I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Tales of Demons & Gods (妖神记) ตอนที่ 284 ขัดขวาง

| Tales of Demons & Gods (妖神记) | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ความเจ็บปวดทางกายของ ‘หลงยู่อิน’ นั้นถือเป็นแค่เรื่องรอง แต่ถ้อยคำที่’เนี่ยลี่’ นั้นเปรียบดังกับมีดที่กรีดลึก ฝังลงในใจของนาง นั่นคือความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่ง!

จากสายตาของคนอื่นๆแล้ว นางเป็นเพียงแค่หญิงสารเลวงั้นเหรอ? ‘หลงยู่อิน’ เงยหน้ามองไปยังนักเรียนคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ พวกเขาก้มหน้าหลบทันที ที่เห็นสายตาของนาง ดังนั้นในสายตาของคนอื่น นางเป็นเพียงหญิงที่ชั่วร้ายเหมือนกับที่’เนี่ยลี่’ได้พูดออกมา

ในมุมมองของ’หลงยู่อิน’แล้ว นางก็แค่อยากจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่น แต่มันกลับกลายเป็นว่า นางเป็นเพียงแค่ขยะที่สร้างความเกลียดชังให้แก่ผู้อื่น!

ดวงตาของนางสั่นไหวด้วยน้ำตา นางก็เป็นเพียงแค่คนที่เอาแต่ใจ นางไม่เคยคิดที่จะไปทำร้ายหรือฆ่าใครง่าย ๆ นางไม่ได้คิดจะฆ่า’เนี่ยลี่’ ด้วยการโบยสามครั้งแม้แต่น้อย ในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย นางแค่อยากจะให้เขาได้รับบทเรียน

แล้วทำไม’เนี่ยลี่’ถึงได้เรียกนางว่า นางมารร้าย

ในการลงแส้ครั้งที่สาม นั้นหนักหน่วงและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ‘เนี่ยลี่’พูดว่า สำหรับอาจารย์ของเขา แต่นางไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าใครคืออาจารย์ของเขา!

ในใจของ’หลงยู่อิน’นั้น เต็มไปด้วยความคับข้องใจ นางหันหน้ากลับไปมองเขาด้วยดวงตาที่สั่นไหวและเต็มไปด้วยน้ำตา นางกัดฟันแล้วพูดออกไปว่า

“ข้าเกลียดเจ้า”

หลังจากที่พูดจบ ‘หลงยู่อิน’ ก็รีบเช็ดน้ำตาแล้ววิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว

‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วของเขาขณะที่มองดูร่างของ’หลงยู่อิน’ ออกไปจาก ประตูทางออกของด่านจิตวิญญาณแห่งแสง ซึ่งดูเหมือนว่า ‘หลงยู่อิน’ จะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆเป็นแน่ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัว และไม่ต้องสนใจว่านางจะมาด้วยวิธีไหนด้วย หลังจากที่’หลงยู่อิน’ ได้ยัดเยียดความตายให้แก่อาจารย์ของเขา ดังนั้นในชีวิตนี้ เขาก็ควรที่จะถูกตัดสินด้วยความยุติธรรมเช่นกัน

ถ้าหาก’หลงยู่อิน’ จะทำอะไรก็ปล่อยให้เป็นไปตามทางของมัน ‘เนี่ยลี่’ ตัดสินใจว่าเขาจะลบเลือนความแค้น และเลิกที่จะแก้แค้นสำหรับชีวิตก่อนหน้าของเขาแล้ว

แต่ถ้านางยังคงต้องการที่จะสร้างความยุ่งเหยิงให้กับเขาแล้ว เขาจะสั่งสอนให้นางได้รับบทเรียนอีกครั้งหนึ่ง

‘เซี่ยวหยู่’มองดู’เนี่ยลี่’ ด้วยสีหน้าที่งุนงง เขารู้สึกว่าวันนี้’เนี่ยลี่’ แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แม้ว่า’หลงยู่อิน’ นางจะเป็นคนที่เอาแต่ใจ แต่นั่นก็ไม่ถึงกับที่ ‘เนี่ยลี่’จะมีทีท่าถึงเพียงนั้น อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาโกรธแค้นถึงเพียงนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ‘เนี่ยลี่’พูดออกมาตอนที่ลงแส้ครั้งที่สามว่า นี่สำหรับอาจารย์ของเขา แต่ใครกันหล่ะ อาจารย์ที่’เนี่ยลี่’พูดถึง? หรือว่าจะเป็นพ่อบุญธรรมของเขา ? แต่ว่า พ่อบุญธรรมของเขา ก็ไม่ได้มีความแค้นใด ๆ กับ’หลงยู่อิน’นี่นา!

‘ลู่เพียว’ยังยืนมอง’หลงยู่อิน’วิ่งออกไป จากนั้นก็หันไปมองที่’เนี่ยลี่’พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ ได้มองดู’เนี่ยลี่’ลงแส้สามครั้งกับหญิงสาว
ทุกคนก็ต่างดีใจที่มีส่วนของพวกอยู่ด้วย

และในตอนนี้มันก็จบลงไปแล้ว พวกเขาทุกคนต่างก็เริ่มทำการบ่มเพาะพลัง สำหรับผู้ที่อยู่ในสิบอันดับแรก สามารถที่จะอยู่ในด่านจิตวิญญาณแห่งแสงได้เป็นเวลาสามวัน

ซึ่งโดยปกติแล้ว’เนี่ยลี่’ย่อมไม่ยอมที่จะเสียเวลาอันมีค่าดังกล่าว ดังนั้นเขาจึงมุ่งเน้นที่จะทำการฝึกบ่มเพาะพลังต่อ ตระกูลผนึกมังกร
ที่พักของ’หลงยู่อิน’

‘หลงยู่อิน’นั่งอยู่บนเตียงของนาง นางถือขวดยาสมุนไพรอยู่ในมือ นางจุ่มมือลงไปจากนั้นก็ค่อย ๆใช้ ทาแผลของนาง มีแผลที่ชัดเจนอยู่บนใบหน้า และหน้าอกของนาง รวมไปถึงอีกหลาย ๆ แห่งบนร่างกายของนาง

แม้ว่านางจะเป็นผู้ที่มีสายเลือดมังกร แต่การลงแส้ของ’เนี่ยลี่’นั้นราวกับว่าจะตัดร่างกายของนางได้ ร่างกายของนางรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นอันมาก

ในตอนนี้นางได้เปลี่ยนชุดที่ขาดรุ่ยของนาง นางสวมใส่ชุดผ้าไหมห่อหุ้มร่างกายอันแสนยั่วยวนของนางไว้ เมื่อนางเริ่มทายาตรงหน้าอกของนาง นางถึงกับร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

เมื่อนางนึกถึงจุดที่’เนี่ยลี่’นั้นลงแส้ นางรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นยิ่งนัก เขาเป็นคนแรกที่กล้าทำเช่นนั้นกับนาง!

มือขวาของนางกำแส้ไว้แน่น นางจำได้ถึงความเกลียดชังที่’เนี่ยลี่’แสดงออกมา เขาทำราวกับว่าร่างกายของนางนั้นน่าขยะแขยง

แม้ว่าจะคิดไตร่ตรองดูแล้วนี่มันก็มากเกินไป ด้วยการแสดงออกของความเกลียดชังนั้น ทำให้ใจของนางเต็มไปด้วยความโกรธ

นางกัดฟันของนางจนแน่น จากนั้นก็เช็ดน้ำตาที่อาบอยู่เต็มใบหน้า หลังจากนั้นก็เริ่มทายาที่หลังของนาง

“อา”

‘หลงยู่อิน’ รู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ได้ที่จะร้องครวญครางออกมา

ยาสมุนไพรเริ่มซึมเข้าไปในบาดแผลของนาง หลังจากที่เวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง  นางรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความเจ็บปวดและแสบร้อนนี้ ได้ฝังลึกลงไปในความทรงจำของนาง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม นางก็จะระลึกเอาไว้เสมอว่า’เนี่ยลี่’เป็นคนแรกและคนเดียว ที่เคยลงแส้กับนาง

นางหยิบเอาชุดเสื้อสีม่วงออกมาและเปลี่ยนชุด คลุมด้วยผ้าสีม่วง ใบหน้าของนางช่างงดงามและชวนหลงใหล ที่สามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความมีเสน่ห์ของนางได้ มีเพียงแค่บาดแผลบนใบหน้าของนาง ที่ยังไม่จางหายไป

นางมองไปยังกระจกที่ตั้งห่างออกไป แม้ว่านางจะไม่เคยให้ความสนใจมากกับการร่างกายของนางแม้แต่น้อย แต่นางเองก็งดงามมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากว่าไม่เป็นเพราะนิสัยเอาแต่ใจของนาง คงจะมีชายหนุ่มต่อคิวกันยาวเหยียดเพื่อขอมือของนางเป็นแน่
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แผลบนใบหน้านั้นไม่อาจที่จะปกปิดได้

นางนึกถึงคำพูดที่’เนี่ยลี่’พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ ไม่ว่าภายนอกจะงดงามเพียงใด แต่มันก็ไม่อาจที่จะปกปิดความน่าเกลียดในใจของนางได้  นางหยิบเอาสิ่งของปาไปยังกระจก มีเสียงดังกระจายและกระจกก็แตกเป็นชิ้น ๆ

‘หลงยู่อิง’ คับแค้นใจจนอยากจะร้องไห้ นับตั้งแต่เด็กนี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกทำร้ายถึงเพียงนี้ ไม่นานนักหลังจากที่นางเปลี่ยนชุด
นางได้ออกมาจากห้อง และ ‘หูหย่ง’ 胡勇 ก็ได้วิ่งเข้ามา

‘หูหย่ง’ โกรธทันทีเมื่อเห็นแผลบนใบหน้าของนาง

“น้องอิ้น เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? ข้าได้ยินว่าเจ้านั้นพ่ายแพ้มาใช่ไหม? มันเป็นใครกัน? ข้าจะไปกวาดล้างตระกูลของมันซะ!”

หลังจากที่เขาพูดจบ ‘หลงยู่อิน’ ถึงกับตกตะลึง ถ้าเป็นเมื่อไม่นานมานี้ คำพูดนี้คงจะเป็นคำพูดที่แสนธรรมดาสำหรับนาง ผู้ใดที่กล้าจะทำอันตรายต่อนาง แน่นอนว่าตระกูลของคนผู้นั้นจะต้องถูกกวาดล้างด้วยมือของนางเอง ในอดีตที่ผ่านมา สำหรับนางก็ถือว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา

แต่ในตอนนี้ เสียงด่าทอของเนี่ยลี่ยังคงก้องกังวาลในหูของนาง

“..ทำร้ายและฆ่าใครก็ได้ เจ้าทำราวกับชีวิตคนอื่นเป็นเพียงแค่ต้นหญ้า…ผู้หญิงเช่นเจ้า แม้จะเรียกว่า นางมารร้าย ก็นับว่าเบาเกินไป!”

ในตอนนั้นความรังเกียจของนางก็ถูกจุดขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของ ‘หูหย่ง’

“หูหย่งนี่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า!”

นางชำเลืองมอง’หูหย่ง’ด้วยความรังเกียจ พร้อมกับพูดต่ออีกว่า

“ข้าจะกลับไปบ่มเพาะพลัง หลีกไปซะ!”

“น้องอิ้น ใครกันที่ทำร้ายเจ้า แล้วเจ้าไม่คิดจะล้างแค้นงั้นเหรอ? ข้าช่วยเจ้าล้างแค้นได้นะ!”

‘หูหย่ง’รีบพูดออกไป

นางชำเรืองมอง’หูหย่ง’จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเย็นชา

“ล้างแค้นงั้นเหรอ? แม้แต่ข้ายังไม่อาจที่จะจัดการเขาได้ แล้วคนอย่างเจ้าจะล้างแค้นให้ข้าได้อย่างไร?”

‘หูหย่ง’พูดด้วยน้ำเสียงที่เอาจริง

“ข้าจะส่งผู้เยี่ยมยุทธจากตระกูลของข้า ไปล้างแค้นให้กับเจ้า!”

‘หลงยู่อิน’จ้องแขม็งด้วยความโมโห

“ถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้เยี่ยมยุทธในตระกูลของเจ้า ก็ใช้ตอนที่เจ้าถูกซัดติดกำแพงก็แล้วกัน  เจ้ามันก็แค่ขยะ ตระกูลของเจ้าก็เช่นกัน เจ้าเป็นแค่ขยะ อย่าได้มายุ่งกับปัญหาของข้า หลงยู่อิน ถ้าข้าไม่อาจที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้ด้วยตัวข้าเอง ข้าก็คงจะเป็นแค่เศษขยะไม่ต่างจากเจ้า เข้าใจไหม?”

‘หูหย่ง’ แทบจะกระอักด้วยคำพูดของ’หลงยู่อิน’ เขาหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่จากนั้นจึงพูดเสียงที่ไม่ดังนักว่า

“น้องอิ้น หรือว่าตระกูลของฝ่ายนั้นมีอำนาจมากนักใช่หรือไม่?  มันคือตระกูลเถ้าอัคคี หรือว่าตระกูลกู้?”

นางมองไปยัง’หูหย่ง’ ความรู้สึกรังเกียจเพิ่มขึ้นมาในใจของ ‘หลงยู่อิน’ ในตอนนี้นางเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมนางถึงได้ถูกผู้อื่นรังเกียจ
ในมุมมองของนางในตอนนี้ นางเป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลที่โดดเด่น และพร้อมไปด้วยทรัพยากรมากมายสำหรับการบ่มเพาะพลัง นางจึงได้ประสพความสำเร็จเป็นอย่างมากในการบ่มเพาะพลัง นางมักจะเยาะเย้ยดูถูกในชาติกำเนิดของคนอื่น ๆ และทำร้ายรวมถึงกำจัดใครก็ตามที่นางต้องการ

ในสายตาของคนอื่นนั้น ความสำเร็จของนางในวันนี้ นั้นล้วนเกิดจากการใช้ทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังจากตระกูลของนาง ผลที่สำเร็จจากตัวนางเองนั้นมีแค่เพียงน้อยนิด

“ข้าไม่ต้องการที่จะเห็นเจ้า ออกไปซะ”

‘หลงยู่อิน’เอ่ยปากไล่ เมื่อเห็นว่า’หลงยู่อิน’ เอ่ยปากไล่ ‘หูหย่ง’นึงได้ถอยออกไป

หลังจากที่เห็น’หูหย่ง’ออกไป ใจของ’หลงยู่อิน’ค่อยๆที่จะสงบอีกครั้ง

ตอนนี้นางกำลังคิดถึง เรื่องของ’เนี่ยลี่’ ที่จ้องลงมาหานางจากเบื้องบน นางคิดถึงสิ่งที่นางเคยทำในอดีต นางคิดว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะกระตุ้นและเป็นเป้าหมายของนาง ในตอนนั้นที่’เนี่ยลี่’ได้ลงแส้ ฟาดลงบนร่างกายของนาง ในตอนนี้นางได้มาตรึกตรองถึงคำพูดและการกระทำของนางในอดีต

 “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ข้าจะต้องแซงหน้าเจ้าให้ได้ ความคับข้องใจของข้าในวันนี้ ข้าจะต้องส่งมันคืนให้กับเจ้าให้จงได้!”

‘หลงยู่อิน’ นั่งลงและเริ่มทำการบ่มเพาะพลังสวรรค์ทันที

พลังงานสวรรค์ค่อย ๆ พุ่งเข้าสู่ร่างกายของนาง ‘หลงยู่อิน’ สัมผัสถึงอะไรบางอย่าง ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของนางนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าในอดีตที่ผ่านมา

“บริสุทธิ์ดั่งสายนที เพราะวารีนั้นไม่แข่งขัน…”

‘หลงยู่อิน’ จดจำคำพูดนี้มากจาก ต้นแบบบทคำทำนาย และในตอนนี้นางเริ่มที่จะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ที่ด่านจิตวิญญาณแห่งแสง

‘เนี่ยลี่’ยังคงทำการบ่มเพาะพลัง ในขณะที่เขากำลังเชื่อมโยงอยู่กับพลังฟ้าและดิน ในตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนการ ก่อรูปชะตาวิญญาณดวงแรกเท่านั้น

วันที่หนึ่ง

วันที่สอง

สองวันต่อมา ‘เนี่ยลี่’สัมผัสได้ว่าเขากำลังอยู่บนบันไดหน้าประตูของขอบเขต ระดับชะตาสวรรค์แล้ว แต่ว่าการที่จะทะลวงผ่านเข้าไปให้ถึงขอบเขตที่ว่านั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย

‘ลูเพียว’ลุกขึ้น มองไปยัง’เนี่ยลี่’ พร้อมกับพูดว่า

“เนี่ยลี่ ข้าต้องออกไปแล้ว”

เขาได้ใช้เวลาที่อยู่ในที่แห่งได้จนหมดแล้ว และไม่ได้รับอนุญาติให้ทำการบ่มเพาะพลังใน ด่านจิตวิญญาณแห่งแสงต่อไปได้อีก

“เราจะออกไปด้วยกัน ในตอนนี้”

‘เนี่ยลี่’ตอบ มันเป็นไม่ได้เลยสำหรับเขา ในการที่จะทะลวงผ่านได้ในเวลาอันสั้น เขายังต้องใช้เวลาอีกมาก เขาว่าคงจะดีกว่าถ้าหากจะไปลองค้นหาวิธีที่จะทะลวงผ่านได้ง่ายกว่านี้

พวกเขาทั้งสองคนและ’เซี่ยวหยู่’เดินลงไปทีละขั้นและเดินไปทางทางออกของ ด่านจิตวิญญาณแห่งแสง

นักเรียนโดยรอบจ้องมองพวกเขาทั้งสามคนเดินออกไป และช่วยไม่ได้ที่จะทำให้พวกเขาต้องถอนหายใจ ในที่สุดสัตว์ประหลาดทั้งสามก็จากไป การบ่มเพาะพลังของพวกเขาเรียบง่ายเป็นอย่างมาก นั่นจึงทำลายความมั่นใจของพวกเขาไม่น้อย

ด้านนอกด่านจิตวิญญาณแห่งแสง

พวกเขาทั้งสามคนอยู่ภายในบริเวณด่านจิตวิญญาณแห่งแสง เป็นเวลานานแล้ว จนคนที่อยู่ด้านนอกกระจัดกระจายกันไปหมดแล้ว
เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนที่ยังคงอยู่บริเวณนี้

เมื่อ’เนี่ยลี่’และกลุ่มของเขา ออกจากด่านจิตวิญญาณแห่งแสง ก็มีกลุ่มคนเข้ามายืนห้อมล้อมพวกเขาทันที

‘เนี่ยลี่’ขมวดคิ้วของเขาเป็นเวลาสั้นๆจากนั้นก็กวาดสายตามองกลุ่มคนที่อยู่ใกล้ที่สุด มีทั้งหมดสิบคน มีเก้าคนที่บรรลุระดับชะตาสวรรค์แล้วมีคนหนึ่งที่อายุพอ ๆ ‘กับเนี่ยลี่’

“พวกเจ้าเป็นใครกัน?”

‘เซี่ยวหยู่’ มองไปที่พวกเขาพร้อมกับเตรียมพร้อมเต็มที่ หากมีการต่อสู้ก็พร้อมที่จะรับมือได้ทันที มีคนหนึ่งเดินเข้ามาเพ่งมองมาที่’เนี่ยลี่’

“เจ้าคือ เนี่ยลี่ งั้นรึ?”

‘เนี่ยลี่’ หรี่ตาแล้วก็ตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว แล้วเจ้าเป็นใครกัน และทำไมเจ้าถึงมาจ้องหน้าข้าด้วยหล่ะ?”

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะได้รับการร้องขอมาเพราะเรื่องของเขา

วัยรุ่นคนนั้นพ่นลมหายใจอันเย็นชาใส่’เนี่ยลี่’

“เจ้าคนสารเลว เจ้าคงเบื่อชีวิตแล้วสินะ เป็นแค่ใครก็ไม่รู้จากโลกใบเล็ก แต่กล้ามากำแหงในสถาบันวิญญาณฟ้า”

‘เนี่ยลี่’ แสยะยิ้มด้วยท่าทีเย้ยหยัน

“หลงยู่อิน ส่งพวกเจ้ามางั้นเหรอ?”

แปลโดย นายมะพร้าว

คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments