ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากนั้น ชิ๋ว ซานเฟิง ให้คำแนะนำกับ ชูเฟิง ต่างๆมากมาย และคำแนะนำเหล่านั้นล้วนพุ่งเป้าไปที่เป้าหมาย เพื่อป้องกันเหตุร้ายแก่ ชูเฟิง เมื่อเข้าสู่ภาคทะเลตะวันออก
ซึ่งคำเหล่านั้น ชูเฟิง สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าไม่เพียงแต่ ชิ๋ว ซานเฟิง ต้องการช่วยชูเฟิงให้เขาได้รับกำลังสนับสนุน เขายังเป็นห่วงความปลอดภัยของ ชูเฟิง อย่างแท้จริงอีกด้วย
ซึ่งมันทำให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งว่า ชิ๋ว ซานเฟิง ยอมรับชูเฟิงในฐานะลูกศิษย์ของเขาอย่างจริงจัง และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้หลอกใช้เค้าให้เขาออกไปจากที่นี้ อย่างน้อยๆ ชูเฟิง ก็รู้สึกแบบนั้น
ถ้าเขาคิดผิด ว่าชิ๋ว ซานเฟิง ไม่เคยคิดจะช่วย ชูเฟิง ตั้งแต่แรก เขาเพียงแค่ต้องการหลอกใช้ชูเฟิง ให้พาเขาหลุดพ้นจากสุสานจักรพรรดิ นั้นหมายความว่า ความสามารถในการแสดงของ ชิ๋ว ซานเฟิง ต้องอยู่ในระดับสูง เทียบเท่ากับดารา และซึ่งหมายความอีกอย่างว่า ชูเฟิง ล้มเหลวในการมองคน หากถึงตอนนั้นเขาจะไม่โทษฟ้าดินหรือโทษใครทั้งนั้น เขาจะโทษตัวเองทีตาบอดมองคนไม่เป็น
หลังจากนั้น ชูเฟิงก็ออกมาจากสุสานจักรพรรดิอย่างรวดเร็ว แม้เขารู้อยู่แล้วว่าต้องเดินอีกไกล แต่เขาก็ไม่คิดที่จะประมาทส่วนลึกของสุสานจักรพรรดิ
แม้แต่ชายลึกลับที่นำทางเขามาถึงประตูจักรพรรดิยังต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน ในการทางกลับออกไปคนเดียว เขาจะต้องรีบทำเวลาตลอดทั้งวันทั้งคืน เขานั้นใช้เวลาเกินสิบวันในการวิ่งออกมาจากสุสานจักรพรรดิ จากนั้นเขาก็ได้รู่ถึงวิธีการกลไกของสุสานจักรพรรดิ ที่ตั้งอยู่ในทวีปเล็กๆอย่าง 9 อาณาจักร ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน เมื่อเรียนรู้โครงสร้างและการทำงานของมัน
แต่เขาก็ยังนับว่ามีโชคอยู่บ้าง หลังจากที่วิ่งออกมา ชูเฟิงได้พบ สะสารแก่นแท้อำนาจวิญญาณ ซึ่งถือว่าเขานั้นได้เก็บเกี่ยวมาไม่น้อย
เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง เขานั้นสามารถตัดผ่านเข้าสู่ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ นอกจากนี้ภายในร่างของเขา ยังมีอำนาจพลังสวรรค์สะสมไว้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเขานั้นอยู่ไม่ไกลจากระดับ 4 อาณาจักรสวรรค์
นอกจากนี้หากเขาใช้พลังจากสายฟ้าทั้ง3 ความแข็งแกร่งของชูเฟิงจะเข้าสู่ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ ถึงแม้ระดับ 6 สวรรค์ ไม่ถือว่าน่ากลัว แต่ด้วยพลังระดับนี้ก็เพียงพอที่เขาจะเดินทางสู่ภาคทะเลตะวันออกได้แล้ว อย่างน้อยๆเขาก็ยังมีพลังที่สามารถเอาตัวรอดที่นั้นได้
หลังจากก้าวขาออกจากสุสานจักรพรรดิ ชูเฟิงไม่ได้ดิ่งตรงกลับไป เขานั้นได้วางรูปแบบอำนาจพลังปิดผนึกทางเข้าและซ่อนทางเข้าสุสานจักรพรรดิเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หลังจากที่เขารู้สึกว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ชูเฟิงก็เดินออกมาบนถนน จากนั้นก็ทะยานขึ่นฟ้ามุ่งหน้ากลับสำนักมังกรฟ้า
เมื่อ ชูเฟิง กลับมายังสำนักมังกรฟ้า เขาก็พบว่า อาคาร ตำหนัก หอฝึกตน หอคัมภีร์ ล้วนแต่สร้างเสร็จสมบูรณ์ ยิ่งกว่านั้นยังมีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังสร้างเด่นบนเทือกเขามังกรฟ้าซึ่งทำให้ สำนักดูยิ่งใหญ่อลังการ
เมื่อเทียบกับสำนักมังกรฟ้าในอดีตนี้นับว่าสวยกว่าเดิมหลายสิบเท่า มันอาจกล่าวว่า พอๆกับ ตำหนักราชวงศ์เจียงที่เปรียบกับวังค์ ซึ่งพูดได้ว่าสมกับเป็นสิ่งก่อสร้างของขุมอำนาจอันดับ 1 ใน 9 อาณาจักร
นอกจากนี้ บรรยากาศภายในสำนักมังกรฟ้า ยังเต็มไปด้วยความชดชื่น รื่นเริง ถ้าจะอธิบายให้ชัดๆ ก็คงจะเป็น คำว่า ครื้นเครง
ไม่ใช่แค่ สาวกของสำนักมังกรฟ้าเท่านั้น ภายในยังมีผู้คนจากนิกายโลกวิญญาณ อย่าง กู๋ เทียนเซิน และคนอื่นๆ รวมถึงผู้คนจาก ราชวงศ์เจียง
ไม่ต้องบอก ชูเฟิงก็พอรู้ว่าภายในสำนักมังกรฟ้านั้นกำลังจัดงานฉลอง เนื่องในโอกาสที่สำนักมังกรฟ้าก่อตั้งสำเร็จ ที่เรียกว่า พิธีเปิดงาน ซึ่งผู้คนเหล่านั้นต่างก็มาร่วมแสดงความยินดี
” เห้ย!!! ชูเฟิง ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที เป็นไงบ้าง สำเร็จได้ด้วยดีหรือเปล่า ? “
” โหห ชูเฟิง ออร่าของเจ้าดูเพิ่มขึ้นมากเลยหนิ ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้เจ้าจะได้มาไม่น้อย “
” เด๋วก่อน ชูเฟิง แล้วไอ้บ้าที่คอยตามเจ้า ไปไหนแล้วซะล่ะ ?!!! “
หลังจากที่ราชันย์วานรและผู้คนเห็น ชูเฟิง พวกเขาก็พบว่า พลังวิญญาณของชูเฟิงพัฒนาจากระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์เข้าสู่ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ ทุกคนจึงร่วมแสดงความยินดีกับ ชูเฟิง
แต่พวกเขาก็ยังพบอีกว่าผู้ติดตามสติไม่ดีของชูเฟิงได้หายไป ราชันย์วานรเคยบอกกับทุกคนว่า ชูเฟิง เดินทางไปกับ ชายบ้าคนนั้น เมื่อเห็นว่าชูเฟิงกลับมาคนเดียว พวกเขาจึงได้แต่ขมวดคิ้วแน่น เพราะรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น
” เรื่องมันนี้มันยาว “
ชูเฟิงยิ้มเบาๆ เพราะผู้คนต่างก็ดูแสดงความกังวล เขาจึงไม่ได้ปิดบังอะไรพวกเขาและค่อยๆเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับฝูงชนฟัง แต่เขาเลี่ยงที่จะบอกเรื่องราว ชิ๋ว ซานเฟิง ที่ได้รับเขาเป็น ศิษย์
” เฮ้อ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ดีแล้วที่เจ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัย!!! “
หลังจากที่พวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารู้ว่าชูเฟิงคงจะผ่านประสบการณ์ที่น่ากลัว แม้พวกเขาจะไม่ได้เห็นผู้เชี่ยวชาญ จักรพรรดิแห่งสงครามเองกับตา แต่เขาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวผ่านปาก ชูเฟิง ได้เป็นอย่างดี
” ใช่แล้ว ชูเฟิง เจ้ากลับมาก็ดี ตอนนี้บรรพบุรุษท่านกำลังรอเจ้าอยู่ “
ทันใดนั้น หลี่ จางฉิง ก็พูดขึ้น
” บรรพบุรุษ เขาออกมาแล้ว ? หรือว่าเขาตัดผ่านเรียบร้อยแล้ว ? “
ชูเฟิงเชื่อมต่อคำพูดนั้นแล้วจึงถาม
” ฮ่าๆ ตอนนี้ท่านรอเจ้าอยู่ภายในหอคอยมังกรฟ้า ไว้เจ้าไปดูเองกับตาดีกว่า “
หลี่ จางฉิง ยิ้มพร้อมกับชี้ไปยังทางหอคอย
เห็นแบบนั้น ชูเฟิงไม่ได้ถามต่อ เพราะเขามองรอยยิ้มของเขา ชูเฟิงก็พอเดาได้ทันทีว่าผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าได้ทะลวงผ่านเข้าสู่อาณาจักร จ้าวแห่งสงคราม
และหลังจากที่ ชูเฟิง เข้ามายังหอคอยมังกรฟ้า เขาก็พบว่า ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ากำลังพักผ่อนขณะที่นั่งหลับตาอยู่ใจกลางลานหอคอย หลังจากที่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนเดินเข้ามา เขาก็รีบลืมตาขึ้น พร้อมกับระเบิดคลื่นพลังอำนาจที่รุนแรงออกไป
มันบอกได้เลยว่าพลังเขาน่ากลัวอย่างมาก แต่หลังจากที่ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าเห็นว่าคนที่เข้ามาคือ ชูเฟิง เขาก็รีบระงับพลังพร้อมกับจ้องมองและกล่าวกับชูเฟิงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
” ชูเฟิง เจ้ากล้บมาแล้ว “
” บรรพบุรุษ ยินดีกับท่านด้วยที่ทะลวงผ่านสุดยอดอาณาจักรพลังวิญญาณ จ้าวแห่งสงคราม ! “
ชูเฟิงรีบทำความเคารพ เพราะเขาพบว่า ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าได้ตัดผ่านอาณาจักรที่ยากได้สำเร็จ ตามที่เขาคาดเดาไว้
จากนั้น ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็พูดคุยกับ ชูเฟิง อยู่นานสองนาน สิ่งแรกที่พูดคุยกันคือเรื่องงานเปิดพิธีของสำนักมังกรฟ้า
ซึ่งการสร้างสำนักมังกรฟ้านั้นได้เสร็จสิ้นผ่านมาหลายวันแล้ว แม้แต่แขกเรือนจากทั่วทุกสารทิศก็เดินทางมาถึง เหตุผลที่พิธียังไม่เริ่มขึ้น เนื่องจากพวกเขารอ ชูเฟิง
เหตุผลที่สำนักมังกรฟ้าสามารถมีวันนี้ อีกทั้งได้ถือกำเนิดใหม่ก็เพราะ ชูเฟิง ซึ่งแม้แต่ ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าเอง ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจาก ชูเฟิง
ดังนั้น ทุกคนจึงได้แต่รอ ชูเฟิง ให้เขากลับมา พิธีเปิดจึงจะเริ่ม ดังนั้น ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าจึงตัดสินใจได้แล้วว่า พิธีเปิดจะเริ่มขึ้นวันพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการ
” เอ้อ ชูเฟิง ข้าได้ยินว่าเจ้าจะเดินทางไปยังภาคทะเลตะวันออก เพื่อเข้าสำนัก 4 คาบสมุทร พร้อมกับ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง งั้นหรอ ? “
ทันใดนั้นผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็ถามขึ้น
หลังจากได้ยินตำพูดของเขา ชูเฟิง ก็ชะงักไป เพราะมันใกล้วันที่พวกเขาได้ตกลงกันไว้ว่าพวกเขาต้องมุ่งหน้าไปยังภาคทะเลตะวันออก
แต่หลังจากได้ยินคำถามของผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ชูเฟิง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
” จริงๆแล้วข้านั้นเดินทางร่วมกับพวกเขาไปยังภาคทะเลตะวันออก แต่ข้าไม่คิดที่จะเข้าสำนัก 4 คาบสมุทร “
” อืม . . . . ไม่ว่าเจ้าจะเข้าสำนักสี่คาบสมุทรหรือไม่ แต่การไปที่ภาคทะเลตะวันออก เพื่อเปิดหูเปิดตาหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย โดยเฉพาะความสามารถของเจ้าที่มี สถานที่นั้นจึงเหมาะสำหรับเจ้า การเก็บตัวอยู่ใน 9 อาณาจักร รังแต่จะเป็นการปิดกั้นความสามารถของเจ้า “
” แต่ภาคทะเลตะวันออก เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่ามังกรและพยัคฆ์ และยังมีทวีปอีกตั้งมากมาย ซึ่งมันต่างกับ 9 อาณาจักรอย่างชิ้นเชิง และในแต่ละทวีปก็เต็มไปด้วยอัจฉริยะที่เก่งมาตั้งแต่เกิด และเป้าหมายของพวกเขาก็คงไม่พ้น ภาคทะเลตะวันออก “
” หากเจ้ากำลังคิดที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนั้น ก่อนออกเดินทาง ข้ามีขวัญชิ้นหนึ่งที่อยากจะมอบให้เจ้า “
ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ายิ้มเบาๆและกล่าว
: พระเครื่อง วัดพระบาทน้ำพุ!!! ตระกรุดกันกระสุน วัดไร่อ้อย หรือจะเป็น จัตุครามรามเทพ ปุกเสกโดยพระถัง
4 : บูชา สายศิลทักมือ ปุกเสกโดยวัดเส้าหลินตอนนี้ อัตมามีโปรโมชั่น บูชาสายศิล 1 เส้น แถมฟรี เครื่องรางห้อยคอ ปลุกเสกโดยหลวงจีน คง เกี่ยง ไม่ว่าที่ไหนรับรอง แคล้วคาด หากไม่รอดหรือตาย ยินดีคืนเงิน
: . . . . . . . . . . . . . . .
: มีแต่สายศิล มีสายวิทย์-คณิตไม๊หลวงพี่!!!
: เป็นไงมืง จ๋อยเลยดิ!!!
ที่มา: