ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 668 – ผลการต่อสู้
“หวู่ฉิง !! ข้า จู เทียนหมิง จะฉีกเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น !!”
หลังจากได้รับความอัปยศต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ จู เทียนหมิง ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับหยิบยาขึ้นมาในฝ่ามือ
ยาเม็ดนี้มีสีหมุนอยู่รอบๆ มันถึงสามสี คือ สีดำ สีขาว และสีม่วง อีกทั้งมันยังปลดปล่อยพลังแปลกๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง “ยาต้องห้ามสามวิญญาณ !!”
เมื่อทุกคนเห็นยานั้น ทุกนต่างตกตะลึงอย่างมาก ยาต้องห้ามนั้นจะแข็งแกร่งตามสีของมัน
ยักษ์ขาว-ดำ นั้นเป็นยาต้องห้ามสองสี มันสามารถทำให้ขีดพลังของผู้เชี่ยวชาญจ้าวสงครามเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ในมือของ จู เทียนหมิง ตอนนี้คือยาต้องห้ามสามสี หากเขากินมันเข้าไป พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงระดับสี่ ได้อย่างง่ายดาย
***** ฝุ่บ *****
หลังจาก จู เทียนหมิง หยิบยาขึ้นมาแล้วนั้น เขาก็กินมันเข้าไปในทันที พลันออร่าสีดำ สีขาว และสีม่วง ก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรง
***** ฮู่วววววว ฮู่ววววววว *****
ออร่าพลังทั้งสามสีนั้นเปรียบได้กับเปลวเพลิงที่บุกไหม้อยู่ภายในร่างกายของเขา ไม่เพียงแต่มันส่งพลังมหาศาลออกมาเท่านั้น มันยังสามารถสมานบาดแผลของเขา ในตอนนี้ พลังของยาต้องห้ามสามสีได้ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน “ท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา !! นี่เป็นเพียงการประลองของเด็กเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเข้าแลกด้วยชีวิตเช่นนี้ !!”
แม่เฒ่า หวู่กง กล่าวเตือน หวู่หยา “มันเป็นเพราะเจ้าเด็กเหลือขอ หวู่ฉิง ที่เรียกร้องให้เดิมพันด้วยชีวิตเช่นนี้ !!””ถ้าต้องการให้ข้าหยุด เทียนหมิง นั่นเท่ากับว่าข้าต้องยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนั้นรึ !! ถ้าหาก หวู่ฉิง ไม่เลือกเดิมพันด้วยชีวิต เทียนหมิง ก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับความกดดันเช่นนี้ !!”
หวู่หยา กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา พร้อมกับจ้องไปที่ แม่เฒ่า หวู่กง อย่างเย็นชา เพราะเขาไม่ชอบที่นางกล่าวขึ้นในก่อนหน้านี้ “ใช่ !! นั่นคือความจริง แต่ศิษย์ของท่านมีพลังถึงระดับสาม และคู่ประลองของเขามีพลังเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น นี่ก็เท่ากับผู้แข็งแกร่ง รังแกผู้อ่อนแอ แต่นี่เขากลับกินยาต้องห้ามสามวิญญาณไปอีก ถึงแม้ว่าเขาจะชนะ มันก็ไม่ใช่ชัยชนะที่ควรจะภาคภูมิใจ !! รีบห้ามเขาเร็วเข้า !!”แม่เฒ่า หวู่กง กล่าวกระตุ้น “ผู้ชนะคือจ้าว ผู้แพ้คือโจร ยาต้องห้ามสามวิญญาณเป็นของ เทียนหมิง หาก หวู่ฉิง มี เขาก็สามารถใช้มันได้อย่างอิสระ !! อย่าว่าแต่ยาต้องห้ามสามวิญญาณเลย แม้แต่ยาต้องห้ามสี่วิญญาณ ข้าก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆ แต่ข้าเกรงว่าเขาจะไม่มีมันมากกว่า !!”
หวู่หยา กล่าวออกมาอย่างเย็นชา ในตอนนี้เขาได้สูญเสียเหตุผลทั้งหมดในการเจรจาไปแล้ว “เจ้า…… !!”
แม่เฒ่า หวู่กง ไม่พอใจต่อ หวู่หยา อย่างมาก แต่นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ “ทุกคน !! หวู่ฉิง ต้องการต่อสู้โดยแลกชีวิตกับลูกศิษย์ของข้า ข้าแนะนำว่าอย่าได้สอดมือเข้าไปยุ่งเด็ดขาด !!”
นอกจากเขาจะไม่ห้าม จู เทียนหมิง ในการใช้ยาต้องห้าม เขายังลุกขึ้นและข่มขู่ไม่ให้ผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือ ชูเฟิง “ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ กระบี่ทะลายนภา !!”
ชูเฟิง สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของ จู เทียนหมิง มันดูคล้ายกับการกระทำของ จู ตี่กวง ในก่อนหน้านี้ แต่พลังที่แผ่กระจายออกมานั้นแข็งแกร่งผิดกันอย่างมาก
***** ฝุ่บ *****
เมื่อเห็น จู เทียนหมิง กำลังจะใช้กระบี่ทะลายนภานั้น ชูเฟิง ไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด เขากลับพุ่งทะยานไปในอากาศตรงเข้าหา จู เทียนหมิง อย่างรวดเร็ว “หึ รู้ว่า เทียนหมิง กำลังจะใช้กระบี่ทะลายนภาเลยต้องการจะหยุดเขาเช่นนั้นรึ !! เจ้าปัญญาอ่อนหรือเปล่า !! เจ้าคิดว่า เทียนหมิง มีพลังเท่ากับ ไต้กวง เช่นนั้นรึ !! ข้าจะบอกเจ้าให้เอาบุญ พลังของกระบี่ทะลายนภาสามารถฆ่าเจ้าได้โดยเหลือซากแม้แต่น้อย !!”
ในเวลานั่น เสียงตะโกนของ หวู่หยา ก็ดีงขึ้นมาจากด้านล่าง ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “หน้าด้านจริงๆ !!”
ชุน หวู่ และคนอื่นๆ ต่างกัดฟันด้วยความกราดเกรี้ยว เมื่อพวกเขาได้เห็นการกระทำของ หวู่หยา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะ หวู่หยา แข็งแกร่งอย่างมาก และในตอนนี้นายหญิง เพียวเมี้ยว ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ แม้ว่าพวกเขาจะโกรธแค้นมากเท่าไร พวกเขาก็ไร้พลังที่จะสามารถทำอะะไรได้ “เข้ามา !! ให้ข้าได้เห็นความแข็งแกร่งของกระบี่ทะลายนภาของเจ้า !!”
แม้ว่า หวู่หยา จะตะโกนเย้ยหยันออกมานั้น แต่ ชูเฟิง ก็ไม่ใส่ใจเขาแม้แต่น้อย เขาไม่ได้ชลอความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเพิ่มความเร็วขึ้น อีกทั้งยังกล่าวเย้ยหยัน จู เทียนหมิง ออกไป
พวกเขาทึกคนไม่ผู้ใดที่สามารถเข้าใจ ชูเฟิง ได้ พวกเขาต่างคิดว่า ชูเฟิง ต้องการฆ่าตัวตาย ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะสังเกตว่าขวานอสูรฟ้าในมือของ ชูเฟิง ได้หาย และถูกแทนที่ด้วยพละงที่แข็งแกร่งบนฝ่ามือของเขา “ฮ่าๆ !! เจ้ากล้าดี หากเจ้าไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ต่อ ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเอง !!”
หลังจาก จู เทียนหมิง กินยาต้องห้ามเข้าไปนั้น เขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก เขาคิดเพียงแค่ว่า ชูเฟิง รนเข้ามาหาที่ตายเท่านั้น เขาชี้ปลายดาบสีทองของเขาเข้าหา ชูเฟิง พลันพลังงานมหาศาลก็พุ่งไปยัง ชูเฟิง มันมันยังไม่เป็นรูปร่าง แต่มันก็คือทักษะ กระบี่ทะลายนภา อย่างแน่นอน “ข้าจะให้เจ้าได้เห็นทักษะของข้า !!”
ในเวลานั้น ชูเฟิง ยิ้มหยันออกมา พร้อมกับปล่อยพลังในฝ่ามืออกไป พลังเกิดเสียงคำรามดังกึกก้อง เส้นพลุงสีดำพุ่งออกจากฝ่ามือของเขา มันคือทักษะ พยัฆค์ขาวสังหาร
***** ตูม *****
ในขณะที่ ชูเฟิง และ จู เทียนหมิง เริ่มเข้าใกล้กันนั้น ทักษะกระบี่ทะลายนภา และทักษะพยัฆค์ขาวสังการก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง
หลังจากการปะทะนั้น คลื่นพลังงานก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง คลื่นพลังงานนั้นปกคลุมไปทั่วยอดหุบเขาอย่างรวดเร็ว หากไม่มีเหล่าผู้อาวุโสป้องกันไว้ งานเลี้ยงคงจะพังพินาศย่อยยับ
ถึงแม้ว่าจะมีรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเหล่าผู้อาวุโสป้องกันเอาไว้นั้น ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่รุนแรง แม้ว่าการต่อสู้ของ ชูเฟิง และ จู เทียนหมิง จะไม่ใช่การต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญระดับสี่ แต่คลื่นพลังที่ส่งออกมานั่นก็รุนแรงอย่างมาก
ในที่สุด คลื่นพลังงานที่ระเบิดออกมานั้นก็ค่อยหายไป ฝุ่นควันค่อยบางลงอย่างช้าๆ
เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมนั้น คนที่อยู่บนยอดเขาต่างพูดอะไรไม่ออก พวกเขาสามารถเห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง ยังคงยืนอยู่บนอากาศ เสื้อผ้าของเขาถูกทำลาย ร่างกายมีบาดแผลเล็กน้อย ใบหน้าของเขาขาวซีด แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่บนอากาศได้
แต่ทางด้าน จู เทียนหมิง นั้น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล และอาบไปด้วยเลือด ในตอนนี้ เขาได้ถูกจัดการโดย ชูเฟิง ผลการปะทะในครั้งนี้ได้ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน “ทักษะที่ หวู่ฉิง ใช้แข็งแกร่งอย่างมาก มันน่านะเป็นทักษะต้องห้ามซินะ !!””มันไม่ใช่ทักษะต้องห้ามธรรมดา แต่มันอาจจะเป็นทักษะเร้นลับในตำนาน !!””อะไรนะ !! ทักษะเร้นลับ !!” “อืม……ไม่เพียงแค่นั้น ทะกษะเกราะป้องกันที่เขาใช้ในก่อนหน้านี้กับ จู เทียนหมิง ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นทักษะเร้นลับเช่นกัน !!”ในขณะนั้น บางคนในพื้นที่รู้จักทักษะพยัฆค์ขาวสังหาร “จริงรึ !! ผู้ที่มีทักษะเร้นลับเพียงหนึ่งทักษะก็โดดเด่นอย่างมากแล้ว แต่เด็กคนนี้กลับมีถึงสองทักษะ !!””นี่หมายความว่าตระกูลของเขาไม่ธรรมดา และอาจารย์ของเขาย่อมจะแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน !!”
ReadMGA /////////////////////////////////////////////////// A : เด๋วได้รู้แน่ ว่าจารย์พี่เฟิงเป็นใคร!!!
B : เหยียบไว้ก่อน ลูกพี่ แค่ 2 ทักษะเร้นลับ ก็โวยวายแตกตื่น ยังมีอีก 1 นะพี่ ส่วนอีก 1 ฝากไว้กับอาจารย์
C : อย่าพล่ามเยอะ กูกำลังมันส์
B : ลาบแซบ!!!
A : เด๋วมืงได้แดก ลาบเลือด ให้ไวเลย
B : มืงเริ่มคนแรกเลย กูว่าจะเงียบไม่พูดไรล่ะ