ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ อาวุโสมังกรฟ้า? ไอ้แก่นั้นกำลังดูเหมือนจะตาย ทำไมท่านไม่ให้บทเรียนเขาหน่อยหล่ะ”
ได้ยินเสียงหัวเราอันบ้าคลั่งมาจากบรรพบุรุษราชวงศ์จี ราชันย์วานรขนาดมหึมาคือผู้แรกที่ไม่สามารถยอมรับมันได้ เขารู้ว่าถ้าผู้ก่อตั้งมังกรครามต้องการจะสังหารบรรพบุรุษราชวงศ์จี เขาสามารถทำได้เพียงสบัดนิ้วเท่านั้นแค่สบัดนิ้วก็ฆ่าได้แล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงได้ถามผู้ก่อตั้งมังกรครามเพื่อให้เขาเคลื่อนไหว
“เดี๋ยว!! รถม้านั่นดูแปลกเกินไป”
อย่างไรก็ตามผู้ก่อตั้งมังกรครามก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับบรรพบุรุษราชวงศ์จีที่กำลังหลบหนี เขาเพียงแต่จ้องมองไปยังรถม้าเท่านั้น
หลังจากได้ยินคำพูดของเค้า ทุกคนสังเกตุเห็นรถม้าที่หยุดอยู่กลางอากาศ และช่วยไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังตำหนักเคลื่อนที่ขนาดเล็กด้านบนรถม้าเช่นกัน
*แคร็ก~~~*
ในที่สุดประตูตำหนักขนาดเล็กก็เปิดออก ในตอนนั้นเอง หัวใจของทุกคนเต้นรัว และสายตาของพวกเขากลายเป็นจริงจังอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดหวังคือหลังจากที่ประตูพระราชวังเปิดออก มีเพียงชายชราเดินออกมา
ดูเหมือนชายชราจะมีอายุมาก ถ้าไม่ 80 ก็ 90 ปี แต่การบ่มเพาะของเขาไม่ได้แข็งแก่งมากนัก เพียงแค่ระดับ 1 ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชายชราเดินออกมา ทุกคนพบว่าเขากำลังฉุดกระชากคนๆนึงออกมาด้วยมือของเขา คนๆนั้นคือชายวัยกลางคน
ชายคนนั้นสวมเครื่องแบบที่งดงามและเป็นชายที่รูปร่างสูง ผมยาวตรงถึงส้นเท้าพริ้วไหวไปกับสายลม เขาดูสง่างามและดูไม่ธรรมดา
นอกจากนี้ คิ้วที่หนาและดวงตาที่โตของเขาดูหล่อเหลาและกล้าหาญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามชายวัยกลางคนผู้นั้นแม้จะดูไม่ธรรมดา แต่เขากับไร้ซึ่งพลังวิญญาณ
ไม่เพียงแต่เขาไม่มีการบ่มเพาะ แม้แต่สภาพจิตใจของเขาดูเหมือนว่าจะยังคลุมเคลือ ในขณะนั้นแม้จะเดินออกมาด้านหน้าของรถม้าแล้ว เขาไม่แม้แต่จะมองไปยังฝูงชน
ด้วยดวงตาที่หมองคล้ำและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่โง่เง่า เขาเคี้ยวไก่ย่างทั้งสองในมือของเค้าและกลืนมันลงไปราวกับหมาป่ากลืนอาหาร เขามีความสุขเป็นอย่างมากเหมือนกับว่าเขาไม่ได้กินอะไรมาเป็นร้อยปี
“นี่มันไม่ถูกต้อง? นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน? แค่ชายชรากับคนบ้าเนี่ยนะ..น่าขันนี่หรอที่พวกเขาเรียกว่าอาวุธลับ ?”
” ที่จริง มันก็แค่มีไว้ทำเพื่อให้ผู้คนที่หวาดกลัวกันไปเอง บรรพบุรุษราชวงศ์จีคือเรื่องที่น่าขบขันอย่างแท้จริง ฮ่าๆๆ…”
เมื่อพวกเขาตรวจสอบทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้ารถม้าอย่างรอบครอบ หัวใจที่เคยตึงเครียดของพวกเขาก็พลันคลายไป พวกเขาเริ่มที่จะส่งเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
เนื่องจากพวกเขา มันอาจจะพูดได้ว่าพวกเขาไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามใดๆเลยแม้เพียงน้อยนิด ชายชราเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแดนสวรรค์ระดับ 1 ผู้คนมากมาย ณ ที่แห่งนั้นสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
สำหรับชายวัยกลางคน แม้ว่าเขาจะดูไม่ธรรมดาและดูหล่อเหลา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนบ้า คนโง่เง่าที่ไม่มีการบ่มเพาะใดๆ คนส่วนใหญ่ไม่เห็นเค้าทั้ง 2 คนอยู่ในสายตา
“ชายคนนั้นดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก”
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนผ่อนคลาย ชูเฟิงกลับไม่สบายใจมากขึ้น
เพราะว่าเมื่อทั้งสองคนปรากฏตัว ชูเฟิงจดจ่ออยู่กับชายวัยกลางคนอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่าชายคนนั้นเป็นคนคุ้นเคยเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน ผู้ก่อตั้งมังกรครามยังตรวจสอบชายวัยกลางคนอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พบสิ่งระแคะระคายใดๆเลย สายตายของเขายังเต็มไปด้วยการระมัดระวังเสมอว่าชายวัยวัยกลางคนนั้นไม่ธรรมดา
ถันใดนั้นชายชราก็เคลื่อนไหว เขาไม่ได้โจมตีผู้คนจากราชวงศ์เจียง แต่เขายื่นมือของเขาไปยังชายวัยกลางคนที่อยู่ถัดจากเค้า และใช้มือของเค้าปัดผมที่ยาวบนหน้าผากไปด้านข้าง
“นี่ไม่ดีแล้ว บรรพบุรุษรีบหยุดชายชราไม่ให้แตะต้องหน้าผากของเค้า”
ทันใดนั้นใบหน้าของชูเฟิงได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากและเขาตะโกนด่าเสียงดัง
เพราะเมื่อผมที่ยาวบนหน้าผากของชายวัยกลางคนถูกปัดไปด้านข้าง ชูเฟิงก็เข้าใจทุกสิ่ง
บนหน้าผากของชายคนนั้นเขาเห็นรอยแผลเป็น รอยแผลเป็นที่เป็นที่สดใสคล้ายมีชีวิตและเหมือนกับเปลวเพลิง ชูเฟิงเคยเห็นแผลเป็นนั้นมาก่อน เขาเห็นมันบนหน้าผากของขอทานคนนั้น
หลังจากตอนนั้นชูเฟิงเกือบจะถูกฆ่าเพราะเขาสัมผัสกับรอยแผลเป็นบนหน้าผากของขอทาน
ในทันที สุดท้ายชูเฟิงก็ได้รู้ว่าทำไมชายคนนั้นถึงได้ดูคุ้นเคยนัก เพราะว่าเขาเป็นขอทานเมื่อตอนนั้น ชายคนที่มอบชูเฟิงให้กับตระกูลชูและสั่งชูหยวนว่าเขาต้องเลี้ยงดูชูเฟิง
ชูเฟิงต้องการที่จะพบเขาอีกครั้ง เพราะแม้ว่าเขาจะรู้ว่าภายในใจของเขาสับสน หลังจากทั้งหมด ชายคนนั้นเป็นเพียงความหวังเดียวของเค้าในการที่จะรู้ว่าเขามาจากไหน
แต่ตอนนี้ได้พบเขาอีกครั้ง ชูเฟิงไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย เขามีความกลัวที่ไม่สิ้นสุด เพราะเขาได้รู้วิธีการที่น่ากลัวของชายหลังนั้นหลังจากที่เขาโกรธ ถ้าอารมณ์โกรธของเค้าประทุ เป็นไปได้ว่าทั้งราชวงศ์เจียงอาจจะราบเป็นหน้ากอง
“หยุด!”
แม้ว่า เขาจะไม่รู้ว่าทำไมชูเฟิงถึงได้กังวล ผู้ก่อตั้งมังกรครามยังคงรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงระเบิดเสียงตะโกน และทันใดนั้นพลังอันคุ้มคลั่งก็ได้ห้อมล้อมออกมา ด้วยความเร็วที่เหมือนกับแสง มันกดไปที่ชายชราและชายวัยกลางคน
การโจมตีของผู้ก่อตั้งมังกรครามไม่เพียงแค่หยุดการกระทำของชายชรา มันได้ทำลายชายชราและชายวัยกลางคนอย่างสมบูรณ์รวมถึงรถม้าด้วย
*บูม*
อาจจะกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของผู้ก่อตั้งมังกรฟ้านั้นทรงพลังอย่างมาก เกือบจะอยู่ในช่วงเวลาที่ฝ่ามือของชายชรากำลังจะไปสัมผัสแผลเป็นที่หน้าผากของมนุษย์ การโจมตีของเขาก็มาถึง
หลังจากการระเบิดอันรุนแรง พื้นที่บริเวณรถม้ากลายเป็นสับสนวุ่ยวายในทันที แต่ละพื้นที่ของระลอกผืนป่าพุ่งพล่านอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงแค่นั้น มันยังทำให้เกิดรอยแยกมากมายในอากาศ แม้แต่โครงสร้างบนพื้นดินยังถูกทำลายอย่างต่อเนื่องจากผลกระทบที่ได้รับ การโจมตีของผู้ก่อตั้งมังกรครามรุนแรงเกินไป แม้แต่คนจากราชวงศ์เจียงยังถูกลากโดยพลังนั้นและกำลังจะตายภายในนั้น
แต่มันแสดงให้เห็นถึงความกังวลใจอย่างมากของผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า เขารู้สึกถึงอันตรายจากชายวัยกลางคน และยังตระหนักดีว่าการกระทำของชายชรานั้นอันตราย
ดังนั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ยั้งมือในการโจมตีและทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับอันตราย เพราะในตอนนั้นเขาแค่ต้องการจะหยุดการกระทำของชายแก่และกำจัดปัญหาทั้งสองที่ซ่อนอยู่ เขาไม่ได้พิจารณาความปลอดภัยของคนที่อยู่ภายใต้รถม้านั่น
*วู~~~~~~~~~*
ในขณะที่ชั้นคลื่นกำลังแพร่กระจาย ทันใดนั้นก็เกิดลมพายุกวาดไปทั่ว ลมพายุนั้นรุนแรงอย่างมาก มันล้อมรอบไปด้วยระลอกคลื่นที่น่าหวาดหวั่น
และพายุยังหายไปอย่างรวดเร็ว แทบจะในทันที ท้องฟ้าที่ปรากฏรอยแยกพลันกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง พร้อมกันนั้น ปรากฏภาพบุคคลเข้ามาในสายตาของฝูงชน
ดวงตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยเพลิงแห่งความพิโรธน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ความน่าสะพรึงกลัวภายในส่วนลึกของจิตใจแพร่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างท่วมท้น
“เป็นไปได้อย่างไร แม้ว่าการโจมตีของเขาจะสามารถฆ่าชายชราได้สำเร็จ และแม้กระทั่งไม่มีอะไรเหลือจากการฆ่าสัตว์มหึมาหลายตัวรวมถึงรถม้า มันยังทำให้ความโกรธของชายคนนี้เพิ่มขึ้น”
ทันใดนั้นชูเฟิงขมวดคิ้วแน่นเพราะเขาเคยเห็นวิธีการที่น่าสะพรึงของชายคนนี้ในยามที่เขาคลั่ง และเขายังเคยได้ยินจากชูหยวนถึงวิธีการที่น่าสะพรึงที่ชายคนนั้นใช้ลงโทษ
ในทันทีที่ความแข็งแกร่งของเขาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ในสภาวะจิตของเขา พวกเขามีแนวโน้มที่จะเผชิญภัยพิบัติ
งานแปลจาก#
ที่มา: