ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“เป็นไปได้อย่างไรรูปแบบของ เซว่ เจียนถูกทำลายอย่างนั้นหรือ”
เมื่อเห็นภาพนี้ เกือบทุกคนต้องตกใจอย่างมาก จนอ้าปากค้าง
“เกิดอะไรขึ้น เห็นอยู่ชัดๆว่ามันเป็นรูปแบบสีฟ้า ทำไมมันถึงกลายเป็นรูปแบบสีม่วงได้ล่ะ”
“แล้ว มือยักษ์นั่นมันอะไรกัน ทำไมมันถึงทำลายรูปแบบของเจ้าสารเลวน่ารังเกียจนั่นได้อย่างง่ายดาย!”
ในตอนนั้น ซุน ยี่หานและคนอื่นๆก็ต้องเบิกตากว้าง ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความตกใจ
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีฝีมือถึงขนาดนี้ เขาสามารถวางรูปแบบวิญญาณ ที่ต่างกัน 2 แบบซ้อนกันได้ มันช่างลึกล้ำจริงๆ ขนาดที่ว่าสามารถหลอก เซว่ เจียนได้”
เจียง ว่านชือ มองรูปแบบที่ชูเฟิงวางไว้อย่างละเอียด เธอรู้ว่าเขาต้องใช้กลลวง แต่ไม่รู้ว่ามันจะแนบเนียนขนาดนี้ แม้แต่เธอก็ยังต้องตกตะลึงตามคนอื่นๆไป
“ศิษย์พี่ ท่านหมายความว่าอย่างไร อย่าบอกนะว่าเขาเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง”
หลังจากได้ยินคำพูดของ เจียง ว่านชือ ซุน ยี่หาน และคนอื่นๆถึงกับหน้าถอดสี เพราะก่อนหน้านี้พวกเธอได้ดูถูกชูเฟิงไว้มากและไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ
“อืม ไม่ใช่แค่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงเท่านั้น ด้านความสามารถเขายังเหนือกว่าข้า และ ยังเหนือกว่า เซว่ เจียนด้วยซ้ำไป.”
เจียง ว่านชือตอบ
“สวรรค์ เขาช่างแข็งแกร่งจริงๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นศิษย์หญิง ทั้ง 9 รวมทั้ง ซุน อี้หาน ก็ไม่สามารถทำใจสงบได้ ดวงตาของพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกใจที่มีต่อชูเฟิง ยกตัวอย่างเช่น เขาเป็นหนุ่มหล่อ
และเขายังเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง ในระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ และยังเชี่ยวชาญเรื่องรูปแบบวิญญาณอีกด้วย
“เจ้าเด็กเหลือขอเจ้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง ทำไมเจ้าถึงใช้พลังของชุดฟ้าล่ะ?!”
เซว่ เจียนพูดขึ้นมา เขารู้ดีว่าเขาตกอยู่ในอุบาย จึงได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับเลือดบ่งบอกถึงความโกรธที่ชัดเจน
“ข้าก็แค่อยากให้เจ้าได้ลองชิมรสชาติของการโดนหลอกด้วยตนเองบ้าง.”
ชูเฟิง ยิ้มพร้อมพูดขึ้น
“เจ้าแพ้แล้ว ดังนั้นเอาจ้าวโอสถระดับกลางมาซะ”
“ฮึ่ม ถึงเจ้าจะชนะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะเก็บมันไว้ได้ .”
ในขณะที่ เซว่ เจียนพูด เขาก็กัดฟันอย่างหนัก แต่เขาก็ยังคงโยนให้กับชูเฟิง
“ดูเหมือนเจ้าจะมีปัญหา ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เราจะประลองอีกครั้งก็ได้นะ,”
ชูเฟิงยิ้ม พร้อมรับผลไม้แห่งสงครามมา
“ข้าจะเดิมพันเช่นเดิม แต่ตอนนี้ข้าไม่ได้เดิมพันกับจ้าวโอสถระดับกลางในมือเจ้า ข้าต้องการเดิมพันด้วยชีวิตของเจ้า เจ้ากล้าหรือไม่”
เซว่ เจียน พูดขึ้นด้วยความโกรธ
“เจ้าต้องการชีวิตข้าอย่างนั้นหรือ ก็ได้ แต่เจ้าต้องนำจ้าวโอสถระดับกลาง 2 อันมาเดิมพัน เจ้ามีหรือเปล่า?”
ชูเฟิงพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ
“ฮึ่ม ข้ามีมันแน่นอน ข้ากลัวว่าแค่ชีวิตของเจ้าชาตินี้จะไม่ได้ใช้มัน !”
เซว่ เจียน เย้ยหยัน พร้อมกับเอามือของเขาล้วงไปที่ถุงจักรวาล และหยิบจ้าวโอสถอุ้งเท้าแมวขึ้น มา 2ชิ้น
“ดี!!! งั้นพวกเรามาเริ่มกันเลย งานนี้เหมือนข้าจะได้ของดีมาฟรีๆ”
ชูเฟิงยิ้มด้วยความมั่นใจ
“ในตอนนี้ ข้าจะเอาชีวิตกระจอกๆของเจ้า.”
เซว่ เจียน ที่เกลียดชูเฟิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงไม่รอช้า รีบวางรูปแบบวิญญาณสีม่วงขึ้นมา แต่เมื่อสังเกตุดีดีแล้ว มันไม่ใช่รูปแบบทั่วไป แต่มันคือ ประตูเชื่อมต่อโลกวิญญาณ
*อะวู้~~~~~*
ในตอนที่ ประตูปรากฏขึ้นก็มีเสียงที่เหมือนกับหมาป่าหอน และ ผีดังขึ้น
หลังจากนั้นก็มีควันสีเขียวที่น่าเกรงขามลอยอยู่บนอากาศ
บ้างก็กลายเป็นรูปร่างของมนุษย์บ้างก็กลายเป็นปากสีเลือด บ้างก็กลายเป็นดวงตาที่แดงก่ำราวกับเลือด และที่สำคัญที่สุดคือควันเหล่านั้นมีกลิ่นอายอยู่ในระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์
“นั่นมันอสูรวิญญาณพิภพภูติพราย แล้วมันยังอยู่ในระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์เลยด้วย!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของพวกเจียง ว่านชือก็เกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเธอไม่คิดว่า เซว่ เจียนจะหยุดการใช้รูปแบบวิญญาณ และใช้อสูรวิญญาณสู้กับชูเฟิง
อสูรวิญญาณ กับ รูปแบบวิญญาณนั้นต่างกันมาก ไม่ว่ารูปแบบวิญญาณจะแข็งแกร่งเท่าใดมันก็ยังเป็นแค่รูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบที่มีเวลาสั้นๆ ความสามารถของมันอาจจะดีและแข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่รูปแบบวิญญาณประเภทนั้นก็สามารถถูกทำลายอย่างง่ายโดย ทักษะต่อสู้
ส่วนอสูรวิญญาณนั้นไม่ต้องพูดถึงมัน พวกมันมีชีวิตอยู่ด้วยพลังที่พิเศษ พวกมันนั้นไม่ใช่อะไรที่รูปแบบวิญญาณจะต่อกรได้ และด้วยพลังระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์นั้น สามารถฆ่าชูเฟิงได้ในพริบตาเลยทีเดียว
ระดับของชูเฟิงนั้นอยู่ที่ระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์ เมื่อเทียบกับระดับ 9 อาณาจักรสวรรค์แล้วมันต่างราวฟ้ากับเหว ไม่ต้องพูดถึงการประลองรูปแบบวิญญาณ มันรวมไปถึงพลังที่แท้จริงด้วย
“เจ้าสารเลวน่ารังเกียจ เจ้าช่างกลับกลอกเสียจริง เจ้าบอกว่าเป็นการประลองรูปแบบวิญญาณ แต่เจ้ากับอัญเชิญอสูรวิญญาณมา?!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ซุน ยี่หาน ก็ด่าทอ เซว่ เจียนด้วยเสียงที่ดั่งลั่น
“ฮึ่ม อสูรวิญญาณไม่ใช่รูปแบบวิญญาณหรือไง ถ้าไม่ใช่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณจะสามารถอัญเชิญอสูรวิญญาณได้อย่างไร แม่นาง เจียง เจ้าตอบหน่อยสิ ว่า อสูรวิญญาณเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบวิญญาณหรือไม่?”
เซว่ เจียนถามเสียงดังด้วยท่าทางเย็นชา
ในตอนนั้น เจียง ว่านชีต้องขมวดนิ้วแน่น บนใบหน้าของเธอนั้นกำลังลังเลอยู่ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องพยักหน้าแล้วพูดไป “ ใช่มันเป็น “
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ,”
เซว่ เจียน เย้ยหยันอีกครั้งจากนั้นก็หันไปมองชูเฟิง และตะโกนดังลั่น,
“เจ้าหนู ตายซะ”
*กร๊ากกก~~~~~*
ในตอนนั้น อสูรวิญญาณภูติพรายก็คำรามขึ้น และมันก็กลายเป็นแสงสีเขียว บินเข้าใส่ชูเฟิง. นึกไม่ออกว่ามันคำรามยังไง
“ศิษย์พี่ เราจะทำยังไงดี”
เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกซุน ยี่หาน ก็ถามขึ้น หลังจากรู้ว่าชูเฟิงมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา พวกเธอก็ไม่ต้องการให้ชูเฟิงตาย
“ดูไปเงียบๆ เมื่อถึงเวลาข้าจะเคลื่อนไหวเอง.”
เจียง ว่านชือ พูดขึ้น หลังจากพูดจบเธอก็กระโดดไปด้านหน้าชูเฟิง มันทำให้เห็นว่าเธอสนใจเรื่องชีวิตเขามากแค่ไหน
“ฮึ่ม วันนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ ผีผา ฆ่ามันซะ แล้วข้าจะให้รางวัลแก่เจ้า”
เซว่ เจียน ตะโกนเสียง ดังลั่น
“คู้คุคุคุคุคู….”
“เซว่ เจียน เจ้าควรพูดให้ตรงๆดีกว่านะ ข้าจะไปเอาหัวเจ้าเด็กนั่นมาให้.”
อสูรวิญญาณภูติพรายหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นร่างของมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นรูปร่างคล้ามนุษย์สูงหลายเมตร ทำให้ดูน่าเกรงขามอย่างมาก
และความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า มันได้ก้าวข้ามความเร็วของ เจียง ว่านชี ไปและในพริบตาเดียว มันก็มาถึงชูเฟิง
“บัดซบ!”
เมื่อเห็นฉากที่น่ากลัวเช่นนั้นในสายตา เจียง ว่านชือก็ตะโกนขึ้น พร้อมใบหน้าที่ตกอยู่ในความกลัวนั่น
ในขณะที่เจียง ว่านชือ และ คนอื่นๆกำลังตกใจ ชูเฟิงนั้นยิ้มขึ้น และพูดว่า
“ต้านต้าน ได้เวลาแล้ว!”
ที่มา: