้าเฒ่าผายลม พ่นอะไรออกมา ที่ข้าเป็นเช่นนี้ได้นั่นก็เพราะการช่วยเหลือจากเจ้า ถ้าเจ้าไม่ทรมาณข้าทั้งวันทั้งคืน ข้าคงไม่สามารถมีร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้”
‘ต้วนเจี้ยน’กัดฟันแน่น เมื่อเขาพยายามต้านการโจมตีของสายฟ้าเหล่านั้น ตอนนั้นเอง’ต้วนเจี้ยน’ฟันดาบเพลิงนิลในมือเข้าใส่’ซิคงยี่’
‘ซิคงยี่’หลบอย่างทันทีทันใดและปล่อยสายฟ้าอันรุนแรงเข้าใส่’ต้วนเจี้ยน’ สายฟ้าเหล่านั้นกลายเป็นใบมีดนับไม่ถ้วน
ถึงอย่างนั้น ‘ต้วนเจี้ยน’กลับไม่มีปฏิกิริยาหวาดหวั่นใด ๆต่อสายฟ้าเหล่านั้น แม้ว่าความเจ็บปวดอันโหดร้ายนั้นดูเหมือนว่าจะต้องการฉีกกระชากห้วงวิญญาณของเขาออกจากกัน ความเกลียดชังภายในจิตใจเป็นสิ่งที่ทำให้เขายังครองสติอยู่ได้
ในที่สุดเขาก็มีโอกาสที่จะได้แก้แค้น….จะปล่อยให้มันหลุดมือไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?
‘ต้วนเจี้ยน’คำรามลั่นฟ้า จู่ ๆ เกล็ดสีดำก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา รวมทั้งปีกบนแผ่นหลังก็ขยายใหญ่ขึ้นเป็นห้าถึงหกเมตร เปลวไฟสีดำลุกโชนขึ้นปกคลุมไปทั่วร่าง ห้วงวิญญาณก็ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงไป พลังมากมายไม่สิ้นสุดระเบิดออกมาจากร่าง
ห้วงวิญญาณของ’ต้วนเจี้ยน’ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงภายใต้การโจมตีของสายฟ้าเหล่านั้นเขาได้ทะลายกำแพงจากระดับ 5 ดาว แบล็กโกลด์ ไปสู่ระดับตำนานร่วมกับพลังแห่งสัจธรรมที่ได้รับจากเนี่ยลี่ ความแข็งแกร่งของเขาได้บรรลุขึ้นไปอีกระดับ
ระดับตำนาน!!!
ตูม ตูม ตูม!!!
เสียงระเบิดดังออกมาโดยมีร่างของ’ต้วนเจี้ยน’เป็นศูนย์กลาง
เมื่อสัมผัสถึงพลังอำนาจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่ากลัว ใบหน้าของ’ซิคงยี่’ถึงกับเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เขาไม่คิดเลยว่า’ต้วนเจี้ยน’จะยกระดับขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ ก่อนการเลื่อนระดับ เขาก็รู้สึกแล้วว่าคงไม่สามารถปราบมันลงได้ ตอนนี้มันเลื่อนเป็นอีกระดับนึง ‘ซิคงยี่’ก็ไม่ใช่แม้แต่คู่มือของ’ต้วนเจี้ยน’อีกต่อไป!!
‘เนี่ยลี่’ยกยิ้มน้อย ๆ เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของ’ต้วนเจี้ยน’ ในอดีตต้วนเจี้ยนมีระดับ 5 ดาว แบล็กโกลด์ ไม่คิดเลยว่าเมื่อโดนสายฟ้าของ’ซิคงยี่’เพียงไม่นานกลับเป็นตัวช่วยให้’ต้วนเจี้ยน’สามารถทะลวงระดับขึ้นมาได้
ตอนนี้’ต้วนเจี้ยน’เข้าสู่ระดับตำนานแล้ว ‘เนี่ยลี่’รู้สึกได้ถึงพลังระดับสูงในห้วงวิญญาณของ’ต้วนเจี้ยน’
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของ’ต้วนเจี้ยน’ ‘ซิคงยี่’ก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก เขาร่อนลงบนพื้น แล้วพยายามที่จะหนี
“ซิคงยี่…แก…เจ้าโจรเฒ่า..คิดจะไปที่ใดกัน?!”
‘ต้วนเจี้ยน’คำรามกร้าว มังกรดำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นรอบ ๆ หมัดที่เขาเหวี่ยงออกไป
พลังทำลายล้างอันรุนแรงผสานกับความเร็วอันเหลือเชื่อพุ่งเข้าใส่ซิคงยี่จนล้มลงกองอยู่กับพื้นอย่างไร้ความปรานี
ตูมม!!
พื้นดินใต้ร่างของ’ซิคงยี่’ปรากฏเป็นหลุมลึก ปีกหักเป็นสองท่อน ซ้ำยังกระอักเลือดออกมา มองดูแล้วน่าอนาถเป็นที่สุด เขาใช้เคล็ดลับของตระกูลปีกสีเงินเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งถึงขีดสุด แต่ถึงกระนั้นก็ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ’ต้วนเจี้ยน’ หลังจากโดนการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปสิ่งที่เขาฝึกฝนมากลายเป็นไร้ค่า
“เหตุใดข้าจึงพ่ายแพ้ให้แก่เจ้า? ไอ้ลูกชู้”
จิตใจของ’ซิคงยี่’อัดแน่นไปด้วยความขุ่นเคือง และไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้
‘ต้วนเจี้ยน’ยกดาบเพลิงนิลขึ้นแล้วฟันไปที่’ซิคงยี่’ขณะที่คำรามออกมา
“ตาย!!!”
“ท่านพ่อ!”
เมื่อ’ซิคงยี่’เข้าใกล้ความเป็นความตาย ‘ฮงหยู’บินเข้ามา แกว่งดาบใหญ่ของเธอแทรกกลางระหว่าง’ซิคงยี่’และ’ต้วนเจี้ยน’
ตูม!!
‘ซิงคงฮงหยู’ถูกผลักกระเด็นกลับไปและมีเลือดไหลรินออกมาจากริมฝีปาก ถึงอย่างนั้นนางก็ยังปกป้อง’ซิคงยี่’อย่างไม่ลดละ
‘ต้วนเจี้ยน’หยุดดาบลงเมื่อมองเห็น’ซิคงฮงหยู’ยังคงดื้อด้าน เขานึกย้อนไปตอนยังเป็นเด็ก จำได้ว่าตัวเขาเองก็พยายามที่จะปกป้องท่านพ่อกับท่านแม่เช่นกัน ถึงอย่างนั้น เพราะความอ่อนแอของเขา เขาจึงไม่สามารถต่อสู้กับพวกเดรัจฉานตระกูลปีกสีเงินได้
ท้ายที่สุดเขาทำได้เพียงร้องไห้คร่ำครวญมองดูพ่อแม่ของตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
เมื่อเทียบกันแล้ว’ฮงหยู’ก็เหมือนกับเขาในอดีตมิใช่หรือ?
“ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่..!! เจ้าโจรเฒ่าซิคงยี่จะต้องตายที่นี่!! ไปซะ…ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าด้วย”
‘ต้วนเจี้ยน’ก้าวออกมาและวาดดาบไปข้างหน้า
ดาบเพลิงนิลเฉือนเข้าที่คอของ’ฮงหยู’ เลือดสีสดไหลลงมา ถึงอย่างนั้น’ฮงหยู’ก็ยังคงมองจ้องมาอย่างเยียบเย็น
“ต้วนเจี้ยน ข้าไม่คิดเลยว่า ตัวข้าและท่านพ่อจะมาพ่ายแพ้ให้แก่เจ้า หากเจ้าต้องการฆ่าก็ฆ่าเลย แต่หากจะฆ่าพ่อข้า เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!!”
‘ต้วนเจี้ยน’มองไปยัง’ซิคงฮงหยู่’ในสมองเต็มไปด้วยความทรงจำนับไม่ถ้วน หากศัตรูเป็นตัวเขาเองในก่อนหน้านี้ เขาก็คงจะฟันลงไปอย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตามในตอนนี้…เขากลับหยุดมือลง
เขาวาดฝันที่จะกุดหัวของ’ซิคงยี่’นับครั้งไม่ถ้วน แต่คราวนี้ เขารู้สึกลังเล
เมื่อ’ต้วนเจี้ยน’นิ่งไปเสียงถอนใจยาวก็ดังขึ้น
“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร อย่าล้างความชั่วด้วยความชั่ว ซิคงยี่หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว แม้เจ้าจะไม่ฆ่ามัน มันก็ไม่มีที่ยืนในดินแดนนรกจองจำอีกแล้ว นอกจากนี้ มันก็ใกล้ตายเต็มที อย่างมากก็อยู่ได้อีกสามวันเท่านั้น เหตุใดเจ้าจึงไม่ปล่อยวางความเกลียดชังในใจเจ้า หากเจ้าวางมันลงได้ เมื่อนั้นเจ้าจะเข้าใจถึงโลกและสวรรค์แห่งเต๋า…”
เสียงนั้นแผ่วเบา ฟังดูไม่คุ้นเคย และไม่ทราบที่มา
‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้ว คนคนหนึ่งปรากฏขึ้นในมโนสำนึก คำเหล่านี้ใช่มาจากชายชราที่เป็นบ้าคนนั้นหรือเปล่า?
‘ต้วนเจี้ยน’มองไปยังบริเวณรอบ ๆ แต่ไม่เห็นใครที่เอ่ยประโยคเหล่านั้น เมื่อดูสภาพที่น่าอนาถของสองพ่อลูก’ซิคงยี่’และ’ซิคงฮงหยู’ ความเกลียดชังในจิตใจค่อย ๆ กระจายหายไปอย่างช้า ๆ ‘ซิคงยี่’ตอนนี้สูญเสียสิ่งที่สั่งสมมาทั้งหมด ถึงเขาไม่ทำสิ่งใดกับมัน ก็ใช่ว่าตระกูลอื่น ๆ จะปล่อยไป ยังไงซะ’ซิคงยี่’ก็ต้องตาย การแก้แค้นของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว
‘ต้วนเจี้ยน’เก็บดาบเพลิงนิล เขาเดินอย่างช้า ๆ ตรงเข้าไปหา’เนี่ยลี่’
เมื่อเห็นการกระทำของ’ต้วนเจี้ยน’ ‘เนี่ยลี่’ถอนใจอย่างเงียบงัน นับแต่’ต้วนเจี้ยน’สามารถปล่อยวางความแค้นลงได้ นั่นเป็นผลดีต่อการพัฒนาของ’ต้วนเจี้ยน’เองในอนาคต ต้องของคุณชายแก่คนนั้น ‘ต้วนเจี้ยน’จึงสามารถปลดเปลื้องภาระในใจลงได้
‘ฮงหยู’มองตามแผ่นหลังของ’ต้วนเจี้ยน’ด้วยความรู้สึกว่างเปล่าเป็นเวลานาน ทันใดนั้น นางก็ปรี่ตรงเข้าไปอย่างคลุ้มคลั่งและกรีดร้องใส่’ต้วนเจี้ยน’
“เหตุใดเจ้าจึงไม่ฆ่าพวกเรา!! เหตุใดเจ้าจึงไม่ฆ่า!! เจ้าเวทนาพวกเรางั้นรึ? เราไม่ต้องการความเห็นอกเห็นใจของเจ้า!!!!”
‘ต้วนเจี้ยน’หันมาชำเลืองมองสองพ่อลูก ตาของ’ซิคงยี่’มีความความเลื่อนลอยว่างเปล่า เขากล่าวเสียงเย็น
“เหตุผลที่ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าทั้งคู่ เป็นเพราะช้าไม่ต้องการให้มือของข้าต้องแปดเปื้อน ข้าไม่ต้องการเป็นคนแบบเจ้า! ถึงอย่างนั้น ยังไงก็ต้องมีใครซักคนตามล่าหาความยุติธรรมจากพวกเจ้าแน่นอน!”
ได้ยินคำนั้น ‘ซิคงฮงหยู’ก็ชะงักไป น้ำตาไหลลงอาบใบหน้า หากเป็นเช่นมันก็แย่ยิ่งกว่าการถูกฆ่าเสียอีก
‘ซิคงยี่’และ’ซิคงฮงหยู’ทรุดลงบนพื้นอย่างหมดหนทาง ในตอนนี้แม้แต่พวกตระกูลปีกสีเงินด้วยกันเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ซ้ำยังถอยออกห่างทั้งคู่ พวกเขาเตรียมที่จะวิ่งหนีตั้งแต่’ซิคงยี่’ล้มลงแล้ว หากพวกเขายังอยู่ข้างพ่อลูกคู่นี้จุดจบของพวกเขาคงไม่สวยแน่
“ต้วนเจี้ยนข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถปล่อยวางอารมณ์ในจิตใจได้…ทำได้ดีมาก!”
‘เนี่ยลี่’ตบลงบนบ่าของ’ต้วนเจี้ยน’พลางยิ้มน้อย ๆ
“ขอรับ”
‘ต้วนเจี้ยน’พยักหน้า น้ำตาหยดหนึ่งจวนเจียนจะไหลออกมา เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้าของดินแดนนรกจองจำที่ตอนนี้กลายเป็นสีเทา มันยังคงกว้างใหญ่เช่นเคย
‘ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าทำสำเร็จแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปข้าจะใช้ชีวิตให้ดี ท่านที่อยู่ในยมโลกไม่ต้องเป็นห่วงข้านะ’
เสียงถอนหายใจที่ไม่ทราบที่มาดังขึ้นอีกครั้ง มันทำให้ใจของทุก ๆ คนปลอดโปร่งขึ้น [บุ๋งบุ๋ง]
ชายชราคนนั้นอีกแล้วหรือ? นับตั้งแต่ที่ชายชราคนนั้นให้คำแนะนำแก่’ต้วนเจี้ยน’ ทึ่จริงแล้วชายคนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นบ้าจริงๆ ก็ได้ ‘เนี่ยหลี่’ไม่เข้าใจในเจตนาของชายแก่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ชายคนนี้อาจจะเป็นทายาทของจักรพรรดิคงหมิงคนอื่น ๆ ก็เป็นได้ ทางที่ดีตัวเขาเองควรหนีให้ห่างไว้ดีกว่า
‘ยู่หยัน’ขมวดคิ้ว เสียงถอนใจนั่น เธอเองก็รู้สึกถึงอันตรายเช่นกัน
“เนี่ยลี่ ! รีบไปจากที่นี่เถอะ!”
“อืม”
‘เนี่ยลี่’พยักหน้า
‘ต้วนเจี้ยน’เงยหน้าขึ้นมองเนี่ยหลี่ ความแค้นของเขาได้รับการสะสางแล้ว ต่อจากนี้ไป ขอเพียง’เนี่ยลี่’ต้องการ ไม่ว่าที่ไหนเขาก็จะตามไปด้วย
“จบเรื่องแล้ว….กลับกันเถอะ”
‘เนี่ยลี่’กล่าว หลังจากหยุดคิดไปพักหนึ่ง
ทันใดนั้น ชายแต่งตัวดีคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหา’เนี่ยลี่’ เป็น’หลี่เฮิง’จากตระกูลอัคคีสวรรค์คนนั้น
“คุณชาย ยังจำข้าได้หรือไม่ขอรับ”
‘หลี่เฮิง’เอ่ย
“แน่นอน”
‘เนี่ยหลี่’พยักหน้า
“ขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณชายในครั้งนี้ หากคุณชายไม่รังเกียจ ท่านยินดีไปเยี่ยมเยือนตระกูลอัคคีสวรรค์หรือไม่ขอรับ”
‘หลี่เฮิง’กล่าว เขาเห็นว่า’ต้วนเจี้ยน’เป็นผู้ติดตามของ’เนี่ยลี่’ ขนาดผู้ติดตามยังเก่งกาจถึงเพียงนี้ ตัวตนของ’เนี่ยหลี่’จะน่านับถือขนาดไหน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ‘เนี่ยลี่’ก็เอ่ยขึ้น
“เรายังมีธุระบางอย่างที่ต้องทำ ตอนนี้กำลังจะไปแล้ว”
‘เนี่ยหลี่’มองไปยังเหล่าตระกูลที่อยู่รอบ ๆ
“ตัวข้าไม่ใช่คนจากดินแดนนรกจองจำ หากพวกท่านทั้งหมดปรารถนาที่จะออกไปจากดินแดนนรกจองจำ ข้าจะส่งคนจำนานหนึ่งมาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการในไม่กี่วัน”
หลายตระกูลในดินแดนนรกจองจำมีความแข็งแกร่งใช้ได้ ด้วยสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย พวกเขาย่อมอยากออกไปจากที่นี่ หากตระกูลเหล่านี้ย้ายไปอยู่ที่เมืองกลอรี่ เมืองกลอรี่จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ในหมู่สิบสามตระกูล ยังมีผู้เยี่ยมยุทธระดับตำนานถึงสองคนและระดับแบล็กโกลด์อีกเป็นโหล
ส่วนชายแก่ลึกลับคนนั้น แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในเหล่าทายาทของจักรพรรดิคงหมิงหรือไม่ ชายคนนั้นอาจจะไม่สนใจอะไรกับเมืองกลอรี่ก็ได้
ซ้ำร้าย พวกทายาทคนอื่นเองก็อาจจะรู้เรื่องประตูมิติโบราณกันอยู่แล้ว พลังที่ลึกเกินหยั่งถึงเช่นนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถต่อกรได้เลย [บุ๋งบุ๋งบุ๋ง]
แปลโดย…….อนันต์กาล
ข้าพเจ้าเป็นนักแปลแสนอ่อนหัด ภาษาไม่แข็งแกร่ง
แปลจบก็ธาตุไฟแตกซ่าน ตายอย่างอนาถในที่สุด
**[บุ๋งบุ๋งบุ๋ง] เป็นเสียงของการดำน้ำนั่นเอง
จบตอน
ที่มา :