ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปกษัตริย์มืด – บทที่ 42
No. 8
“ชื่อของข้าคือสกอตต์ และนี่เป็นภรรยาข้า เมีย[maiชื่อคนนะไม่ใช่บอกว่าภรรยาคือเมีย ..-]” ในขณะที่ปีเตอร์เดินกลับไป ชายหนุ่มในเครื่องแบบสีดำชี้ไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขา: “ข้าจะเป็นกัปตันของทีมเก็บขยะนี้ในช่วงสิบวัน มันจะดีที่สุดถ้าพวกเจ้าฟังคำสั่งของข้า มิฉะนั้นพวกเจ้าจะได้รับการลงโทษร้ายแรงเมื่อเรากลับไปที่สำนักงาน “
เมสัน,ซัคและอีกหลายคนสัญญาในใจของพวกเขาว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของกัปตันหลังจากทีได้ยินเรื่องบทลงโทษ
สกอตต์กล่าวกับตูเตียน: “เจ้าชื่ออะไร?”
“ดีน” ตูเตียนกล่าวตอบ
“ข้าเชื่อว่าเจ้ามีความสามารถ” สก๊อตต์พยักหน้าเล็กน้อยและกล่าว “แต่ข้าขอเตือนเจ้าจงอย่าหลงละเลิงกับมัน เพราะความตายรอเจ้าอยู่เสมอ อยู่ข้างหลังข้าและข้าแนะนำให้เจ้าระวังตัว “
“เขามาเพื่อสอนฉันสินะ…” ตูเตียนคิดในใจ เขาพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจสิ่งที่สก๊อตกล่าว
ทุกคนได้ยินเสียงการสนทนาของพวกเขา เนื่องจากเสียงของพวกเขาดังมากพอที่จะทำให้คนอื่นๆได้ยิน คนส่วนใหญ่รู้สึกอิจฉาในใจ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการพูดมันออกมาเนื่องจากคนทั้งหมด ตูเตียนเป็นที่หนึ่งในการฝึกของพวกเขา นอกจากนี้ตูเตียนยังได้รับพรของพระเจ้าสองครั้ง นอกจากนี้อีกสามคนในห้องของตูเตียนก็สนับสนุนเขาอีกด้วย แม้ว่าพวกเขาจะอิจฉาแต่พวกเขาก็ไม่การกล้าที่จะยั่วโมโห ตูเตียน ซัค แซม และเมสัน
“นี่เป็นส่วนของอาหารและน้ำในสิบวันของพวกเจ้า คราวนี้เรานำมันมาให้พวกเจ้า แต่ครั้งต่อไปที่พวกเจ้าต้องไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อรับมันมาเอง “สก๊อตต์ ชี้ไปที่พื้นที่มีกระเป๋าเป้สะพายหลังสีดำหลายสิบใบ
ตูเตียน มองไปที่กระเป๋าเป้สะพายหลังสีดำ ยกขึ้นและแบกมันไว้ที่หลังของเขา กระเป๋าเป้สะพายหลังเต็มไปด้วย’ลูกโคลน’ เขาเคยเห็นพวกมันในบ้านของจูร่า พวกมันเป็นลูกมันฝรั่งบด รสห่วยแตก แต่กินง่าย … ที่จริงถ้าคุณกินมันลูกหนึ่งแล้ว คุณจะไม่มีความกระหายที่จะกินมันเป็นลูกที่สอง …
เมสัน,ซัค และแซม เลือกกระเป๋าเป้หลังจากทีเขาเห็นตูเตียนเดินไปเลือกมัน พวกเขาเลือกกระเป๋าเป้สะพายหลังขนาดใหญ่กว่าตูเตียนเล็กน้อยหลังจากที่สก๊อตต์เห็นวิธีการเลือกของพวกเขา เขายิ้มและกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องเลือกตามขนาดของมัน พวกมันทั้งหมดมีน้ำหนักเท่ากัน พวกมันถูกจัดโดยสำนักงานใหญ่และพวกเขาไม่เคยทำผิดพลาดในงานของพวกเขา ”
เมสัน, ซัค และแซม หัวเราะเบาๆเพื่อกลบความอายของพวกเขา
“นั้นอะไร?” สก็อตต์สังเกตุเห็นหลอดดินปืนที่เอวของตูเตียน
“สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องสนใจมันหรอก” ตูเตียนกล่าว “มันจะไม่มีปัญหาต่อการทำงานของข้า”
สกอตต์พยักหน้าและไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขามองไปยังกลุ่มของคนเก็บขยะคนอื่นๆอีก 20 คนและกล่าวว่า “เตรียมพร้อมเราต้องออกเดินทางแล้ว!!”
คนเก็บขยะของกลุ่มขุนนาง พวกเขาค่อยข้างอายุมาก บางคนอายุมากกว่าสก๊อต แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีคำสั่งของสกอตต์ พวกเขาทั้งหมดก็มารวมกันเป็นกลุ่มเดียวกัน พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากสมาคมดังนั้นพวกเขาจึงมีอุปกรณ์และอาวุธทั้งหมดเหมื่อนกับที่กลุ่มของตูเตียนมี
“กับตันสกอตต์เราจะไปที่ไหนในวันนี้ครับ?” ชายหนุ่มร่างผอมกล่าวถาม
“เขตNo.8 สก๊อตหันไปหาเมีย และกล่าวว่า “เราควรจะออกเดินทางให้เร็วที่สุดใช่มั้ย?”
เมีย พยักหน้าเล็กน้อย
สก๊อต เดินนำหน้าขณะที่ตูเตียนคอยเดินตามหลังของเขา
“ที่ๆเราจะไปวันนี้ได้ถูกทำความสะอาดแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องกังวลอะไรในตอนนี้ และรักษาความแข็งแกร่งของพวกเจ้าไว้ ”
ตูเตียน และคนอื่นๆ ก็รู้สึกโล่งใจลง กล้ามเนื้อที่เกร็งแน่นของพวกเขาค่อยๆคลายตัวลงและพวกเขาก็เริ่มมองไปรอบๆมันเป็นดินแดนแห้งแล้ง.. ก่อนหน้านี้ตูเตียน ตั้งข้อสงสัยว่ามีหนองน้ำปกคลุมอยู่ที่ด้านหลังของกำแพงยักษ์ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทะเลทราย
“นอกกำแพงยักษ์นี้ ตรงข้ามกับจินตนาการของผมจริงๆ ผมคิดว่ามันจะมีทะเลทรายจะอยู่ทุกหนทุกแห่งสะอีก “เมสัน ที่เดินตามหลัง ตูเตียนกล่าวออกมาจากความเงียบ
ซัคยิ้มและกล่าวว่า “อย่างน้อยเราก็ไม่ควรกังวลปัญหาเรื่องน้ำ ตราบเท่าที่เราขุดหลุมแล้วเราจะมีน้ำใช้! “
สก๊อตต์หันกลับไปเมื่อได้ยินคำพูดของซัค เขาเหลือบมองไปที่ซัคและกล่าวว่า “มีแอ่งน้ำอยู่บนพื้นดินเจ้าไม่จำเป็นต้องขุดหลุม แม้ว่าเจ้าจะขุดออกไปข้าก็กลัวว่าเจ้าจะไม่สามารถดื่มได้ “
“ทำไม?” ซัครู้สึกสงสัย
ตูเตียน กล่าวอธิบายกับซัคว่า “ระดับรังสีที่อยู่ข้างนอกสูงเกินไป เราไม่สามารถดื่มน้ำได้แม้ว่าจะถูกกรองด้วยดินก็ตาม ถ้านายต้องการดื่ม อย่างน้อยนายก็ต้องขุดหลายสิบเมตร ถึงจะเหมาะสำหรับร่างกายมนุษย์ ตอนนี้เราไม่มีมีพลังพอที่จะขุนลึกขนาดนั้นโดยไม่ต้องกังวลกับความแข็งแกร่งของเรา ดังนั้นอย่าผสมผสานสภาพแวดล้อมนี้ กับการกลับมาจากวันฝึกอบรมครั้งนั้น “
ซัคที่ได้ยินคำพูดของตูเตียน รู้สึกเหมือนเขาได้ตรัสรู้
สก๊อตต์ เหลือบมองไปที่ตูเตียน แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรและยังคงเดินนำต่อไป มันใช้เวลาไม่นานหนักในการเดินไกลกว่าสิบไมล์ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงซากปรักหักพังที่ถูกพืชขึ้นปกคลุม
ตูเตียน รู้สึกตกใจเมื่อเห็นซากปรักหักพังดังกล่าว
นี่เป็นเมืองที่เก่าที่พังรึเปล่านะ?
มีถนนยางมะตอยร้าวอยู่ตรงหน้าเขา มีมอสและพืชเขียวขจีปกคลุมริมถนนและโผ่ลออกมาจากรอยร้าว สามารถมองเห็นผนังคอนกรีตที่ร้าวและทรุดโทรมจากอาคารอาจได้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นเศษซากของร้านค้าสองหรือสามชั้น เถาและตะไคร่น้ำปกคลุมพวกมันทั้งหมด ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาพวกมันได้รับการคุ้มครองและฝังไว้ใต้ต้นไม้อย่างหนาแน่น
มีสิ่งที่คล้ายเสดผ้าในถนนที่รกร้างเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าในช่วงสามร้อยปีผ่านมา ฝนที่ตกและฝุ่นที่ปกทับทมพวกมัน จนทำให้พวกมันกลายเป็นของแข็งคล้ายหินสีดำ เหลือเฉพาะโครงร่างที่คร่าวๆของรูปร่างเท่านั้น
ตูเตียนรู้สึกประหลาดใจมาก!
นี้มัน … …มันคือเมื่องที่ล่มสลาย!!!
นี่อาจเป็นผลของภัยพิบัติที่โลกเผชิญเมื่อสามร้อยปีก่อนหรือไม่?
เมื่อก่อนมนุษยชาติกำลังอยู่ในช่วงเจริญรุ่งเรืองอารยธรรมได้แผ่ขยายออกไปทั่วโลก … …แต่ตอนนี้.. เหลือเพียงเสดซากของอารยธรรมดั้งเดิมเท่านั้น
หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดและลมหายใจของเขาเริ่มไม่เป็นจังหวะ เริ่มมีน้ำตาคลอในดวงตาของเขา..
“ดีนนายเป็นอะไรมั้ย?” เมสันที่เห็นตูเตียนหยุดกะทันหัน ตกใจเขาใช้มือเตะไหล่ของตูเตียน
ตูเตียนรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว และเห็น สก๊อตต์ และเมีย ออกเดินไปตามถนนแล้ว ตูเตียนเริ่มเร่งความเร็วเพื่อให้ทันกับพวกเขา เมื่อเท้าของเขาสัมผัสพืชที่ปกคลุมถนนยางมะตอย ความทรงจำเก่าๆเริ่มปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา เขาคิดถึงพ่อแม่และน้องสาวของเขา เปลวไฟของการระเบิดและผลพวง ที่ครอบครัวเขาต้องผเชิญ ค่อยๆปรากฏในใจของเขาทีละนิด…ที่ละนิด เขารู้สึกเสียใจที่ทุกคนเสียชีวิต ครอบครัวของเขาคงไม่สามารถรอดถึงตอนนี้ได้ มันเป็นความจริงเช่นเดียวกับซากปรักหักพังที่อยู่ตรงหน้าของเขา
“นี่เป็นพื้นที่No.9” สก๊อย หันมองคนที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งไม่ได้เดินตามจังหวะของเขา ดังนั้นเขาจึงเรียกตระโกนว่า “เร็วเข้า … เราไม่ควรเสียเวลาไปที่นี่”
ตูเตียน ลดหัวของเขาลง
ตูเตียนหันมองตามเส้นทางต่างๆ เขาเห็นว่าตลอดทางถนนถูกทำความสะอาดค่อนค้างมาก โดยทั่วไปนอกเหนือจากผนังคอนกรีตที่แตกหักแถบจะไม่มีอะไรหลงเหลือ ถนนมีขนาดกว้างขวางหากคิดดีๆควรมีรถหลายคันถูกทิ้งไว้ แต่นี้กลับไม่มีสักคัน ขณะที่สก็อตต์กล่าวว่าแถบทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกเก็บกลับไปแล้ว
..แต่…..ถ้าเทคโนโลยีของคนรุ่นเก่าถูกเก็บกู้แล้ว ทำไมเทคโนโลยีของกำแพงยักษ์ถอยหลังกลับไปหล่ะ?
มันอาจจะเพราะการกัดกร่อนอย่างรุนแรงเนื่องจากมีรังสีนิวเคลียร์รึเปล่านะ?..
ตูเตียน เดินตามหลังสก็อตและเมีย และมองโลกที่คุ้นเคยและคิดอย่างเงียบๆ…..