I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 194 ในที่สุดเราก็ได้พบกัน เหล่าพี่น้อง

| Zhan Long | 1448 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เสียงดังขึ้น แล้วก็มีหนังสือปรากฏขึ้นที่ช่องเก็บของของผม ดูเหมือนผมจะเป็น MVP ในสงครามครั้งนี้ละนะ แต่น่าเสียดายของรางวัลเหล่านี้ ไม่สามารถรักษารอยแผลของ [Valiant Bravery]

เพียงแค่ชั่วพริบตา ทั้ง’หลี่มู่’ ‘หวางเจี้ยน’ และคนอื่นๆ ก็กลายเป็นไม่เหลืออะไรเลย กิลด์ที่พวกเขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างก็หายไปเพียงแค่ชั่วพริบตา ผมมองดูทักษะที่ได้มา มันก็ดีพอใช้ทีเดียว

【Camouflage】 (S-Rank): หลบซ่อนจากภัยสงคราม เมื่อผู้ใช้ทักษะนี้เข้าสู่พุ่มไม้หรือต้นหญ้าจะเข้าสู่สถานะล่องหนทันที เป็นทักษะติดตัว ต้องการระดับ : 50 แสงสีขาวส่องสว่างเป็นสัญญาณว่าผมเรียนทักษะเรียบร้อย พื้นที่รอบเมืองป้าฮวงแทบจะเป็นป่าทั้งหมด ดังนั้นทักษะนี้มีประโยชน์ในระดับหนึ่งเลยหละ ……

ผมค่อยๆ ยืนขึ้นพลางมองไปคนอื่นๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจัง

“ชั้นขอโทษนะ พวกเรา Zhan Long ช่วยพวกนายไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่พวกเราจะพยายามช่วยหลี่มู่ฟื้นฟูกิลด์ขึ้นมาใหม่ ชั้นหวังว่าทุกคนคงไม่ยอมแพ้นะ”

‘หลี่มู่’ค่อยๆ ส่ายหัวช้าๆ

“ลืมมันไปเถอะเซียวเหยา มันช้าไปแล้ว….พวกเราไม่มีทรัพยากรและก็คอนเน็กชั่น มันคงสร้างใหม่ไม่ได้แล้ว”

ตรากิลด์บนไหล่ของทุกคนค่อยๆ จางหายไป ไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา

“หัวหน้ากิลด์ พวกเรามีเพื่อนที่อยู่ในกิลด์ [Legend] พวกเขามาชวนเราเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้พวกเรา…..”

หลี่มู่ยิ้มอย่างว่างเปล่า

“งั้นก็ไปเถอะ ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากที่ผ่านมานะ”

หลังจากที่สมาชิกออกจากกิลด์ไป ผมยืนอยู่ตรงนั้นมองดู’หลีมู่’ ที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและโทมนัส เขาคงไม่คิดว่าวันนี้มันจะเกิดขึ้น เมื่อต้นไม้ถูกโค่นลง เหล่าฝูงลิงก็จะกระจัดกระจายกันออกไป [Valiant Bravery] ถูกยุบ ทำให้เขาไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้

ดังนั้นกลุ่มที่ออกไปคงหนีไม่พ้นเรื่องนี้กันทั้งนั้น

“อย่าเศร้าไปเลย”

ผมกล่าวเสียงเบาพลางยืนกอดอก มองเข้าไปยังเมืองป้าฮวง ‘หลี่มู่’หัวเราะเยาะตัวเองเบาๆ

“พวกเรากลับมาจุดเริ่มต้นอีกครั้ง แล้วจะต้องเศร้าเรื่องอะไรละ? บางทีพวกเรา [Valiant Bravery] คงมาได้ไกลสุดเท่านี้  [Vanguard] และกิลด์ระดับสูงอื่นๆ เขาส่งเพียงผู้เล่นระดับสูงไม่กี่คนก็ทำให้กิลด์ของเราต้องล่มสลาย “

ผมรู้สึกโกรธเล็กน้อยพร้อมกับต่อยเข้าที่หน้าอกของ’หลี่มู่’

“ทำไมนายถึงพูดเรื่องน่าอดสูแบบนั้นออกมา มันก็แค่การล้มเหลวครั้งแรกเอง แล้วต้องเศร้ากับอะไรหละ? แม้เราจะล้มเหลวแต่หัวใจของเราจะไม่มีวันตาย  [Valiant Bravery] จะไม่มีวันตาย ล้มเหลวเพียงครั้งไม่ได้มีอะไรเลย ตอนนี้ก็สิ่งสุดท้ายที่นายจะคิดก็คือไว้อาลัยให้กับความล้มเหลวครั้งนี้ แล้วหลังจากนั้นเราจะมาคิดหาวิธีเพื่อแก้แค้นพวก [Flying Dragon]พวกเราจะแสดงจิตวิญาณของครอบครัวแม่ทัพให้ผู้คนในเมืองป้าฮวง เมืองจิวหลี่ เมืองฟ่านชูได้เห็น เราจะแสดงให้เห็นพลังที่สะเทือนฟ้าสะท้านแผ่นดินด้วยดาบเล่มนี้!!!”

‘หลี่มู่’มองมาที่ผมด้วยความงุนงง ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ

“เซียวเหยา การได้เป็นพี่น้องกับนาย มันเป็นอะไรที่เยี่ยมจริงๆ”

‘หวางเจียน’ก็หัวเราะขึ้นมา

“ใช่แล้ว ที่เซียวเหยาพูดมาก็ถูก การล้มเหลวแค่ครั้งเดียว มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ และกอปกู้เชื่อเสียงของเราคืนมา”

ผมพยักหน้าเห็นด้วย

“ใช่แบบนั้นแหละ”

‘ซงฮาน’ก็หัวเราะขึ้นมาเช่นกัน

“ความสามารถในการทวงคืนสิ่งที่เคยทีกลับมา นั่นแหละวีรบุษตัวจริง”

‘หลี่มู่’หัวเราะออกมาอย่างหนัก

“มันก็โอเคนะ แม้เราจะแพ้สงครามก็ตาม เรายังได้รู้จักกับเหล่าพี่น้องจาก Zhan Long อ้อ แล้วพวกนายมาจากไหนกันเหรอ?”

ผมกล่าว

“ที่ทำการของเราอยู่ที่ ทะเลสาบทิศตะวันตกของเมืองหางโจว”

“โอเค”

‘หลี่มู่’หัวเราะออกมา

“พวกเราเหล่าแม่ทัพมาจากเมืองหยางโจว คืนนี้พวกเราจะไปซื้อตั๋วรถบัสไปเมืองหางโจว หลังจากนั้นไปดื่มกันซักนิดมั้ย?”

ผมพยักหน้า

“โอเค พวกเราจะรอ”

“โอเค”

…… ในขณะนั้นเองกลุ่มของผู้เล่นก็เดินมาหาพวกเรา คนที่เดินนำมานั้นดูคุ้นๆ เขาคือ ‘Gentle Touch’ นั่นเอง ตามมาด้วยผู้เล่นหลายสิบคน เขาเกินเข้ามาหา’หลี่มู่’พร้อมกับกล่าว

“หัวหน้ากิลด์ คุณจะไม่พูดอะไรซักหน่อยเหรอ?”

‘หลี่มู่’แข็งค้าง

“กิลด์ถูกลบแล้ว ชั้นยังต้องมีอะไรจะพูดงั้นเหรอ?”

‘Gentle Touch’ กำหมัดพร้อมกับกล่าว

“พวกเราเหล่าพี่น้องจะไม่ทิ้งคุณเพียงเพราะว่ากิลด์ถูกยุบหรอกนะ ที่คุณต้องแพ้ก็เพราะว่าความอ่อนแอของพวกเรา พวกเราจะไม่ทิ้งคุณไปไหนหัวหน้ากิลด์ แค่คุณพูดออกมาพวกเราจะรอ รอจนกว่าคุณจะสร้างกิลด์ขึ้นมาใหม่”

หลังจากที่ ‘Gentle Touch’ พูด ผู้เล่นหลักจากสงครามกว่า 40 คนต่างมารล้อมรอบเรา แววตาของพวกเขาล้วนจริงใจ

“หัวหน้ากิลด์ พวกเรายังจะเป็นคนของ [Valiant Bravery] ตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยน”

‘หลี่มู่’เดินออกไป ตาของเขาเริ่มจะแดงก่ำ เขาพยักหน้าพลางกล่าว

“ขอบคุณมากเหล่าพี่น้อง ที่เชื่อในตัวผม ถ้าเป็นแบบนี้หละก็ ผมอยากจะเพิ่มทุกคนเข้าไปในรายชื่อเพื่อน เมื่อกิลด์ใหม่สร้างขึ้นมาเรียบร้อย สิ่งแรกที่ผมจะทำคือชวนพวกคุณกลับมา”

“โอเค”

…… หลังจากนั้น ผมก็กลับมายังเมือง ผมนั่งอยู่แถวกำแพงเมืองพร้อมกับตั้งแพงขายของ ตอนนี้ในหัวของผมมีอะไรต้องงคิดมากมาย การล่มสลายของ  [Valiant Bravery] มันเป็นบาดแผลใหญ่หลวงกับความมั่นใจของผม แต่มันก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ การที่ผมจะสร้างกิลด์นั้น ผมจำเป็นต้องมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถอยู่รอดในความวุ่นวายของเมืองป้าฮวงได้แน่นอน

ตริงงงง ข้อความจาก’หลินว่านเอ๋อ’ดังขึ้น

“อย่าเศร้าไปเลย”

ผมตอบกลับ

“ผมไม่ได้เศร้า”

“นายดูเหมือนลูกหมานะ เวลาที่นายโกหกน่ะ”

“อันที่จริง ผมก็เศร้าหน่อยๆ”

“งั้น ฉันมีอะไรจะให้นอยดูซักหน่อย”

“โอ้ อะไรงั้นเหรอ?”

“รอแป๊บนะ”

ไม่นาน ‘ว่านเอ๋อ’ก็ส่งรูปมาให้ผมดู มันคือแผ่นจารึกสีทอง มันคือจารึกสร้างกิลด์!!! ร่างกายของผมสั่นสะท้าน

“ว่านเอ๋อ เธอได้มันมายังไงเหรอ?”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะเบาๆ

“ตอนที่พวกนายทำสงครามกิลด์อยู่ ฉันกับตงเฉิงและคนอื่นๆ ไปเก็บระดับในหุบเขาร้อยอสูร และพวกเราก็ได้ฆ่าบอสระดับม่วง เลเวล 60 และมันก็ตกออกมา….เอายังไงดี นายอยากได้มั้ยหละ ฉันจะเอาให้”

ผมขมวดคิ้ว

“ให้? แบบนั้นมันไม่ดีมั้ง?…..ผมจะไม่รับส่วนแบ่งอะไรถ้าผมไม่ได้ลงแรงด้วยหรอกนะ ผมไม่ใช่คนหวังผลประโยชน์จากคนอื่นแบบนั้น”

‘ว่านเอ๋อ’เม้มริมฝีปาก

“งั้นนายจะให้ฉันทำยังไง? นายจะให้ฉันขายให้นายในราคาตลาดใช่มั้ย?”

“ตอนนี้….ราคามันอยู่ที่เท่าไหร่ละ?”

“ฉันคิดว่ามันคงราวๆ 350000 หยวน”

“โอ้ งั้นก็ลืมมันไปได้เลย ผมคงไม่มีปัญญาจ่าย”

“นายไม่อยากได้มันจริงๆ เหรอ?”

“ไม่”

“หืมมม”

‘หลินว่านเอ๋อ’ตอบกลับด้วยความโกรธ

“หลี่เซียวเหยา เจ้าโง่ นายคิดบ้าอะไรของนาย ไม่ใช่ว่านายบอกว่าฉันเป็นหนึ่งในคนของ Zhan Long เหรอไง? ถ้ามันเป็นแบบนั้น ทำไมนายไม่รับมันไว้?”

“มันไม่ใช่แบบนั้น”

ผมคิดซักพักก่อนจะกล่าว

“ว่านเอ๋อ คุณสามารถขายมันได้เลย ผมจะหาทางอื่นเอง ผมไม่อยากเป็นหนี้เธอมากเกินไป”

‘ว่านเอ๋อ’บุ้ยปากของเธอพร้อมกับหลับตา เหมือนเธอจะคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เธอจะเปิดตาพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มหวาน

“โอเค ถ้างั้นฉันจะขายมัน แต่นายต้องสัญญานะว่าจะไม่เศร้านะ..เดี๋ยวฉันจะพาไปกินข้าวเอง”

“เอ่ออ..คือผมมีนัดทานข้าวแล้ว”

“ชั้นไม่สนว่านายจะนัดกับใคร ฉันจะไปด้วย”

“เอ่ออ….พวกครอบครัวแม่ทัพจะมาที่นี่เย็นนี้ รองหัวหน้าของ [Hero’s Mound] จะไปร่วมกับเราด้วยงั้นเหรอ เหล่าผู้พ่ายแพ้ที่กิลด์ถูกยุบเลยนะ”

“ใช่ ฉันจะไป แล้วก็จะพาตงเฉิงไปด้วย”

“โอเค…”

….. หลังจากที่ผมไม่มีอะไรจะทำ ผมก็กลับไปยังเมืองมังกร เพื่อรับเควสอาชีพ และเข้าไปฆ่าม่อนในสุสารมังกร เพียงแค่ 2 ชั่วโมง ผมก็ระดับ 58 เรียบร้อย พวกคนอื่นๆ ก็กำลังใจจดใจจ่อกับการเก็บระดับของตัวเองอยู่

ทุกคนต่างรู้ว่า Zhan Long สามารถสร้างได้ทุกเวลา ดังนั้นการเก็บระดับให้สูงขึ้นๆ นั้นมันสำคัญมากจริงๆ ราวๆ 5 โมงเย็นผมก็ออฟไลน์ออกมา เพราะผมได้รับข้อความจาก’หลี่มู่’ พวกเขาเดินทางมาถึงหางโจวแล้ว ในฐานะเจ้าภาพที่ดี ผมได้จองโต๊ะที่ร้านอาหาร เซียงเหว่ยใกล้ๆ กับมหาลัยไว้

หลังจากเตรียมการเสร็จแล้วทุกคนก็ค่อยๆ เดินทางมา ผมไปรับ’ตงเฉิง’กับ’ว่านเอ๋อ’ ทั้งสองคนดูเหมือนกับฝาแฝดที่แทบจะแยกกันไม่ออก ผมเดินเข้าไปหาพวกเธอพลางกล่าว

“รีบไปกันเถอะ หลี่มู่กับคนอื่นๆ ต้องมาแล้วแน่ๆ เราไม่ควรจะไปช้านะ”

‘ว่านเอ๋อ’เธอเดินตามผมมาด้วยขาสวยๆ ของเธอพร้อมกับยิ้มน่ารัก

“พวกแม่ทัพเป็นคนยังไงงั้นเหรอ นายคิดว่าพวกเขาจะเป็นพวกคนแก่กักขฬะรึเปล่า?”

“ผมไม่รู้ ผมไม่เคยเจอพวกเขาในชีวิตจริงมาก่อน”

“โอ้…”

ที่ร้านอาหารเซียงเหว่ย ‘ซงฮาน’ ‘มัทฉะ’ ‘รันมิน’ ‘หลิวย่ง’ ต่างมาถึงแล้ว ‘มัทฉะ’อยู่ในชุดเสื้อสีครีมและกระโปรงสั้น หน้าตาเธอดูสดใส เธอยืนโบกมือให้พวกเราอยู่

“บอสสส พวกเราอยู่นี่ๆ”

ผมยิ้มในขณะที่ผมมาถึง ‘หลิวย่ง’ที่อยู่ด้านข้างผม มองไปที่’ว่านเอ๋อ’และ’เฉิงเยาว’พร้อมกับกล่าว

“โอ้ นี่เรากินข้าวกับสาวงามตั้งสามคนเลยเหรอ? นี่มันสวรรค์ชัดๆ ชั้นควรจะทำยังไงดี ถ้าวันนี้ชั้นนอนไม่หลับเนี้ยย”

‘มัทฉะ’ขมวดคิ้ว

“ไปไกลๆ เลย…..ไม่ใช่ว่านายเห็นพวกเราอยู่ทุกวันเหรอไง? ถ้านายนอนไม่หลับ งั้นก็ไปเก็บเลเวลเลยไป นายระดับน้อยสุดใน Zhan Long เลยนะ นายไม่อายบ้างเหรอไง?”

‘หลิวย่ง’เหล่มอง

“ไม่ใช่เธอเหรอไง? ที่ระดับต่ำสุดมัทฉะ?”

‘มัทฉะ’หน้าแดงพร้อมกับก้มหน้า

“ไม่นับฉัน……”

“ยัยบ้า..”

‘หลิวย่ง’โวยวายขึ้นเล็กน้อย ผมกล่าว

“พวกนายขึ้นไปรอข้างบนเลย ชั้นจะรอหลี่มู่กับคนอื่นๆ ที่หน้าประตูเอง”

“โอเค”

ผมจับแขนของ’ว่านเอ๋อ’พลางกล่าว

“ซงฮานพาว่านเอ๋อไปด้วย ดูแลเธอดีๆ ละ แล้วก็อย่าลามปามเข้าใจมั้ย?”

‘ซงฮาน’พยักหน้า

“ไว้ใจผมได้เลย!!”

เขารู้ว่า’ว่านเอ๋อ’คือนายจ้างของผม งานของผมก็คือปกป้องเธอ โชคดีที่ร้านอาหารแห่งนี้ไม่มีคนที่มีพลังเท่าไหร่ ถ้าเป็นพวกผู้ร้ายธรรมดา ‘ซงฮาน’กับ’รันมิน’ก็พอจะรับมือไหว ‘ซงฮาน’มีทักษะที่ดีพอสมควร และ’รันมิน’ก็ยังมีพลังที่รุนแรงใช้ได้ พวกเขาทั้งสองต่างเป็นนักสู้ที่ดี

ถ้าผมไม่ได้เรียนศิลปะการต่อสู้มา ทั้งสองคนอาจจะเป็นบอสของพวกเราก็ได้ …..

หลังจากที่เห็นทุกคนจากไปแล้ว ผมก็ยืนเงียบๆ ที่หน้าประตู ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ผมก็เห็นเงาของคนสี่คน เดินตามถนนมาอย่างช้าๆ คนที่เดินนำหน้ามาดูราวๆ ชายกลางคน อายุ 25 เขาเหมือนกับ’หลีมู่’ในเกม ที่ด้านหลังของเขาก็ยังมี ชายวัยกลางคนที่เหมือน’หวางเจี้ยน’ และยังมีชายหนุ่มร่างกายกำยำที่ดูเหมือน’ไปฉี’ และสุดท้ายก็เป็นชายแก่อายุราวๆ 50 ปี ซึ่งคงเป็น’เหลียนป๋อ’

“เซียวเหยา?”

‘หลี่มู่’มองเห็นผมจากที่ไกลๆ สายตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อในสายตา

“โอ้ออ นายดูหล่อกว่าในเกมอีก ไม่แปลกใจเลยว่า เย่วชิงเชียนจาก [Prague] ถึงได้หลงนายขนาดนั้น”

“…”

หั้วว

ด้วยเสียงอันดัง ‘หลี่มู่’เข้ามากอดผมแน่น พลางหัวเราะเบาๆ

“เหล่าพี่น้อง ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกัน”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments