ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป*** โฮก~~~ ***
ดาบมังกรแดงได้กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่พุ่งทะยานอยู่ในร่างกายของวิญญาณชั่วร้ายและทะลุออกมาจากทางก้นของมัน ร่างกายของวิญญาณชั่วร้ายนั้นได้ถูกเจาะจนเป็นพรุนด้วยมังกรมันได้คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดและทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“เหอะเจ้าวิญญาณชั่วร้ายโง่! เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเราสองพี่น้องจะฆ่ากันเอง? เราเพียงแค่หลอกให้เจ้าตายใจและลดการป้องกันของเจ้าลงก็เท่านั้นเพื่อที่ข้าจะได้โจมตีเจ้าอย่างรุนแรง”
“สมบัติวิเศษดอกบัวอำพันนี้มันก็เป็นเพียงแค่ของปลอมเท่านั้นที่ขุดขึ้นมาเพื่อใช้หลอกเจ้า ถึงแม้ว่าพวกเรานั้นจะมีของจริงอยู่แล้วก็ตามแต่พวกเราก็คงไม่โง่พอที่จะนำมันมาใช้เพื่อฆ่ากันเองหรอกมั้ง”
บรรพชนเก่าแก่ราชวงศ์เจียงกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา
“วิญญาณชั่วร้ายถึงแม้ว่าเจ้านั้นจะแข็งแกร่ง แต่แท้จริงแล้วเจ้ามันก็ไร้สมอง ฮ่า ๆ ๆ…”
ในขณะเดียวกันบรรพชนผู้อาวุโสก็กล่าวออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เย้ยหยัน
“ไอ้พวกมนุษย์น่ารังเกียจ! ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!”
วิญญาณชั่วร้ายได้ระเบิดเสียงตะโกนแห่งความโกรธแค้นของตัวเองออกมา เพราะเดิมที่เขาคิดที่จะฆ่าบรรพชนเหล่านี้ทั้งสองอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่นึกเลยว่าเขาเองต่างหากที่เป็นคนหลงกลและตกอยู่ในหลุมพรางของพวกเขามาตั้งแต่ต้น
ฉะนั้นแล้วเขาจึงได้ใช้ร่างกายที่สะบักสะบอมของเขาปล่อยอำนาจสวรรค์ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อที่จะระเบิดตัวเองตายไปพร้อมกับบรรพชนเก่าแก่
“เฮอะ เจ้าคิดว่าสภาพของเจ้าในตอนนี้นั้นจะสามารถสู้ข้าได้อย่างนั้นรึ”
แต่ยังไม่ทันที่วิญญาณชัวร้ายจะได้มีโอกาสทำสำเร็จ บรรพชนเก่าแก่ก็ได้ใช้ดาบมังกรแดงที่อยู่ในฝ่ามือของเขาฟาดฟันเป็นมังกรสีแดงเข้มออกไปมันได้ทะยานพุ่งชนเข้ากับวิญญาณชั่วร้าย ด้วยการโจมตีนี้อย่าได้พูดถึงความพ่ายแพ้ของวิญญาณชัวร้ายเลยเพราะแม้แต่เศษซากหรือกลิ่นอายของวิญญาณชั่วร้ายนั้นก็ได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นโดยที่ไม่มีสิ่งใดเหลือไว้เบื่องหลัง
“ท่านพี่ สมบัติวิเศษดอกบัวอำพันที่ท่านได้ประดิษฐ์มันขึ้นมาเองนั้นชั่งวิเศษยิ่งนัก มันชั่งจะดูคล้ายราวกับเป็นสมบัติดอกบัวอำพันของจริงอย่างไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่ตอนที่ท่านใช้มันข้ายังคิดว่ามันเป็นของจริงเลยฉะนั้นแล้วนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำใมข้าถึงได้ใช้ดาบมังกรแดงรูปแบบโล่ โล่มังกรแดงสวรรค์ปกคลุมผืนฟ้า เพื่อป้องกันมัน”
หลังจากที่ได้ฆ่าวิญญาณชั่วร้ายแล้วนั้นบรรพชนเก่าแก่ก็ได้กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“อืม แน่นอนว่าท่านพ่อได้ให้สมบัติวิเศษดอกบัวอำพันให้แก่ข้าและอำนาจของมันนั้นชั่งกล่าวได้ว่าดูน่ากลัวยิ่งนัก แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่อยากที่จะใช้มันสักเท่าไหร่”
“แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ได้วิเคราะห์มันอย่างละเอียดและสร้างของเลียนแบบสมบัติวิเศษดอกบัวอำพันขึ้นมา ถึงแม้ว่าอนุภาพของมันนั้นจะเป็นด่อยกว่ามากแต่มันก็สามารถทำให้ผู้คนตกใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว”
ในขณะที่บรรพชนผุ้อาวุโสพูดกล่าวก็ได้มีดอกบัวอำพันปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของเขา
“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของที่ทำเลียนแบบขึ้นมาแต่อนุภาพของมันนั้นก็ไม่ได้เรียกว่าน้อยเลยที่เดียว แล้วเหตุทำใมเจ้าถึงไม่ลองใช้การสร้างจิตวิญญาณเพื่อทดสอบอนุภาพของสมบัติวิเศษที่ถูกสร้างเลียนแบบขึ้นมาชิ้นนี้ดูเล่า?”
บรรพชนผู้อาวุโสกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นั้นมัน…ก็.”
ในทันทีใบหน้าของบรรพชนเก่าแก่ถึงกับมีอาการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและเหมือนกับว่าเขานั้นต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา
“รับมือ!”
แต่ในทันทีบรรพชนผู้อาวุโสก็ได้สะบัดดอกบัวอำพันในฝ่ามือของเขา มันได้กระจากออกไปและกลายเป็นลูกศรแสงสีทองพุ่งเข้าใส่ต่อบรรพชนเก่าแก่
เมื่อเห็นเช่นนั้นบรรพชนเก่าแก่ก็ยังไม่ได้แสดงอาการตกใจใด ๆ ออกมาแม้แต่ดาบมังกรแดงของเขา เขาก็ยังไม่นำมันขึ้นมาเพื่อปัดป้องมีเพียงแต่คำพูดเท่านั้นที่เขาได้กล่าวออกไปว่า
“ท่านพี่ดอกบัวอำพันของท่านนั้นชั่งดูเหมือนกับของจริงยิ่งนัก มันสามารถทำให้ผู้คนตกใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียวและมีเพียงผู้เชียวชาญเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำได้ถึงเพียงนี้ ในเมื่อท่านพี่ต้องการแบบนี้ล่ะก็แน่นอนว่าข้าจะทดสอบมันให้แก่ท่านเอง”
ในขณะที่บรรพชนเก่าแก่ได้พูดจบเขาก็ได้โบกมือของเขา และชั้นการก่อของอำนาจวิญญาณที่อ่อนแอก็ได้ปรากฏขึ้นมาในด้านหน้าของเขา เขาต้องการที่จะใช้อำนาจของการก่อวิญญาณที่อ่อนแอนี้เป็นเครื่องทดสอบของเลียนแบบดอกบัวอำพันของพี่ชายเขา
*** ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ***
แต่อย่างไรก็ตามในทันทีที่ลูกศรสีทองได้เข้าปะทะกับชั้นของการก่ออำนาจวิญญาณ การก่อตัวนั้นก็ได้ถูกทำลายลงในทันทีและลูกศรสีทองนับสิบที่แสนน่ากลัวก็ได้พุ่งเข้าชนกับบรรพชนเก่าแก่ในทันที
“อึก”
ในขณะที่ชั้นของการก่อวิญญาณวิญญาณถูกทำลายใบหน้าอันสงบนิ่งของบรรพชนเก่าแก่ก็ได้เปลี่ยนไปในทันทีเพราะเขาในตอนนี้นั้นได้ค้นพบแล้วว่า ดอกบัวอำพัน ที่พี่ชายเขาได้ใช้มันโจมตีเขานั้นมันไม่ใช้ของเลียนแบบแต่ว่ามันคือ ดอกบัวอำพัน ของจริง
แต่กว่าที่เขาจะรู้ตัวนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว เขาในตอนนี้นั้นไม่สามารถที่จะหลบเหลี่ยงหรือทำการป้องกันใด ๆ ได้อีก
ฉะนั้นแล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระเบิดชั้นการก่อวิญญาณสีม่วงออกมาจากร่างกายของเขาเพื่อป้องกันลูกศรสีทอง
*** ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ***
แต่อย่างไรก็ตามชั้นก่ออำนาจวิญญาณสีม่วงในด้านหน้าของบรรพชนเก่าแก่นั้นก็ได้ถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี แล้วจนท้ายที่สุดลูกศรสีทองนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งเข้าใส่กับร่างกายของบรรพชนเก่าแก่
*** ชวูบ~~~ ***
แต่ในทันทีที่ลูกศรสีทองได้สัมผัสกับเสื้อคลุมสีทองของบรรพชนเก่าแก่มันก็ได้เกิดแสงสีทองแพรวพราวและผสมผสานเข้าด้วยกันกับลูกศรสีทอง
“ยุทธภัณฑ์ชั้นยอดเสื้อคลุมมังกร หึข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านพ่อจะต้องให้ยุทธภัณฑ์ชั้นยอดชิ้นนี้ให้แก่เจ้า”
“เพราะต้องการให้เจ้ามีเครื่องป้องกันดอกบัวอำพันของข้า แต่ยังใงก็ตามถึงแม้ว่าข้านั้นจะสามารถใช้ดอกบัวอำพันได้แค่ครั้งเดียวแต่ถ้าแค่ได้เร่งอนุภาพสูงสุดของมันล่ะก็ ต่อให้เป็นเสื้อคลุมมังกรของเจ้ามันก็ไม่สามารถที่จะป้องกันดอกบัวอำพันของข้าได้”
ทันใดนั้นบรรพชนผู้อาวุโสก็ได้ระเบิดจำนวนลูกศรสีทองออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งเข้าใส่ร่างกายบรรพชนเก่าแก่ในทันที
“ไอ้บ้าเอ้ย! ทำใมบรรพชนผู้อาวุโสถึงได้โจมตีบรรพชนเก่าแก่! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?”
ในทันทีชูเฟิงได้เกิดอาการตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่เดิมเขาได้คิดว่าภัยอันตรายนั้นมันได้เลือนหายไปแล้ว แต่ในตอนนี้เขาคิดไม่ถึงเลยว่าทำใมบรรพชนผู้อาวุโสจู่ ๆ ถึงได้โจมดีบรรพชนเก่าแก่อีกครั้ง และในการโจมตีครั้งนี้นั้นยังกล่าวได้ว่าชั่งเป็นอันตรายยิ่งนักและอนุภาพของมันนั้นก็ได้แตกต่างจากการจู่โจมของเขาก่อนหน้านี้อย่างลิบลับ
ถึงแม้ว่าบรรพชนเก่าแก่จะมียุทธภัณฑ์ชั้นยอดไว้คอยปกป้องร่างกายของเขาอยู่แล้วแต่เมื่อหันหน้าให้กับการจู่โจมที่น่ากลัวเช่นนี้นั้นร่างกายของเขาย่อมได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน
“บัดซบ! จงแหลกไปซะ!”
แม้ว่าชูเฟิงในตอนนี้นั้นจะยังไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องระหว่างบรรพชนเก่าแก่และบรรพชนผู้อาวุโส แต่ชูเฟิงก็รู้ดีว่าสถานการณ์ตรงหน้าของเขาในตอนนี้มันไม้ใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นแล้วเขาจึงได้เร่งอำนาจวิญญาณสีฟ้าของเขามาจนถึงขีดสุดและเริ่มขบวนการก่อ
ชูเฟิงได้ประทับฝ่ามือของเขาลงไปในการก่อวิญญาณอย่างรวดเร็ว แต่เพียงแค่กระพริบตาในเวลานั้นก็ได้เกิดแสงสว่างขึ้นที่ฝ่ามือของเขาและปรากฏรอยแตกเล็ก ๆ ขึ้นที่ผนังการก่อ
ฉะนั้นแล้วชูเฟิงจึงได้ใช้ฝ่ามือของเขาประทับลงไปที่รอยแตกเล็ก ๆ นั้นอีกครั้ง “เพล้ง” ในที่สุดการก่อปิดผนึกของอำนาจวิญญาณสีฟ้าก็ได้แตกลงและสลายหายไป ชูเฟิงได้ดึงฝ่ามือของเขากลับมาและเร่งพลังอำนาจแก่นแท้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและการเป็นภาพเบลอของเส้นแสงบินออกไปจากพระราชวัง
“อ่า!”
แต่ในขณะนั้นระลอกคลื่นของลูกศรแสงสีทองก็ได้หยุดลง และปรากฏร่างกายของบรรพชนเก่าแก่ขึ้นในสายตาของชูเฟิงอีกครั้ง
บนร่างกายของบรรพชนเก่าแก่ในตอนนี้นั้นนอกจากพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อคลุมมังกรมันก็ได้ถูกเจาะจนพรุนและแหลกเหลวจนดูน่ากลัว มีแม้กระทั่งในบางส่วนในร่างกายของเขาถึงได้รับความเสียหายจนไปถึงกับเห็นกระดูกสีขาวของเขา แม้แต่ใบหน้าของเขาเองนั้นก็ยังไม่มีข้อยกเว้น อาจบอกได้ว่าสภาพโดยรวมของเขาในตอนนี้นั้นดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเสื้อคลุมมังกรของเขานั้นจะสามารถป้องกันสมบัติวิเศษดอกบัวอำพันได้แต่มันก็ไม่ได้ปกคลุมทุกส่วนในร่างกายของเขาฉะนั้นแล้วมันจึงเป็นเหตุผลว่าทำใมเขาถึงได้รับบาทเจ็บอย่างสาหัสและในตอนนี้กลิ่นอายของเขานั้นยังกล่าวได้ว่าดูอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพูดการเริ่มต่อสู้ในยกต่อไปเลยเพราะถึงแม้ว่าจะปล่อยเขาไว้แบบนั้นเขาก็จะตายไปเองในไม่ช้า
“เหตุใด? เหตุใดถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้? ตอบข้ามาอย่างน้อยก่อนที่ข้าจะตายก็ขอให้ได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้น”
บรรพชนเก่าแก่กล่าว
“โอ้น้องข้าอย่าได้ถือโทษข้าเลยนะ ข้าน่ะไม่ได้แครงใจในตำแหน่งจักรพรรดิของเจ้าหรอกนะ แล้วข้าก็ไม่ได้สนใจในความรักของท่านพ่อที่มีให้แก่เจ้าด้วย แล้วยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ไม่ได้สนใจในชื่อเสียงและความมั่งคั่งของเจ้าอีกด้วย”
“สิ่งที่ข้าสนใจจริง ๆ นั้นก็มีเพียงแค่ข้าจะอยู่หรือจะตายก็เท่านั้น แต่ว่าอีกไม่นานนี้มันก็จะถึงจุดสิ้นสุดของอายุขัยของข้าแล้ว เพียงแต่ว่าข้านั้นยังไม่ได้มีความต้องการที่จะตายในตอนนี้!”
“ในหลายปีมานี้ข้าได้พยายามค้นคว้าหาวิธีเพื่อที่จะได้เอาไว้ยืดอายุขัยของตัวเอง ข้าได้พยายามค้นหาหญ้าอมตะต่าง ๆ และโอสถสวรรค์ แต่ท้ายที่สุดแล้วนั้นผลลัพธ์ของมันก็มีน้อยมากเกินไป แล้วสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดก็คือหญ้าอมตะที่อยู่มานับหลายปี”
“เจ้าก็น่าจะรู้นะว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีค่ามากแค่ไหนสำหรับข้า แต่เจ้าก็กลับไม่เต็มใจที่จะซื้อมันให้แก่ข้าฉะนั้นแล้วข้าจึงไม่ได้หวังอะไรกับเจ้าอีก”
“แต่ถึงอย่างนั้นราชวงศ์จีราชวงศ์จ้าวและราชวงศ์หลิว ก็ได้ร่วมมือกันเพื่อมอบหญ้าอมตะที่สามารถยืดอายุได้ถึงสิบปีแก่ข้าแต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่านั้นก็คือมันจะต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้า”
บรรพชนผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้พี่เฮงซวย! เจ้านี่มันชั่งโง่เขลาอย่างแท้จริง!”
*** ไอ ไอ ไอ ***
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นมันทำให้บรรพชนเก่าแก่ถึงกับตกอยู่ในความโกรธอย่างแท้จริง หลังจากที่เขาได้ไอไปไม่กี่ครั้งเขาก็ได้พูดต่ออีกว่า
“นับตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาราชวงศ์จีราชวงศ์จ้าวและราชวงศ์หลิว พวกมันทั้งสามราชวงศ์ได้พยายามรุกรานราชวงศ์เจียงของเรามานับหลายปี”
“และในตอนนี้ราชวงศ์เจียงของพวกเรามีเพียงแค่ข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับพวกมันได้ และการที่เจ้าไปช่วยพวกมันเช่นนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ๆ แค่การฆ่าข้าเพียงคนเดียว แต่มันเป็นการฆ่าคนของราชวงศ์เจียงของพวกเราทั้งหมด!”
“หุบปากของเจ้าได้แล้วหากการที่เจ้าบอกว่าสามารถต่อกรกับพวกมันได้ละก็เจ้าก็คงไม่เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเข้ามายังสุสานจักรพรรดิแห่งนี้หรอก.”
บรรพชนผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเย็นชา และหลังจากนั้นเขายังได้พูดออกไปอีกว่า
“และนอกจากนี้การมีอยู่ของราชวงศ์เจียงมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตของข้านิจริงไหม ข้าบอกเจ้าแล้วนี่นาว่าข้านั้นเป็นห่วงแค่ความเป็นความตายของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”
#################################################################################################
ที่มา: