I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 645 – ดินแดนตราประทับนิรันดร์

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 645 – ดินแดนตราประทับนิรันดร์

 

“หุบเขาสายหมอก ช่างวิเศษจริงๆ ศิษย์พี่เจียง ช่วยอธิบายให้ศิษย์น้องผู้นี้เข้าใจถึงมันยิ่งขึ้นหน่อย.”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิงก็อยากรู้เรื่องหุบเขาสายหมอกมากขึ้น

 

ก่อนหน้านี้เขารู้แค่เรื่องทั่วๆไป เช่นที่หุบเขาสายหมอกนี้ มีผู้เชี่ยวชาญเก็บตัวอยู่และยังมี 1 ในสาวงามของภูมิภาคทะเลตะวันออก ฉิว ชือ

 

แต่เมื่อมองดูสภาพในตอนนี้มันช่างแตกต่างยิ่งนัก ชูเฟิงจึงเข้าใจทันทีว่าทำไมที่นี่มันถึงเป็นสถานที่ที่พิเศษ เพราะเมื่อเขาได้รู้เรื่องหุบเขาสายหมอก จาก เจียงว่านชี เขาจึงรู้สึกว่ามันมีความลับอยู่ในที่แห่งนี้ “จริงๆแล้วข้าก็ไม่รู้อะไรมากหรอก ข้านั้นเพียงได้แต่ฟังอาจารย์มาบ้าง ที่แห่งนี้ไม่มีใครรู้เรื่องของมันมากนักหรอก พวกเขารู้แค่ว่ามันเป็นสถานที่พิเศษ และสามารถช่วยยืดชีวิตได้ นั่นเป็นเหตุให้ทำไมที่แห่งนี้ถึงแปลกประหลาดที่สุดในภูมิภาคทะเลตะวันออก””จากที่อาจารย์ของข้าได้บอกไว้ว่า หุบเขาสายหมอกนั้นเหมือนเป็นผนึกขนาดยักษ์ ที่ผนึกปีศาจไว้แต่บางครั้งก็มีเงาของป๊ศาจหลุดออกมา และก่อปัญหา””เงาของปีศาจก็คือเมฆสีดำที่เจ้าเห็นก่อนหน้านี้ พวกมันเป็นเพียงแค่เงาเท่านั้น และไม่สามารถออกจากหุบเขาสายหมอกได้ แต่ถ้าเราไม่สนมัน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะหลุดจากผนึกอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมที่หุบเขาสายหมอก ต้องมีผู้พิทักษ์””และผู้พิทักษ์นี้ อาจพูดได้ว่าถูกเลือกโดยหุบเขาสายหมอก และมีเพียงสตรีเท่านั้นที่จะได้รับตำแหน่งนั่น ในตอนนี้ผู้พิทักษ์ที่ว่าก็คือผู้อาวุโส เพียวเมี้ยวและข้ามั่นใจว่า ผู้พิทักษ์ในอนาคตย่อมเป็น 1 ในลูกศิษย์ของนาง,”

 

เจียง ว่านชือ พูด “มันช่างลึกลับเสียจริง แล้วใครคือผู้พิทักษ์คนแรกของหุบเขาสายหมอกล่ะ”

 

ชูเฟิง ถาม “ศิษย์น้อง หวู่ฉิง เจ้าถามว่าใครคือผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์คนแรกอย่างนั้นหรือ”

 

เจียง ว่านชียิ้ม.

 

ชูเฟิง เกาหัวของเขา แล้วพูดว่า”

 

ใช่แล้ว ข้าได้ฟังจากท่านแล้ว แม้ข้าจะยังไม่เห็นหุบเขาสายหมอกชัดๆ แต่ข้าก็รู้สึกว่าที่แห่งนี้นั้นไม่ธรรมดา””ถ้าเป็นอย่างที่ศิษย์พี่เจียงพูด หุบเขาสายหมอกความจริงแล้วคือรูปแบบผนึกขนาดยักษ์สินะ ดังนั้นข้าจึงมั่นใจว่าผู้ปกครองที่แห่งนี้ย่อมเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก หรือไม่ก็พวกเขาต้องแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าข้าไม่ได้ทราบชื่อของพวกเขาข้าต้องเสียใจไปนานเลย!”

 

ในตอนนั้น เจียง ว่านชือ ก็ส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดว่า”

 

หุบเขาสายหมอกนั้นมีอยู่มาหลายรุ่นแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้ปกครองหุบเขาสายหมอกคนแรก จากที่ข้าได้ยินมาหุบเขาสายหมอกมีจารึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนอยู่แสดงว่า หุบเขาสายหมอกย่อมมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ.””ยุคโบราณอย่างนั้นหรือ นั่นหมายความว่าหุบเขาสายหมอกนี่ช่างลึกลับจริงๆ ข้าชักอยากจะรู้เรื่องนี้มากขึ้นซะแล้ว.”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิงก็รู้สึกสนใจอย่างมาก “ไม่ต้องห่วง หุบเขาสายหมอกจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง.”

 

เจียง ว่านชือ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

 

หลังจากเดินทางด้วยความรวดเร็ว ชูเฟิงก็พบว่าพวกเขาได้เข้ามาพื้นที่ที่กว้างใหญ่และเป็นทะเลไร้ขอบเขตอีกครั้ง เมื่อคิดย้อนกลับไปเจียง ว่านชือ บอกว่าหุบเขาสายหมอกนั้นอยู่ไม่ไกลจากนี้ แต่ชูเฟิงไม่คิดว่ามันจะเป็นเกาะที่งดงามเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิงนั้นก็ได้รู้ว่าเขาคิดผิดมาตลอดเพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเมฆสีขาว

 

เมฆสีขาวนี้ปกคลุมพื้นที่ใหญ่และทำให้ดูงดงามมาก รูปร่างของมันนั้นมีหลายขนาดหลายรูปร่างแต่เมื่อดูแล้วมันคล้ายกับขนมสายไหม อาจพูดได้ว่านี่เป็นเมฆสีขาวที่สวยที่สุดที่เขาเคยเห็นมา

 

และหลังจากเคลื่อนตัวผ่านเมฆมาสักพักชูเฟิงก็ตกใจ อย่างมาก

 

ที่เขาตกใจก็เพราะเขาพบว่า บนเมฆที่ห่างออกไปนั้นมีเทือกเขาอยู่ เทือกเขานั้นไม่ได้สูงเสียดขึ้นมาบนเมฆสีขาว แต่มันตั้งอยู่บนเมฆสีขาวแทน

 

นอกจากนี้ เทือกเขานี้นั้นงดงามมาก เพราะมันมีภูเขานับไม่ถ้วนอยู่ข้างในและน้ำตกที่ไหลลงมา มันเหมือนมังกรน้ำที่เลื้อยลงจากภูเขาและเข้าสู่ก้อนเมฆ และมีรุ้งกินน้ำอยู่รอบๆ

 

และเมื่อชูเฟิงอยู่ใต้เมฆสีขาวนั้น เขาก็ไม่สามารถมองเห็นจุดที่น้ำตกไหลลงไปได้ชัดนั่นหมายความว่าน้ำตกนั้นไม่ได้ไหลลงสู่ก้อนเมฆ

 

ชูเฟิงนั้นเคยเห็นเกาะลอยมาก่อนหน้านี้ และเขายังเคยเห็นเกาะลอยมามากมายในทะเลโลหิตนิรันดร์

 

แต่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเทือกเขาลอย เขานั้นไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ารูปแบบเช่นใดที่ทำเช่นนี้ได้ เขารู้เพียงว่ามันเป็นรูปแบบที่ทรงพลังมาก ที่เขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้เรียนรู้มัน

 

และที่สำคัญที่สุดหุบเขาสายหมอกนั้นอยู่บนเมฆสีขาว ต่อมานั้นพวกเขาได้มาถึงจุดยอดของเมฆสีขาวและมองขึ้นไปชูเฟิงก็พบว่า บนนั้นยังมีเมฆสีขาวที่งดงามยิ่งกว่าอยู่บนนั้น

 

เมฆพวกนั้นลอยอยู่สูงมาก แม้ชูเฟิงจะสามารถบินได้ แต่ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้เขาไม่สามารถบินไปยังความสูงเช่นนั้นได้

 

นอกจากนี้ เมฆพวกนั้นลอยช้ามากๆ พวกมันค่อยๆลอยเอื่อยๆอยู่บนหุบเขาสายหมอก นั่นแสดงว่าเมฆพวกนี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติแต่อาจเกิดจากรูปแบบอำนาจวิญญาณที่ทรงพลัง

 

มันอาจพูดได้ว่าแม้เขาจะรู้เรื่องความพิเศษของหุบเขาสายหมอกมาก่อน แต่เมื่อเขามาเห็นกับสายตาของเขาเองแล้ว ชูเฟิงจึงรู้สึกว่านี่มันยิ่งกว่าที่เขาคิดเสียอีกซึ่งมันทำให้เขาพอใจอย่างมาก และความสงสัยของเขาก็ทวีขึ้นเช่นกัน “ทำไมมันถึงถูกเรียกว่าหุบเขาสายหมอกล่ะ จากที่ข้าเห็นมันน่าจะถูกเรียกว่าเทือกเขาลอยมากกว่า”

 

ชูเฟิงพูดเล่นอย่างขบขัน “ศิษย์น้องหวู่ฉิง เจ้าช่างมีอารมณ์ขันยิ่งนัก.”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของชูเฟิง เจียง ว่านชือก็หัวเราะออกมาจากนั้นเธอก็พูดว่า”

 

ความลึกลับของมันไม่ได้มีแค่นี้หรอกศิษย์น้องเจ้าเห็นว่าเมฆสีขาวอยู่ข้างบนใช่หรือไม่ เมฆนั่นและพื้นที่เราเหยียบอยู่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของรูปแบบฯแห่งหุบเขาสายหมอกเท่านั้น “เมฆสีขาวที่ลอยอยู่บนอากาศนั้นเกิดขึ้นจากอุณหภูมิที่ต่างกันตามเวลาที่แตกต่างกันไป นั่นหมายความว่าหุบเขาสายหมอกนั้นสามารถเปลี่ยนได้ถึง 4 ฤดู””แต่อาจพูดได้ว่าที่แห่งนี้ นั้นอบอุ่นตลอดทั้งปี เพราะมันมีฤดูร้อน ใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิปรากฏขึ้น แต่ฤดูหนาวนั้นความจริงแล้วมันไม่มีอยู่””การใช้รูปแบบวิญญาณสร้างฤดูกาลเช่นนี้ช่างน่าประทับใจเสียจริง”

 

เมื่อได้ยินเจียง ว่านชือพูด ชูเฟิงก็รู้ถึงความพิเศษของสถานที่แห่งนี้มากขึ้น และเขาจึงเข้าใจว่าทำไมที่แห่งนี้ถึงแปลกประหลาดที่สุดในภูมิภาคทะเลตะวันออก””จริงสิ! ศิษย์พี่เจียง หุบเขาสายหมอกไม่ได้เป็นที่อยู่ของแม่นางเพียวเมี้ยวหรอกหรือ ทำไมถึงมีผู้ฝึกตนอยู่มากมายเช่นนี้ล่ะ หรือว่าพวกเขาจะมาขอให้แม่นางเพียวเมี้ยวเป็นอาจารย์ให้ แต่จำนวนคนขนาดนี้จะไม่เยอะไปหน่อยหรือ”

 

ในตอนนั้นชูเฟิงก็ถามด้วยความสงสัย เพราะเขาเห็นผู้บ่มเพาะฝึกตนมากมายอยู่บนถนน และเมื่อมองไปที่ระดับของพวกเขาก็เห็นในกลุ่มนั้นมีหลายคนอยู่ในระดับจ้าวสงครามและมีเพียงส่วนน้อยที่อยู่ในระดับอาณาจักรสวรรค์นอกจากนี้พวกเขานั้นยังไม่มีใครน่าจะอายุเกิน 30 ปี นั่นทำให้ชูเฟิงสงสัยมาก

 

ในตอนแรกชูเฟิงคิดว่าพวกเขามาเพื่อมาขอให้แม่นางเพียวเมี้ยวเป็นอาจารย์ เพราะชื่อของนางนั้นยิ่งใหญ่มาก แต่เมื่อพวกเขาเข้าใกล้หุบเขาสายหมอก ชูเฟิงก็พบบางอย่างที่ไม่ปกติ

 

ว่ากันว่าจะมีสิ่งที่เรียกว่า”

 

มังกรในหมู่คน”

 

อยู่ด้วยอายุที่ยังเยาว์วัยแต่มีระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งในกลุ่มคนมักจะมีอัจฉริยะอยู่ด้วยเสมอแต่นี้มันช่างแปลกยิ่งนักเพราะที่แห่งนี้นั้นมีบุคคลแบบนั้นมากเกินไป “โฮะโฮะ.”

 

เจียง ว่านชือหัวเราะพร้อมเอามือปิดปากตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของชูเฟิง จากนั้นเธอก็ตอบเขาว่า”

 

ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหวู่ฉิงจะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับภูมิภาคทะเลตะวันออกจริงๆสินะ””ศิษย์พี่ เจียง มีอะไรอย่างนั้นหรือ”

 

ชูเฟิงถามขึ้นด้วยความสงสัย “พวกเขามารวมตัวกันที่นี่เพื่อเข้าสู่ ดินแดนตราประทับนิรันดร์ยังไงล่ะ!”

 

เจียง ว่านชือพูด

 

ReaDMGA///////////////////////////////////////////////////A : นี้ไงล่ะ! งานเทศกาลที่เราพูดถึง มันคือการล่าตราประทับนั้นเอง ลักษณ์ของมันน่าจะอธิบายไว้ในเนื้อเรื่อง แต่ขอบอกเลย ใช่ว่าใครจะจับมันได้ง่ายๆ ขนาด มู่หรง ซุน อัจฉริยะ อันดับ 1 ยังจับได้ ร้อย ไม่เกิน สองร้อย

 

B : มันมีช่วงน่าหมั่นไส้อยู่ด้วย พี่เฟิงไม่บอกใครนะว่าตัวเองมีเนตรสวรรค์ แต่บอกว่าเค้ารู้วิธีล่าตราประทับ แต่กับไม่มีใครเชื่อ นำซ้ำยังโดนดูถูก ด่าทอ สาดเสีย เถเสีย

 

A : มันเปนใครว่ะ!!!

 

B : บอกไม่ได้!!! แต่งานนี้พี่เฟิงจะเปิดตำนานบทแรกของ หวู่ฉิง ณ. ทะเลตะวันออก งานนี้ได้ตะลึงทั้งอาณาจักร!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments