ในขณะที่’เนี่ยลี่’กำลังจัดการกับ’มู่หลงหยี่’อยู่นั้น มีชายสองคนกำลังนั่งดูอย่างเงียบๆที่ข้างลานประลอง พวกเขานั่งจิบชาพร้อมกับนั่งชมการประลอง
 
หนึ่งในสองคนนี้ก็คือ’หลงเทียนหมิง’ส่วนอีกคนนั้นสวมเสื้อคลุมสีเงิน ที่ดูแล้วสง่างามยิ่งกว่า’หลงเทียนหมิง’เสียอีก
 

 
“ข้านั้นไม่คิดเลยว่าท่านพี่เป่ยเอี๋ยน 北炎:แสงเหนือ จักสนใจพวกเด็กที่เข้ามาใหม่ด้วย”
 
‘หลงเทียนหมิง’มองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งถัดจากเขา เขาพูดพร้อมกับหัวเราะ จากคำพูดของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าใดนัก
 

 
“ข้าก็แค่ต้องการที่จะชมการประลอง แต่ดูเหมือนว่าน้องหลงเทียนหมิงจักมีความกังวลกับพรสวรรค์ของคนที่มาใหม่อยู่ไม่น้อยนะ”
 
‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ 司徒:ซื่อถูเป็นชื่อตระกูล มาจากตำแหน่งขุนนางจีนสมัยโบราณ นั่งชมอย่างสบายใจ
 

 
“เจ้าเด็กคนนั้นช่างน่าสนใจจริงๆ”
 
 
“ที่เขาทำให้มู่หลงหยี่พ่ายแพ้ได้ก็เพราะสวมใส่ของวิเศษทั้งตัว”
 
‘หลงเทียนหมิง’พูดพร้อมกับยิ้ม
 

 
 “ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำให้ท่านพี่เป่ยเอี๋ยนรู้สึกสนใจได้?”
 
 
“เขานั้นมาจากโลกใบเล็กและมิได้มีผู้ใดหนุนหลัง และสามารถที่จะหาชุดเกราะวิเศษระดับเจ็ดได้ก่อนที่จะเข้ามายังเขตตะวันออก และยังได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น เพียงเท่านี้ก็น่าสนใจมากพอดูแล้วมิใช่หรือ? ”
 
‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ตอบกลับไปพร้อมกับยิ้ม
 

 
“และข้ายังได้ยินมาอีกว่า เขากับกู้เบ่ยนั้น ได้ก่อตั้งกองกำลังของตัวเองขึ้นมา แค่เวลาไม่นานก็มีสมาชิกในกองกำลังกว่าพันคนแล้ว ดูเหมือนว่าต่อไปที่โลกภายนอกจักต้องมีเรื่องที่น่าสนุกเพิ่มขึ้นอีกเป็นแน่”
 
‘หลงเทียนหมิง’จ้องไปยัง ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ เขาไม่รู้ว่าที่’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ พูดมานั้นหมายความเช่นใด แต่นั่นก็มีเหตุผลมากยิ่งขึ้น ที่จักต้องระวัง’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ผู้นี้ให้มากขึ้น แม้ว่าในตอนนี้เขาจะนั่งชมการประลองอย่างสบายใจ แต่ใครจะรู้ว่าในใจของ’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ นั้นตั้งใจที่จะทำอะไรอยู่
 
แต่ที่’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ นั้นคาดไม่ถึงก็คือ’หลงเทียนหมิง’นั้นจักไม่ยอมปล่อยให้กองกำลังอสูรนั้นเติบโตได้ ‘หลงยู่อิน’นั้นก็ได้ก่อตั้งกองกำลังเสียงเร้นลับ 玄音:เหี่ยงอิน ซึ่งก็น่าจะเกิดจากการส่งเสริมจาก’เนี่ยลี่’
 
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า’เนี่ยลี่’นั้นมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งใดกันแน่ แต่ที่เขารับรู้ มันจักไม่ต้องเป็นเรื่องที่เล็กน้อย และต้องเป็นภัยคุกคามต่อเขาเป็นแน่! ‘หลงเทียนหมิง’จักไม่ยอมให้’หลงยู่อิน’นั้นมาสั่นคลอนตำแหน่งผู้นำตระกูลผนึกมังกรในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน
 
ก่อนหน้านี้ที่เขาส่งคนไปนำตัวอักษรมาจาก’เนี่ยลี่’สามคำ แต่เขากลับไม่อาจที่จะสัมผัสถึงสิ่งใดได้ เขารู้สึกว่าจักต้องถูก’เนี่ยลี่’นั้นหลอกลวงเป็นแน่ แต่ก็ไม่อาจที่จะพิสูจน์ได้ เขาจึงไม่ได้สนใจในตัวของ’เนี่ยลี่’อีกเลย
 
เดิมทีผู้ที่มีสิทธิ์ในการชิงตำแหน่งผู้นำนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น คือ ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ ‘หลงเทียนหมิง’ และ ‘หลี่ยื่อฟง’ แต่ในตอนนี้กลับปรากฏมาอีกหลายคน ที่เป็นที่น่าสังเกตุ ก็คือ’กู้เบ่ย’ผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูลกู้ ‘หลงยู่อิน’ที่เพิ่งจะเริ่มมีการขยับตัว ‘หลี่ชิงอวิ๋น’นั้นไม่อาจที่จะมองข้ามได้ ทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับ’เนี่ยลี่’ทั้งนั้น
 
จากการที่’ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ นั้นมาจับตาดู’เนี่ยลี่’นั้น ก็เป็นการพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า ‘ซื่อถู เป่ยเอี๋ยน’ มีความกังวลใจเกี่ยวกับ’เนี่ยลี่’ไม่น้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นก็ตาม
 
หลังจากนั้นราวครึ่งชั่วโมง การประลองระหว่าง’เนี่ยลี่’กับ’มู่หลงหยี่’ก็จบลง เปลวไฟและประกายสายฟ้าก็ได้หายไปจนหมด
 
บนลานประลองนั้น’เนี่ยลี่’ได้เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ‘มู่หลงหยี่’นอนสลบอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าใดนัก มองดูราวกับสุนัขที่ตายแล้ว ไม่มีแม้แต่เส้นด้ายสักเส้นที่ปกปิดร่างกายของเขา เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและไม่ได้สติเลยแม้แต่น้อย
 
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเหล่าผู้ชมถึงกับหน้าซีด
 

 
“มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?”
 
 
“มู่หลงหยี่พ่ายแพ้หรือนี่?”
 
 
“มู่หยงหยี่นั้นผสานเข้ากับเหยี่ยวมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ แต่เหตุใดเขาจึงไม่อาจที่จะเอาชนะได้?”
 
พวกเขาจับจ้องไปที่เนี่ยลี่ด้วยความหวาดกลัว ‘มู่หลงหยี่’นั้นถูกจัดว่าเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในสองร้อยอันดับแรก เขานั้นเป็นผู้มีพรสวรรค์ยิ่งนักของปีก่อนตั้งแต่ที่เข้ามาในเขตตะวันออก
 
แต่ผลกลับเป็นว่าเขาถูก’เนี่ยลี่’จัดการไปอย่างน่าสมเพช ถ้าเป็นเช่นนั้น’เนี่ยลี่’ก็จักได้ขึ้นไปอยู่ในสองร้อยอันดับแรกตั้งแค่วันแรกที่ก้าวเข้ามายังเขตตะวันออกอย่างนั้นเหรอ?
 
เมื่อได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของ’มู่หลงหยี่’แล้ว เหล่าหญิงสาวของเขตตะวันออกถึงกับหน้าแดงและหลบสายตาไปอย่างรวดเร็ว
 
แม้แต่’เซี่ยวหยู่’ก็อดไม่ได้ที่จะใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเช่นกัน เขามองไปที่’เนี่ยลี่’ เห็นได้ชัดว่า’เนี่ยลี่’ตั้งใจที่จะทำให้เป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน แม้แต่คนที่เย็นชาอย่าง’หลงยู่อิน’ถึงกับเขินอายไปด้วยเช่นกัน
 
เมื่อ’มู่หลงหยี่’ได้สติคืนมาและรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบ้างในตอนนี้ เขาคงจะอับอายมากเป็นแน่ เรื่องนี้มันโหดร้ายเสียยิ่งกว่าการสังหารเขาให้ตายไปเสียอีก
 

 
 “ก่อนหน้านี้เจ้านั้นได้แย่งชิงเกล็ดวิญญาณของข้าตอนที่อยู่ในโบราณสถานแห่งความสะพรึง ในวันนี้ถือว่าข้าได้รับการชดใช้แล้วจากการประลองในคราวนี้  เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้ว”
 
‘เนี่ยลี่’พูดพร้อมกับชำเลืองมองดู’มู่หลงหยี่’ที่นอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ได้สนใจนัก
 
เหล่านักเรียนในเขตตะวันออกที่ห้อมล้อมอยู่ และได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาแทบอยากจะอาเจียนเป็นเลือดออกมา การแย่งเกล็ดวิญญาณมานั้นมันเป็นเรื่องที่หนักหนาถึงเพียงนี้เชียวหรือ จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่นี่’เนี่ยลี่’ถึงกลับแย่งชิงเอาเสื้อผ้าของ’มู่หลงหยี่’จนไม่เหลือติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว!
 
‘เนี่ยลี่’กระโดดลงมาจากเวลาประลอง จากนั้นก็เดินไปหา’กู้เบ่ย’และพวกของเขา
 
‘กู้เบ่ย’กับ’ลู่เพียว’นั้นกระขยิบตาให้กับ’เนี่ยลี่’ สิ่งที่’เนี่ยลี่’กระทำลงไปครานี้ มันช่างมีรสชาติจัดจ้านยิ่งนัก
 
ในตอนนี้’หวงอวี้’และ’หนานเหมียนเทียนไห่’อดที่จะยิ้มอย่างขมขื่นมิได้ ในตอนนี้เขาจักต้องเพิ่มกฏข้อใหม่ลงไป ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว’เนี่ยลี่’คงจักท้าประลองไปทั่วทั้งเขตตะวันออกเป็นแน่ หลังจากที่ได้รู้ว่าทุกส่วนของร่างของ’เนี่ยลี่’นั้นมีมีของวิเศษระดับหกอยู่
 
ขณะที่’หวงอวี้’และ’หนานเหมียนเทียนไห่’กำลังหารือกันอยู่นั้น ‘อาจารย์อี๋เหยี่ยน’ก็ได้เดินมาข้าง ๆ และกระซิบว่า
 

 
“ท่านปรมาจารย์เทียนอวิ๋นได้ฝากข้อความมาถึงพวกท่าน เขาขอให้ข้าส่งใครบางคนมาเพื่อที่จะทำการทดสอบเนี่ยลี่!”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของ’อาจารย์อี๋เหยี่ยน’ ‘หวงอวี้’และ’หนานเหมียนเทียนไห่’ก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งใจ
 
ผู้ใดคือท่านปรมาจารย์เทียนอวิ๋นหน่ะหรือ? เขาคือหนึ่งในห้าเสาหลักที่ค้ำจุนของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์อยู่ คนที่อยู่ในตำแหน่งเช่นพวกเขายังไม่อาจที่จะได้เข้าไปพบปรมาจารย์เทียนอวิ๋นได้
 
อาจารย์อี๋เหยี่ยนนั้นนับว่าเป็นศิษย์คนโตของปรมาจารย์เทียนอวิ๋น คำพูดของเขานั้นไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เป็นแน่ นอกจากนี้พวกเขาจักกล้าที่จะมีคำถามกับคำพูดของปรมาจารย์เทียนอวิ๋นได้เช่นใด?
 

 
“โปรดไว้ใจพวกเราเถิดท่านอาจารย์อี๋เหยี่ยน เราจะจัดการตามที่ท่านแจ้งมา!”
 
‘หวงอวี้’รีบตอบกลับไปในทันที
 

 
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
 
‘อาจารย์อี๋เหยี่ยน’ ตอบกลับอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะนั่งลงด้านหลังของพวกเขา ดวงตาของเขานั้นมีประกายแห่งความเย็นชา เขาหรี่ตาลงและจับจ้องไปทาง ‘หลี่ชิงอวิ๋น’ ‘กู้เบ่ย’และคนอื่น ๆ ที่กำลังพูดคุยอยู่กับ’เนี่ยลี่’ จากนั้นเขาก็พ่นลมหายใจออกมา
 
การท้าประลองยังคงมีต่อไป
 
‘หนานเหมียนเทียนไห่’ได้ลุกขึ้น เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วทั้งลานประลอง เขาพูดออกมาว่า
 

 
“นำมู่หลงหยี่ลงไป และนับจากนี้ไปจักมีการแก้ไขกฏในการท้าประลอง ห้ามมิให้ใช้ของวิเศษที่ระดับสูงเกินกว่าระดับสาม!”
 
หลังจากที่ได้ยินคำประกาศของ’หนานเหมียนเทียนไห่’ นักเรียนในเขตตะวันออกต่างก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เพราะไม่เคยมีกฏเช่นนี้ตั้งแต่มีการท้าประลองมา หรือว่าจะเกิดจากความพ่ายแพ้ของ’มู่หลงหยี่’? ทุกคนกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับ กระบี่เทพอัสนีดาวตกในมือของ’เนี่ยลี่’
 
ความคิดที่ว่า’เน่ยลี่’นั้นชนะ’มู่หลงหยี่’ก็เพียงเพราะสวมใส่ของวิเศษ จึงทำให้’หนานเหมียนเทียนไห่’ไม่อาจที่จะทนมองเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นอีกต่อไป จึงได้ห้ามการใช้ของวิเศษที่เกินกว่าระดับสาม!
 
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่’เนี่ยลี่’จึงเอาชนะ’มู่หลงหยี่’ได้ มีเพียงนักเรียนในเขตตะวันออกเท่านั้นที่รู้ ความจริงแล้ว’เนี่ยลี่’นั้นไม่ควรที่จะเป็นคู่มือของ’มู่หลงหยี่’ได้
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น’เนี่ยลี่’จึงมองไปยัง’หนานเหมียนเทียนไห่’และ’หวงอวี้’ เขาหรี่ตามองเล็กน้อยมองเห็นคนที่คุ้นเคยอยู่ไกลๆ
 
เขาไม่เคยคิดเลยว่า’อาจารย์อี๋เหยี่ยน’ที่เขาได้พบเจอใน ตำหนักเทียนอวิ๋น เมฆาสวรรค์ จะมายังที่แห่งนี้
 

 
 “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่อาจที่จะใช้ของวิเศษได้อีกแล้วสิ ข้านั้นคิดว่าจักทำเช่นเดียวกับเนี่ยลี่โดยการจัดการพวกศิษย์นี่ในเขตตะวันออกนี้แท้ ๆ”
 
‘ลู่เพียว’ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกห้ามใช้ของวิเศษเร็วเช่นนี้ ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก!
 
‘หลี่ชิงอวิ๋น’อดไม่ได้ที่จะคิด ถ้าหากว่า’เนี่ยลี่’ ‘กู้เบ่ย’ และ’ลู่เพียว’ นั้นสวมใส่ของวิเศษระดับหก และท้าประลองกับเหล่านักเรียนในเขตตะวันออก ก็คงจะแปลกหากที่’หนานเหมียนเทียนไห่’กับ’หวงอวี้’ที่เป็นผู้อาวุโสจักไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
 
เขายังจำได้เมื่อครั้งที่เขาได้เข้ามายังเขตตะวันออกนี้ เขาก็ได้รับประสบการณ์รับน้องอย่างโหดร้ายเช่นกัน พวก’เนี่ยลี่’ทั้งสามคนนั้น
 จักต้องถูกกระทำเช่นเดียวกัน หรือว่า ทั้งสามคนนี้จะเป็นฝ่ายกระทำกันแน่
 
คงจะทนให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้สินะ?
 
‘หนานเหมียนเทียนไห่’กระแอมแล้วพูดขึ้นมาว่า
 

 
“จากการพ่ายแพ้ของมู่หลงหยี่ เนี่ยลี่จักต้องได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับเดิมของมู่หลงหยี่ แต่ข้าและผู้อาวุโสหวงอวี้ ได้หารือกัน จึงจักให้เนี่ยลี่นั้นต้องถูกประเมินใหม่อีกครั้ง ถ้าหากว่าสามารถผ่านการทดสอบได้ เนี่ยลี่จักมีคุณสมบัติที่จะเข้าไปอยู่ในอันดับเดิมของมู่หลงหยี่!”
 
ดูเหมือนว่าคำพูดของ’หนานเหมียนเทียนไห่’จักต่างจากที่เคยผ่านมา การที่’เนี่ยลี่’จักต้องออกไปพบเจอกับปัญหา พวกเขาสงสัยว่าจะประเมินผลด้วยวิธีใดกัน?
 
เหล่านักเรียนในเขตตะวันออกอดที่จะคาดหวังไม่ได้ ว่าจะได้ขึ้นไปสู้กับ’เนี่ยลี่’ ‘เนี่ยลี่’นั้นจัดการ’มู่หลงหยี่’อย่างไม่ไว้หน้า เรื่องนี้ทำให้เหล่านักเรียนในเขตตะวันออกนั้นขายหน้ายิ่งนัก และในตอนนี้’เนี่ยลี่’จักต้องได้รับบทเรียนราคาแพงบ้าง……
 
จบตอน
 
แปลโดย นายมะพร้าว
 
คลิกเพื่อไปหน้าโฆษณาสนับสนุนเพจ
 
ที่มา: