ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ถูกต้อง มันคือทักษะของสำนักหลิง หยุน เพลงหมัด 7 สังหาร “
” ถึงแม้ว่ามันเป็นแค่ทักษะระดับ 5 แต่มันก็เป็นทักษะที่ยากที่สุดในการฝึกฝนของบรรดาทักษะสำนักหลิง หยุน แค่คนที่สามารถฝึกได้ถึงขั้นที่ 3 ก็นับว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว แต่ผู้ที่สามารถฝึกถึงขั้นที่ 4 นับว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะ แต่ศิษย์พี่ของเราสามารถใช้ถึงขั้นที่ 6 ได้ “
ศิษย์สำนักหลิง หยุน อธิบายอย่างภาคภูมิใจ
” สวรรค์ เขาฝึกได้ถึงขั้นที่ 6 เลยหรอ แล้ว ตู่กู่ โอวหยุน จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน “
หลังจากได้ยินคำพูดของ ศิษย์สำนัก หลิง หยุน ผู้คนที่มองดูอยู่รอบๆก็ตองตกตะลึงอย่างไม่รู้จบจากนั้นสายตาของพวกเขาที่มอง ‘ชูเฟิง’ ก็เต็มไปด้วยความกังวล
ตอนแรกที่ ‘ตู่กู่ โอวหยุน’ ใช้ระดับ 4 กับ ‘ชูเฟิง’ แต่ผลมันก็ยังไม่ชัดเจนแต่พวกเขานั้นก็อยู่ห่างกันตั้ง 5 ระดับ เห็นได้ชัดว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้ และ ‘ตู่กู่ โอวหยุน’ ยังคงใช้ประโยชน์ของแรงดันยับยั้ง ‘ชูเฟิง’ โดยที่ไม่ต้องจำเป็นต้องใช้ทักษะใดๆ แค่กลิ่นอายพลัังวิญญาณก็สามารถเอาชนะ ‘ชูเฟิง’ ได้ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า
***** เปรี๊ยะะ *****
ซึ่งในตอนนั้น จู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับร่างของ’ชูเฟิง’ รอบๆตัวของเขาเต็มไปด้วยสายฟ้าสีทองกระจายออกไป จากนั้นออร่าของ’ชูเฟิง’ก็เพิ่มขึ้นในทันที จากระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณ เข้าสู่ระดับ 4 แก่นแท้วิญญาณ เอาซะดื้อๆ
” นี่ ! ! ! ออ . . . ร่าของ ขะ . . . ขะ . . . เขา อยู่ในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 4 !!! “
” มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่า ชูเฟิงก็ใช้วิชา หมัด 7 สังหารเช่นนั้นเหรอ ไม่งั้นทำไมเขาจู่ๆระดับพลังวิญญาณถึงเพิ่มสูงขึ้น “
” ดูให้ดีๆ!!! มีสายฟ้าสีทองออกมาจากร่างกายของ ชูเฟิง นั้นคงเป็นสาเหตุให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น ช่างเป็นทักษะที่งดงามอะไรเช่นนี้ มันเป็นไปได้ยังไงกัน ที่มีทักษะเช่นนี้ “
‘ชูเฟิง’ ได้ใช้สายฟ้าสีทองในสายเลือดของเขา ความสามารถที่เป็นหนึ่งเดียวกับเขา ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นทักษะงดงามและแข็งแกร่ง ไปซะงั้น ซึ่งสายฟ้าสีทองนั้นส่องแสงประกายออกมาจนทำให้พวกเขาถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ อีกทั้งยังรู้สึกชื่นชมอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพวกเขารู้สึกว่ามันคือสุดยอดทักษะที่แข็งแกร่งอย่างมาก ทักษะที่ไม่น่าจะมีอยู่ แต่กับถูกใช้โดย ‘ชูเฟิง’
” ดูเหมือนว่ายังมีสมบัติที่ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้าเหลือไว้ให้ในสำนักมังกรฟ้าบ้างสินะ ถึงได้มีทักษะมากมายที่ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน “
เด๋วเจอวิชาที่ผู้ก่อตั้งถ่ายทอดให้ ชูเฟิงแล้วจะร้อง วิชา . . . . . . . . . .
” แต่เจ้าอย่าคิดว่าพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นแค่ 1 ระดับ จะสามารถมาสู้กับข้าได้ “
‘ตู่กู่ โอวหยุน’ จ้อง ‘ชูเฟิง’ ด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก
” เจ้าคิดว่าข้าทำไม่ได้งั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ยิ้มเบาๆและถามอย่างกวนตีน
” แน่นอน!!! เจ้าคิดจริงๆเหรอว่า หมัด 7 สังหารของข้าทำได้แค่การเพิ่มพลังวิญญาณ “
” หากเจ้าคิดแบบนั้น เจ้าก็ดูถูกมันมากเกินไปแล้ว แม้ว่าวิชา หมัด 7 สังหาร จะดูไร้พิษสง ดูเผินๆอาจเป็นแค่ทักษะระดับ 5 หากมีความเข้าใจหรือแตกฉานในเนื้อหาของมัน มันจะเทียบได้กับทักษะระดับ 7 “
‘ตู่กู่ โอวหยุน’ พูดไปก็ตื่นเต้นไปเขาที่สามารถเอาชนะเจ้าสำนักที่อยู่ในระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณได้ แต่กับถูกกดดันโดย ‘ชูเฟิง’ ที่อยู่แค่ในระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณ นั้นทำให้ความอัปยศค่อยหลั่งไหลเข้ามาปะทะใบหน้าของเขาโดยไม่สามารถทนได้ที่จะฆ่า ‘ชูเฟิง’ เพื่อพิสูจน์ว่า เขาคืออัจฉริยะอันดับ 1 ของอาณาจักรมังกรฟ้า
” แน่นอน!!! งั้นให้ข้าได้ดูหน่อยอะไรที่เรียกว่า ทักษะระดับ 7 “
ใบหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเขายังยิ้มเยาะเย้ยอีกด้วย
” ข้าจะ “
‘ตูกู่ โอวหยุน’ โกรธอย่างมาก จนคำพูดจับใจความไม่ได้ ในวินาทีที่เขาก้าวออกมา เขาก็ระดมหมัดรัวๆใส่ ‘ชูเฟิง’ อย่างต่อเนื่องหมัดของเขาเต็มไปด้วยพลังปกคลุมเหมือนจะดูธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษตรงไหน
แต่ในความเป็นจริงหมัดของเขามีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้ท้องฟ้าและแผ่นดินสั่นสะเทือน จนทำให้ใบหน้าของผู้คนที่ดูอยู่รอบๆเปิดเผยความกลัวให้เห็น เนื่องจากตระหนักได้ถึงพลังที่แฝงอยู่ภายในหมัด
” งั้นข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่า ข้า ชูเฟิง จะรับการโจมตีจากทักษะระดับ 7 ได้ยังไง!!! “
‘ชูเฟิง’ไม่ได้หลบหรือหลีกเลี่ยงแม้แต่น้อย ทันทีที่เขาพูดจบชั้นอำนาจพลังวิญญาณที่ไม่มีที่สิ้นสุดทะลักออกมาจากร่างกายและเริ่มก่อตัวเป็นรูปแบบฯขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าของเขา ดั่งป้อมปราการที่คอยรับการโจมตี
***** บูมมม บูมมม บูมมมม *****
ในเวลาที่ ‘ตู่กู่ โอวหยุน’ ระดมหมัดจากพลังแก่นแท้ชนกับปราการ พลังวิญญาณก็แผ่กระจายออกมาเป็นคลื่นระลอกไปทั่วทั้งแผ่นดิน แม้แต่เวทีจะแข็งแกร่งที่ถูกสร้างขึ้นไว้รับลองการต่อสู้ที่รุนแรง ยังต้องถูกทำลายจนเกิดรอยแตกปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ
จนท้ายที่สุดมันก็พังทลายแต่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดคือการโจมตีนั้นหยุดต่อหน้าของ ‘ชูเฟิง’ และมันยังไม่สามารถเข้ามาใกล้เขาได้ หมัดทั้งหมดถูกหยุดด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ‘ชูเฟิง’ ที่สร้างมันขึ้นมา
” สวรรค์ ทุกคนดูนั้นสิ!!! ชูเฟิงป้องกันการโจมตีที่น่ากลัวของ ตู่กู่ โอวหยุน ได้!!! “
ตอนแรก ทุกคนต่างพากันตะลึงเนื่องจากพลังโจมตีที่รุนแรงของ ‘ตู่กู่ โอวหยุน’ แต่เมื่อพวกเขาพบว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย แม้แต่ระเบิดคลื่นพลังที่น่ากลัว เขายังไม่ได้รับผลกระทบ นั้นทำให้สีหน้าของพวกเขาต้องอึ้งเข้าไปอีก
” นั้น!!! “
ในเวลาเดียวกัน ‘หยาน หยางเทียน’ ที่ยืนอยู่ข้างเวทีก็ตาสว่างขึ้น ด้วยความช็อกที่ไม่ค่อยได้เห็นกันปรากฏขึ้นมา
” ใช่แล้วมันคือ การสร้างรูปแบบฯสีเทา นี้ ชูเฟิง มันเข้าใจพลังอำนาจวิญญาณของผู้เชื่อมฯชุดเทาได้งั้นหรอ ไม่น่าล่ะ ตอนที่ร้อยสำนักเข้ามาข้าถึงรู้สึกว่ามีคนใช้อำนาจพลังวิญญาณตรวจสอบ แท้จริงเขาเป็น ผู้เชื่อมต่อฯชุดเทา นี้เอง “
ในตอนนั้น ผู้เชื่อมต่อฯชุดเทา ที่อยู่ข้างๆ ‘หยาน หยางเทียน’ ก็พูดออกมา
” อะไรนะ ? งั้นนี้ก็หมายว่า ชูเฟิง เป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดเทางั้นหรอ ? “
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ไม่ต้องพูดถึงหน้า ‘หยาน หยางเทียน’ แม้แต่ทุกคนที่อยู่ดูอยู่บนเวที ยังต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ อีกทั้งสีหน้ายังเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง
” นั้นคืออำนาจพลังวิญญาณสีเทา ที่ย่อเป็นรูปแบบฯสีเทา ดังนั้นชูเฟิงก็คือ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทา !!! “
ตอนนั้น ไม่เพียงแต่คนจากสำนัก หลิง หยุน ที่พบว่า ‘ชูเฟิง’ มีบางอย่างผิดปกติ แม้แต่สำนักต่างๆยังพบความผิดปกตินั้น และสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเมื่อเห็น รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่ก่อตัว อีกทั้งยังเป็นอำนาจพลังวิญญาณสีเทา
ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็คือ ผู้เชื่อมต่อฯชุดเทาไม่ผิดแน่
” ชะ . . ชู เฟิง ขะ . . ขะ .. เขา ไม่ใช่แค่อัจฉริยะด้านการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่เขายังเป็นแม้กระทั้ง ผู้เชื่อมต่อฯชุดเทา อีกงั้นหรอ ! ! ! “
หลังจากเรื่องนี้ถูกกระจายออกไป เกือบจะแทบทุกคนมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาตะลึงงึงงัน ในความสามารถที่หลากหลายของ ‘ชูเฟิง’ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทา มีเพียงสองผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นในอาณาจักรมังกรฟ้า
แต่ในตอนนี้มีขึ้นมาอีกคน เป็นคนที่ 3 ที่ปรากฏขึ้นมาในอาณาจักรมังกรฟ้า อีกทั้งคนๆนั้นยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีฝีมือร้ายกาจและมากความสามารถ มีหรือทุกคนจะไม่ตกใจหลังจากที่ตกใจแล้ว พวกเขาก็ยังนึกไปถึงอีกหนึ่งบุคคลที่แสนลึกลับ ที่เป็นคนสั่นสะเทือนอาณาจักรมังกรฟ้า
เมื่อครึ่งปีที่แล้ว นั้นก็คือ ชายชุดคลุมสีเทา หรือว่า ‘ชูเฟิง’ อาจจะเกี่ยวข้องกับคนๆนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังใช้ความคิด ‘ชูเฟิง’ ก็ยื่นฝ่ามือของเขาไปคว้าอากาศ จากนั้นรูปแบบฯที่ก่อตัวก็เริ่มปรากฏขึ้นมารอบๆตัวของ ‘ตู่กู่ โอวหยุน’ จนตีกรอบล้อมรอบเขาเอาไว้ภายในนั้น
จากนั้นเขาก็เริ่มบีบมือเข้าหากันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์นั้น ‘ตูกู่ โอวหยุน’ ก็เริ่มระดมหมัด 7 สังหาร ใส่รูปแบบฯเพื่อต้องการทำลายมันให้ได้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์เพราะเขาไม่อาจทำลายรูปแบบฯนั้นได้ จากนั้นมันก็ค่อยหดตัวลง เขาที่เป็นคนหยิ่งผยอง เมื่อเจอแบบนี้เข้าไปก็เริ่มที่จะเกิดความกลัว
เป็นไงบักโอวหยุน ขี้หดตดหายเลยสิมึง
เป็นพ่อนะ จะจับตบให้หัวขมำ. . . . .
จากนั้นก็แก้ผ้าแม่ง พร้อมจับแขวนประจาน . . . . . .
ตัดหำแม่งด้วย . . . . . .
จากนั้นก็ส่งไปเป็นขันทีในวัง . . . . . .
ให้อยู่แบบอายดีกว่าตายไปดื้อๆ . . . . . .
เอ้า บันไซ!!! บันไซ!!!
เด๋วก่อนๆ เด๋วอาจารย์แม่งก็เข้ามาเสือกเชื่อสิ . . . . .
กลัวไรล่ะ แบ็คพี่เฟิง เป็นใครก็รู้ๆกันอยู่ . . . . .
อ่อ!!! หลี่ จางฉิง
ฉิง พ่องงงงง!!!!
ที่มา: