I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 175 จิตวิญญาณนักรบคืนชีพ

| Zhan Long | 1450 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เกร็ดหิมะครอบคลุมพื้นดิน ที่พวกเราก้าวเดินเข้าไป ร่วมทางไปกับเหล่า NPC มันก็ไม่ได้หนาวมากเท่าไหร่ แต่ตั้งแต่เดินเข้ามาว่านเอ๋อก็สั่นไม่หยุด เธอมองมาที่ผมอย่างน่าเวทนา

“นายทำงานอยู่ในที่แบบนี้จริงๆ งั้นเหรอ?”

ผมหัวเราะช้าๆ

“ใช่แล้ว แต่ผมมักจะกระโดดนะ”

“……”

สองผู้พิทักษ์แห่งเมืองมังกรทั้งสองคนเดินนำทางพวกเรา หนึ่งในนั้นหันมามองที่ผมพลางถาม

“เจ้าหนุ่มผู้พิทักสุสาน เจ้ามีศีรษะของวีรบุรุษหรั่นหมินจริงๆ งั้นเหรอ?”

ผมพยักหน้า

“ใช่แล้วโปรดนำทางพวกเราด้วย”

บนน่านฟ้าเหนือเมืองมังกรมีเกร็ดหิมะบินว่อนไปทั่ว ผมมองไปยังว่านเอ๋อที่อยู่ข้างๆ พลางกล่าว

“เธอยังไม่แข็งจนตายใช่มั้ย?”

เธอห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมสายรุ้ง หน้าเธอซีดเล็กน้อยและริมฝีปากของเธอเริ่มมีสีม่วงจางๆ

“ไม่ ไม่มีทางหรอก ต่อให้จะหนาวขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่มีใครแข็งตายในเกมหรอก เมืองมังกรนี่มันใหญ่มาก แต่โชคไม่ดีมันกันดานเกินไป ไม่มีแม้แต่ร้านค้าให้เห็น”

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“คนธรรมดาเขาไม่มาอยู่ที่แห่งนี้กันหรอกนะ ที่แห่งนี้มีเพียงเหล่านักรบและคนที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้น ทางทิศเหนือของเมืองมีแต่ม่อนที่ไม่รู้จักทั้งนั้น มันบ้ามากที่คนปกติจะมาแถวนี้”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“อ่า ฉันรู้….ถนนเส้นนี้มันยาวมาก เส้นทางนี้มันจะตรงไปยังห้องโถง ที่อยู่ของแม่ทัพของเมืองนี้รึเปล่า? ใครเป็นบอสของเมืองนี้งั้นเหรอ?”

“ลั่วหลิน ราชาแห่งเมืองมังกร”

“โอ้ ไม่เคยได้ยินชื่อเลย”

“…..”

“หั้ว ห๊ะ หั้ว ห๊ะ”

ไกลออกไป บนบันไดมีการ์ดนับร้อยคนถูกแบ่งออกเป็นสองด้าน ในมือของแต่ละคนคือดาบยาว จากส่วนลึกของห้องโถ่งมีคนผู้หนึ่งวิ่งออกมา ผมของเขาสีดำขลับ ตาของเขาเป็นสีฟ้าสดใส่ เขาอยู่ในชุดเกราะสีแดงเข้ม สะพายดาบยักษ์สีแดง ถ้าจำไม่ผิดชายผู้นี้ก็คือราชาแห่งเมืองมังกร’ลั่วหลิน’

‘ลั่วหลิน’รีบก้าวเดินอย่างรวดเร็วมาหาพวกเรา เขามีกลิ่นอายขู่ขวัญซึ่งทำให้ ‘เฉงเย่ว’ ‘เฉิงโช่ว’และ’เป็ดที่รัก’ต้องถอยหลัง เขามองมาที่ผมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสดใสและความคาดหวัง

“เจ้านักรบน้อยแห่งเมืองมังกรเอ๋ย เป็นเจ้ารึเปล่าที่นำจิตวิญญาณของวีรบุรุษหรั่นหมินกลับมา”

เบื้องหลังของ’ลั่วหลิน’มีเงาดำปรากฏออกมา เงานั้นคือ’ฟรอสต์’ อยู่ในชุดคลุมหนังสีขาว เธอมองมาที่ผมพร้อมกับคำนับให้เล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม ผมหันกลับมาหา’ลั่วหลิน’พร้อมกับพยักหน้ายืนยัน

“ผมและเพื่อนได้ผ่านความยากรำบากมามาก ได้เข้ายังสุสานห้าคนโฉด และพวกเราก็ได้เจอกับจิตวิญญาณของหรั่นหมิน และก็ศีรษะของเขา และผมก็ได้ยินมาว่าร่างกายของเขาถูกฝังอยู่ที่เมืองมังกรแห่งนี้ ผมหวังเพียงแต่จะนำร่างของเขามารวมกันใหม่เพื่อปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขาเท่านั้น”

‘ลั่วหลิน’ตอบรับอย่างจริงใจ

“เยี่ยมมากเจ้าหนุ่ม เจ้าจะให้ข้าดูหน่อยได้รึเปล่าศีรษะของวีรบุรุษย์หรั่นหมินน่ะ”

ผมคลายแขนออกพร้อมกับหยิบหัวของหรั่นหมินที่ถูกพันด้วยผ้าคลุมของผมออกมา หัวของ’หรั่นหมิน’จ้องมองไปยัง’ลั่วหลิน’ เขาตกใจทันที สิ่งแรกที่เขาทำคือการคุกเข่าลงไป และเอ่ยต้อนรับอย่างยินดี

“ข้าจักรพรรดิแห่งเมืองมังกร ลั่วหลิน รู้สึกเลื่อมใสกับวีรกรรมของท่านจริงๆ ท่านหรั่นหมิน”

ฟุบบบ

วิญญาณของหรั่นหมินปรากฎออกมา และแยกออกมาจากหัว และยืนบนอากาศด้านหน้าผม เขามองไปยัง’ลั่วหลิน’ พลางกล่าว

“นี่แสดงว่าเมืองมังกร ไม่ได้ถูกปกครองโดยตระกูลมู่หลงแล้วงั้นรึ ในหมื่นปีมานี้ข้าพลาดไปหลายอย่างจริงๆ ลั่วหลินข้าอยากจะไปหาร่างของข้า และฝังมันร่วมกัน เท่านี้ข้าก็จะได้ไปยังที่ๆข้อต้องการซักที”

‘รันมิน’ก้าวออกมาข้างหน้า

“หรั่นหมิน ท่านจะไปที่แห่งใดงั้นรึ”

‘หรั่นหมิน’ยิ้ม

“ข้าคือวิญญาณ ธรรมชาติของวิญญาณควรจะไปยังนรกอเวจีและดื่มน้ำซุบเม็งป๋อ และข้ามผ่านสะพานไป ไม่ว่าข้าจะเกิดเป็นอะไรก็ตามข้าก็จะยอมรับมัน ไม่ว่าจะเป็นนก คน วัว ควาย หรือแม้แต่ปีศาจ ข้าก็จะยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้า”

TL : เหมือนของไทยนั่นแหละก่อนที่ทุกคนจะไปยังนรกจะต้องดื่มน้ำที่ทำให้ลืมก่อน

‘รันมิน’กำหมัดแน่นและไม่พูดอะไรต่อผมยืนขึ้นและกล่าว

“ท่านหรั่นหมิน ถ้าท่านอยู่ที่นี่ มันจะดีมากเลยนะ”

‘หรั่นหมิน’มองผมอย่างตกใจ

“เจ้าหนุ่ม…พวกเจ้า…นี่พวกเจ้าไม่อยากให้ข้าไปงั้นรึ”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“ใช่แล้ว”

ทันใดนั้น’หรั่นหมิน’ก็ตะโกนขึ้นฟ้า

“ข้าหรั่นหมิน ใช้ชีวิตอยู่กับสงคราม และตายอย่างน่าสมเพช ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีคนที่ต้องการข้าอยู่ ชีวิตที่ผ่านมาหมื่นปี ข้าไม่เสียดายแล้ว แต่น่าเสียดายเราต้องแยกจากกันแล้ว ชีวิตและความตายไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ลาก่อนพวกเจ้า จงรักษาศักดิ์ศรีของพวกเจ้าไว้ ดีกว่าที่จะตายอย่างอับอายขายขี้หน้า”

‘ลั่วหลิน’ที่อยู่ด้านข้าง ยืนขึ้นและกล่าวอย่างเขร่งขรึม

“ท่านหรั่นมิน ข้อมีบางอย่างจะกล่าว แต่ไม่รู้ว่าท่านจะอยากฟังรึเปล่า”

‘หรั่นหมิน’พยักหน้า

“โอเค เล่ามาเลย”

‘ลั่วหลิน’ยิ้มพลางกล่าว

“การผ่านหมื่นปีอันยากลำบากมา ท่านควรจะมีพลังระดับพระเจ้าแล้ว และมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง พลังงานนี้มันเพียงพอต่อการสร้างร่างกายและคืนชีพของท่านขึ้นมาใหม่ ด้านใต้ของเมืองมังกร มีน้ำผุแห่งหนึ่งอยู่ มีคนกล่าวว่า มันสามารถชุบชีวิตคนตายได้ ด้วยพรีสของเมืองมังกร พวกเราสามารถร่ายเวทมนต์ต้องห้ามแห่งชีวิตเพื่อฟื้นฟูร่างกายของท่านได้ ด้วยทั้งหมดนี้ท่านอาจจะคืนชีพได้”

‘หรั่นหมิน’ตกใจไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวว่า

“เจ้าต้องการจะฟื้นฟูร่างกายของข้า? เจ้าจะช่วยข้าเพราะว่าเจ้าต้องการบางอย่างซินะ ข้ารู้ ดวงตาของเจ้ามันเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน”

‘ลั่วหลิน’เลิกคิ้วพร้อมกับตอบอย่างไม่ลังเล

“ใช่แล้ว ความใฝ่ฝันของข้าคือ อยากจะรักษะเสถียรภาพของดินแดนเหล่านี้ ข้าอยากจะปกป้องสวรรค์แห่งสุดท้ายของมนุษย์ไว้จากเหล่าเอล์ฟดวงจัน บาบาเรี่ยน และเอล์ฟสายลม ท่านหรั่นหมิน หากท่านเลือกที่จะคืนชีพ ข้ามีเพียงคำขอเดียว โปรดอยู่ปกป้องเมืองมังกรแห่งนี้ด้วย เป็นชายแดนของเผ่ามนุษย์ บ้านเกิดของท่านอยู่ทางทิศใต้และเด็กๆ ข้างหลังท่านก็เป็ดผู้คนจากเมืองบ้านเกิดของท่าน ท่านจะยอมรับและฟื้นชีพหรือไม่?”

‘หรั่นหมิน’มองมาที่ผม และต่อด้วย’ว่านเอ๋อ’ ‘รันมิน’ และทุกคน ผมพยักหน้า

“โปรดอยู่เถอะ”

ในที่สุด’หรั่นหมิน’ก็พยักหน้าตกลง

“โอเค ข้าตกลง แต่อย่างไรก็ตามลั่วหลินจำไว้ หากวันใด เจ้าทรยศพวกเรา ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นถึงอำนาจของข้า”

‘ลั่วหลิน’คุกเขาลงที่พื้นพร้อมกับสัญญา

“ข้าลั่วหลินขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ข้าจะจงรักภัคดีต่อมนุษย์ชาติตลอดไป”

“โอเค งั้นไปกันเถอะ”

“ได้โปรดตามข้ามา”

พวกเราตาม’ลั่วหลิน’ลึกเข้าไปในปราสาท ไม่นานพวกเราก็มาถึงยังห้องขนาดใหญ่ ร่างของ’หรั่นหมิน’นอนอยู่กลางห้อง ถูกปิดผนึกมาถึง 10000 ปี

แม้โรงศพจะขึ้นสนิมแล้ว แต่ร่างของเขาก็ยังเหมือนกับเขาพึ่งตาย ร่างของเขาถูกล้อมรอบไปด้วยดอกกุหลาบสีชมพู ทีคอของเขามีลิ่มเหลือสีดำ

“ให้ข้าจัดการเอง”

‘ฟรอสต์’เดินไปด้านหน้า  พร้อมกับวางหัวของเขาไว้บนร่าง และนำด้ายสีเงินออกมาเย็บมันให้เข้ากัน ไม่นานก็เสร็จ

ผมเดินเข้าไปแบกร่างของ’หรั่นหมิน’พลางถาม

“ฟรอสต์น้ำพุอยู่ไหนเหรอ? นำทางไปที”

“โอเค”

ขณะที่’ฟรอสต์’นำทางไป’หลัวหลิน’ก็ผิวปาก

ทันใดนั้นชายชราคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขาถือไม้เท้ากระดูกมังกรกรอยู่ในมือ ตัวของเขาสวมทับด้วยผ้าคลุมสีดำ เขาเดินไปกับเรา เพื่อไปยังนำพุที่อยู่ภายในหลังจากที่เดินไปไม่กี่ร้อยเมตร ผมก็เจอเข้ากับแม่น้ำของน้ำพุสีเขียวชอุ่ม ที่ไหลออกมาจากพื้นดิน

ผมค่อยๆ วางศพของ’หรั่นหมิน’เบาๆ ตรงใจกลางน้ำพุ ชายในชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาด้านข้างทันที เขายกไม้เท้ากระดูกมังกรขึ้นพร้อมกับสวดบางอย่างด้วยเสียงอันดัง รูนสีแดงโลหิตเริ่มจะล่องลอยไปในอากาศ

และมีวงเวทขนาดยักษ์หมุนวนรอบร่างของ’หรั่นหมิน’ น้ำพุเริ่มที่จะสาดเข้าใส่ศพของ’หรั่นหมิน’ และบาดแพลตามร่างกายของเขาเริ่มที่จะรักษาตัวเอง ด้วยพลังแห่งเวทมนต์ ร่างของ’หรั่นหมิน’เริ่มที่จะเป็นสีแดงโลหิต ก่อนที่จะกลายเป็นสีฟ้าทะเล

สายโลหิตที่ลอยอยู่ในอากาศเริ่มที่จะ พุ่งเข้าสู่ร่างของ’หรั่นหมิน’อย่างช้าๆ

หลังจากผ่านไปสิบนาที ในที่สุด’หลัวหลิน’ก็เลิกคิ้วและกล่าวว่า

“ท่านวีรบุรุษหรั่นหมิน ตอนนี้ร่างของท่านพร้อมสำหรับรวมกับวิญญาณของท่านแล้ว”

‘หรั่นหมิน’เขายืนเพ่งพินิจอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นเขาก็กระโดดลงไปที่ร่างของตัวเอง

อ๊ากกกกกกก

ด้วยเสียงคร่ำครวญอย่างยาวนาน ในที่สุดร่างของ’หรั่นหมิน’ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากน้ำพุอย่างช้าๆ การที่ต้องหลับไหลไปนับหมื่นปี ทำให้เขาลืมวิธีที่จะยืนไปซะแล้ว เขามองไปยังกำปั้นของตัวเองพร้อมกับยิ้ม

“นี่ข้า….นี่ข้าฟื้นขึ้นมาแล้วงั้นรึ”

นักเวทชราพยักหน้า

“ใช่แล้วหละ ท่านบรรพบุรุษ”

ดวงตาของ’หรั่นหมิน’เต็มเปี่ยมไปด้วยเปลวเพลิง เขาออกหมัดไปยังก้อนหินก้อนหนึ่ง

เปรี้ยงงงงง

ก้อนหินสลายไปทันที ทำให้พื้นที่ใต้ดินสั่นไหวอย่างรุนแรง’ฟรอสต์’รีบห้ามอย่างกระวนกระวาย

“ท่านวีรบุรุษได้โปรดยั้งมือด้วย ถ้ามากกว่านี้เมืองมังกรต้องพังทลายแน่นอน”

‘หรั่นหมิน’หัวเราะเสียงดัง ‘หลัวหลิน’ชื่นชมพลังของ’หรั่นหมิน’พลางกล่าว

“ตามที่คิดไว้จริงๆ พลังของท่านนี่สุดยอดมากๆ เทียบได้กับพระเจ้าทีเดียว มันวิเศษจริงๆ”

ในขณะเดียวกัน เสียงบนอากาศก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าเควสของเราเสร็จแล้ว

ตริงงงงงง

ประกาศจากระบบ : ผู้เล่นเซียวเหยาจื่อไจ๋และเพื่อนของเขาทั้งสิบคน

สำเร็จเควสระดับ SS [หุบเขาห้าคนโฉดแห่งการทำลายล้าง]

ได้รับรางวัล ระดับ+1 ค่าสเน่ห์+5…..นอกจากนี้ยังได้ค่าประสบการณ์อีกมากมายเช่นกัน

ตอนนี้ผมก็ระดับ 58 กับอีก 89% อีกนิดเดียวผมก็ระดับ 59 แล้ว นอกจากเงินและค่าประสบการณ์แล้ว ยังมีแหวนอีกหนึ่งวงศ์ที่เข้ามาอยู่ในกระเป๋าของผม ผมเอาแหวนออกมาอย่างตื่นเต้น

มันเป็นแหวนสีแดงเข้มที่สลักขวานรบไว้อยู่ ผมมองไปที่ค่าสถานะของมันแทบจะทำให้ผมหยุดหายใจ

【แหวนมังกรสีชาด】 (ระดับจักรพรรดิ)

Strength:+50

Endurance:+49

Agility:+47

Extra: เพิ่มพลังโจมตีผู้สวมใส่ 180

Unique Skill: [โล่แห่งมังกรสีชาด] – เพิ่มพลังป้องกันของผู้ใช้ 7 วินาที ใช้ฟูรี่ 40 หน่วย

Level requirement: 58

TL : ฟูรี่เป็นค่าอีกค่าหนึ่งนะครัช เดี๋ยวหลังๆ จะมีอธิบาย…..

ผมรู้สึกเหมือนกับถูกลอตเตอรี่เลยแหะ ของระดับจักรพรรดิอีกหนึ่งชิ้น โชคของพวกเรามันสุดยอดจริงๆ ผมรีบใส่ แหวนมังกรสีชาด ทับแหวนของม่านหลัวทันที ค่าสถานะของผมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

【Xiao Yao Zi Zai】 (Tomb Guardian of Dragon City)Level: 58

Attack: 1689-2164

Defense: 1645

Health: 3370

Mana: 1336

Charm: 45….

ในที่สุดพลังโจมตีของผมก็เกิน 2150 จุดแล้ว ถ้ารวมกับ [ดาบแห่งความโกลาหล] และโบนัดจากไอเท็มชิ้นอื่นๆ พลังโจมตีจริงๆ ของผมต้องเกิน 2500 แล้วแน่นอน

ผมมองไปรอบๆ ก็เห็นทุกคนกำลังยิ้มอยู่ ‘หลินว่านเอ๋อ’จัดชุดเกราะอกของเธอพร้อมกับหัวเราะ

“ชุดเกราะหนังระดับจักรพรรดิ อิอิ พระเจ้าได้ยิ้มให้กับพวกเราจริงๆ”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments