ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“นี่…”
ในตอนนั้นเจียง หวูชาง ก็ลังเล เขาไม่รู้ว่าควรจะรับดีหรือไม่ จึงส่งสายตาไปยังชูเฟิง และ จาง เทียนยี่
“น้องชาย หวูชาง รับไว้เถิด เจ้าก็แค่ตอบแทนพวกเขาในอนาคตก็พอ.”
ชูเฟิง ยิ้ม เขานั้นยอมรับของจากผู้อื่นและใช้คืนเสมอ ถึงแม้ว่า ยู่ เห้อ จะคิดไม่ดีกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม ยู่ เห้อ ก็เคยช่วยเขามาในก่อนหน้านี้
สำหรับคนอื่นๆ ที่ยู่ เห้อ พามานั้นพวกเขาสนิทกันมากและสนิทกับ ยู่ เห้อด้วย จึงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะรับผลประโยชน์ไว้
หลังจากได้ฟังคำพูดชูเฟิง เจียง หวู่ชางก็ไม่ลังเลและรับของขวัญมา
“อ่า ขอบคุณมาก ศิษย์น้องชูเฟิง ขอบคุณมาก ศิษย์น้อง หวู่ชาง!”
เห็นเช่นนั้น ชูเฟิงและคนอื่นๆก็ไม่ได้พูดอะไร ให้เจียง หวู่ชาง รับของต่อไป ยู่ เห้อ และเพื่อนเมื่อให้ของขวัญก็กล่าวขอบคุณ ระดับความหน้าด้านของพวกเขานี่สูงจริงๆ
“ซู รู่ว ซู เหม่ย!”
“เจียง หวู่ชาง จาง เทียนยี่ เจ้าอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
แต่ทันทีที่รับของขวัญเสร็จ ก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังมาจากข้างนอก
มันก็เหมือนกลุ่มก่อนหน้านี้ เป็นกลุ่มคนที่มาเพื่อมอบของขวัญแก่พวกเขาและหวังจะเป็นมิตรกับพวกเขา
แต่ เจียง หวู่ชาง และคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ตอบรับของขวัญจากพวกเขา เหตุผลนั้นง่ายมากเพราะเมื่อเห็นเขาได้ดี ก็เลยจะมาประจบเพื่อ หวังพาให้พวกเขาเจริญก้าวหน้า
มีคนหลายกลุ่ม เข้ามาหาพวกเขา แต่พวกเจียง หวู่ชาง นั้นไม่สามารถทนไหว เพราะพวกเขาคะยั้นคะยอ จึงไม่ง่ายที่จะปฏิเสธ
ซึ่งมันทำให้ชูเฟิงและคนอื่นๆรำคาญมาก แต่พวก ยู่ เห้อ ก็พึงพอใจอย่างมาก
มันไม่ใช่การมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น แต่เป็นเพราะ พวกเขารู้สึกดีที่พวกชูเฟิงยอมรับของขวํญ
แม้ว่า สถานะในสำนัก 4 สมุทรจะไม่สูง แต่มันก็ดีกว่าที่เป็นอยู่
คนอื่นๆที่เข้ามานั้นถูกปฏิเสธ แต่พวกยู่ เห้อ กับยอมรับของขวัญ
แม้พวกเขาจะไม่ต้องการโอ้อวดตัวเองแต่ก็ไม่สามารถทนได้ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตนเหนือกว่าชาวบ้าน
“ศิษย์น้อง ในตอนนี้ชื่อเสียงของเจ้าโด่งดังอย่างมาก มีคนมากมายต้องการจะคบมิตรกับเจ้า.”
“เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆหรอก ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถได้หลับอย่างสบายในคืนนี้ ถ้าอย่างนั้นให้ข้าพาพวกเจ้าไปที่อื่นดีหรือไม่”
ยู่ เห้อ รีบเสนอความคิดทันที
“โอ้ว ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ ท่านสามารถหาสถานที่ที่สงบให้พวกข้าพักผ่อนได้จริงๆหรือ พวกเราจะไม่ถูกพวกเขารบกวนอีกแล้วใช่หรือไม่”
เจียง หวู่ชางพูดขึ้น เขานั้นไม่ต้องการถูกรบกวนจึงต้องหาสถานที่เงียบๆเพื่อพักผ่อน
“นั่นมันง่ายมาก เพราะพวกเจ้าถูกจดจำว่าอยู่ในที่แห่งนี้ แน่นอนมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะหาพวกเจ้า แต่ถ้าเจ้าย้ายไปอยู่ในสถานที่ของข้านั้น พวกเขายังไม่สามารถหาพวกเจ้าเจอ.”
ยู่ เห้อ พูด
“ท่านไม่ลำบากเอาหรือ”
ชูเฟิงถาม เขากลัวว่ายู่ เห้อ จะถูกคนเหล่านั้นรบกวน
“ไม่ต้องกังวล ที่ของข้าแม้จะไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก มันไม่ใช่บ้านโล่งๆมันมีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมดีมากมีทั้งภูเขา ลำธาร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกตามข้ามาเถิด.”
ยู่ เห้อ เอากำปั้นทุบหน้าอกตัวเองเบาๆเพื่อการันตี
เห็นเช่นนั้น พวกชูเฟิงก็ไม่รอช้า รีบเก็บข้าวของตาม ยู่ เห้อไป
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ไป พวกเขาก็พบว่า มีคนกำลังบินอยู่บนฟ้าอยู่ และมุ่งหน้าไปที่ใจกลางของเมือง
เมื่อเห็นว่าใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ชูเฟิงจึงคิดว่าต้องมีเรื่องดีดีแน่นอน
“ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ คนพวกนั้นไปไหนกันหรือ”
ชูเฟิงถามด้วยความสงสัย
“อ๊า ทุกปีนั้น ใจกลางเมืองจะมีการจัดงานประมูล หากเจ้ามีสมบัติ ก็สามารถขายมันออกไปในราคาที่สูงได้.”
“แน่นอนว่า การประมูลนั้นถูกจัดขึ้นโดย สำนักสี่สมุทร และจะต้องจ่ายค่าดำเนินการด้วย.”
“ศิษย์น้องชูเฟิง เจ้ามีของที่ต้องการปล่อยประมูลอย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าสามารถใช้สถานะของศิษย์น้องทั้ง 2 ในการปล่อยของได้ และจะไม่มีการเก็บค่าดำเนินการใดๆเพราะสถานะพวกเขา.”
ยู่ เห้อ พูด
“มีคนหลายคนต้องการมาที่นี่ทุกปี พวกเขาต้องการนำของบางอย่างมาปล่อยประมูล ถ้าพวกเขาไม่เข้าร่วมสำนักสี่สมุทรแล้ว พวกเขาก็ต้องมาเพื่องานประมูลอย่างแน่นอน.”
“หากเจ้าสนใจ ก็อย่าได้รอช้า ไอดูให้เห็นกับตา เพราะงานประมูลนี้มีแค่ 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น นับว่าเป็นงานหายาก แม้แต่ศิษย์และผู้อาวุโสจากสำนักสี่สมุทรก็มาเช่นกัน.”
ยู่ เห้อ พูด
“จริงหรือ!!”
“ชูเฟิง งานนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ เราไปดูกันเถิดมันยังมีเวลาอีกนาน ทำไมเราไม่ไปดูก่อนล่ะ”
เมื่อได้ยิน เช่นนั้น ซู เหม่ย ก็มาเขย่าแขนชูเฟิง และชวนชูเฟิงไป
“อื้ม ข้ามีบางอย่างที่อยากจะนำไปขายจริงๆ ต้องลำบากท่านแล้ว ศิษย์พี่ ยู่ เห้อ.”
ชูเฟิงพูดและยิ้มบางๆ เมื่อคิดย้อนไป นอกจากทรัพยากรบ่มเพาะแล้ว ชูเฟิงยังได้สมบัติมาจาก ราชวงศ์ จีอีกด้วย มันเป็นสมบัติที่ราชวงศ์จี เก็บสะสมมากว่าพันปี
ตอนแรกเขาจะใช้สมบัติแลกกับทรัพยากรบ่มเพาะจากผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า และ บรรพชนราชวงศ์เจียง แต่พวกเขานั้นยกให้ชูเฟิงและไม่เอาสมบัติชูเฟิงไป ดังนั้นสมบัติเหล่านั้นจึงอยู่ที่ชูเฟิงครบ
นอกจากนี้ เขาไม่ได้ใช้พวกมันเลย จึงคิดว่าขายไปน่าจะดีกว่า เปลี่ยนเป็นทรัพยากรบ่มเพาะมา เผื่อได้ใช้ยามฉุกเฉิน และแบ่งให้กับ ซู รู่ว ซูเหม่ย จางเทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
หลังจากตัดสินใจ พวกชูเฟิงก็ไปสถานที่จัดประมูล มันเป็นพื้นที่ 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่และในสี่เหลี่ยมนั้งมีผู้คนมากมายมาจากหลายทิศทาง เพื่อมาร่วมประมูล และขายสมบัติออกไป
และในใจกลางของ 4 เหลี่ยม เป็นเวทีหรูหราขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่า เนื่องจากยังไม่มีการประมูลเกิดขึ้น ส่วนด้านนอกก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการจะเข้าไป
拍賣āà ประมูล
: จะขายได้เงินเท่าไหร่กันหน้อ ???
: ไม่รู้แต่ของที่ชูเฟิงใช้ประมูล ไม่ใช่หน่วยเงินตำลึงหรือชั่งในการซื้อ แต่เป็น โอสถสวรรค์วิญญาณเท่านั้น
: ชูเฟิง จะประมูลได้อะไรดีๆไม๊เนี่ย!!!
4 : อยากรู้ก็ต้องตามไปอ่านเอาในตอนหน้า
ที่มา: