I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Undefeated God of War ตอนที่ 125 – บุรุษหนุ่มยามค่ำคืน

| Undefeated God of War | 710 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ตอนที่ 125 – บุรุษหนุ่มยามค่ำคืน

 

อากาศรอบๆถังเทียนเริ่มที่จะสั่นสะเทือนเป็นจังหวะ การสั่นสะเทือนทำให้อากาศก่อตัวเป็นคลื่นระลอกและภาพร่างของถังเทียนกลายเป็นผิดเพี้ยนคลุมเคลือ

ไร้การหายใจ ไร้การเปล่งเสียง มันเป็นเพียงหมัดที่เงียบๆ

ระลอกคลื่นที่สั่นไหวรอบตัวถังเทียนก็ต่างถูกดึงดูดรวมตัวกันไปยังรอบๆหมัดของเขาอย่างรวดเร็ว

ระลอกคลื่นมากมายของหมัดที่ชกออกไปปะทะเข้ากับกำแพงหมอกอย่างเงียบงัน

ติง!

เสียงแหลมคมใสแจ๋วราวกับแก้วแตก ม่านหมอกก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว สลายและกระจายไปในอากาศ

การสลายไปอย่างฉับพลันของกำแพงหมอกนี้ทำให้อสรพิษจิตวิญญาณดาราประหลาดใจ มันก็รับกระบวนท่านี้ไปเต็มๆ ครึ่งท่อนบนของร่างมันพลันหดถอยกลับเปิดเผยกระบวนท่าป้องกันเอาไว้

ในใจถังเทียนสั่นสะท้านปราณอันเย็นเยียบแทรกเข้าสู้หมัดของเขา และปราณกระเรียนภายในร่างของเขามันกลับไม่สามารถที่จะแปรสภาพมันได้! เพียงแค่สามวินาทีเท่านั้นปราณกระเรียนก็แปรสภาพปราณเย็นเยียบได้

ช่างเป็นพลังปราณที่เย็นเยียบนัก!

ถังเทียนจ้องมองไปยังอสรพิษจิตวิญญาณดาราเขม็งขณะที่อสรพิษก็จ้องมองกลับมาที่เขา พวกเขาทั้งสองต่างจ้องมองเผชิญหน้ากัน

“ถอยก่อนเถอะ” ทหารปรากฏเบื้องหลังของถังเทียน

เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังเทียนก็ค่อยๆถอยหลังออกไป และอสรพิษจิตวิญญาณดาราก็รู้ว่าถังเทียนไม่ใช่สิ่งที่มันจะล้อเล่นด้วยได้ มันจึงหยุดอยู่กับที่ในกระบวนท่าป้องกันและมิได้ไล่ตามไป

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

เมื่อกลับมายังฐานทัพ

ใบหน้าของถังเทียนบูดเบี้ยวน่าเกลียดเขารู้สึกไม่พอใจพลางแค่นเสียง “ข้าเอาชนะได้อยู่แล้ว!”

“แล้วยังไง?” สีหน้าทหารดูแคลน “นี่เป็นคราแรกที่เจ้าได้พบกับอสรพิษจิตวิญญาณดาราและข้าสาบานได้เลยว่ามันยังมีกระบวนท่าสังหารอยู่อีกด้วย”

“กระบวนท่าสังหารอันใดกัน?” ถังเทียนเงยหน้าขึ้นมามองทหาร

“ข้าก็ไม่รู้” สีหน้าทหารกลายเป็นจริงจัง “เหล่าอสูรจิตวิญญาณดาราได้ดูดกลืนทั้งของชิ้นส่วนจิตวิญญาณขุนพลโบราณและทางที่ดีเจ้าอย่าได้ดูแคลนชิ้นส่วนพวกนี้ แม้ว่าระดับขั้นของมันจะไม่สูงและมีการกระจัดกระจายมากไป พวกมันก็มักจะมีตราประทับเศษวิชาการต่อสู้ของจิตวิญญาณนักสู้อยู่ด้วย และเหล่าอสูรจิตวิญญาณทั้งหมดได้ดูดกลืนเหล่าชิ้นส่วนจิตวิญญาณขุนพลนี้พวกตราประทับทั้งหมดก็ต่างถูกดูดกลืนเข้าไปด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังเทียนก็ตกตะลึง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดตะกุกตะกัก “ท่านจะบอกว่าเหล่าอสูรจิตวิญญาณดาราก็สามารถฝึกวิชาการต่อสู้ได้เหมือนกัน?”

“ถูกต้องแล้ว” ทหารมีสีหน้าที่กำลังระลึกถึง “ภายในอดีตพวกเราจะพบพวกมันมากมาย อย่าได้ดูแคลนจิตวิญญาณนักสู้โบราณ แม้ว่าพวกมันจะเป็นวิชาที่ไม่ค่อยซับซ้อนดั่งเช่นปัจจุบันนี้แต่ก็เต็มไปด้วยรูปแบบที่มากมาย มันเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน แต่พลังของมันก็น่าทึ่งเช่นเดียวกัน นอกจากนี้อสูรจิตวิญญาณดาราก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งและสามารถพัฒนาพลังของวิชาการต่อสู้และแสดงพวกมันได้อย่างยอดเยี่ยม”

ถังเทียนยังคงไม่เชื่อพลางพึมพำกับตัวเอง “ถ้าข้ารู้เช่นนั้น ข้าก็คงไม่ลองสู้เมื่อครู่นี้แล้ว”

ทหารเหลืองมองไปยังเขา “สบายใจเถอะ เจ้ามีโอกาสอีกมากมายนัก”

“เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองถึงไม่คิดถึงศาสตราวุธเครื่องกลไกกันเลย?” เสียงของไซ่เหล่ยพลันดังมาจากเบื้องหลังพวกเขา หลังจากที่ได้พักผ่อนนางก็ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ตาที่แดงก่ำของนางหายไปแล้ว ความสับสนและเพ้อเจ้อดื้อรั้นของนางหายไปทั้งหมด และนางก็กลายมาเป็นไซ่เหล่ยผู้เฉลียวฉลาดเช่นเดิม

ไซ่เหล่ยที่เป็นปกติทำให้ถังเทียนรู้สึกกดดันในทันทีและรู้สึกเริ่มที่จะปวดหัวขึ้นมา

เสื้อเชิ้ตเกาะอกของนางแทบจะไม่สามารถปกปิดปทุมถันอันยั่วยวนของนางได้ มันช่างดูร้อนแรงและวาบหวาม นางก็หวีเสยผมที่หน้าม้าอย่างเฉยเมย เปิดเผยให้เห็นดวงตาของนางที่มีเสน่ห์เปล่งประกายความลึกลับ

“ศาสคราวุธเครื่องกลไกที่นี่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก ถ้าพวกไม่พอใจพวกมันแล้วล่ะก็ เมื่อเร็วๆนี้ข้ามีความคิดใหม่ขึ้นมา และลูกประคำจิตวิญญาณโบราณที่เจ้ามอบให้ข้ามาเมื่อตอนนั้น ข้าก็ยังไม่ได้ใช้มันไปเลย ดังนั้นข้าสามารถที่จะลองใช้มันสร้างศาสตราวุธเครื่องกลไกรุ่นใหม่ของข้าได้!” ดวงตาไซ่เหล่ยลุกโชติไปด้วยความหลงใหล “แน่นอนว่าเจ้าสามารถใช้มันเพื่อต่อสู้และรายงานผลให้ข้าด้วย”

ทุกครั้งที่ดวงตาไซ่เหล่ยปรากฏความคลั้งไคล้ ความกดดันภายในใจถังเทียนจะสลายหายไปในทันที

“มันเป็นไปไม่ได้” ทหารขัดขึ้นพลางอธิบาย “เส้นทางนี้ในอดีตมันไม่ใช่ความลับในกองทัพ หลายคนต่างเดินมาเส้นทางนี้ แต่เมื่อกองทัพได้ใช้ประกาศิตห้ามเอาไว้ ขณะที่เส้นทางนี้นำไปยังใจกลางของกองบัญชาการ สำหรับพวกยามแล้วม การป้องกันของมันเป็นสถานที่ที่อันตรายนัก แต่มันก็มีหลายคนที่ขี้เกียจที่ยังคงใช้เส้นทางนี้อย่างต่อเนื่องแม้ว่ามันจะเป็นข้อห้าม และหลายคนต่างก็ถูกลงโทษ หลังจากนั้นท่านผู้นำก็ออกมาและพาช่างกลไกสร้างกับดักมากมาย และผู้ใดที่ใช้ศาสตราวุธเครื่องกลไกจะถูกโจมตี ”

“ปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดไปเลยทีเดียวไม่ดีกว่าหรือ? ผู้นำของเจ้าช่างแปลกคนนัก” ถังเทียนไม่เข้าใจ

“ความคิดของเขามักแปลกประหลาดอยู่เสมอ” ทหารยื่นมือออกมา “ถ้าเจ้าไม่ยืมพลังของศาสตราวุธเครื่องกลไกและพึงพาความแข็งแกร่งของเจ้าเองและผ่านเส้นทางไปเจ้าก็จะไม่ถูกลงโทษ ผู้นำคิดเช่นนั้นเพราะคิดว่ามันน่ายกย่อง”

“ถ้างั้นตอนนี้พวกเราควรจะทำเช่นไร?” ถังเทียนมองไปยังทหาร

“มันไม่มีทางอื่นแล้ว เจ้าจะต้องผ่านเส้นทางนี้ให้ได้ด้วยตัวเอง” ทหารส่ายหัว “ข้าก็ไม่มีความคิดที่จะครุ่นคิดได้แล้ว โชคดีนักที่ฐานทัพถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และด้วยการพัฒนาของเจ้าในปัจจุบัน เจ้าเพียงต้องใช้เวลาเล็กน้อยมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่พวกเราจะใช้ได้”

ถังเทียนกำหมัดแน่น

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ยามค่ำคืน

ยามค่ำคืนภายในดินแดนจิตวิญญาณและดาวเคราะห์ธรรมดาแตกต่างกัน ท้องฟ้าเป็นเพียงสีแดง ดวงตะวันที่แขวนอยู่ในท้องฟ้าสาดส่องราวกับทะเลพื้นหญ้าสีแดง ดวงตะวันสีส้มค่อยๆตกดินและสีเหลืองอำพันของดวงจันทร์ก็ค่อยๆขึ้นเหนือท้องฟ้า

มีหินเสาสูงตั้งอยู่ภายนอกค่าย

แขนที่งอโค้งวางพักอยู่บนเข่า ถังเทียนผู้ที่นั่งอยู่บนพื้นสายตาได้จ้องไปยังท้องฟ้าที่ห่างไกลรู้สึกว้าเหว่ในค่ำคืนนี้

เขาเพิ่งกลับมาจากตำหนักสิบแปดรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ ทั่วร่างต่างเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและไหลย้อยลงมาจากใบหน้าไปยังคางของเขา การหอบหายใจอย่างรวดเร็วค่อยๆกลับเป็นปกติ ความโมโหที่ถูกทุบตีจากสิบแปดมงกุฏค่อยๆลดลง

ฉากเช่นนี้มิได้งดงามหรือสวยงามแต่มันเป็นประเภทที่ทำให้อารมณ์ของผู้คนสงบลงได้

ทันใดนั้นเขาก็ได้ย้อนนึกไปยังเมืองเมฆาดาราในอดีต วันแล้ววันเล่าที่ฝึกฝนอย่างน่าเบื่อหน่าย เพราะเขาไม่ต้องการที่จะถูกเยาะเย้นโดยผู้คน เขาพบสถานที่ห่างไกลที่มิมีผู้ใดย่างกรายเข้าไปเพื่อฝึกฝนเพียงลำพัง เชียนฮุ่ยมาพร้อมกับเขาเป็นประจำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วก็กลายเป็นเขาเหลืออยู่ตัวคนเดียว

ปราศจากเรื่องราวเขาเพียงนั่งอยู่บนยอดเขาเฝ้ามองไปยังปลายท้องฟ้ายามค่ำคืน เฝ้ามองดวงจันทร์ค่อยๆลอยขึ้นและค่อยๆเปล่งประกายแสงสว่าง

ทันใดนั้นกลิ่นอันหอมหวนก็พัดผ่านมาและด้านข้างของเขาก็ปรากฏบุคคลเพิ่มมา

“นี่ เหตุใดเจ้าถึงมานั่งอยู่เพียงลำพังกัน สิ่งใดกันที่เจ้ากำลังกังวลอยู่?” ไซ่เหล่ยก็นั่งลงด้านข้างของถังเทียนพลางหยอกล้อ “มิใช่ว่าบุรุษหนุ่มเทพจะต้องเป็นผู้ที่ไร้ข้อกังวลมิใช่หรอกหรือ”

“ความกังวลแบบใดกันที่เป็นไปได้สำหรับข้ากัน?” ถังเทียนกลับคืนสติของเขาพลางหัวร่อเสียงดัง

“ไม่เอาน่า!” ไซ่เหล่ยกรอกตาของนาง “เจ้ากำลังคิดเรื่องเชียนฮุ่ยสินะ! อย่าได้โทษตัวเองมากเกินไปเลย เจ้าได้พยายามอย่างมากแล้ว…”

“อืม ข้าคิดถึงนาง และข้าไม่รู้ว่านางกำลังทำอันใดอยู่ อย่างไรก็ตามข้าก็ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก เชียนฮุ่ย นางเป็นคนมีความสามารถมากกว่าข้าเสียอีกและฉลาดกว่าข้า ข้ามีความมั่นใจในตัวนางมาก” ใบหน้าของถังเทียนแสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบ แต่เขาก็เปลี่ยนสีหน้าในทันทีและหันมาทำหน้าบึงใส่ไซ่เหล่ย “สาวน้อยเจ้าคิดว่าบุรุษหนุ่มเทพจะกล่าวโทษตัวเองงั้นหรือ? ฮ่าฮ่า! และที่สิ่งเจ้าพูดว่า ข้าได้พยายามอย่างมากแล้ว คำพูดพวกนี้ไม่จำเป็นสำหรับข้า!”

ไซ่เหล่ยชะงัก “ไม่จำเป็นสำหรับเจ้างั้นหรือ??”

แสงตะวันที่ยังค้างคาอยู่บนท้องฟ้าสาดส่องบนใบหน้าที่ภูมิใจของบุรุษหนุ่ม เขากำหมัดและชี้นิ้วโป้งไปที่ตัวเองพลางกล่าวอย่างโอหัง “บุรุษหนุ่มเทพผู้นี้มีชะตาที่จะต้องกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด! ในพจนานุกรมของข้า การพยายามอย่างมากมันเป็นเช่นไรกัน?”

มิรู้ว่าเป็นเพราะแสงของดวงตะวันที่กำลังตกดินหรือว่าเป็นเพราะท่าทางของบุรุษหนุ่ม ที่มันทำให้ไซ่เหล่ยรู้สึกกระวนกระวายชั่วขณะ ขนตาอันงอนยาวปิดลงปกปิดความคิดอันบริสุทธิ์เสน่หาและนางก็แค่นเสียง “เจ้ามันโอหัง! ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะทำได้เพียงใดกัน?”

น้ำเสียงนางเปลี่ยนไป “ถ้างั้นสิ่งใดกันที่เจ้ากำลังคิดอยู่?”

ถังเทียนชะงักด้วยคำถามที่กะทันหันของไซ่เหล่ย “สิ่งที่ข้ากำลังคิดอยู่งั้นหรือ? แท้จริงแล้วข้าก็มิแน่ใจเช่นกันว่ากำลังคิดถึงสิ่งใด ข้าเพียงแค่ระลึกถึงอดีตยามเมื่อข้ากำลังฝึกฝน”

“ฝึกฝนในอดีต?” ไซ่เหล่นพลันสนใจ “เจ้าจะต้องทรงพลังอย่างมากในอดีตเหมือนกันใช่ไหม? เจ้าก็คงเป็นอันดับต้นๆของสถานบันเจ้าสินะ? หรือว่าสามอันดับแรก?”

ใบหน้าของถังเทียนแดงก่ำเขากล่าวอย่างอับอาย “แท้จริงแล้วข้าย่ำแย่อย่างยิ่ง ข้าเป็นพวกงมงายยุทธค้างชั้นเดิมเป็นเวลาหลายปี”

“งมงายจนค้างอยู่ชั้นเดิมเป็นเวลาหลายปีงั้นหรือ?” ไซ่เหล่นตกตะลึง นางมิเชื่อหูตัวเอง สีหน้าของนางราวกับพบเห็นผี “ไม่มีทาง! สถาบันใดกันที่เจ้าศึกษาอยู่ ตัวเจ้าแข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่กระทั่งมาตรฐานของเจ้า เจ้าเป็นเพียงได้แค่อยู่ซ้ำชั้นเดิม? สวรรค์! ข้ามิรู้เลยว่าโลกนี้มันยังมีสถานบันที่ทรงพลังเช่นนั้น! เจ้าบอกข้าที!”

“แค่กๆ!” ถังเทียนมิรู้ว่าจะควรจะบอกนางเกี่ยวกับอดีตอันหมองหม่นของเขาดีหรือ ถ้ามันรู้ถึงไซ่เหล่ยผู้ที่มีตัวตนที่ชั่วร้ายแล้วล่ะก็มันจะต้องเป็นอันตรายแน่ เขาจึงแสร้งทำออกมา “เวลาพักมีไม่มากนะ ข้าจะต้องเริ่มฝึกแล้ว!”

เขาก็ยืนขึ้นและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วทันทีที่กล่าวจบ

“นี่ นี่ นี่! พูดให้เสร็จก่อนไปสิ! อย่าได้ปล่อยให้อยากรู้แล้วทิ้งไว้แบบนี้ นี่มันแย่มากเลยนะ!”

ไซ่เหล่ยผู้ชื่นชอบเรื่องครหาก็ตะโกนเสียงดัง

ถังเทียนก็วิ่งเร็วขึ้นอีก

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ฮู่ ถังเทียนชกหมัดออก

ระลอกคลื่นมากมายรวมตัวอยู่รอบหมัดของเขาราวกับหมัดเต็มไปด้วยเส้นสายมากมาย

ถังเทียนก็หยุดลงบนหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ไอระเหยจากร่างของเขา แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอันใดเลยพลาก้มหัวมองไปยังหมัดตัวเอง

การกระตุ้นปราณแท้จริงภายในร่างของเขาถูกดูดไปมากมายจากหมัดของเขา

ทุกระลอกคลื่นทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง อากาศรอบๆเริ่มสั่นกระเพื่อม เขาเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแรงสั่นสะเทือนแล้ว ด้วยสัญญาตญาณที่โดดเด่นของเขาทำให้รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ความเข้าใจเกี่ยวกับแรงสั่นสะเทือนลึกซึ้งยิ่งกว่าก่อนหน้านี้

เขาได้ฝึกฝนอยู่ตลอดทุกวันและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ในครานี้เขารู้สึกได้ว่าเขาบรรลุไปจนถึงคอขวดแล้ว

ปราณแท้จริง!

คลื่นกระเพื่อมทั้งหมดต่างก่อเกิดมาจากการสั่นสะเทือนของปราณแท้จริง ถังเทียนได้แยกแยะปราณอันมากมายและวิเคราะห์การสั่นสะเทือนของปราณแท้จริง และพัฒนาการของเขาก็น่าทึ่งแต่ตอนนี้เขากลับบรรลุติดอยู่คอขวด

ปราณแท้จริงเหมือนสายรั้งธนูมันเป็นต้นตอของแรงสั่นสะเทือน

แต่สายรั้งธนูนี้ มันมีคุณภาพที่เหนียวแข็งและทนทาน ถึงขนาดที่สามารถทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนเช่นนี้ได้

ปัญหาในปัจจุบันของถังเทียนคือ ปราณแท้จริงของเขาไม่สามารถที่จะทนทานแรงสั่นสะเทือนที่แข็งแกร่งได้ เขาจะต้องทำให้ปรารแท้จริงของเขาเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

ถึงเวลาแล้วสินะ

ถังเทียนก็มาพบทหารและบอกทหารเกี่ยวกับความคิดของเขา

“ลุง เริ่มกันเลยเถอะ ข้าอยากจะลองวิชาการต่อสู้โบราณ ใช้การต่อสู้เพื่อยกย่องการต่อสู้ฟังดูน่าประทับใจยิ่งนัก”

แล้วอีกเสียงก็ตะโกนขึ้นภายในใจถังเทียน

เชียนฮุ่ยข้ากำลังไปหาแล้ว!

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments