ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ฮี่ฮี่ เจ้าโง่ เจ้าชื่อ ชูเฟิง ใช่ไหม”
หลังจากที่ได้คุยเกี่ยวกับ ฮวางฟู่ ฮ่าวเยว้ จู่ๆ ชายชราชุดดำ ก็กล่าวถามพลางยิ้มบางๆ
“ผู้อาวุโส ท่านรู้ชื่อข้าได้อย่างไร”
ชูเฟิง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วพริบตา เขาก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความผ่อนคลาย เพราะว่า ชายชราชุดดำ รู้เรื่องของสุสานจักรพรรดิ ดังนั้น เขาย่อมจะได้ยิน ชูเฟิง สนทนากับคนอื่นๆ การรู้ชื่อของเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ข้าไม่ได้รู้เพียงแค่ชื่อของเจ้าเท่านั้น แต่ข้ายังรู้อีกว่า คู่หมั้นของเจ้าคือ จื่อ หลิง”
“คู่หมั้นของเจ้าไม่ใช่ธรรมดาเลย ไม่ใบ่เพียงแค่นางจะงดงามราวกับนางฟ้า แต่นางยังมีกายศักดิ์สิทธิ์อีก ได้นางเป็นคู่หมั้น นับว่าเจ้าทำบุญมาดีเลยทีเดียว”
“แต่น่าเศร้า ที่นางมีกลุ่มบรรพบุรุษที่มักมาก เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล พวกเขาขายนางให้กับ หมู่เกาะประหาร”
“อีกสี่ปี คู่หมั้นของเจ้า จะต้องแต่งงานกับ ไอ้ลูกหมา นายน้อยของหมู่เกาะประหาร”
ชายชราชุดดำ กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
ในขณะนั้น ชูเฟิง ขมวดคิ้วบางๆ พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น และกล่าวออกมาว่า
“ข้าก็ไม่คิดว่าท่านจะรู้เรื่องนี้ อันที่จริง….อีกสี่ปี ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะแกร่งพอไปช่วยนางจากการแต่งงานหรือไม่”
“หึ….เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าสามารถช่วยเจ้าได้”
ชายชราชุดดำ กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“ผู้อาวุโส ท่านจะช่วยข้าได้เช่นไร”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง จ้องมองไปที่ชายชราชุดดำด้วยแววตาเป็นประกาย เขามองดูชายชราชุดดำด้วยความระมัดระวัง เพราะความช่วยเหลือของเขา อาจจะแลกมาด้วยบางสิ่งที่ยากสำหรับเขา
“อันที่จริง นอกจากผู้นำกายของข้า ข้าก็มีอำนาจพอที่จะเรียกรวมพลังของสี่ปราการ ด้วยพลังของพวกข้า หมู่เกาะประหารก็ไม่อยู่ในสายตาหรอก”
“แต่โลกนี้ย่อมไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ข้าและเจ้า ได้มาพบกันโดยบังเอิญ การที่ข้าช่วยเจ้าฟรีๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ข้าจึงมีเงื่อนไขบางอย่าง”
ชายชราชุดดำ กล่าวพลางหัวเราเบาๆ
“ผู้อาวุโส ท่านมีเงื่อนไขอะไร !?”
ชูเฟิง สามารถเข้าใจได้ทันที เพราะในอีกสีปีข้างหน้า หากเขาต้องปะทะกับหมู่เกาะประหารเพียงลำพังนั้น มันเป็นเรื่องยากซะยิ่งกว่ายาก
ด้วยความแข็งแกร่งของชายชราชุดดำนั้น หากเขาให้ความช่วยเหลือ นั่นย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่ ชูเฟิง ก็ยังคงระมัดระวังอย่างมาก เพราะเขาไม่รู้ว่า ชายชราชุดดำ จะสามารถเชื่อใจได้หรือไม่
“เงื่อนไขของข้าง่ายมาก ข้าฝึกฝนมานานหลายปี แต่ข้าก็ยังไม่มีลูกศิษย์แต่อย่างใด ข้าเห็นว่าเจ้ามีความสามารถที่ค่อนข้างดี ดังนั้น ทำไมเจ้าไม่มาเป็นลูกศิษย์ของข้า ตราบใดที่เจ้าเข้าสู่นิกาย และกลายเป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าก็สามารถเรียกกำลังของสมาชิกในนิกายมาช่วยเหลือเจ้าได้”
ชายชราชุดดำ กล่าว
เมื่อได้ฟังมาถึงตรงนี้ ชูเฟิง ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดเลยว่า ชายชราชุดดำ ต้องการให้เขาเป็นศิษย์ ภายใต้สถาการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องยากลำบากของ ชูเฟิงมาก เพราะเขาเองก็มีอาจารย์อยู่แล้ว นั่นคือ จูเก่อ หลิวหยุน แม้ว่าในตอนนี้ พลังยองเขาจะสูงกว่าอาจารย์ของเขาก็ตาม
ดังนั้น ชูเฟิง จึงกล่าวออกมาว่า
“ผู้อาวุโส ข้าขอบคุณท่านมาก แต่ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว และเขาก็ปฏิบัติต่อข้าอย่างดี ข้าจึงคิดว่า ข้าไม่อาจเป็นศิษย์ของท่านได้”
“อ่า…ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดอยู่บ้าง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจ้ากลับโง่เขลาเบาปัญญายิ่งนัก ใครบอกเจ้าว่าข้าไม่สามารถเป็นอาจารย์ของเจ้าได้ เพราะเจ้ามีอาจารย์อยู่แล้วเช่นนั้นรึ”
“ใครบอกเจ้า ว่าเจ้าสามารถมีอาจารย์ได้เพียงคนเดียว หากเจ้าต้องการมีอาจารย์เพิ่ม เจ้าต้องทรยศต่ออาจารย์อีกคนเช่นนั้นรึ”
ชายชราชุดดำ กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
“นี่….”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา เพราะภายในเก้าอาณาจักรนั้น การมีอาจารย์หลายคนเป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก แต่จากมุมมองของ ชายชราชุดดำ นั้น เขาไม่ได้เข้าใจตรงจุดนี้ และมองว่าเขาไม่อยาทรยศอาจารย์ของเขา
ชูเฟิง กล่าวถามออกมาว่า
“ผู้อาวุโส ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว ท่านยินดีที่จะมีศิษย์ร่วมกับผู้อื่นเช่นนั้นรึ”
“ไร้สาระ สำหรับผู้ที่มีความสามารถ ข้าย่อมยินดีรับเขาเป็นศิษย์”
“เข้าจะส่งผ่านความสามารถของเขาให้เจ้า ข้าก็จะส่งผ่านความสามารถของข้าให้แก่เจ้า เขาและข้า จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน”
“หากเจ้าเป็นศิษย์ของข้า เจ้าจะไม่ได้รับประโยชน์เพียงแค่ช่วยเหลือคู่หมั้นของเจ้า”
“ข้ายังมีสมบัติที่ได้รับมาจากสุสานจักรพรรดิ อีกทั้งยังมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังอีก และข้ายังมีทักษะเร้นลับ วิหคเพลิงฟื้นคืน อีก”
ชายชราชุดดำ กล่าวพลางชี้ไปที่รูปแบบของ วิหคเพลิง
เมื่อ ชูเฟิง ได้ยินเช่นนั้น เขาลอบถอนหายใจออกมา และกล่าวว่า
“ทักษะเร้นลับวิหคเพลิงฟิ้นคืนต้องได้รับการยอมรับจากเขา อีกทั้งกับดักเหล่านี้ก็ยังเป็นฝีมือของเขาเช่นกัน”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเคยเข้ามายังสุสานจักรพรรดิ และได้รับทักษะเร้นลับไปแล้วสองทักษะ ข้าจึงเก็บมันไว้และไม่ได้ใช้มัน เหตุผลที่ข้าเก็บไว้ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับเจ้า ในการมาเป็นลูกศิษย์ของข้า”
“แต่มันก็เป็นความผิดพลาดของข้า ผิดที่ข้าละโมบเกิน ข้าไม่หยุดในจุดที่ข้าสมควรจะหยุด จึงทำให้ข้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ดังนั้น แม้ว่าข้าอยากจะมอบมันให้เจ้า ข้าก็ไม่สามารถทำได้ในตอนนี้”
“ตราบใดที่ข้าสามารถออกจากที่นี่ได้ ข้าจะมอบมันให้แก่เจ้า ข้าเห็นว่าเจ้ามีการบ่มเพาะที่พลังพิเศษ หากเจ้ามีทรัพยากรในการบ่มเพาะที่เพียงพอ เจ้าสามารถเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็ว”
“แน่นอนว่าภายในสุสานจักรพรรดิมีทรัพยากรที่มากมาย แต่มันก็อันตรายอย่างมากสำหรับเจ้า ในทางกลับกัน มันก็สามารถทำให้เจ้าเพิ่มพลังขึ้นได้อย่างมาก”
“สำหรับข้า ภายในดินแดนแห่งนี้ ข้าไม่อาจใช้ทรัพยากรใดๆ ในการเพิ่มการบ่มเพาะพลังของข้าได้ หากเจ้ามาเป็นศิษย์ของข้า ข้าจะมอบทรัพยากรทั้งหมดให้แก่เจ้า”
ชายชราชุดดำ กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่จริงจังมากกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ ชูเฟิง เป็นศิษย์ของเขาจริงๆ
หลังจากได้ยินคำกล่าวของ ชายชราชุดดำ นั้น ชูเฟิง ก็เกิดความสับสนอย่างมาก เขาจึงกล่าวถามออกไปว่า
“ผู้อาวุโส ท่านอยากให้ข้าเป็นศิษย์จริงๆ รึ ท่านจะช่วยข้าจริงๆ รึ”
“แต่ทำไมท่านถึงจะช่วยข้า ทั้งๆ ที่ข้ามีพลังเพียงน้อยนิด และท่านยังจะมอบทรัพยากรมาให้ข้าอีก”
“ฮ่าๆ ทำไมน่ะรึ ข้าต้องการหาทายาทที่ดีสำหรับข้า และเจ้าก็มีคุณสมบัติที่เพียงพอ”
“ถ้าเจ้าต้องการเหตุผลอื่นๆ อีก ข้าก็มีอยู่อีกเหตุผลหนึ่ง”
“ข้าก็อายุมากแล้ว ข้ามีอายุมากกว่าร้อยปี ด้วยพลังของข้า ก็ไม่นับว่าเลวร้ายอะไร หากข้าจะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สูงกว่านี้ เพื่อยืดอายุของข้าออกไป มันก็เรื่องที่ยากมาก”
“ตอนนี้ ทรัพยากรต่างๆ ไม่สามารถช่วยข้าเพิ่มพลังได้ หากข้าจะเพิ่มพลัง ข้าต้องให้ผู้เชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามช่วย ในการทะลวงพลังเข้าสู่ระดับจักรพรรดิสงคราม”
ที่มา: