ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
ขณะนี้เวลา 2 ทุ่ม ณ บาร์ของมหาลัย
มีดนตรีเบาๆให้ฟังอยู่ในนั้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่ ที่ให้นักศึกษาเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจหลังจากเจอกับการเรียนมาทั้งวันล่ะนะ และดูเหมือนว่าที่นี่ก็จะเป็นที่นัดพบของพวกคู่รักด้วย
สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่สนใจเรื่องความรักหรอกนะ นั่นก็เพราะว่า ‘หลินว่านเอ๋อ’ คนที่อยู่ตรงหน้าฉัน จ้องฉันมาด้วยสายตาที่แสนจะสวยงามของเธอ
ฉันวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า
“คุณหนู ผมขอตัวกลับนะ ถ้าคุณหนูยังจ้องผมโดยไม่พูดอะไรอยู่แบบนี้”
ว่านเอ๋อทำปากย่นก่อนจะถามฉันซ้ำอีกครั้งว่า
“นี่นายได้แหวนระดับทองแดงมาจริงๆ อย่างงั้นหรอ? ไม่ได้โกหกใช่ไหม?”
“จริงสิครับ!”
ฉันพยักหน้า
‘ว่านเอ๋อ’ทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะหันไปคุยกับ’เฉิงย่วย’ที่นั่งอยู่ข้างๆว่า
“ย่วย ทำไมหมอนี่มันดวงดีมากเลยนะ… หมอนี่ได้แหวนที่เพิ่ม VIT ถึง 12 และพลังโจมตีอีก 7 ทำไมกันนะ!! โธ่…”
‘เฉิงย่วย’ยิ้มก่อนจะตอบว่า
“ก็เพราะว่าเขาคือเสี่ยวเหยาคนหล่อยังไงล่ะ…….”
‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ฉันก่อนจะพูดว่า
“หล่อตรงไหน หน้าตาแบบนี้น่ะ…..”
‘ตงเฉิงย่วย’
“…..”
‘ว่านเอ๋อ’พูดต่อว่า
“เออใช่ อีก 2 วันก็จะเปิดเทอมแล้ว ดังนั้นพรุ่งนี้จะมีงานปาร์ตี้เต้นรำนะ เฉิงย่วยกับฉันได้รับเชิญด้วย หลี่เสี่ยวเหยา นายเองก็ต้องมาด้วย เพราะนายต้องไปทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมชั้นใหม่ของนาย”
“งานปาร์ตี้เต้นรำต้อนรับนักเรียนใหม่?”
ฉันทำตาโตใส่
“คือฉันไม่เต้นนะ….”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แค่ไปก็พอแล้ว เขาไม่ได้บังคับเต้น ฉันได้ยินมาว่าที่นั่นมีของกินน่าอร่อยๆอยู่เยอะแยะเลยนะ~”
“ดีมาก! ถ้างั้นไปกันเล้ย~”
ฉันจิบน้ำชาก่อนจะถาม’ว่านเอ๋อ’ไปว่า
“คุณหนู คุณหนูไปเอา [Mortal’s Scroll] มาแล้วใช่ไหม?”
เธอพยักหน้า
“ไปเอามาแล้ว ใช้ไอเทมแล้วช่วยเพิ่มค่า EXP ให้ฉันถึง 5% ต่อ 1 ชั่วโมงเลยล่ะ นี่ถ้าฉันยืนเฉยๆทั้งวันแล้วกดใช้ก็เลเวลอัพได้เลยนะ”
ฉันถามต่อไปว่า
“ว่าแต่คุณหนูทราบไหมว่าถ้าเลเวลสูงแล้วจะยังใช้ได้รึเปล่า?”
‘เฉิงย่วย’หัวเราะ
“คงจะไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าได้แล้วคนที่อยู่เมืองจี้ชูนี้ก็คงจะเลเวลสูงกว่าเพื่อน แล้วสมดุลของเกมก็จะหายไปแล้วผู้เล่นจากเมืองอื่นๆก็จะพยายามมาเมืองนี้กันหมดตั้งแต่แรกสิ ใช่ไหม? เออนี่ เสี่ยวเหยา ตอนนี้เมืองป้าหวางใครเลเวลเยอะที่สุดหรอ?”
“นักดาบเลเวล 25 ชื่อนักรบแหยนจั้ว เป็นหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ [ปราก]”
“หืม…เป็นเขาสินะ…..”
‘ว่านเอ๋อ’พูดขึ้นมาก่อนที่จะหัวเราะออกมา
นั่นทำให้ฉันสงสัยมากเลยถามไปว่า
“ทำไมหรอ? นักรบแหยนจั้วเขาเป็นใครกัน?”
‘เฉิงย่วย’ตอบว่า
“กิลด์ปรากเป็นกิลด์ที่เคยอยู่ในเกมก่อนหน้านี้น่ะ แล้วคนที่เป็นหัวหน้ากิลด์นั่นเขาก็มีอายุ 50 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังเล่นเกมได้ดีอยู่ แถมจุดเด่นของเขาก็คือการโน้มน้าวให้ผู้เล่นมาเข้ากิลด์ของเขา และก็เพราะเขาแหละนะ ที่ทำให้กิลด์ปรากที่เคยเกือบจะล่มกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง ว่าแต่นายก็อยู่เมืองป้าหวางนี่นา ฉันคิดว่านายก็น่าจะโดนชวนเหมือนกันนะ นายได้เข้ากิลด์นี้แล้วรึเปล่า?”
ฉันส่ายหัวแล้วยิ้มก่อนจะตอบไปว่า
“ไม่หรอก ฉันไม่อยากจะเข้ากิลด์ไหนในตอนนี้หรอก”
‘ว่านเอ๋อ’มองมาที่ฉันก่อนจะถามว่า
“ทำไมล่ะ?”
ฉันเอามือทุบไปที่อกของตัวเองก่อนจะพูดว่า
“ง่ายมากเลย นั่นก็เพราะว่าหมวกนี้เป็นสิ่งที่คุณหนูให้ผมมายังไงล่ะ ดังนั้นแล้วผมก็จะรอที่จะติดตามคุณหนู ดังนั้นแล้วถ้าในอนาคตคุณหนูตั้งกิลด์แล้ว หรือว่าไปเขากิลด์ไหนแล้ว ผมก็จะตามไปยังไงล่ะ”
‘ตงเฉิงย่วย’ที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้นแล้วก็หัวเราะออกมา
“พูดได้ดีนี่ เสี่ยวเหยา ตอนนี้ฉันกำลังคิดจะสร้างกิลด์อยู่เลย นายก็เข้ามาอยู่ด้วยกันสิ……”
“ไม่!!”
‘หลินว่านเอ๋อ’พูดเสียงดังกว่าปกติ
“ทำไมล่ะ?”
‘เฉิงย่วย’ถาม
“ก..ก็เพราะว่า เขาเป็นคนของฉันยังไงล่ะ”
“งั้นหรอ? คนของเธอสินะ…..”
‘เฉิงย่วย’หัวเราะ
‘ว่านเอ๋อ’ก้มหน้าลง หน้าของเธอแดงเข้ม หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมา มองที่ฉันก่อนจะพูดว่า
“จริงๆแล้ว….หมอนี่มันก็เล่นเกมก็ไม่ค่อยเก่ง พ่อของฉันก็เคยบอกว่า หมอนี่อ่อนมาก และหมอนี่ก็ใช้เวลาเดินเล่นขายของไปเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเสียดายหมวกจริงๆเลยนะ”
“…….”
พวกเราอยู่ที่บาร์จนถึง 4 ทุ่ม หลังจากนั้นฉันก็พาทั้งสองคนไปส่งที่หอพักหญิง แล้วฉันก็เดินเล่นอยู่ข้างนอกซักครู่นึงเพื่อที่จะสอดส่อง พื้นที่บริเวณนี้ว่าปลอดภัยหรือไม่ ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ 15 องศา มีลุงยามนั่งสูบบุหรี่อยู่ และทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 35 องศา ก็มีผู้ชายใส่ผ้าคลุมสีดำกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หินอ่อน
แน่นอนว่าพวกเขาก็เป็น บอดี้การ์ดลับที่มาตามคำสั่งของ’หลินเทียหนาน’ เพื่อคุ้มครองไข่มุกอันล้ำค่าของเขา ‘หลินว่านเอ๋อ’นั่นเอง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ‘หลินเทียนหนาน’จะส่งคนมาคุ้มกัน’หลินว่านเอ๋อ’ที่มหาลัยนี้กี่คน
สำหรับฉันแล้ว ‘หลินเทียนหนาน’มอบหมายมาให้ฉันเป็นเพื่อนกับ’หลินว่านเอ๋อ’ ซึ่งก็น่าจะเป็นด่านสุดท้าย และไพ่เด็ดที่ไว้คุ้มครอง’หลินว่านเอ๋อ’ในมหาลัยแห่งนี้
ดังนั้นแล้ว ตำแหน่งของฉันจึงสำคัญมากที่สุด !!
ฉันถอนหายใจลึก ด้านหน้ามหาลัยหลิวหัว 1 กิโลเมตรนั้นมีสถานีตำรวจอยู่ ดังนั้นที่นี่จึงปลอดภัยมากๆ อย่างน้อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตอนดึก และทั้งสองคนเมื่อกี้ก็คอยดูแลพื้นที่อย่างแน่นหนา ซึ่งทั้งสองก็คงจะเป็นหน่วยพิเศษล่ะนะ ฉันสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนก็คงฝึกหนักมาเช่นเดียวกันกับฉัน
ฉันกลับมาถึงหอแล้วก็หลับไปเลยเมื่อถึงเตียง จนถึงตอนเช้า ฉันก็รีบตื่นไปซื้ออาหารเช้าให้กับ’หลินว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงย่วย’ ระหว่างที่ฉันรออยู่หน้าหอพักหญิงนั้น ผู้คุมหอก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก ก่อนจะพูดว่า
“เจ้าหนู ถ้าแกกล้าเดินเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียวนะ ฉันจะหักขาแกซะ”
ฉันรู้สึกขนลุกเล็กน้อยกับคำขู่นี้
ผ่านไปไม่กี่นาที ‘เฉิงย่วย’เดินลงมา เธอถามฉันว่า
“ข้าวเช้าวันนี้เป็นอะไรหรอ?”
ฉันยิ้มแล้วตอบว่า
“ขนมปังถั่วแดง นม แล้วก็ซาลาเปา เท่านี้แหละนะ~”
“โอ้”
เฉิงย่วยหยิบถุงจากฉันไปแล้วพูดว่า
“เสี่ยวเหยา วันนี้อย่าลืมนะว่ามีปาร์ตี้เต้นรำ มารอที่นี่ตอน 6 โมงเย็นนะ อาหารเย็นเขาก็มีเสิร์ฟในงานด้วย”
“เข้าใจแล้ว”
ฉันพยักหน้า
“ถ้างั้นขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อน”
“ว่าไงหรอ?”
เธอยิ้มก่อนจะพูดว่า
“เมื่อกี้ว่านเอ๋อคุยกับฉันว่า ถ้าเราสองคนเลเวล 30 แล้ว จะไปหานายที่เมืองป้าหวางนะ ฉันอยากรู้ว่านายไปป่วนอะไรเมืองป้าหวางบ้าง…”
ฉันรู้สึกแปลกเล็กน้อย
“ปะ…ป่วนอะไรกันเล่า? ฉันอยู่ในเมืองแบบ….ไม่มีปัญหาอะไรซักนิดเลยนะ ไม่ได้ทำอะไรเลยซักนิด…. เอ้อ!! เฉิงย่วย ในเกมเธอชื่อว่าอะไรหรอ? ฉันจะได้รู้ว่านั่นคือเธอเวลาที่เจอกัน”
“ไม่จำเป็นหรอกน่า ถ้าพวกเราถึงเมืองป้าหวางแล้วนายจะรู้เอง”
เธอรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน ไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสได้ตอบอะไรกลับเลย……
วันนี้ฉันวางแผนไว้ว่าฉันจะต้องเลเวล 22 ให้ได้ แล้วหลังจากนั้น ฉันจะไปหา [Killer Bee] เพราะว่าตอนนี้ถึงแม้ว่าฉันจะมีการ์ดของมันแล้ว แต่ยังไงฉันก็ต้องรู้ซะก่อนว่ามันอยู่ตรงไหน
ยังไงซะฉันก็เป็นฮีลเลอร์สายบู๊ ซึ่งพลังในการโจมตีมันก็ไม่มากอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจะต้องหาสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยกลบจุดอ่อนด้านนี้ของฉัน
ฉันกลับเข้ามาในเกม ตัวฉันยืนอยู่ที่เขตฝึกฝน ตอนนี้ฉันมียาเจ็ดดาวอยู่ในกระเป๋าประมาณ 100 กว่าขวด ซึ่งนั่นพอเพียงแล้ว
ด้านเหนือของเมืองป้าหวาง ใกล้ๆป่านั้น มี [Vampire Bat] บินอยู่รอบๆ ซึ่งพวกมันนั้นเลเวลไม่สูงมาก และการโจมตีก็เบาหวิว
ฉันเดินเข้าไปตรงหน้าเจ้าค้างคาว มันรีบพุ่งเข้ามาโจมตีฉันทันที ซึ่งสร้างความเสียหายได้ 12 HP
ฉันร่ายสกิล [ฮีล] ใส่ตัวเอง
+12
HP ของฉันกลับมาเต็ม และในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้ 1 EXP ของสกิล [ฮีล] ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้มันโจมตีฉันเรื่อยๆ แล้วฉันก็ [ฮีล] ตัวเองเรื่อยๆเพื่อเป็นการเก็บเลเวลสกิล ซึ่งฉันทำแบบนี้ไป 1 ชั่วโมง
จนตอนนี้เลเวลสกิล [ฮีล] กับ [ห้ามเลือด] ของฉันก็ใกล้จะเลเวล 3 แล้ว ในตอนที่ทั้งสองสกิลเลเวล 3 [ฮีล] จะฟื้นฟู HP ได้ถึง 450 ซึ่งมากกว่า HP ที่ฉันมีตอนนี้ และสกิล [ห้ามเลือด] นั้นฟื้นฟูอยู่ที่ 150 HP ซึ่งเหมาะกับฉันพอดี
แต่ในช่วงระหว่างที่ฉันกำลังเก็บเลเวลสกิล มีคนบางคนมองมาที่ฉันด้วยแววตาสมเพช ก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า
“ดูไอเจ้าฮีลเลอร์คนนั้นดิ บ้ารึเปล่า หมอนั่นไม่ตอบโต้ค้างคาวเลยน่ะ”
“ไอหมอนั่นมันบ้า!”
“น่าเสียดาย ทั้งๆที่ดูดีแท้ๆ!”
หลังจากที่เก็บเลเวลสกิลเสร็จแล้ว ฉันก็จัดการเจ้าค้างคาวลงไป แล้วก็ไปหาที่สงบๆพัก นั่งดูกระทู้ของเกมนี้ มองไปยังที่ๆน่าจะเจอกับ [Killer Bee] ซึ่งผ่านไปได้ไม่นาน ฉันก็เจอว่าเจ้าผึ้งน้อยตัวนี้นั้นอยู่ที่แผนที่ [Poison Glassland]
ซึ่ง [Poison Glassland] นี้นั้นอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองป้าหวาง ใช้เวลา 15 นาทีในการเดินทาง และเลเวลมอนสเตอร์ในแผนที่นั้นก็มีเลเวลอยู่ราวๆ 22-25 เมื่อวานฉันเห็นกลุ่มของผู้เล่นเดินไปเก็บเลเวลตรงนั้น ซึ่งที่นั่นฉันก็หวังว่าจะเจอกับเจ้า [Killer Bee] นี้นะ
เมื่อฉันเตรียมของเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เริ่มออกเดินทาง
ฉันเดินไปได้ 10 นาที ก็เจอกับป่าที่เต็มไปด้วยแสงอาทิตย์ แล้วก็ได้ยินเสียงหึ่งๆของผึ้ง ดูเหมือนว่าฉันจะมาถึงแล้วล่ะนะ
“เฮ้ย!! รีบหนีเร็ว ไอเจ้าพวกนี้มันโหดมากเกินไปแล้ว”
แล้วฉันก็ได้ยินเสียงร้องอยู่ด้านหน้า ดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของ Wind Elf ที่เป็นนักธนูกำลังบินออกมาจากป่า ด้านหลังของเขาเป็นฝูงผึ้งจำนวนมหาศาล เหล่าผึ้งนั้นก็เข้าไปต่อย Wind Elf นั้นสองที และตัวเลขความเสียหายเด้งขึ้นมา
“-121”
“-240”
ซึ่งการโจมตีนี้ก็ได้จัดการกับ Wind Elf คนนั้นลงได้อย่างง่ายได้ หลังจากหมอนั่นตายแล้ว เหล่าผึ้งก็บินกลับไปยังจุดที่มันมา ส่วนด้านล่างนั้น มีเบอร์เซิร์กเกอร์คนหนึ่งถือขวานกำลังวิ่งหนีแล้วร้องเสียงหลงว่า
“อะไรกันเนี่ย!! ไหนใครบอกว่าที่นี่มันไม่ยาก ฮีลเลอร์สองคนของเราก็ไม่รอดแล้ว จะทำยังไงดีเนี่ย!!!”
สิ้นคำพูดแล้ว หมอนั่นก็หยุดวิ่ง เปลวไฟโผล่ขึ้นมาบนขวานของเขา เขาตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า
“รับไปซะ!! ขวานเพลิง!!”
ตูม!!
ผึ้งที่บินตามหลังเขามาถูกโจมตีจนกระเด็นกลับไป HP ลดลงไป 221 เมื่อกี้นี้มันคือสกิลของเบอร์เซิร์กเกอร์สินะ [ขวานเพลิง] ช่วยเพิ่มธาตุไฟในการโจมตีครั้งต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าผึ้งก็ยังมี HP อยู่ถึง 70% และเจ้าผึ้งก็เริ่มร่ายสกิล ดูเหมือนว่ามันกำลังจะใช้คอมโบสินะ
ฉึกๆๆ **
คอมโบสกิลเลเวล 3 นั้นจะทำให้โจมตีได้สามครั้ง ซึ่งก็เข้าเป้าเต็มๆ สร้างความเสียหายถึง 400 และดูเหมือนว่าเบอร์เซิร์กเกอร์คนนั้นจะเพิ่มค่า STR ลงไปในค่าสถานะของเขาทั้งหมด
ดังนั้นเขาจึงน่าจะมี HP ราวๆ 300 ซึ่งแน่นอนว่ารับการเสียหายไม่ได้ หมอนั่นจึงร้องไห้ก่อนจะคุกเข่าล้มลงไปตาย เลเวลของเขาจาก 22 ลดลงเป็น 21 …..น่าสงสารจริงๆ
ฉันเดินหน้าต่อไป เลี่ยงการเดินไปที่ศพ ก่อนจะซ่อนตัวจากผู้เล่นแถวๆนั้น เพราะว่าฉันไม่อยากจับกลุ่มกับใคร ฉันจะเข้าไปในส่วนลึกของแผนที่นี้ด้วยตัวฉันเอง
เพราะว่าฉันมีสกิลฟื้นฟูเลือด แถมยังโจมตีได้ดีพอตัว ดังนั้นการต่อสู้ 1-1 กับเจ้าผึ้งนั้น มันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!!
ที่มา: