ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป*ตูม ตูม ตูม*
เสียงระเบิดได้ดังก้องไปหลายไมล์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหย่า เฟย กับ อสูรตัวนั้น ปะทะกันรุนแรงแค่ไหน
“เจ้าอสูรตัวนี้ทำข้าเสียเวลามากว่า 2 ชั่วยามแล้ว ถ้าข้ายังไม่สามารถปราบมันได้ และข่าวนี้แพร่ออกไป ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ข้าไม่สามารถปล่อยให้มันยืดเยื้อได้อีกแล้ว ต้องรีบจบมันให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นคงเป็นข้าที่จะแย่!”
ทันใดนั้นแววตาของหย่า เฟย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มือความของเธอกำดาบแน่น มือซ้ายของเธอเริ่มทำอะไรบางอย่าง และต่อจากนั้นก็เกิดกลิ่นอายรอบตัวเธอ สักพักมันก็กลายเป็นแสงหมุนวนรอบตัวเธอ
พลังของหยา เฟย เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนนั้นมันพุ่งไปเกือบถึงระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม
“ทักษะต้องห้ามชั้นบาดาล คมกระบี่ลวงตา!”
ในตอนนั้น หย่า เฟย ตะโกนเสียงดันลั่น จากนั้นกระบี่สีชมพูในมือเธอ ก็ปรากฏแสงขึ้นจากนั้นจากนั้นเธอก็เหวี่ยงมันลงและก็มีแสงสีขาวฟาดลงมาดัง ตู้ม
ความเร็วของแสงสีขาวนั้นรวดเร็วมาก และพื้นที่ของมันก็ครอบคลุมพื้นที่กว้าง ถ้ามองมาจากไกลๆ ก็เห็นว่ามันราวกับเป็นแสงศํกดิ์สิทธิ์ที่ส่งตรงมาจากสวรรค์ แต่ถ้าดูดีดีจะเห็นได้ชัดว่ามันมีรูปร่างของกระบี่ที่ใหญ่มาก
*โฮกกกก*
ในตอนนั้น อสูรตัวนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว มันจึงรีบ พุ่งลงสู่ทะเล
ในตอนนั้น คลื่นทะเลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในตอนแรกน้ำทะเลสีแดงนั้นหมุนวนเป็นนำวนแต่ตอนนี้คลื่นนั้นมันได้แปลงเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่คล้ายกับกระดองเต่าครอบคลุมพื้นที่อยู่
*ตูม* ในที่สุดกระบี่นั่นก็ตกลงมา และ เกิดเสี่ยงดังสนั่น น้ำทะเลเกิดการกระจายไปทั่วทุกที่ เห็นได้ชัดว่าการป้องกันของอสูรนั่นถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย
“ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ข้าไม่เคยเห็นทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน หรือว่ามันจะเป็นทักษะระดับ 9” ชูเฟิงตกใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของ หย่า เฟย
“ไม่ใช่นี่ไม่ใช่ทักษะระดับ 9 แต่เป็นทักษะต้องห้าม ,” ต้านต้านพูด
“ทักษะต้องห้ามอย่างนั้นหรือ!” ชูเฟิงได้ยืนเช่นนั้นเขาก็ตกใจ เขาเคยได้ยินแต่ วิชาลับต้องห้ามแต่ตอนนี้ได้รู้ถึงอีกอย่างนึงเขาจีงถามไปว่า. “ต้านต้าน เจ้าพูดอะไร เจ้าจะบอกว่ามันเหมือนกับวิชาลับต้องห้ามอย่างนั้นหรือ”
“ไม่!!! แม้ว่า ทั้ง 2 จะถูกตราว่าต้องห้ามเหมือนกัน แต่มันก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
“ทักษะนั้น ไม่ใช่พลังที่มาจากร่างกาย แต่มันใช้พลังของโลกหรือธรรมชาติในการสร้างความสามารถที่วิเศษ ดังนั้นมันจึงมีข้อจำกัด และระดับ 9 ถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะพลังจากระดับ 9 นั้นมันเริ่มมีผลกระทบต่อผู้ใช้ อาจทำให้บาดเจ็บและตายได้”
“ดังนั้น ทักษะที่เหนือกว่าระดับ 9 จึงถูกตั้งว่าเป็นทักษะต้องห้าม เพื่อบอกเหล่ามนุษย์ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่จะไม่ยุ่งกับทักษะพวกนี้”
“และในทักษะต้องห้ามนั้นก็มีระดับที่แตกต่างกันไป”
“ที่ข้ารู้ก็มี 4 ชั้นตามลำดับ บาดาล พสุธา นภา สวรรค์”
“ก่อนหน้านี้ หยา เฟย ได้ตะโกนมากว่าเป็นทักษะต้องห้ามชั้นบาดาล นั่นหมายความว่าสิ่งที่เธอใช้ย่อมเป็นทักษะต้องห้าม มันไม่แปลกหรอกที่จะมีทักษะต้องห้ามในที่แบบนี้ โดย เฉพาะอัจฉริยะอย่างเธอที่เกิดในตระกูลมหาอำนาจ”
“หลังจากที่ได้ดูความสามารถของมันแล้วข้ามันใจได้เลยว่ามันเป็นทักษะต้องห้ามแน่นอน,”ต้านต้านพูดขึ้น
“ต้านต้าน จากที่เจ้าพูดไม่ได้หมายความว่าทักษะต้องห้ามนั้นจะส่งผลกระทบไม่ใช่หรือ มันนานแค่ไหนก่อนที่ผลกระทบนั่นจะเกิดขึ้น” ชูเฟิงนั้นค่อนข้างฉลาด เขาเข้าใจเรื่องทักษะต้องห้ามทันที แต่เขานั้นก็ต้องการยืนยันเริ่มผลกระทบจากมัน
อย่างไรก็ตาม ทักษะต้องห้ามนั้นก็ย่อมมีผลกระทบมาสู่ผู้ใช้ ดังนั้น ถ้าอสูรตัวนั้นสามารถป้องกัน ทักษะของหย่า เฟย ได้ หลังจากหย่า เฟยใช้ มัน เธอต้องแพ้มันแน่นอน
“ผลกระทบของทักษะต้องห้ามนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะเป็นระดับที่ต่ำสุดอย่าง ชั้นบาดาล ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“แต่ถ้าเจ้าต้องการใช้ทักษะต้องห้ามและเจ้าต้องการลดผลกระทบ ก็พอจะมีอยู่ 2 วิธี”
“สิ่งแรกคือ ความรู้ความเข้าใจในทักษะนั้น ถ้าเจ้าเข้าใจมันมากเท่าไหร่ เจ้าก็สามารถลดความรุนแรงของผลกระทบได้ “
“ประการสองคือ ใช้ทรัพยากรหรือพลังจากบางอย่างในการใช้ทักษะนั้น ถ้าเป็นวิธีนั้นแม้จะมีผลกระทบแต่ก็ไม่รุนแรงนัก”
“หย่า เฟย คนนี้ฉลาดมาก เธอเลือกใช้วิธีที่ 2 เธอใช้ ยุทธภัณฑ์ พิเศษในมือเพื่อใช้ทักษะต้องห้าม”
“การกระทำเช่นน้นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สามารถใช้ทักษะต้องห้ามได้ด้วยตัวเอง จึง ใช้พลังของยอดยุทธภัณฑ์ในการช่วย แต่นั้นเป็นการใช้เพื่อลดผลกระทบที่เธอได้รับ,” ต้านต้าน พูด
*ตูม ม ม ม ม*
*ตูม ม ม *
*ตูม*
ในขณะที่ทั้ง 2 กำลังคุยกัน หยา เฟย ก็ไม่ได้หยุดการโจมตี เธอโจมตีอย่างต่อเนื่อง และ กระบี่สีขาวอันอื่นก็พุ่งตรงมาจากต้องฟ้า
ทุกครั้งที่ดาบนั้นปรากฏมันก็ส่องแสงราวกับพระอาทิตย์ และราวกับทำให้ให้โลกนั้นเกิดแสงขึ้นมา นอกจากนี้ เมื่อมันลงมาก็เกิดคลื่นลมกระจายอย่างบ้าคลั่งพุ่งลงมาด้วย
เห็นได้ชัดว่า อสูรตัวนั้นไม่สามารถต่อต้านทักษะต้องห้ามได้ และ หย่า เฟยเองก็ไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้หนี เธอยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่อสูรมันทำได้ก็มีเพียงแต่ต้องป้องกัน และพลังของมันก็หมดลงเรื่อยๆ
*ตูม* ในที่สุดเสียงระเบิดอย่างอื่นก็ปรากฏขึ้น มันคือเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่ระเบิดออกมา ก่อให้เกิดน้ำพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับคมดาบ และมันก็ตกลงมา อสูรตัวนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดก่อนหมดสติไป
“ฮึ่ม เจ้าไม่ธรรมดาทีเดียว ที่สามารถรับมือข้าได้ถึงเพียงนี้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าต้องมาตายในมือข้า “
“ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าเป็นอสูรแบบไหน.” เมื่อเห็นว่าตนประสบความสำเร็จในการเอาชนะอสูรนั่น มุมปากของเธอก็ยกขึ้น
แต่เธอก็ไม่ได้โจมตีมันต่อและใช้ทักษะต้องห้ามนั้นเพื่อฆ่าอสูร แต่เธอสะบัดมือของเธอและนั่นทำให้เกิดพลังไหลออกมา เพื่อดึงอสูรออกมาจากทะเล
“แย่แล้ว!!! ข้าไม่สามารถให้เธอหรือใครแตะต้องมันได้” ในตอนนั้นชูเฟิงก็ต้องตื่นตระหนก เพราะเขายังไม่รู้ว่าเจ้าอสูรตัวนั้นเป็นใคร เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้มันตกอยู่ในมือ หย่า เฟย ได้
ที่มา :