I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 177 ศึกที่เลี่ยงไม่ได้

| Zhan Long | 1492 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย คุณ Parita Chee

***************************

วันต่อมา หลังจากที่ได้นอนไปมากเกินพอ ผมตื่นนอนเวลา 9.30 น. เมืองมองดูเวลา ผมกระโดดพรวดลงจากเตียงทันที นึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีนัดสำคัญ  หัวหน้ากิลด์ [Hero’s Mound] จะมาพบกับรองหัวหน้าของเขาทั้งสองคนกับผม

ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของ’ว่านเอ๋อ’ ควรต้องเตรียมตัวด้วยเช่นกัน แม้ว่าหน้าตารูปโฉมของผมอาจสู้เขาไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจิตใจผมจะสู้ไม่ได้ไปด้วย ผมรีบอาบน้ำล้างหน้า  แต่เมื่อมองดูเสื้อผ้าในตู้แล้วอดทำหน้ายุ่งไม่ได้

“มีอะไรเหรอ”

‘ถังกู่’มองผมแล้วหัวเราะ

ผมครุ่นคิดอยู่ครู่แล้วถามว่า

“เฮียแว่น วันนี้ผมมีนัดกับคนสำคัญคนหนึ่ง ฐานะเขาไม่ธรรมดา เป็นถึง CEO ของบริษัทใหญ่มาก ผมไม่อยากให้ตัวเองดูปอนๆต่อหน้าเขา อย่างนี้ผมควรแต่งชุดแบบไหนดี”

‘ถังกู่’ดันแว่นตาขึ้นแล้วหัวเราะหึๆ

“ศัตรูหัวใจเหรอ”

“ไม่ใช่”

ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

“อย่างงั้น ก็ไม่ง่ายหรอก ถ้า อีกฝ่ายเป็นถึง CEO ของบริษัทก็ตาม ต่อให้นายแต่งตัวประณีตแค่ไหน ก็ไม่เปลี่ยนอะไรหรอก นายไม่มีทางเหนือกว่าเขาอยู่แล้ว นายต้องคิดนอกกรอบ ผมว่านายน่าจะแต่งลำลอง”

“แต่งลำลอง”

“ใช่ หรือแต่งอะไรที่เป็นทางการนิดๆ เช่น …มีร้าน เวอซ่าเช่ อยู่ตรงข้ามกับถนน แม้ว่ามันจะราคาแพงกว่าเสื้อผ้าปกติสักหน่อย แต่ถ้านายซื้อชุดสูททั้งตัว ราคามันก็ประมาณนี้แหละ”

เขาชูนิ้วขึ้น 2 นิ้ว ผมอึ้งไปก่อนจะถาม

“2,000?”

“ฝันไปเถอะ  20,000”

“ให้ตายเถอะ”

ผมรู้สึกปวดใจแทบตาย ผมกำหมัดแน่นแล้วพูดขึ้นว่า

“ตั้ง 20,000 มากเกินไปแล้ว ช่างมันเถอะ ผมใส่ชุดเก่าก็ได้”

‘ถังกู่’ หัวเราะ

“อย่าเด็ดขาด ฉันว่านายกำลังจะออกไปเจอใครที่เกี่ยวข้องกับหลินว่านเอ๋อ ไม่อย่างนั้น จาก “ลักษณะแบบเซี่ยวเหยา” ของนายคงจะไม่ตื่นเต้นอย่างนี้หรอก ไปซื้อเถอะ  ชุดในร้านเวอซาเช่ ก็ไม่เลวนักหรอก นายแค่ซื้อชุดกับรองเท้าใหม่สักคู่ก็พอ หน้าตานายก็หล่อใช้ได้ ใส่แล้วก็คงไม่แพ้ใครหรอก”

ผมเม้มปาก ทำใจให้เข้มแข็ง

“ก็ได้ สองหมื่นก็สองหมื่น”

….. ผมรีบออกจากห้อง ไปร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ๆ  ตัดสินใจเลือกซื้อชุดลำลองสีดำ ในราคาป้ายที่ 24,000 RMB แล้วก็ซื้อรองเท้าคู่ใหม่อีก 800 RMB ผมรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดกลางใจ เงินทั้งหมดนี้ได้มาจากอุปกรณ์และทองที่แลกด้วยความเจ็บปวดอันใหญ่หลวง

แต่เมื่อผมใคร่ครวญอย่างรอบคอบแล้ว มันก็สมน้ำสมเนื้อ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ต้องมีชุดแบบนี้ในที่สุด ในอนาคตผมอาจต้องรับงานแบบที่จำเป็นต้องแต่งกายราวกับพวกไฮโซเพื่อสร้างความสับสนให้กับศัตรูก็ได้ ในตอนนั้นเสื้อผ้าพวกนี้ก็น่าจะสร้างจุดสนใจได้ ผมเตรียมตัวให้พร้อมไปเรื่อยๆ จนเวลา 11 โมงเช้า เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น

เป็น’หลินว่านเอ๋อ’โทรมา

“หลี่เซี่ยวเหยา นายพร้อมแล้วหรือยัง”

เธอถามผมพร้อมหัวเราะเบาๆ ผมพยักหน้า

“พร้อมแล้ว Q-Sword มาถึงหรือยัง”

“เขามาถึงเดี๋ยวนี้แหละ มาที่หอพักหญิงเร็วเลย  ตงเฉิงเย่วกับฉันก็จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ เราจะไปที่ประตูมหาวิทยาลัยต้อนรับเขาด้วยกัน”

“โอเค”

….. ผมรีบลงบันไดไปที่หอพักของพวกสาว ๆ ‘หลินว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเย่ว’สวมชุดไปเรียนตามปกติ และดูเหมือนนักเรียนธรรมดาทั่วไป  ส่วนผมนะเหรอ เป็นคนเดียวที่แต่งตัวโอเวอร์ไป

“ว้าววว”

‘ตงเฉิงเย่ว’มองดูผมในขณะที่ผมเดินเข้าไปหาพวกเธอ ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอจู่ๆ ก็หน้าแดงขึ้นแล้วเธอก็ไม่กล้ามองผมอีก ขณะที่ดึงแขน’หลินว่านเอ่อ’แล้วพูดขึ้นว่า

“ว่านเอ๋อ วันนี้หลี่เซี่ยวเหยา…จู่ๆ ทำไมเขาดูหล่อขึ้นนะ”

‘หลินว่านเอ๋อ’มองผมด้วยสายตาตะลึงงัน เรียวปากสีแดงเล็กขยับเล็กน้อย

“ก็..ก็ไม่รู้ซินะ”

ผมกระแอมครั้งหนึ่ง

“พวกเธอพร้อมไหม จะไปกันหรือยัง”

“ไป..”

‘หลินว่านเอ๋อ’แอบมองผมอีกครั้ง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ‘ตงเฉิงเย่ว’เขม้นมองผม แล้วหัวเราะเบาๆ พูดขึ้น

“เซี่ยวเหยา  วันนี้นายเปลี่ยนไปใส่ชุดเวอร์ซ่าเช่เหรอ แต่งตัวแบบนี้ก็ยิ่งหล่อขึ้น หรือนายกำลังจะไปให้ปากคำแต่งงาน ที่ไหน  วู้ววว ดูนายแต่งตัวแบบนี้แล้ว ใจเต้นแรงเลยนะเนี่ย”

ผมเอ่ยขึ้น

“เก็บปากเก็บคำหน่อย”

ตงเฉิงเย่ว

“ได้สิ..”

‘หลินว่าน’เอ๋อเงียบ

“….”

ในระหว่างที่รอตรงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย เกือบ 5 นาทีต่อมา รถแลนด์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งขับเข้ามาช้าๆ แล้วจอดข้างทาง

“กึ้ง”

ประตูรถเปิดออก แล้วเรือนร่างที่ดูภาคภูมิก้าวออกมาจากรถ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดูน่าประทับใจสวมชุดสีน้ำตาล อายุราว 25 ปี รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าขณะที่เขาเดินตรงมาที่พวกเรา  เขามองดู’หลินว่านเอ๋อ’และ’ตงเฉิงเย่ว’แล้วหัวเราะ

“พวกเธอทั้งสองคนสวยเหมือนกับที่อยู่ในเกมเลยจริงๆ เธอคือ ซ่างถงกับซ่างเย่ว ใช่ไหม”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะแล้วพยักหน้ารับ

“หัวหน้ากิลด์ สวัสดีค่ะ”

คิวซอร์ดหัวเราะอย่างจริงใจ

“ที่ผ่านมา ผมได้ยินว่าซ่างถงคือหลินว่านเอ๋อคนที่ร้องเพลง “Heart of Time”  ตอนนี้ได้รู้แล้ว่ามันเป็นเธอจริงๆ  ผมจำได้ว่าผมคลั่งไคล้คุณมาช่วงหนึ่งเลย…”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะเบาๆ

“หัวหน้ากิลด์ คุณชมเชยฉันมากเกินไปแล้ว นี่…”

เธอหันมาดึงผมไปยืนเคียงข้าง แขนสีขาวอมชมพูของเธอคล้องแขนผมไว้ พร้อมหัวเราะเบาๆ

“นี่คือเซี่ยวเหยาจื่อไจ๋  คุณน่าจะเคยเจอเขามาก่อน…”

‘คิวซอร์ด’จ้องมองท่าทีสนิทสนมของ’หลินว่านเอ๋อ’กับผม ความรู้สึกตกใจฉายแว่บในดวงตา แต่รอยยิ้มที่อบอุ่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว

“สวัสดี เซี่ยวเหยาจื่อไจ๋ ผมรู้จักคุณ คุณชือหลี่เซี่ยวเหยา เป็นชื่อที่ดีนะครับ  ปรากฏว่าคุณเป็นเพื่อนของว่านเอ๋อในชีวิตจริง จริงๆ ด้วย ข่าวลือในฟอรั่มพวกนั้นไม่ได้ไร้มูลจริงๆ”

ผมพยักหน้า ยิ้มๆ

“สวัสดี คิวซอร์ด เป่ยเฉินเฟิง คุณก็เหมือนข่าวลือที่บอกว่า คุณหล่อมาก”

‘หลินว่านเอ๋อ’กระตุกแขนผม

“พอก่อนเถอะ พวกนายเลิกคุยกันก่อน ไปหาร้านทานอาหารกันเถอะ ฉันหิวไส้จะขาดแล้วตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานข้าวเลย”

คิวซอร์ดหัวเราะ

“ผมรู้จักร้านอาหารอร่อยๆ ใกล้ๆแถวนี้ ให้ผมพาพวกคุณไปที่นั่นนะครับ”

“ค่ะ ขอบคุณ”

ในตอนนั้นเอง มีใครบางคนก้าวออกมาจากด้านคนขับของรถ เป็นชายหนุ่มท่าทางแข็งแรงอายุ 35 ปี ก้าวยาวๆ มาที่พวกเราอย่างมั่นใจ  เขายิ้มบางๆแล้วเอื้อมมือออกมา

“คุณ ต้องเป็นเซี่ยวเหยาจื่อไจ๋ใช่ไหม สวัสดีครับ ผมเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งใน [Hero’s Mound] ไอดีในเกมของผม คือ เจียนหาน..”

“นายคือ เจียนหาน เหรอ สวัสดีครับ…”

ผมยื่นมือออกไปแล้วยิ้ม จากนั้นผมช่วย’หลินว่านเอ๋อ’ก้าวขึ้นรถ รถแลนด์โรเวอร์เป็นรถที่มีพื้นที่กว้างขวางแม้จะมีพวกเราอีก 3 คน  ‘คิวซอร์ด’ชวน’หลินว่านเอ๋อ’กับ’ตงเฉิงเย่ว’คุยเกี่ยวกับการจัดการภายในกิลด์ของพวกเขาตลอดเวลา ส่วนผมที่เป็นคนไม่เกี่ยวข้องกับกิลด์นี้เลยคนเดียว ดังนั้นผมจึงไม่ได้เข้าร่วมคุยด้วยเลย

ในภัตตาคาร บนโต๊ะของพวกเราเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู ‘คิวซอร์ด’เป็นคนที่มีกิริยามารยาทเยี่ยมยอด หลังจากที่ดื่มอวยพรกันไป 3 รอบแล้ว’คิวซอร์ด’ก็หน้าแดงน้อยๆ เขาหัวเราะ

“เกม เปิดออนไลน์มาได้เกือบเดือนแล้ว การแข่งขันนี้ค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะในเมืองป้าฮวง เมืองที่วุ่นวายที่สุด  เอ่อ ผมเคยได้ยินมาว่าความสัมพันธ์ของเซี่ยวเหยาจื่อไจ๋กับ กิลด์ [Flying Dragon], [Vanguard] และ [Wrath of the Heroes] ในเมืองป้าฮวงไม่ค่อยดีเท่าไร ผมว่ามันต้องตึงเครียดแน่ๆ”

ผมวางตะเกียบลงแล้วยิ้ม

“อันที่จริง ก็ไม่เท่าไหร เพียงเป็นการแข่งขันกับคนที่เข้มแข็งกว่า  อย่างไรก็ตาม คุณฆ่าใครจริงๆ ในเกมไม่ได้ ดังนั้นตราบใดที่บัญชีและความทะเยอทะยานของคุณยังคงมีอยู่ เมื่อนั้นคุณจะไม่มีทางตาย”

“พูดได้ดี”

‘ตงเฉิงเย่ว’กระพริบตางดงามและหัวเราะคิกๆ

“ฉันชอบนิสัยดื้อรั้นและกำลังใจที่ไม่มีวันหมดของเซี่ยวเหยาเสมอ”

‘คิวซอร์ด’ยิ้มพลางพูดขึ้น

“แม้ว่าเมืองฟานชูจะไม่วุ่นวายเหมือนเมืองป้าฮวง แต่ยังมีกิลด์คู่แข่ง[Emerald Porcelain], [Narcissistic Society] และ กิลด์อื่นๆ อีก ดังนั้นเราก็ไม่อาจนั่งทอดเวลาไว้วางใจได้ ผมวางแผนจะสร้างฐาน [Heroe’s Mound] ในชีวิตจริง ในเดือนหน้า แถวนอกเมืองนานกิงและเซี่ยงไฮ้ ในตอนนั้น ว่านเอ๋อกับตงเฉิงเย่ว พวกเธอต้องมาร่วมกับพวกเรานะ ตกลงไหม ถ้าเธอชอบ เธอสามารถอยู่ที่ฐานของเราและมีจุดพักให้กับคนในกิลด์ด้วย พวกเธอทั้งสองคนจะเป็นสัญญลักษณ์ส่วนกลางของกิลด์พวกเรา”

‘หลินว่านเอ๋อ’ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร ขณะที่’ตงเฉิงเย่ว’มอง’คิวซอร์ด’ด้วยความงุนงงในขณะที่ถามขึ้นว่า

“ฉันคิดว่าว่านเอ๋อกับฉันเคยบอกคุณแล้วว่า เราจะอยู่ในกิลด์ [Hero’s Mound] เป็นเวลา 3 เดือนเท่านั้น แล้วเราก็จะไม่พักอยู่ที่ฐานของกิลด์ด้วย”

‘คิวซอร์ด’อ้าปากด้วยความประหลาดใจ พูดขึ้นว่า

“ไม่ได้หรอก ถ้าพวกเธอพักอยู่ที่ [Hero’s Mound] จะไม่ดีกว่าเหรอ ทุกคนในกิลด์จะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น พวกเธอคิดจะออกจาก [Hero’s Mound] เหรอ โอ้ ถ้าว่านเอ๋อกับตงเฉิงเย่วออกจากกิลด์ พวกหนุ่มๆในกิลด์ [Hero’s Mound] ต้องอกหักกันเป็นแถวแน่ๆ  อาจถึงขึ้นจลาจลเลย เธอคงไม่อยากให้ผม หัวหน้ากิลด์ ต้องลดระดับเพราะผมไม่สามารถควบคุมการจลาลนี้ใช่ไหม”

‘หลินว่านเอ๋อ’เงยหน้ามอง ดวงตาคู่สวยดูมั่นคงหนักแน่น

“ฉันขอโทษ คิวซอร์ด พวกเราได้สัญญาใครคนหนึ่งเอาไว้ว่า ถ้าเขาตั้งกิลด์ได้และสร้างกิลด์ให้มีอำนาจได้พอ เราจะไปเข้าร่วมกับเขา”

‘คิวซอร์ด’รู้สึกตกใจ

“ใคร  เป็นกิลด์ของใครเหรอครับ”

ผมยืนขึ้นและยิ้มเล็กน้อย

“กิลด์ในอนาคตของผมเอง ซ่านหลง”

ดวงตาของ’คิวซอร์ด’เต็มไปด้วยความโกรธ ไม่ว่าคนเราจะมีกิริยามารยาทดีแค่ไหน มันก็ไม่อาจอดทนกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างนี้ได้ เขาเม้มปากแล้วหัวเราะหึๆ

“เรื่องเป็นอย่างนี้เอง ฮาฮา ผมเกือบลืมคำกล่าวทั่วไปที่ว่า คนขยันเท่านั้นที่ทำงานเสร็จ ฮาฮา ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น แต่เพราะว่านเอ๋อกับตงเฉิงเย่วจะไปเข้าร่วมกับนาย กิลด์ของเชี่ยวเหยาจื่อไจ๋ ผมก็สบายใจ เพราะว่าหากนายเป็นเป็นหัวหน้ากิลด์ละก็ อย่างน้อย นายก็ไม่ทำให้ความสามารถของรองหัวหน้าคนสวยทั้งสองคนต้องสูญเปล่าไป ใช่ไหม”

ผมพยักหน้ารับแล้วยิ้ม

“ใช่แล้ว ไม่ทำแน่นอน พวกเธอเป็นคนของผมทั้งหมด ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเธอ”

‘คิวซอร์ด’หัวเราะแต่ไม่พูดอะไรอีก ……

เมื่อใกล้เวลาทานอาหารเสร็จ ‘เจียนหาน’ลุกขึ้นยืน มองที่ผมด้วยสายตาที่มีนัยยั่วยุ  เขาหัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า

“เราก็ได้ดื่มกินกันมาพอแล้ว ผมเคยได้ยินมาว่า ..เซี่ยวเหยาจื่อไจ๋เป็นผู้รู้ศิลปะการต่อสู้ฝีมือดีคนหนึ่งในชีวิตจริง และเป็นคนที่เก่งมากๆ ด้วย พวกเราตระกูลเป่ยเฉินก็ได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายรุ่นแล้ว คิดว่าถ้า เราจะหาสถานที่ประลองฝีมือกันสักเล็กน้อย แลกเปลี่ยนกระบวนท่าพื้นฐานกันหน่อยเป็นไร”

ผมคาดไว้แล้วว่าเขาจะต้องถามผมอย่างนี้ ผมหัวเราะหึๆ แล้วพยักหน้า

“ได้ครับ หาสถานที่ประลองกันสักหน่อยก็ดี”

‘หลินว่านเอ๋อ’รู้สึกว่ามีสถานการณ์บางอย่างผิดปกติ จึงรีบคว้าแขนผมเอาไว้

“หลี่เซี่ยวเหยา อย่า…”

สายตาของผมหนักแน่นมั่นคงขณะที่ผมยิ้มน้อย ๆ

“ว่านเอ๋อ ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าผมจำได้แม่น โรงฝึกของหวังร่วนมีสภาพดีและมีคนไปที่โรงฝึกนั้นไม่ค่อยเยอะ  เธอช่วยถามหวังร่วนให้เอากุญแจมาที่โรงฝึกได้ไหม  เราจะไปประลองกันที่นั่นเล็กน้อย วันนี้โรงฝึกน่าจะว่างอยู่นะ”

‘เจียนหาน’พยักหน้า

“ดี ตัดสินใจได้แน่นอนมาก”

‘หลินว่านเอ๋อ’ ทำปากยื่น มองผมด้วยความกังวล เธออยากจะพูดบางอย่างแต่ไม่พูด ขณะที่’ตงเฉิงเย่ว’ขบริมฝีปากแล้วกระซิบข้างหู’หลินว่านเอ๋อ’

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่คิดว่าเซี่ยวเหยาจะแพ้ ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลก ไม่เป็นสองรองใคร”

‘หลินว่านเอ๋อ’เงียบ

“…..”

เวลาบ่ายโมงตรง ที่โรงฝึก

“แอ๊ดดด….”

‘หวังร่วน’ผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออกช้าๆ  แล้วมองมาที่ผม ‘เจียนหาน’กับ’คิวซอร์ด’ เธอถามเรียบๆ ว่า

“ว่านเอ๋อ สองคนนี้คือใครเหรอ พวกเขายังดูหนุ่มและคุ้นๆหน้า”

‘หลินว่าน’เอ๋อตอบเบาๆ

“พวกเขาคือคิวซอร์ด กับเจียนหานสามาชิกของกิลด์ [Hero’s Mound] “

“ห๊ะ!”

‘หวังร่วน’อ้าปากค้าง

“อึ้ก  หลี่เซี่ยวเหยาจะประลอกับคิวซอร์เหรอ  นะ..นะ..นี่ต้องเป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นที่สุดเลย…..”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments