I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 609 – ตุ๊กตาในมหาสมุทร

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ในตำแหน่งกึ่งกลางของทะเลโลหิตนิรันดร์ น้ำทะเลสีเลือดที่เดิมสงบนิ่งพลันกระเพื่อม! ตามด้วยการก่อตัวของคลื่นขนาดยักษ์ที่สูงหลายสิบฟุต พวกมันดูราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายกู่ร้องคำรามกึกก้อง

แต่เหตุผลหนึ่งที่เกิดคลื่นเช่นนี้ขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากสัตว์ร้ายใดๆ แต่มันเกิดจากคนเพียง 2 คน ใช่แล้ว!!

“ชายวัยกลางคน”

ชายวัยกลางคน 2 คนนั้น คนนึงมีรูปร่างใหญ่โต เต็มไปด้วยขนบนใบหน้า แม้กระทั่งมือทั้งสองข้างยังมีขนสีดำด้วย ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นเป็นคนๆนึง แม้ว่าเขาจะเหมือนกับกอริล่ายักษ์ก็ตาม

แม้ว่าคนผู้นี้จะมีลักษณะเถื่อนๆเหมือนคนป่า แต่การบ่มเพาะของเขานั้นไม่ได้อ่อนแอเลย คลื่นพลังที่เล็ดลอดออกจากตัวเค้าคือพลังอาณาจักรจ้าวสงคราม ชายร่างใหญ่ที่มาพร้อมชายวัยกลางคนคือระดับหนึ่งของจ้าวสงคราม

แม้ว่าคนอื่นจะเป็นชายวัยกลางคนเหมือนกัน แต่เขาถือว่าเป็นชายวัยกลางคนที่ดูแลตัวเองค่อนข้างดี ผิวพรรณของเขาดูอ่อนเยาว์เป็นอย่างมาก ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแลดูสง่างาม มันชัดเจนมากเมื่อเทียบกับชายร่างใหญ่ที่เหมือนคนป่าอีกคนในแง่ของลักษณะภายนอก

เขาไม่ได้อ่อนแออย่างแน่นอน แม้ว่าเค้าจะมีลักษณะที่ดูอ่อนโยนก็ตามที ในทำนองเดียวกันเขาเป็นถึงระดับหนึ่งของจ้าวสงครามและในขณะนี้เขาและชายร่างใหญ่อยู่ระหว่างการต่อสู้ที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงภายในสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดล้วนเกิดจากเขาทั้งสองคน

แม้ว่าการต่อสู้ของพวกเขาจะทวีความรุนแรงและยังไม่ทราบผลการต่อสู้ที่แน่ชัด ถ้าสังเกตุดีๆมันไม่ยากที่จะบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ศัตรู ดูเหมือนพวกเขากำลังฝึกเสียมากกว่า

มันเป็นเพราะพวกเขาสวมเสื้อผ้าเหมือนกัน ด้านหลังเสื้อคลุมของพวกเขา มีตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่แพรวพราวและชัดเจน

“ หมู่เกาะประหาร”!

“มันคือคนจาก หมู่เกาะประหาร เช่นนั้นรึ?!”

ชูเฟิงเห็นสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นเขาก็รีบบินไปอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นเขาพบว่ามันคือการวิวาทระหว่างระดับหนึ่งของจ้าวสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พวกเขาเป็นคนที่มาจาก หมู่เกาะประหาร ช่วยไม่ได้ที่เขาจะหน้ามุ่ย ร่องรอยความไม่พอใจเกิดขึ้นในดวงตาของเขาอย่างฉับพลัน

สถานที่นั้นเป็นจุดศูนย์กลางของทะเล นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ๆคนจำนวนมากไปบ่มเพาะพลัง เมื่อการต่อสู้ที่รุนแรงของพวกเค้าสิ้นสุดลง มีเพียงไม่กี่คนที่บาดเจ็บจากเศษเสี้ยวพลังการต่อสู้ของพวกเขา

แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีการเรียกขาน “ หมู่เกาะประหาร ” ว่าเป็นคนที่ชอบธรรม แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวตนของพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากนัก อย่างน้อยๆในสายตาของทุกๆคนที่นี่บุคคลทั้งสองนี้ไม่ได้เป็นคนดีเลย

“คนจาก หมู่เกาะประหาร แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!! บางทีขั้นแดนสวรรค์ของพวกเรายังมิอาจเทียบได้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ…โถ่เอ้ย!! ฮึ่ยยย….”

หญิงตาบอดโง่เง่า ที่อยู่ใกล้กับชูเฟิงจ้องมองด้วยหัวใจที่เต้นจนจะทะลุออกมาของเธอ ขณะที่เธอมองไปยังสองอัจฉริยะจาก หมู่เกาะประหาร เธอยกย่องพวกเขาอย่างที่สุด ใบหน้าของเธอแดงก่ำพร้อมกับน้ำลายกำลังไหลออกมาจากปาก

“ฮึ่ม.. เมื่อสัตว์ประหลาดปรากฏขึ้น ทำไมเราจะไม่เห็นพวกมันหล่ะ? ตอนนี้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกมันกำลังอวดเบ่งกันอยู่ ในฐานะผู้จัดการของที่นี่มันก็ไม่ได้สนใจว่าพวกมันไม่รักษาความสงบในสถานที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้พวกมันกำลังสร้างความเสียหายด้วยตัวมันเอง นี่ย่อมทำให้คนไม่พอใจ…”

แต่เมื่อเทียบกับการชื่นชมและการสรรเสริญของคนตาบอดบางคน ยังมีอีกหลายคนที่แสดงความไม่พอใจ ข้างหลังชูเฟิงชายคนนึงที่เปียกโชกไปด้วยน้ำทะเลกำลังสาปแช่ง มองไปที่การปรากฏตัวของชายวัยกลางคนทั้งสอง เขาได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากเสี้ยวความเสียหายจากการต่อสู้กันของทั้งสอง เช่น การต่อสู้ทำให้เกิดคลื่นน้ำพุ่งมาใส่เขา

“อะฮึ่ม!”

ในจังหวะนั้นชายที่มีใบหน้าเย็นชา หันมาอย่างเย็นชาทางชายที่นั่งอยู่หลังชูเฟิง เขาได้ยินคำสาปแช่งนั้น

แต่ก็ได้ยินไม่มากนัก เขาหันไปมองรอบๆ เขาแผ่พลังจ้าวสงคราม ซึ่งเกิดจากความคิดของเขาออกไป

*ตูม….ตูม….ตูม*

ความกดดันแผ่ออกมาถึงก่อนที่พลังวิญญาณจะตามมา ความกดดันอันบ้าคลั่งที่เกิดอย่างฉับพลันส่งผลให้น้ำทะเลด้านล่างระเบิด กลายเป็นกำแพงสีเลือดสูงหลายสิบฟุตกดดันไปยังชูเฟิงและคนอื่นๆ

“โถ่เอ้ย!!! ไอ้บ้านี่ นี่มันไม่ตลกเลยนะเว้ย!!!”

ในตอนนั้นเองชายที่เป็นคนสาปแช่งหันมองไปรอบๆแล้วเริ่มวิ่งหนี แม้ว่าคลื่นน้ำทะเลจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนักแต่พลังวิญญาณที่ถูกแผ่ออกมานั้นไม่สามารถต้านรับได้ ถ้าปะทะตรงๆเขาจะบาดเจ็ดสาหัสแต่พลังที่มาปะทะนั้นต้องไม่รุนแรงมาก ในทางกลับกันถ้าพลังรุนแรงชีวิตเขาคงจะหาไม่

“แย่แล้ว!!!! หนีเร็ว~~”

ในขณะเดียวกันผู้คนที่อยู่แถวนั้นพากันหนีอย่างสุดชีวิตเพื่่อหลบให้พ้นระยะ แม้แต่หญิงตาบอดโง่เง่า ก็ไม่เว้น เธอเก็บของทุกอย่างพร้อมทั้งรีบโกยในทันที

ชายที่มีใบหน้าเย็นชาไม่ได้จู่โจมเฉพาะคนที่ดูถูกเค้าแต่เป็นทุกคนที่อยู่ในสถานที่นั้นทั้งหมด ถ้าพวกมันไม่รีบหนีก็ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน

“แข็งแกร่งยิ่งนัก…เนี่ยหน่ะหรอคนที่มาจาก หมู่เกาะประหาร?!”

ใครคือชูเฟิง? เขามองผ่านชูเฟิงไปยังเป้าหมายของเขา เขาไม่ได้วางแผนที่จะฆ่าชายคนนั้นหรือคนอื่นๆ ด้วยความแข็งแกร่งของเค้าถ้าเค้าลงมือระยะเพียงเท่านี้เขาหนีไม่รอดแน่

ปัจจุบันชายใบหน้ายุติธรรม กำลังยืนคุมเชิง เหมือนจะทำให้ดูน่ากลัว แต่มีหรือที่ ชูเฟิงจะกลัว ขณะนั้นคนอื่นๆกำลังเผ่นหนีอย่างตาลีตาเหลือก

แม้ว่าเค้าจะไม่พอใจชายวัยกลางคนคนนั้นมาก แต่ชูเฟิงไม่ต้องการมีปัญหากับคนที่มาจาก หมู่เกาะประหารในตอนนี้ เพราะในตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา และเขาก็ยังมีพลังไม่มากพอที่จะปะทะกับคนของหมู่เกาะประหาร

เมื่อคิดถึงจุดนี้ชูเฟิงทนไม่ได้กับความไม่พอใจในหัวใจของเค้า ชูเฟิงมองไปรอบๆและเตรียมตัวจะจากไป

“ยี้~ห้า…ยี้~ห้า”

“สนุกสุดๆเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ~~~~”

“โอ้! อย่าหนีสิ! นี่มันสนุกมากเลยนะ”

แต่ในขณะที่ชูเฟิงหันมองไปรอบๆและเตรียมตัวจะจากไปนั้น เขาก็ได้ยินเสียงจากบริเวณใกล้ๆกับคลื่นยักษ์ เป็นเสียงของเด็ก! ถูกต้อง..นั่นเป็นเด็กอย่างแน่นอน

“รอเดี๋ยว!!!”

มีบางอย่างผิดปกติ ชูเฟิงหันไปมองรอบๆทันที เขาพบตุ๊กตาตัวเล็กๆบนคลื่นยักษ์ที่ถูกพลังพลักดันสูงขึ้นจนสามารถแตะขอบฟ้าได้

เป็นผู้หญิง!!…ดูอ่อนเยาว์ยิ่งนัก..อายุก็ไม่น่าจะเกินสามปี ในขณะนั้นเธอยืนอยู่เหนือคลื่นยักษ์ อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้มีร่องรอยความกลัวแม่แต่น้อย แต่เธอกลับสนุกสนานร่าเริงหัวเราะคิกคักที่ได้ขี่คลื่นเหล่านั้น

แม้ว่าสาวน้อยจะมีความกล้าหาญอยู่บ้าง แต่หลังจากชูเฟิงได้ตรวจสอบเธอเขาพบว่าเธอเป็นเพียงเด็กธรรมดาๆที่ไม่มีพลังการบ่มเพาะใดๆ

สำหรับเด็กสาวเช่นเธอไม่ต้องพูดถึงพลังยุทธ์ที่กำลังใกล้เข้ามาเบื้องหลังคลื่นยักษ์ เพียงแค่คลื่นจำนวนมหาศาลที่ถาโถมเข้ามาบนตัวเธอก็เพียงพอที่จะบดขยี้เธอ

แทบจะในทันทีหัวใจของชูเฟิงสั่นไหวด้วยความเห็นอกเห็นใจ ถ้าเธอเป็นผู้บ่มเพาะพลังเขาจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ แต่สำหรับชีวิตน้อยๆนี้ ชูเฟิงจะ….

*วูบบบ*

คิดถึงจุดนั้นชูเฟิงไม่ลังเล เขาไม่เลือกที่จะหลบหนีคลื่นยักษ์ เขากลับพุ่งเข้าไปยังคลื่นยักษ์แทน

*วูวววว*

ชูเฟิงใช้ทักษะเร้นลับ มังกรทะยาน ความเร็วของเค้าพุ่งขึ้นสูงผิดปกติ ในท้ายที่สุดเขาก็สามารถช่วยเด็กสาวจากคลื่นยักษ์ก่อนที่มันจะบดขยี้เธอ

แต่ในขณะที่เค้าช่วยเด็กสาว พลังวิญญาณที่อยู่ใกล้เคียงก็ถาโถมมาที่เค้า แม้เค้าจะเพิ่มความเร็วขึ้น แต่ชูเฟิงก็ไม่สามารถจะหลบเลี่ยงมันได้

“ดูนั่น!! นั่นใช่คนบ้าหรือเปล่า? ทำไมเค้าไม่หนี แต่กลับวิ่งเข้าไปหาพลังนั่นแทน!”

“เดี๋ยว!! เค้าช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้น!”

“อาาา…เค้าเป็นดีจริงๆ แต่น่าเสียดายยิ่งนัก คนดีมักอายุสั้น….”

อำนาจพลังที่พุ่งพล่านรวมถึงการกระทำของชูเฟิงกระตุ้นความสนใจของทุกคน สายตาของพวกเขาสั่นเคลือพร้อมกับถอนหายใจ เฮ้อ..ชูเฟิงกับเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่รอดแน่นอน…..

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments