I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 126 ตบหน้า

| Zhan Long | 1513 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ดาบประกายวสันต์ของผมพุ่งทะลุอกของนักฆ่าคนหนึ่ง ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่า 1300 นี่แค่โจมตีธรรมดานะนี่ ณ ตอนนี้ ดาเมจ 2000+ ผู้เล่นส่วนมากยังไม่สามารถทนรับมันได้ แม้แต่พระระดับสูง ที่มีพลังป้องกัน 1500 ก็จะสลายภายใต้การโจมตีเดียว จากดาบระดับสุดยอกเล่มนี้ ปัจจุบันมันคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด!!!

เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง เปรี้ยงงง

แสงหลายสายปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของพวกเรา มันคือ [เสาเพลิงและเสาน้ำแข็ง] มันพุ่งทะรวงร่างของพวกเราอย่างรุนแรง เลือดของเราลดลงเร็วมาก ผม ‘หวางเจี้ยน’ ‘ไป๋ฉี’ ยืนอยู่ด้านหน้าสุด ทำให้ได้รับการโจมตีเกือบทั้งหมด ด้านหลังพวกเรา

‘หลี่มู่’ตะโกนขึ้น

“หมอทุกคน เน้นฮิลไปที่สามคนที่อยู่ด้านหน้าซะ นักเวท ใช้ทักษะเพื่อจำกัดพื้นที่ของพวกมัน อีกอย่างพื้นที่ตรงนี้ ไม่พอให้กับคน 10000 คนหรอก และเรายังมีสุดยอดนักดาบแห่งเมืองป้าฮวง เซียวเหยาอีก เราจะไปกลัวพวกมันทำไมกัน”

ผมพ่นเลือดออกมาจากปาก ผมไม่รู้ว่าผมได้ฉายาสุดยอดนักดาบแห่งเมืองป้าฮวงมาตอนไหน ในความเป็นจริง ผมไม่ได้เก่งกว่า’เจี้ยนเฟิงซาน’กับ’เหยียนเจ้าอู๋ซวง’เลยซักนิด ต่อให้ผมใช้ความสามารถทั้งหมด โอกาสชนะของผมก็ยังไม่ถึง 50% ผมรู้ตัวดีว่าผมเก่งแค่ไหน และผมก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น

ฟู่ ฟู่ ฟู่

ตัวเลขของการฮิลเด้งขึ้นอย่างต่อเนื่องบนหัวของผม ดาบประกายวสันต์ในมือของผมกวัดแกว่งอย่างไม่หยุดพัก ผมปลดปล่อยสกิลทุกอย่างทันทีที่มันพร้อมใช้งาน ตอนนี้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งผมได้แล้ว!!! …..

ไม่ถึง 5 นาที เหล่าผู้เล่นจากกิลด์มังกรทะยานก็ตายภายใต้คมดาบของผมไปแล้วเกือบ 40 คน นอกจากนี้ ด้วยเลือด 2203 และพลังป้องกัน 1027 มันทำให้เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะฆ่าผมก่อนที่ผมจะได้รับการฮิล ใบหน้าของมังกรทะยานแดงก่ำ เขายกไม้เท้าขึ้นพร้อมกับ ร่ำร้องอย่างเกรี้ยวกราด

“ไม่!! อย่าโจมตีมั่วซั่ว นักเวททุกคนมาหาชั้น ฟัง!! พวกเราจะใช้ [เสาเพลิงและเสาน้ำแข็ง] พร้อมกัน อย่าปล่อยให้หมอได้มีโอกาสฮิลมัน”

ผมเริ่มระมัดระวังและก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้น  [เสาเพลิงและเสาน้ำแข็ง] ก็โพล่ขึ้นมา ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนทันที นอกจากนี้ มือปืนยังใช้ทักษะของพวกเขา [Bombardment] อีกด้วย

447!

428!

501!

448! …..

ดาเมจหลายชุดปรากฏขึ้นมา การโจมตีระยะไกลน่ากลัวจริงๆ พลังของนักเวทนั้นรุนแรงมาก ผมรีบร่ายฮิล และดื่มยาฟื้นพลังอย่างรวดเร็ว ผมจับดาบประกายวสันต์แล้วถอยออกมา หากผมยังอยู่ต่อหละก็ มีสิทธิ์ตายได้ง่ายๆ แน่นอน นายพล’หวางเจี้ยน’โบกดาบไปมา พร้อมกันนั้นกลุ่มของ เบอเซิกเกอร์ นักดาบ และอัศวินข้างหลังเขาก็ตะโกนขึ้น

“ทำลายรูปแบบของพวกมัน!!!”

ผู้คนเกือบ 20 คนพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว อาวุธของพวกเขาร่ายรำ เข่นฆ่าชีวิตของ นักธนูและนักเวทไปมากมาย แต่มังกรทะยานกลับไม่รู้สึกอะไร พร้อมกับโต้กลับอย่างรุนแรง ผ่านไป 30 วินาที หวางเจี้ยนก็ต้องออกมาเพียงคนเดียว กิลด์มังกรทะยานเป็นกิลด์ที่รวบรวมเหล่านักเวทในเมืองป้าฮวงไว้จริงๆ มันก็คงจะดีกว่า กิลด์ที่พึ่งเกิดอย่างกิลด์  [Valiant Bravery] หละนะ

‘หลี่มู่’มองไปยังศพบนพื้นดิน เขากำหมัดด้วยความเสียใจ

“บ้าเอ้ยย พวกเราควรจะเอาไงต่อดี?”

ผมเก็บดาบพร้อมกับเดินไปหา’หลี่มู่’

“สงครามนี่มันไม่มีที่สิ้นสุด และคนของพวกเรามีน้อยเกินไป [Flying Dragon] มีคนมากกว่า 2000 คน ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปหละก็ มีแต่ความพินาศแน่”

‘หลี่มู่’พยักหน้า

“งั้นเอาแบบนี้มั้ย ชั้นจะให้หวางเจี้ยนและอีก 40 คนอยู่ที่นี่ ส่วนที่เหลือก็วาปกลับ เฮ้อออ ตั้งแต่สร้างกิลด์มา ครั้งนี้คือการพ่ายแพ้ที่เลวร้ายมากๆ”

ผมมองระยะห่างระหว่างผมกับมังกรทะยาน มันทำให้ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้

“ไม่จำเป็น วายร้ายตัวจริงคือมังกรทะยาน เขาควรได้รับการลงโทษอย่างไร้ปราณี ส่งคนมาให้ผม 50 คน พวกเราจะผ่านแนวหน้าของพวกมันด้วยห้องโถงข้างบน และพุ่งตรงไปยังตรงกลาง เราจะฆ่าเขาขณะที่มีผู้เล่นอยู่รอบๆ นับร้อยคน และเราจะกลับเมืองหลังจากนั้น นี่มันจะเป็นการตบหน้าอย่างดีเลยหละ นายคิดว่าไงหลี่มู่”

‘หลี่มู่’เผยให้เห็นความตื่นเต้นในดวงตา พร้อมกับยิ้ม

“โอเค ทำตามที่นายพูดเลย แล้วนายต้องการผู้เล่นคลาสอะไรบ้างหละ”

“พระ 10 อัศวิน 10 และนักดาบ 10 ส่วนที่เหลือจะเป็นอะไรก็ได้ ผมอยากได้พวกที่มีความสามารถสูง ไม่ใช่พวกอ่อนแอ”

“โอเค ชั้นจะไปรวบรวมพวกเขาทันที”

…. ในเวลาไม่ถึง หนึ่งนาที คนกว่า 40 คนก็มารวมตัวกันด้านหน้าผม พวกเขาต่างอยู่ในชุดเกราะหนัก หลายคนเคยฟื้นชีพมมาแล้วทำให้ระดับพวกเขาต่างลดต่ำลง เบอเซิกเกอร์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธถามผม

“เซียวเหยา นายต้องการจะทำอะไร?”

“โจมตี [Flying Dragon] ฆ่ามังกรทะยานและพยัคทมิฬ สนใจมั้ย?”

ผมตอบสั้นๆ

“แน่นอน แล้วเราจะทำมันได้ยังไง?”

“ตามผมมา”

ผมมองไปยังประตูสุสานและหันไปพูดกับ’หลีมู่’

“นี่คือสิ่งที่นายควรทำ ก่อกวนพวกมัน และอย่าให้พวกมันมาใกล้พวกเรา นายต้องเก็บกวาดสนามรบให้รวดเร็ว หลังจากที่คนที่ชั้นพาไปตาย พวกเราต้องหนีให้เร็วที่สุดหลังจากฆ่ามังกรทะยานกับผู้เล่นอีกร้อยกว่าคนได้แล้ว ”

“โอเค ระวังตัวไว้หละ”

‘หลี่มู่’กล่าว ผมพยักหน้าพร้อมกับโบกมือ นำผู้เล่นกว่า 40 คนไปยังทางขึ้น ผมเลือกทางเดินอย่างระมัดระวัง หลังจากที่ฆ่ามอนสเตฮร์ที่เกิดมาไปเล็กน้อย พวกเราก็มาถึงยังบันใด เรียบร้อย ประตูทางเข้าอยู่ด้านใต้ของพวกเรา ทางมันแคบมาก ทำให้คนผ่านไปได้เพียง 5-7 คนเท่านั้น

ด้วยพวกเรา 40 คน และอาศัยพวกพระกับอัศวินป้องกันจุดนี้ คงได้ซัก 5-10 นาที ดังนั้นการฆ่าผู้เล่นกว่าร้อยคนด้านใน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขณะที่ยืนอยู่ขอบบันใดลอยฟ้า พระที่ถือมีดหันมาทางผมและยิ้ม

“เซียวเหยา พวกเราจะโดดงั้นเหรอ? นี่มันสูงกว่า 40 เมตรเลยนะ มันสามารถฆ่าคนได้แน่ๆ”

ผมเหล่มอง

“ผมก็กลัวเหมือนกัน พวกเราไม่ใช่เอล์ฟสายลม ดังนั้นเราเลยบินไม่ได้ ที่ความสูงต่ำกว่าร้อยเมตร ไม่สามารถฆ่าใครได้หรอก พวกเราจะไม่เสียเลือดมากนัก”

“แล้วเราต้องทำอะไรบ้าง”

ผมมองไปยังชายขอบพร้อมกับพูด

“พระสิบคน กับ อัศวินสิบคน ต้องโดดลงไปพร้อมกันและป้องกันทางเข้า นักดาบสิบคนและพวกที่เหลือจะมากับชั้น พวกเราจะเข้าไปฆ่ามังกรทะยานกัน จำไว้ ใช้ [คอมโบ] เพื่อทำลายโล่มานาซะ แล้วค่อยใช้ดาบเพลิงหรือดาบน้ำแข็ง อย่าปล่อยให้มันมีโอกาศ”

“พวกเราเข้าใจแล้ว วางใจได้”

“ไปเลย!!”

ผมออกคำสั่งและนักรบเกราะหนัก 20 คนก็พุ่งลงไปยังประตูทางเข้า อันที่จริง ตามที่คาดไว้ ผู้เล่นของกลุ่ม’หลี่มู่’ เต็มไปด้วยพวกที่ไม่กลัวตาย หรือพ่ายแพ้ แต่พวกเขากลัวตายอย่างน่าเวทนามากกว่า หลังจากนั้น 5 วินาที ผมยกดาบประกายวสันต์ขึ้นและโดดลงมา โบโบ้ก็บินตามผมมา

ผมมองไปยังเป้าหมายที่อยู่กลางอากาศ เอลฟ์สายลม ที่เป็นเมทระดับ 47 คนนั้น เขาคนนี้น่าจะเป็นมือซ้ายของมังกรทะยานแน่ๆ พวกเขาไม่ค่อยมีนักเวทที่ระดับสูงนัก

ฟู่ววว

แม้จะเป็นการต้านลม แต่ความเร็วของโบโบ้ก็ยังเร็วมาก มันโจมตีเข้าไปที่โล่มานาด้วย [คอมโบ]+[ต่อย] แต่ว่ามันยังไม่แตก ดูเหมือนนักเวทคนนี้จะเก่งพอตัว และความทนทานของโล่มานายังน่าชื่นชมอีกด้วย ผมกู่ร้องพร้อมกับ ดาบประกายวสันต์ปรากฏแสงสีทอง ผมฟาดฟันมันผ่าอากาศไป ผมโจมตีไปที่โล่มานาทำให้มันถูกทำลายไป!!

Miss!

Miss!

741!

827!

ความเร็วในการโจมตีของผมมันเร็วมาก เอลฟ์สายลมร่วงลงไปและตายทันที หลังจากที่ผมลงสู่พื้นผมก็ใช้ [เพลงดาบร้อยสังหาร] ทันที ทำให้เบอเซิกเกอร์ระดับ 46 ปลิวกระเด็นไป ร่างของเขาเกือบขาดออกเป็นสองท่อนด้วย [ดาบสายลม] ของผม เหมือนฟ้าพ่า โบโบ้พุ่งเข้าจู่โจมนักธนูอย่างเร็ว

นักธนูไม่มีโล่มานา ต่อให้เป็นคลาสสอง นักธนูก็ยังบอบบาง ทำให้โดนสัตว์เลี้ยงฆ่าได้ง่ายมาก ด้านหลังของผมนักดาบ และเบอเซิกเกอร์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนอย่างดุดัน และทำลายล้างอย่างต่อเนื่อง ใช้ [คอมโบ] เพื่อทำลายโล่มานา และปลดปล่อย [Flame Blade] และ [Fire Axe] เข้าสังหารข้าศึกอย่างรุนแรง

“ไม่ดีแล้ว พวกนั้นโจมตีจากด้านหลัง”

มังกรทะยานตกใจ พยัคทมิฬยกขวานของเขาขึ้น

“บัดซบ ผมจะพาคนไปฆ่ามันเอง บอสปกป้องตัวเองไว้ ผมจะทำให้มันได้ลิ้มรสของความแข็งแกร่งของพวกเราเอง ผมจะทำลายการปิดล้อมของพวกมันในสิบนาที”

มังกรทะยานพยักหน้าพร้อมกับโบกสะบัดไม้เท้าต่อไป ห่างออกไป 50 หลา ‘หลี่มู่’ชี้ดาบมายังฝูงชน พร้อมกับพาผู้เล่นกว่า 120 คนโต้กลับ ในจังหวะที่ผู้เล่นเกราะหนักเข้าปะทะกับโล่มานา ก็ทำให้มันพังทลายไป ภายในอุโมงค์เต็มไปด้วย แสงหลากสีสัน จากทักษะและการโจมตี มั่วไปหมด …..

ย๊า!! ดาบประกายวสันต์ฟันเข้าที่ลำคอของนักเวท ทำดาเมจมากกว่า 1300 ขณะเดียวกันก็กระแทกไม้เท้าหลุดออกจากมือของเขา ไม้เท้ายังไม่ตกถึงพื้นผมก็คำนวณราคามันเสร็จสัพ ไม้เท้าระดับเงิน เลเวล 42 ไม่เลวเลย มันน่าจะขายได้หลายร้อยหยวน มันอาจจะเป็นค่าอาหารกลางวันได้เป็นอาทิตย์เลยหละ

ผมยังคงฆ่าอย่างสนุกสนานต่อไป ไม่มีนักดาบคนไหนที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะยืนชนผมได้ เพราะผมทำให้ ทำให้ผู้เล่นทั้ง 20 คนของ [Valiant Bravery] พุ่งเข้าไปยังฝูงชนได้อย่างง่ายดาย

“ตาย!!”

พื้นสั่นสะเทือนด้วยขวานของรองหัวหน้ากิล [Flying Dragon] พยัคทมิฬฟาดขวานเข้าที่คอของนักดาบคนหนึ่ง ทำให้เกิดดาเมจ 778 ด้วยทักษะ [Fire Axe] นักดาบก็ตายลงไป

พลังโจมตีของพยัคทมิฬมันรุนแรงจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น ‘หลี่มู่’มองไปรอบๆ

“เซียวเหยาระวัง!!! พยัคทมิฬ!!”

ผมเข้าใจโดยทันที และเปลี่ยนเป็นพุ่งเข้าหาพยัคย์ทมิฬ  ผมรีบฮิลตัวเองทันที จากผู้เล่นเกราะหนัก 20 คน ตอนนี้ตายไปแล้ว 7 คน พวกเราฆ่าพวกนั้นได้เร็วก็จริง แต่พวกเราก็โดนฆ่าได้เร็วเหมือนกัน

“เซียวเหยา!! เตรียมตัวตาย!!!!”

ทันทีที่พยัคทมิฬเห็นผม ตาของเขาแดงก่ำ เขาฟาดขวานเข้ามาพร้อมกับใช้ [Penetration]

ในขณะเดียวกันผมก็ได้ยินเสียงของ ผึ่งนักฆ่า ศึกสองด้าน!!!

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments