I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

True Martial World ตอนที่ ตอนที่ 2 : พี่สาว

| True Martial World | 1042 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

อี้หวินไม่สามารถอธิบายความรู้สึกในการพบกันครั้งแรกได้ มันเป็นความรู้สึกประหลาดที่คุ้นเคย เธออายุประมาณสิบห้าปี สวมเสื้อที่มีรอยปะสีเขียว

 

กางเกงขายาวสีเข้มจนมองไม่ออกว่าเป็นสีอะไร ขากางเกงถูกพับสูงจนเห็นขาขาวๆของเธอ ข้อเท้าเปรอะโคลนที่กระเด็นเลอะเป็นจุดๆ

 

มีเรือนร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ใบหน้าใสกระจ่าง แก้มสีแดงดั่งดอกกุหลาบ

 

ขณะที่เธอเดินมาตามทางของหมู่บ้าน เธอเหมือนน้ำค้างบนยอดเขาคืนความสดชื่นให้แก่อี้หวิน…… นางเป็นใคร?

 

อี้หวินสบตากับสาวน้อย เธอยืนนิ่งก่อนที่จะปล่อยมือจากเชือกที่แขวนตะกร้าบนไหล่

 

อี้หวินรู้สึกแปลกๆ

 

หญิงสาวตรงหน้าอายุอย่างดีก็แค่สิบห้าปี เหมือนดอกไม้ยังไม่บาน

 

แต่ทำไม…นางดูสูงกว่าเขา? เธอสูงกว่าเขาเกือบครึ่งศีรษะ ถ้าอยู่ใกล้กันเขาคงต้องเงยหน้าขึ้นมองดูหญิงสาว!

 

มันต้องเป็นภาพลวงตาที่เกิดจากความเหนื่อยล้าแน่ๆ……..

 

อี้หวินไม่ทันทำความเข้าใจ ขณะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงใสกังวานของหญิงสาว

 

“หวินเอ๋อร์!”

 

หญิงสาวโยนตะกร้าทิ้ง แล้ววิ่งมาทางอี้หวินที่ยืนอ้าปากค้าง ดวงตาอันสวยงามเต็มไปด้วยน้ำตา

 

“รอ….รอก่อน”

 

อี้หวินงุนงง เขามองไปรอบๆแล้วค้นพบว่าเขาเป็นคนเดียวในรัศมีหนึ่งกิโล

 

 

ดังนั้นหญิงสาวก็ต้องกำลังวิ่งมาหาเขา! หวินเอ๋อร์ที่เธอส่งเสียงเรียก……อาจจะเป็นตัวเขา?

 

อี้หวิน มีคำว่าหวินเป็นชื่อตัวเดียวแต่ยังไม่เคยมีใครเรียกเขาว่า หวินเอ๋อร์ ไม่มีใครที่เรียกเขาแบบนี้ ไม่ประหลาดใจเลยว่าทำไม เขาจึงมีปฏิกริยาตอบสนองช้าลง

 

ในความเป็นจริง เขายืนนิ่งในขณะที่หญิงสาววิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เหมือนสายลม มากอดเขาเอาไว้!

 

กายอันอ่อนนุ่มโอบล้อมเขาเอาไว้ กลิ่นกายสดชื่นของหญิงสาว กรุ่นจมูกของอี้หวิน

 

เขาตะลึงงัน

 

เขาถูกฝังทั้งเป็นในขณะปีนเขา เมื่อเขาขุดออกมาได้ กลับเป็นออกมาจากหลุมฝังศพ หลังจากนั้นเขาก็ถูกโอบกอดโดยสาวน้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร!

 

ตั้งแต่เป็นหนุ่มมาอี้หวินไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกสาวน้อยกอด

 

มันหมายความว่าอะไร?

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้าคงเป็นห่วงพี่สาวคนนี้จะเจ็บป่วยตราบใดที่เจ้าไม่เป็นไร  ตราบที่เจ้าไม่เป็นไร……”

 

สาวน้อยกอดอี้หวินแน่น คางเรียวงามอยู่บนไหล่ของอี้หวิน แล้วสะอื้นไห้อย่างควบคุมไม่ได้ เธอกอดรัดอี้หวินด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เธอมี ราวกับจะผสานร่างกายของพวกเขาเข้าด้วยกัน

 

เธอกลัวว่า นี่เป็นเพียงความฝัน ถ้าเธอปล่อยอี้หวินเขาก็จะหายไปอีก

 

 

อี้หวินยืนนิ่ง ราวกับกลายเป็นหิน แต่การแสดงออกบนใบหน้า เปลี่ยนไปนับไม่ถ้วนตั้งแต่สาวน้อยกอดเขา

 

พี่สาว?

 

ในขณะนั้นเอง อี้หวินผู้กำลังงุนงงต่อเหตุการณ์ทั้งหลาย ได้เข้าใจถึงบางอย่างสาวน้อยคนนี้เป็นพี่สาวของ “เขา” ในหลุมฝังศพ!

 

คำว่า “หลุมฝังศพของอี้หวิน น้องชายอันเป็นที่รัก” ชัดแล้วว่า เขียนโดย สาวน้อยคนนี้

 

สาวน้อยคนนี้คงคิดถึงน้องชายของเธอมากจนเข้าใจผิดคิดว่า เขาเป็นน้องชายของเธอ อี้หวินหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง แต่เขาก็คิดว่ามันคงจะมีบางสิ่งมากกว่านั้น

 

สาวน้อยคนนี้คงอยู่ประมาณโรงเรียนมัธยม? น้องชายของเธออย่างมากก็คงอายุสิบสองหรือสิบสาม แล้วเธอเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่อย่างเขาเป็นน้องชายของเธอได้อย่างไร?

 

เดี๋ยวก่อนนะ…..

 

ผู้ใหญ่อย่างเขา?

 

อี้หวินก็ตระหนักถึงบางสิ่ง เขาเทียบความสูงของเขากับหญิงสาว ปากของเขา แค่ไหล่ของเธอเท่านั้น เขารู้สึกถึงลางไม่ดี เขายื่นแขนลอดใต้แขนของสาวน้อยออกมา และมองไปที่มือของเขา สิ่งที่ได้เห็นคือมืออันอ่อนนุ่มของเด็ก………

 

นี่มือของข้าหรือเนี่ย?

 

ข้ากลายไปเป็นเด็กอีกครั้ง?

 

ข้า…..

 

อี้หวินเต็มไปด้วยความสับสน กลายเป็นเด็ก มีพี่สาวและมีตัวตนอันยุ่งเหยิง

 

นี่ไม่รวมถึงสุสานโบราณ ที่ราบที่ไม่รู้จัก และภาษาที่ไม่รู้จัก แต่เขากับฟัง อ่านและเข้าใจมัน…….

 

ทุกอย่างชี้ไปที่ข้อสรุปเดียว แต่อี้หวินปฏิเสธที่จะเชื่อลางสังหรณ์ที่กำลังบอกเขาอยู่ในเวลานี้

 

หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดกลัว……

 

อี้หวินจำอะไรที่เกี่ยวกับหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้ แต่เขารู้สึกชื่นชม ความรู้สึกและความอบอุ่นของหญิงสาว เป็นความรู้สึกดั่งมนต์สะกด

 

หญิงสาวเช็ดน้ำตาขณะที่เธอจับมืออี้หวินไว้ เธอเดินไปหยิบตะกร้า ตั้งใจมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่การขยับนี้ทำให้อี้หวินซวนเซ และรู้สึกคลื่นไส้

 

อี้หวินรู้สึกถึงท้องของเขาและทุกความรู้สึกมันคือ…….ความหิว

 

เขาเคยเอาชนะความหิวได้ ตั้งแต่ถูกฝังจนมีชีวิตรอดออกมา เขายังไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย ถ้าไม่เป็นเพราะแผ่นผลึกสีม่วงเขาคงตายไปแล้ว

 

เป็นธรรมดาที่ตอนนี้เขาจะรู้สึกหิวมาก หญิงสาวสังเกตเห็นร่างกายที่อ่อนแรงและคู้ตัวของอี้หวิน

 

เมื่อเธอหันหน้าไปทางอี้หวิน คราบเหงื่อไคลที่ปรากฏแก่สายตาของอี้หวิน กลับนุ่มนวลและอบอุ่น

 

“หวินเอ๋อร์ พี่สาวจะแบกเจ้าเอง”

 

“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ และจะไม่พรากจากกันอีกแล้ว”

 

“…”

 

อี้หวินไม่สามารถบอกความรู้สึกยามนี้ได้ สาวน้อยจะแบกเขาไป!

 

“หวินเอ๋อร์ ขึ้นมาซิ! ร่างกายเจ้าต้องดีขึ้น แต่ตอนนี้ยังอ่อนแออยู่….”

 

เธอพูดขณะที่เหลือบมองไปทางอุโมงค์ที่อี้หวินคลานออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด น้องชายของเธอไม่ได้ตาย ขอบคุณที่เธอจนมากจนไม่มีเงินซื้อโลงศพ หรือว่าเขาจะถูกฝังทั้งเป็น! ถ้าเป็นเช่นนั้น เธอรู้สึกขนลุกเกรียว

 

โชคดี ที่น้องชายของเธอฟื้นขึ้นมา และโชคดีที่เขาไม่ได้ถูกฝังลึกเกินไป คราวนี้ เธอจะไม่แยกจากน้องชายของเธออีกแล้ว

 

หญิงสาวสังเกตุว่า อี้หวินปฏิเสธที่จะขึ้นหลังเธอ เธอคิดว่าเขาคงจะอาย เธอขยับตะกร้าไปถือไว้ข้างหน้า ต้นขาของอี้หวินอยู่ใกล้กับเอวของเธอ

 

อี้หวินมึนงง..เขาคิดไม่ถึงว่าเขามาจบลงบนหลังของหญิงสาวได้ อย่างไร ทั้งหมดที่รู้สึก คือร่างของเขาถูกยกขึ้นเบาๆไปบนไหล่นุ่ม แล้วน้ำหนักทั้งหมดของเขาก็ตกลงบนขาเรียวงามคู่นั้น หญิงสาวใช้สองมือจับขาของอี้หวิน ในขณะที่เธอมุ่งหน้าไปตามทางเล็กๆ

 

อี้หวินได้กลิ่นกายสาวน้อยที่แบกเขาไว้บนหลัง มันแตกต่างจากกลิ่นน้ำหอมหรือบอดี้โลชั่น ที่คนเมืองใช้กัน มันเป็นกลิ่นธรรมชาติเหมือนกลิ่นดอกไม้ป่าและกลิ่นของดิน……ให้ความรู้สึกสดชื่น

 

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เขาไม่ได้ต้องการให้หญิงสาวแบกเขาเลย แต่เขาไม่รู้จะปฏิเสธยังไง การใช้ภาษาของเขาพูดกับบางคนที่ไม่ใช่พี่สาวของเขา มันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดมาก

 

 

ขณะนั้นเอง อี้หวินได้ยินเสียงดังก้องจากไกลๆ เขามองไปทางต้นเสียงอย่างไม่อาจต้านทานได้ หญิงสาวก็หันไปมอง ทั้งหมดที่เห็นคือกลุ่มพายุฝุ่นทรายที่ก่อตัวขึ้นมาตามทาง หญิงสาวสะดุ้ง และรีบวิ่งไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ขณะที่ยังแบกอี้หวินอยู่ พายุฝุ่นเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว

 

อี้หวินมองอย่างระมัดระวังและก็ได้เห็นสัตว์ขนาดใหญ่กำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางนั้น เขาอ้าปากค้างเมื่อเขามองไปที่สัตว์ร้ายนั้นอย่างระมัดระวัง

 

สวรรค์!

 

นั่นมันสัตว์ป่าหรือ?

 

มันสูงอย่างน้อย 7-8 เมตร ยาวกว่า10 เมตร มีเขี้ยวคมยาว แขนขาหนาราวคานเหล็ก กรงเล็บคมกริบราวกับใบมีดที่สามารถสร้างรอยลึกที่น่ากลัว จะเทียบอสูรกายตัวนี้กับสัตว์บนโลก มันเหมือนสิงโตหรือเสือ มากกว่าลูกแมว

 

ที่อี้หวินตกใจยิ่งกว่านั้น ก็คือมีชายวัยกลางคนกำลังขี่สัตว์ประหลาดตัวนี้อยู่ คนผู้นั้นนั่งอย่างสง่างามสะพายดาบที่กลางหลัง อยู่บนหลังของมัน

 

เป็นเพราะเหลี่ยมมุมทำให้อี้หวินมองไม่เห็นหน้าของเขา แต่เลือดในร่างของเขาแทบถูกแช่แข็ง บุคคลที่นั่งบนสัตว์ร้ายได้ ย่อมต้องน่ากลัวกว่ามันเป็นสิบเท่า

 

ทำให้อี้หวินรู้โดยไม่มีข้อสงสัยอีกว่าสถานที่ ที่เขาคลานออกมา ไม่ใช่โลกที่เคยอยู่อีกต่อไป เขามาถึงพิภพมหัศจรรย์เข้าแล้ว

 

ชื่อของเขาคือ อี้หวิน และเขาคืนชีพจากความตาย เขาตัวเล็กน่ารัก และมีพี่สาวที่งดงามรักเอ็นดูเขา นางมีชื่อว่า เจียงเซียวโยรว

 

คำว่า “พี่สาว เจียงเซียวโยรว” ที่เขียนไว้บนป้ายหลุมศพ ไม่ใช่เป็นแค่ลายเซ็นธรรมดา แต่เป็นรายชื่อ คนซึ่งเป็นที่รักของผู้จากไป

 

ดูเหมือนว่าอี้หวินมีเพียงพี่สาวเจียงเซียวโยรว ที่เป็นคนในครอบครัวของเขา

 

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้น….. เขาได้เจาะผ่านช่องว่างแห่งเวลา

 

สวรรค์ทรงโปรด นี่ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?

 

อี้หวินอยากร้องไห้ โชคร้ายอะไรอย่างนี้? แค่ปีนเขา ก็ทำให้เขาหลุดทะลุมิติ! แม้จะโชคดีที่ไม่ตาย แต่….

 

นี่เป็นโลกที่ไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง มีสัตว์ร้ายขนาดน้องๆภูเขา กับ ผู้คนที่ โค-ตะ-ระแข็งแกร่ง จากดาบของชายผู้นั้น นี่อาจเป็นยุคโลหะ ด้วยความสูงและอ่อนแอของเด็กอายุไม่เกินสิบสองปี มันไม่พอที่จะติดซอกฟันของสัตว์ร้ายนั้นด้วยซ้ำ

 

อี้หวินมั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับที่เขาสัมผัสแผ่นผลึกลึกลับสีม่วงอันนั้นแน่ๆ เป็นไปได้ที่ว่า ตอนถ้ำถล่มเขาก็ไม่ได้อยู่บนโลกเสียแล้ว

 

เขาได้เปลี่ยนมาเป็นอี้หวินของโลกอันแตกต่างนี้ เป็นเพราะความมืดของถ้ำ ทำให้เขาไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้…..

 

เมื่อเขามาที่นี่ได้เพราะแผ่นผลึกมันก็ต้องพาเขากลับไปได้ซิ?

 

นี่เป็นความคิดแรกของอี้หวินที่ผ่านเข้ามา

 

สำหรับคนที่มีชีวิตอย่างสงบสุขในโลกสมัยใหม่ มันเป็นการยากที่จะยอมรับ โลกในแบบยุคกลาง มันไม่ใช่โลกที่เขาเข้าใจ

 

สิ่งที่ได้รับ หลังจากสูญเสียทุกอย่าง คือคำถามที่ตามมามากมาย เมื่อนึกถึงแผ่นผลึกอี้หวินชะงักไม่ชั่วครู่

 

แผ่นผลึกอยู่ไหน? ทันทีที่คำถามวาบเข้ามา อี้หวินเย็นวาบที่หน้าอกเขาเอามือสัมผัส พบว่าแผ่นผลึกยังอยู่อย่างปลอดภัยที่อกของเขา

 

นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง อี้หวินจำไม่ได้ว่าเขาเอาแผ่นผลึกไว้ที่นี่

 

แล้วในโลกนี้ สิ่งนี้คืออะไร?

 

อี้หวินไม่เข้าใจ แต่ไม่ต้องสงสัยมันต้องไม่ธรรมดา! ถ้าเขาตรวจสอบ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีผลกระทบไม่ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ หรือกลับไปยังโลก เขาต้องหาโอกาสตรวจสอบและทำความเข้าใจแผ่นผลึกอันนี้ ชื่อที่ผ่านเข้ามาในความคิดของอี้หวินโดยไม่รู้ที่มา…

 

ผลึกม่วงบรรพชน

 

ผลึกม่วง……ผลึกม่วงบรรพชน

 

ทำไมคำพวกนี้ปรากฏในหัวของผม?

 

ทำไมชื่อถึงเข้ามาในความคิด?

 

อี้หวิน งุนงงกับชื่อ ผลึกม่วงบรรพชน ที่เข้ามาในความคิด

 

ในขณะที่เขาต้องการจะเรียกมันว่า แผ่นผลึกสีม่วง ผลึกม่วงบรรพชน…..เอาแค่เรียกว่า ผลึกม่วง ก็น่าจะได้นะ ก็ชื่อเดิมมันคือ ผลึกม่วงบรรพชนนี่?

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments