I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 311 – ชูเฟิงเข้าสู่สนาม

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ภายในลานพิพากษา รอบนอกของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนนั้นมีผู้ชุมนุมมากมาย ในเวลาเดียวกันพวกเขาจ้องมองไปที่ ‘ฉี เฟิงหยาง’บนเวทีและพวกเขาก็บอกไปที่คน2คนซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของเวที

หนึ่งในสองคนนั้นสวมเสื้อคลุม ส่วนอีกคนสวมชุดเกราะสีทอง พวกเขาทั้งสองแผ่บรรยากาศที่น่ากลัวออกมาและยังเป็นพลังวิญญาณระดับ อาณาจักรวิญญาณสวรรค์

คนแรกเป็นถึงหัวหน้าสำนัก หลิงหยุน ‘ยัน หยางเทียน’ และ ผู้นำของคฤหาสน์กิเลน ‘หลิน โม่หลี่’

สองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรมังกรฟ้า พวกเขามาอยู่ที่ลานพิพากษาพร้อมกันฉากแบบนี้หายากมากเป็นธรรมดาที่หลายๆคนจะรู้สึกตื่นเต้น  แต่ น่าเศร้าที่คนพวกนั้นไม่สามารถได้ยินเสียงกระซิบของ’ยัน หยางเทียน’และ ‘หลิน โม่หลี่’ได้

“จากที่ข้าเห็น เราต้องฆ่า ฉี เฟิงหยางก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าหากเรายื้อเวลาเอาไว้เป็นไปได้ว่าอาจจะมีปัญหาตามมา”

‘หลิน โมหลี่’มองไปที่ ‘ฉี เฟิงหยาง’ สายตาของเขาปรากฏร่องรอยของความกังวล

“หลิน โมหลี่ ท่านยังไม่รู้จักชูเฟิง แต่ไอ้เด็กคนนี้จะต้องถูกกำจัดด้วยอีกคน หากมีเวลาอีก2-3ปี ไม่แน่ว่าชูเฟิงอาจจะล้ำหน้าเราไปแล้วก็ได้ ถึงตอนนั้น คนที่จะอยู่ในสถานการณ์ที่แย่จะเป็นพวกเรา”

‘ยัน หยางเทียน’อธิบาย

“แม้ว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น คนที่ชูเฟิงจะเล่นงานนั้นไม่ใช่ข้า แต่เป็นสำนักหลิง-หยุนของเจ้าที่่ชูเฟิงมีความแค้น”

‘หลิน โม่หลี่’หายใจออกอย่างเย็นชา แม้ว่าคนที่พูดจะเป็น’ยัน หยางเทียน’ แต่เขาก็ยังแสดงท่าทียโสโอหัง หลังจากวัดความแข็งแกร่งของทั้งหมดในแง่สถานภาพเขาเป็นผู้ครองที่แท้จริงของอาณาจักรมังกรฟ้า

“โฮ่ ท่านหลิน โม่่หลี่ อย่าได้พูดเช่นนั้นสิ! ถ้าเป็นเมื่อก่อนชูเฟิงและคฤหาสน์องค์ชายกิเลนของท่าน ค่อนข้างที่จะมีมิตรสัมพัมธ์”

“แต่ปัจจุบันแตกต่างจากอดีต คุณคิดจะฆ่าพี่ชายร่วมสาบานของเขา ถ้าหากเขาต้องการแก้แค้นท่าน จะเป็นคฤหาสน์กิเลนของท่านที่ตกอยู่ในสถานะลำบากมากกว่าสำนักของข้า”

” เจ้า!!! ไม่สงสัยเลยว่าทำไมสิ่งที่คุณกระตุ้นให้ข้ากำจัดฉี เฟิงหยาง ดังนั้นแล้วเจ้าต้องการดึงข้าไปมีส่วนร่วมนี้ด้วยสินะ”

‘หลิน โม่หลี่’รู้สึกโกรธอยู่นิดหน่อย

“อ้า ท่านหลิน โม่หลี่ อย่าได้พูดแบบนั้น ข้าไม่ได้ทำเพื่อท่านหรอกหรือ? ฉี เฟิงหยางคือหัวหน้าตระกูลฉี และคุณหลิน โมหลี่ ก็เป็นหัวหน้าตระกูลหลิน ท่านไม่กังวลหรอกหรือว่าอนาคตนั้นฉี เฟิงหยาง จะช่วงชิงตำแหน่งของท่าน”

‘ยันหยางเทียน’ ยิ้มตอบและป้องป้องตัวเขาเอง

“แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าชูเฟิงนั้นจะต้องมาช่วยชีวิต ฉี เฟิงหยาง? เขาไม่น่าเป็นคนงี่เง่าแบบนี้ เหตุใดเขาต้อง เดินหน้าเข้ามาหาความตาย?”

‘หลิน โม่หลี่’กล่าวถึงข้อสงสัย

“จากที่ข้าเข้าใจ หลังจากได้สังเกตชูเฟิง เขาเป็นคนแบบนั้น เขาเป็นปีศาจน้อยฉะนั้นแล้ว เขาต้องมีวิธีการบางอย่างเป็นแน่แม้แต่ข้าและท่านเฝ้าระวังไว้ เราก็ไม่สามารถประมาทได้”

‘ยัน หยางเทียน’ ยิ้มและกล่าวพูด

“นายท่าน แย่แล้ว!”

ณ ตอนนั้น ยามของคฤหาสน์องค์ชายกิเลนวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก

“เกิดอะไรขึ้น?”

จะเห็นได้ว่า ‘หลินโม่หลี่’ขมวดคิ้มหมุ่นเบาๆ

“ท่านหลิน ช่งได้หายไปและสัตว์ร้ายของเขาโดนฆ่าตายโดนใครบางคน”

ยาม รีบตอบอย่างร้อนรน

“ไอพวกขยะ! ถ้าพวกแกไม่สามารถแม้แต่จะดูแลลูกข้าได้ จะมีแกไว้ทำไม!”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นใบหน้าของ’หลิน โม่หลี่’เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก และอย่างที่เขาพูด เขากำลังจะออกไป

“ท่านจะไปที่ไหนรึ?”

จะเห็นได้ว่า ‘ยัน หยางเทียน’รีบเข้ามาขัดขวางเขา

“แน่นอน ว่าข้าต้องไปค้นหาลูกของข้า เขาเป็นลูกชายคนเดียวของข้า แล้วข้าจะไม่ปล่อยเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นกับเขา”

‘หลิน โม่หลี่’กล่าว

“ท่านไม่สามารถทำมันตอนนี้ คุณจะออกไปจากที่นี่อย่างไร? บางทีนี่อาจจะเป็นแผนล่อสือออกจากถ้ำของชูเฟิงก็เป็นได้”

‘ยัน หยางเทียน’ กล่าว

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ‘หลิน โม่หลี่’ก็กังวลมากขึ้น ดังนั้น เขาจึงกล่าวด้วยความโกรธว่า

” ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับลูกของข้า เจ้าจะแบกรับความรับผิดชอบนั้นได้ไหม? “

“ถ้าฉี เฟิงหยางได้รับการช่วยชีวิตโดนชูเฟิง และเมื่อทั้งสองกลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี บางทีคนที่จะได้ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกของท่านแต่จะรวมถึงคฤหาสน์กิเลนทั้งหมดและรวมถึงสำนักของข้าด้วย”

“นอกจากนี้ ลูกของคุณอาจจะไม่ได้ถูกพาไปโดยชูเฟิงท่านหลิน โปรดเข้าใจสถานการ์ปัจจุบันด้วย”

‘ยัน หยางเทียน’เอ่ยเตือน’หลิน โมหลี่’ ทุกๆคำ

ณ ตอนนั้น ‘หลินโม่หลี่’เป็นกังวลอย่างมาก การเป็นผู้ปกครองอาณาจักรมังกรฟ้านั้น เขาย่อมกำหนดว่าอะไรสำคัญกว่าสุดท้าย เขาก็ต้องทนกับความวิตกกังวลในจิตใจ และอยู่อย่างเงียบๆเพื่อรอการมาถึงของเวลาเที่ยงวัน และรอคอยการปรากฏตัวของ’ชูเฟิง’

อย่างไรก็ตาม เวลาได้ผ่านไปทีละนิดๆ จากต้นจนจบ’ชูเฟิง’ไม่ได้ปรากฏตัวมา ทำให้’หลิน โมหลี่’ และ ‘ยัน หยางเทียน’ไม่สบายใจ เพราะสิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดคือ ‘ชูเฟิง’ไม่ปรากฏตัว ถ้าหากว่า’ชูเฟิง’ปรากฏตัว กว่า 90% พวกเขามั่นใจว่าสามารถฆ่า’ชูเฟิง’ได้

แต่ถ้าหาก’ชูเฟิง’ ไม่ปรากตัว ต่อจากนี้ทุกวัน ทุกชั่วโมงพวกเขาจะไม่สบายใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่า อัจฉริยะที่เลยสามัญสำนึกของคนทั่วไปจะฆ่าเขา พวกเขาคงจะถูกฆ่าทั้งหมดด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมโดยมีเบื้องหลังปรากฏเพียงคราบเลือด

“ได้เวลาแล้ว!!!”

ในที่สุด เสียงตะโกนดังก้องออกมา ณ ขณะนั้น หัวใจของทุกคนระส่ำระส่ายเป็นเพราะว่า เวลาของ’ฉี เฟิงหยาง’ที่ใกล้จะถูกประหารก็มาถึง ผู้เชี่ยวชาญขั้นอาณาจักรวิยญาณสวรรค์กำลังจะถูกฆ่า

ตอนนั้น ‘ยัน หยางเทียน’และ’หลิน โม่หลี่’นั้นลำบากใจ เพราะว่า ‘ชูเฟิง’ยังไม่ปรากฏตัวนั่นหมายความว่า ‘ชูเฟิง’ล้มเลิกการช่วยเหลือ ‘ฉี เฟิงหยาง’ และในอนาคตทุกๆวันทุกๆคืน พวกเขาจักต้องตกอยู่ในความหวาดระแวง

สำหรับ ‘ฉี เฟิงหยาง’ เขาค่อยๆปิดดวงตาของเขา เขาได้ยินยันผลแล้ว ว่าคงไม่มีใครคิดจะมาช่วยเขาในเวลาเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะโทษใคร.

อย่างไรก็ตาม สำหรับฝูงชนที่ไม่รู้เรื่องภายใน พวกเขามีความไม่แน่นอนในขณะที่พวกเขาจ้องมอง ใบมีดนขนาดใหญ่รอคอยเชือกของมีดประหารก็ดึงลงมา และฉากที่ ‘ฉี เฟิงหยาง’ถูกตัดเป็น2ท่อน

“ท่านผู้นำ!!! “

ในเวลานั้น ผู้รับผิดชอบในการตัดหัวก็มองไปที่’หลิน โม่หลี่’

สำหรับ ‘หลิน โม่หลี่’ เองก็มองไปที่ ‘ฉี เฟิงหยาง’ก่อน เขากล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา

” ฆ่า!”

****วู้สสสส****

ทันทีที่’หลิน โม่หลี่’พูด ปรากฏว่ามีแสงผ่านไปด้วยความรวดเร็วและทรงพลัง มันผ่านทะลุผู้รับผิดชอบการตัดหัวของ’ฉี เฟิงหยาง ‘ตายทันที!

“มีแต่ตระกูล ชิมาดะเท่านั้นที่สามารถควบคุมมังกรได้เจ้าเป็นใคร!”

ล้อเล่นเฉยๆครับ

“ใคร?”

อันนี้ของจริงละ

ตอนนั้นทุกๆคนถึงกับช๊อค พวกเขาไม่แม้แต่กระพิบตา และในตอนนั้น พวกเขาก็เห็นร่างของชายผู้ยืนอยู่บนอากาศ

เด็กหนุ่มที่ปรากฏมา นั่นคือ ‘ชูเฟิง’ ปัจจุบัน’ชูเฟิง’นั้นยืนอยู่กลางอากาศ ผ้าคลุมของสำนักมังกรฟ้าปลิวไสวบนไหล่ของเขามีถุงกระสอบป่านอยู่ ด้วยรอยยิ้มประดุจพระเอก เขาพุ่งผ่านฝูงชนมา และกล่าวว่า

“ขออภัยทุกๆท่าน ที่ข้าน้อยชูเฟิงออกมาช้าไปหน่อย!!!”

“ชูเฟิง! นั่นคือ ชูเฟิง!!”

“ทำไมเขากล้ามาที่นี่ แล้วเขาเดินบนอากาศได้อย่างไร?”

“สวรรค์! มันอาจเป็นไปได้ว่าชูเฟิงเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณสวรรค์แล้ว? ไม่ นี่มันไม่ถูกต้อง ออร่าของเขายังชัดเจนอยู่ที่ระดับ3แก่นแท้วิญญาณเหมือนตอนที่สู้กับตู๋กู๋ โอวหยุน”

‘ชูเฟิง’ ปรากฏตัวอย่างเอิกเกริก ไม่ว่าพวกเขายอมรับ’ชูเฟิง’หรือไม่ ณตอนนั้น ความตกตะลึงฉายผ่านดวงตาของพวกเขาอย่างชัดเจน

“ชูเฟิง เจ้ากล้าที่จะปรากฏตัวที่นี่ นับว่าเจ้าแน่มาก!!! “

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ‘ยัน หยานเทียน’นั้นถึงกับเป็นปลื้ม และโดยไม่ต้องพูดอะไร เขาบินมาถึงหลัง’ชูเฟิง’เพื่อป้องกันการหลบหนี

“ส่ง ตัวพี่ชายของข้ามาแล้วข้าจะไม่ถือสาเรื่องัวนนี้”

‘ชูเฟิง’พูดขึ้นอย่างดูหมิ่น

“หืม ชูเฟิงเจ้ามีความสามารถอะไรถึงได้มาพูดกับข้าแบบนี้”

‘หลิน โม่หลี่’ ยิ้มหยัน หลังจากเห็น’ชูเฟิง’ หัวใจที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลง

“มีไอนี่ไง!!!”

‘ชูเฟิง’แค่นยิ้มเย็นชาและก็โยนกระสอบบนไหล่ของเขาทันที แล้วร่างก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน

คนๆนั้นตัวใหญ่อ้วน เขาแก้ผ้าและไม่สวมใส่อะไรเลย ส่วนล่างมีป้ายกระดานมัดไว้บนไอ้จ้อนของเขา

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ บนป้ายชื่อมีเลือดสีแดงเขียนไว้ 4 คำใหญ่่ว่า

“ข้ามันโรคจิต”

แล้วเมื่อมองหน้าเขา เขาจะเห็นทันทีว่ามันเป็นลูกของ ‘หลิน โม่หลี่’มันคือ ‘หลิง ส้ง’!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments