ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปนิกายโลกวิญญาณ แข็งแกร่งและนับเป็นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งมากที่หนึ่งเพราะพวกเขามี รูปแบบวิญญาณรูปแบบป้องกันที่แข็งแกร่ง ส่วนบนของรูปแบบนั้นได้ผนึกท้องฟ้าไว้ ส่วนล่างของรูปแบบนั้นได้ผนึกดินไว้ มันทำให้พวกเขาราวกับถูกตัดขาดออกจากโลกนี้
นั่นเป็นเพราะความพยายามของผู้เชี่ยวชาญในนิกายโลกวิญญาณมาตั้งแต่สมัยก่อน และ ในตอนนี้รูปแบบนั้นได้ถูกเปิดอีกครั้งโดย ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนับไม่ถ้วน รูปแบบป้องกันที่แข็งแกร่งที่ยากจะคาดเดา
อย่างไรก็ตาม ด้านนอกรูปแบบวิญญาณนั้น มีรูปแบบอื่นลอยอยู่บนท้องฟ้า มันเป็นรูปแบบอำนาจวิญญาณที่มีพลังในการทำลายล้าง รูปแบบวิญญาณทำลายล้านั้นมีพื้นที่ใหญ่มาก มันลอยอยู่บนอากาศ และมันเป็นเหมือนกับค้นยักษ์ ที่ใครบินวนอยุ่บนท้องฟ้าและคอยฟาด รูปแบบป้องกันนี้อยู่
ทุกครั้งที่ ค้อนยักษ์ได้ทุบลงมา มันสร้างเสียงดันราวกับฟ้าผ่า แม้ว่ารูปบบป้องกันจะถูกสร้างโดยผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน แต่เมื่อสัมผัสกับความแรงแบบนี้บ่อยๆ มันเริ่มเกิดรอยร้าวให้เห็นแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป รูปแบบค้อนยักษ์นั้นต้องทำลาย รุปแบบป้องกันของพวกเขาได้อย่างแน่นอน
ใกล้กับค้อนยักษ์นั่นมีชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ เสื้อสีดำของเขานั้นสะบัดไหวในขณะไม่มีลม ตาของเขาหลับอยู่ และในตอนนี้นั้นเขาเชื่อมต่อกับรูปแบบทำลายล้างอยู่
เขาเป็นอัจฉริยะที่สร้างความตกตะลึงให้กับทวีป 9 อาณาจักร เมื่อร้อยปีก่อน จนตอนนี้เขาได้บ่มเพาะมากว่าร้อยปี ตอนนี้เขาได้ปรากฏตัวอีกครั้ง เขาคือบรรพบุรุษตระกูล เจี้ย ‘เจี๋ย ฉือ’ และในตอนนี้เขามีพลังระดับ 7 อาณาจักรสววรค์แล้ว
“นี่ไม่ดีแล้ว ท่านหประมุขถ้ามันเข้ามาได้ กว่าครึ่งของสมาชิกนิกายโลกวิญญาณต้องบาดเจ็บแต่ตายไปแน่นอน.”
ภายในสมาคมโลกวิญญาณ ผู้อาวุโสที่มีผมสีเทาและขาวพูดขึ้นมา
ประมุขนิกายโลกวิญญาณมองไปที่ รูปแบบที่ถูกทำลายโดย’เจี้ย ฉือ’ ทีละนิดทีละนิด และผู้เชี่ยวชาญที่โยงพลังกับรูปแบบนั้นอยู่ไม่สามารถที่จะต่อกรกับ ‘เจี้ย ฉือ’ได้ และด้วยพลังที่รุนแรงของ ‘เจี่ย ฉื่อ’จึงทำให้มีบางคนถึงกับกระอักเลือดออกมากระทั้งบางคนก็ถึงกับสิ้นใจ
“ทุกคน ส่งพลังต่อไป ท่านบรรพบุรุษ จะมาอีกใน 2 ชั่วโมง!”
ประมุขนิกายโลกวิญญาณ พูด
“2 ชั่วโมงถ้านานขนาดนั้น ข้าคิดว่าพวกเราจะไม่ไหวตั้งแต่ชั่วโมงแรกแล้ว.”
ผู้อาวุโสพูดขึ้น
“ถ้าพวกเจ้าทำต่อไม่ไหว พวกเราก็ตาย ในตอนที่พวกเรานั้นกำลังโยงพลังอยู่นิกายโลกวิญญาณของเรานั้นก็ปลอดภัย แต่ถ้าพวกมันทะลวงเข้ามาได้ พวกเราต้องตายอย่างแน่นอน!”
ประมุขนิกายโลกวิญญาณ พูดขึ้นและเข้าร่วมรูปแบบนี้และสนับสนุนรูปแบบนั้น
ผ้อาวุโสนั้นไม่สามารถทำอะไรได้มากในสถานการณ์นั้น ดังนั้น ทุกคนจึงรีบเข้ามาช่วยสนับสนุนรูปแบบนี้ทันที
อย่างไรก็ตาม รูปแบบค้อนยักษ์นี้ แข็งแกร่งมาก มันก็สามารถทำลายรูปแบบนี้ได้ต่อไปแม้จะรวมพลังของประมุขนิกายเข้าไปด้วย
“ฮึ่ม นิกายโลกวิญญาณสมแล้วที่เป็นคู่แข่งกับตระกูล เจีย ของข้ามานาน แต่วันนี้พวกเจ้าจะต้องจบลง.”
ในตอนนั้น แม่ทัพของตระกูล เจีย ‘เจีย ฉิงเผิง’ นั้นยิ้มอยู่และมองภาพตรงหน้า ในเวลานั้น บรรพบุรุษของ สำนักเทพอัคคี สำนัก หยวนกัง นิกายไป๋ และ ที่ราบหุบเขาไร้ใจ ก็ยืนอยู่และยิ้มอยู่เช่นกัน
พวกเขารู้ว่า ยังไงนิกายโลกวิญญาณก็ไม่รอดจากมือ ตระกูล เจียได้ เพราะนิกายโลกวิญญาณกับตระกูล เจี่ยนั้นดั่งน้ำกับไฟ พวกเขาเป็นอริกันมานาน และในตอนนี้พวกเขานั้นกำลังจะทำลายรูปแบบวิญญาณที่คนนับล้านสร้างขึ้นมา
*ตูม ตูม ตูม ตูม *
“อ๊ากก~”
“อ๊ากกก~”
และในตอนนั้นในกองทัพของ ตระกูลเจี๋ย และ มหาอำนาจอื่นๆ ก็มีเสียงร้อยขึ้นมา และร้องด้วยความเจ็บปวด
มันทำให้พวกเขาต้องรีบหันกลับไปดู พวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า ราชรถนั้นกำลังขยี้กองทัพเขาอยู่ และ ร่าง 3 ร่างก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
2 คน ในนั้น คือ’ชูเฟิง’ และ’จื่อ หลิง’ แต่อีก 1 คนนั้นมาพร้อมกับ กระบี่ไม้ศักดิ์สิทธิ์ โดยที่พวกเขาไม่ต้องคิด แน่นอนนว่าเขาคือ ‘จาง เทียนยี่’นั่นเอง
“สมาชิก นิกายโลกวิญญาณ ชูเฟิง มาเพื่อปกป้อง นิกาย ใครก็ตามที่มาบุกนิกายของข้ามันต้องตาย!”
‘ชูเฟิง’ สะบัด ขวานอสูรฟ้า การเคลื่อนไหวของเขานั้นช่างน่าเกรงขามนัก และการโจมตีของเขาสามารถคร่าชีวิตผู้คนได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหนู เจ้ากล้าโผล่หัวมาต่อหน้าข้าหรือ ข้าจะบดเจ้าและ เอาไปเซ่นให้กับวิญญาณบรรพบุรุษของข้า”
หลังจากที่เห็น’ชูเฟิง’ เจ้าสำนักเทพอัคคี ก็ระเบิดออกมาทันที และไฟนั่นพุ่งขึ้นสูงถึงชั้นฟ้าและนั่นแสดงให้เห็นว่าเขามีพลังในระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ จากนั้นเขาก็บินไปหา’ชูเฟิง’
และในตอนนั้น เหล่าบรรพบุรุษ ของสำนักหยวนกัง นิกายไป๋ กับที่ราบหุบเขาไร้ใจ ก็พุ่งตามเขาไปเช่นกัน
“ใครกล้าแตะต้องน้องข้า มันต้องตายด้วยมือข้า จาง เทียนยี่!!”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ 4 ผู้อาวุโสจะปรากฏตัวขึ้น ข้าง’ชูเฟิง’ ‘จาง เทียนยี่’นั้น ชักดาบออกมาและระเบิดเปลวเพลิงสีฟ้า หยุด 4 คนตรงหน้าไว้และเริ่มโจมตี
“บัดซบ เจ้าเด็กนี้ อยู่แค่ระดับ3อาณาจักรสวรรค์ แต่ทำไมมันถึงมีพลังที่จะต้านทานพวกเราได้”
ในตอนนั้น ใบหน้าของบรรพบุรุษทั้ง 4 ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญกับพลังของ ‘จาง เทียนยี่’ เพราะในตอนนี้ นั้นพวกเขานั้นรู้ตัวว่า พวกเขาอาจจะพลาดท่าให้กับ’จาง เทียนยี่ ‘
“เห้ยไอ 4 แก่ ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะกล้าพูดคำหน้าอับอายเช่นนั้น ต้องการฆ่าชูเฟิงหรือ โทษของมันคือความตายของเจ้าเลยนะ.”
‘จาง เทียนยี่’ พูดจบ ก็เริ่มโจมตีทันที เขาสร้างกระบี่มวลอากาศขึ้น และกระบีนั้นมีไฟลุกถ้วมอยู่ และพลังของมันนั้น ทำให้ 4 บรรพบุรุษ ก็ยากที่จะต่อกร
“จาง เทียนยี่ พวกเราไม่มีอะไรต่อกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวันนั้น หรือไม่ ถ้าจ้าต้องการเป็นศัตรูกับ ตระกูลของข้า ท่านบรรพบุรุษของ ข้านั้นจะได้ส่งเจ้าลงนรกซะ.”
ในตอนนั้น ‘เจี้ย ฉิงเผิง’ ขู่ ‘จางเทียนยี่’
ในตอนนั้นแม้เขาอยู่ ระดับ 6อาณาจักรสวรรค์ แต่เขาก็แข็งแกร่งกว่า 4 บรรพบุรุษที่เหลือ นั่นเป็นเพราะเขานั้นเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับสีฟ้าด้วย
แต่ต่อหน้า ‘จาง เทียนยี่’นั้น เขาก็ตกอยู่ในความกลัว เพราะ พลังของเขานั้นไม่สามารถเทียบก็’จาง เทียนยี่’ได้
“ข้าเคยบอกไปแล้ว ศัตรูของชูเฟิง คือศัตรูของข้าเช่นกัน ข้าจะฆ่าทุกคนที่กล้าโจมตีน้องชายข้า ถ้าเจ้าแน่จริงก็ไปฟ้องให้บรรพบุรุษของเจ้ามาช่วยเร็ว ข้า จาง เทียนยี่ ต้องการเผชิญหน้ากับบุรุษที่สร้างความตกใจให้กับทวีปเก้าอาณาจักร เมื่อ 100 ปีก่อนเช่นกัน.”
‘จาง เทียนยี่’ พูดขึ้น และแทงกระบี่เข้ามา
เมื่อเห็นอย่างนั้น ‘เจี้ย ฉิงเผิง’ ก็หน้าซีด เขารีบวางรูปแบบ 10 รูปแบบตรงหน้า เพื่อนป้องกันการโจมตี ของ ‘จาง เทียนยี่’
*ปัง ปัง ปัง *
แต่ว่า พลังของกระบี่ไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่ไม้ไผ่ มันทำลายรูปแบบทั้ง 10 นั้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และกำลังพุ่งตรงใส่ ‘เจี้ย ฉิงเผิง’
“เป็นไปได้อย่างไร ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้”
ในตอนนั้น ‘เจี้ย ฉิงเผิง’ ก็ตื่นตระหนกอย่างมาก เพราะ พลังของ ‘จาง เทียนยี่’นั้น เกินกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ‘จาง เทียนยี่’ คนเดียวก็สามารถเอาชนะ เขา และ บรรพบุรุษอีก 4คน ได้
ในตอนนี้ รองประมุขตระกูลเขา ก็ถูกจัดการโดย’จื่อ หลิง’ ในตอนนี้ หายนะได้ปรากฏตัวขึ้นอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และ เขาต้องการการช่วยเหลือ
แต่ในกองกำลังนับล้านของเขานั้น ยังอ่อนแอเกินไป ไม่มีใครสามารถจัดการกับ’ชูเฟิง’ ที่แบกขวานอสูรฟ้า ยืนผิวปากอยู่ตรงนั้นได้
ถ้าเป็น อย่างนี้ต่อไป กองกำลังของพวกเขาน่าจะถูกทำลายโดย’ชูเฟิง’ ก่อนที่จะทำลายรุปแบบวิญญาณ เสร็จเสียอีก
ในตอนนั้น ‘เจี้ย ฉิงเผิง’ นั้นไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจ ใช้ท่าไม้ตาย รวบรวมพลังทั้งหมดของเขา มาไว้ที่หน้าอกและเรียกใช้อำนาจวิญญาณทั้งหมดของเขาจากนั้นเขาก็กระทำบางอย่าง
“ โดเรม่อนนนนนน ช่วย ฉันด้วยยยยย” ***ไม่ใช่หรอ
“ ท่านบรรพบุรุษ โปรดช่วยข้าด้วย!!”
ปล . ไอช่วง เบ่งพลังนี่ แต่งเองล้วนๆครับ ของจริงแค่ ไม่มีทางเลือกจึงต้องตะโกนขอความช่วยเหลือแค่นั้นแหละ
แปลโดยท่าน#ฮาย
: กากมาก ถึงกับร้องเรียกคนมาช่วย
: แต่จะว่าก็ว่า เจี่ย ฉื่อ แข็งแกร่งสุดๆเลยนะ
: แกร่งแล้วไล่จับ พี่เฟิงของเราทันหรือเปล่า ???
: ฝันไปเถอะจะได้แอ้มพี่เฟิง แม่งไวยังกะลิง
: เอ้าไม่รู้หรอ ชูเฟิง เป็น น้องเล็กของ ปีศาจราชันย์วานร จะไวเหมือนลิงก็ไม่เห็นแปลก
: แหม๋ สบโอกาสหน่อย สปอยเลยนะมึง!!!!
: ไม่ได้หรอกกูคันปาก . . . . .
ที่มา: