ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 673 – ปกปิดความลับ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของ ชุน หวู นั้น ทั้ง เซี๊ยะ หยู และ ตง เซวีย ก็ตกใจอย่างมาก พวกนางหันกลับมามองที่ ฉิว ซือ และกล่าวถามออกมาพร้อมกันว่า”
ฉิว ซือ นี่เป็นเรื่องจริงรึ !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ ฉิว ซือ เต็มไปด้วยความกังวล นางเหลือบมองไปที่ ชุน หวู ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า”
เมื่อปีที่แล้ว ชุน หวู ได้ออกไปยังด้านนอก และนางก็ได้พบกับ มู่หรง ซุน !!”
แม้ว่า ฉิว ซือ จะไม่ได้กล่าวออกมาตรงๆ แต่นางก็ยังกล่าวเปรยออกมาแทนคำยืนยัน
***** ฮู่วววว *****
หลังจากที่ได้รับคำยืนยันนั้น เซี๊ยะ หยู ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผ่อนคลาย ก่อนจะกล่าวว่า”
มันจะดีกว่าถ้าพวกเรารู้กันเพียงแค่นี้ ศิษย์น้อง หวู่ฉิง ข้าขอให้เจ้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ !!””ศิษย์พี่ ท่านไม่ต้องกังวล ถึงข้าจะไม่ใช่คนดีนัก แต่ข้าก็รักษาความลับของผู้อื่นอย่างดี !!”
ชูเฟิง กล่าวตอบ พลางยิ้มบางๆ “อืม ที่จริงก็ยังไม่มีอะไรน่ากังวลนัก แต่ถ้าหากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป อาจมีบางคนที่ใช้เรื่องนี้ เพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหมู่เกาะประหารกับหุบเขาสายหมอก และหากเป็นเช่นนั้น มันย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน !!”
เซี๊ยะ หยู ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับ ชูเฟิง แต่นางได้กล่าวอธิบายออกมาถึงเหตุผลที่ให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
หลังจากการนำทางของสี่สาวงาม ชูเฟิง ก็ได้เดินทางมาถึงที่ยอดเขา ด้านบนนั้นเป็นที่พื้นที่ราบลาวกับลาน
บนพื้นที่แห่งนี้มีคนอยู่เพียงแค่ไม่มากนัก เพราะในวันนี้เป็นการเปิดการประลองเพื่อเข้าไปยังดินแดนตราประทับนิรันดร์ เหล่าผู้เชี่ยวชาญอาวุโส จะได้รับอนุญาติให้ขึ้นไปยังยอดหุบเขาสายหมอก เพื่อเป็นพยานในการประลอง ซึ่งจะจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกหกปี
เมื่อเทียบจำนวนคนของเหล่าผู้อาวุโส กับคนรุ่นใหม่แล้วนั้น คนรุ่นใหม่ยังมีอยู่บางตากว่ามาก มันเป็นเพราะพื้นที่ของหุบเขาสายหมอกหลายแห่งเป็นพื้นที่ต้องห้าม การจะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้จึงเป็นเรื่องยาก และผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าสู่ดินแดนตราประทับนิรันดร์ได้นั้นก็มีอยู่น้อย จึงทำให้สถานที่แห่งนี้มีคนอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แม้ว่าจะมีคนอยู่ไม่มาก แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งทั้งสิ้น ผู้ที่มีพลังน้อยที่สุด อยู่ในระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม และสูงที่สุดอยู่ในระดับสี่ ขั้นจ้าวสงคราม “ดูซิ !! นั่นมันสาวงามสี่ฤดูที่เลื่องลือ !!””ว้าวววว !! พวกนางคือความภาคภูมิใจของหุบเขาสายหมอก !! ไม่เพียงแต่ในด้านความงามของพวกนางเท่านั้น แม้แต่ในด้านความแข็งแกร่ง พวกนางก็ยังโดดเด่นอย่างมาก !!””แม่นางที่สวมกระโปรงสีเขียวนั่นคงจะเป็นแม่นาง ฉิว ซือ ใช่ไหม !? สมกับเป็นหนึ่งในสามสาวงามแห่งเขตทะเลตะวันออก หากผู้ใดได้แต่งานกับนางคงจะโชคดีไม่น้อย ช่วงชีวิตที่เหลือของเขา แม้จะต้องตายก็คุ้มค่าจริงๆ””เจ้านี่มันเพ้อฝันจริงๆ !! ไม่ต้องพูดถึงแม่นาง ฉิว ซือ หากข้าได้แต่งงานกับหนึ่งในแม่นางทั้งสามที่เหลือ ข้าก็ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อนางได้ !!””พวกเจ้านี่บ้ากันจริงๆ !! ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าทำได้แค่ฝันเท่านั้น !! พวกนางทั้งสี่คนล้วนเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าชายหนุ่มทั้งหมด!! พวกเราก็ทำได้เพียงแค่มองเท่านั้นแหละ !!”
การปรากฏตัวของสี่สาวงาม ทำให้ตกเป็นจุดสนใจอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่เหล่าอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง ก็ล้วนจ้องมองมายังพวกนาง “เดี๋ยวก่อน !! มีใครเดินมาพร้อมกับพวกนาง !?”
ในเวลานั้น ก็มีบางคนที่สังเกตเห็น ชูเฟิง เดินมาพร้อมกับพวกนางทั้งสี่คน และกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อทุกคนเห็นแบบนี้นั้น สายตาแห่งความเกลียดชัง และอิจฉาจากทั่วทุกสารทิศต่างมุ่งตรงมายัง ชูเฟิง อย่างรวดเร็ว “นั่นคือ หวู่ฉิง เขาคือคนที่ได้รับป้ายหมอกมาเป็นกรณีพิเสษ เขามีพลังเพียงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงครามเท่านั้น แต่เขาก็แข็งแกร่งอย่างมาก !!”
ชายหนุ่มผู้หนึ่งกล่าวอธิบายออกมา เขามีพลังถึงระดับสอง และเข้าร่วมงานเลี้ยงและได้รับการตรวจสอบจนได้รับป้ายมา “ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็มีพลังเพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เขาไม่น่าจะทำให้สาวงามทั้งสี่ให้ความสนใจได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาน่าจะคอยประจบพวกนางเสียมากกว่า !!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสอง ขั้นจ้าวสงครามกล่าวออกมาด้วยความหึงหวง และไม่พอใจอย่างมาก “พี่ใหญ่ ท่านไม่ควรกล่าวเช่นนั้น ท่านรู้หรือไม่ ว่าการทดสอบในปีนี้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจากสี่สิบคนเป็น สี่สิบเอ็ดคน !?”ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม “หรือว่า…..เจ้ารู้อะไรรึ !?”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสอง กล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะการที่เพิ่มผู้ที่ถูกตรวจสอบเข้ามาแบบนี้ ย่อมเป็นที่สนใจของทุกคนอย่างมาก “บังเอิญท่านอาจารย์ของข้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยง และในวันนั้น หวู่ฉิง ก็ได้เข้าร่วมเช่นกัน”
ชายหนุ่มกล่าว “เกิดอะไรขึ้น !?”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสองกล่าวถาม เพราะงานเลี้ยงนั้น ผู้ที่สามารถเข้ารวมได้ย่อมไม่ธรรมดา ในเวลาเดียวกันนั้น แววตาที่เขามองไปยังชายหนุ่มก็เต็มด้วยความเคารพ “ท่านรู้จักเจ้าวิหาร หวู่หยา หรือไม่ !?”
ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบ แต่เขากลับกล่าวถามออกมา “แน่นอน ข้าเคยได้ยินชื่อของท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา เท่าที่ข้ารู้มา เขาคือผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับชุดคลุมสีทองได้ก่อนที่ก้าวเข้าสู่ขั้นราชันย์สงคราม !!””ด้วยความแข็งแกร่งของเขา และทักษะด้านเพลงดาบที่โดดเด่นของเขา ทำให้เขาแข็งแกร่งที่สุดในขั้นจ้าวสงคราม และท่านอาจารย์ของข้าก็แขนหักเพราะเขาเช่นกัน !!””แม้ว่าท่านอาจารย์ของข้าจะแขนหักเพราะท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา แต่ท่านอาจารย์ของข้าก็ไม่ได้โกรธแค้นเขาแต่อย่างใด อีกทั้งท่านยังรู้สึกว่า ท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตทะเลตะวันออก !!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสอง กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจถึงความสำเร็จของ หวู่หยา ราวกับว่าเขาเกี่ยวข้องกัน และเป็นสิ่งที่มีเกียรติอย่างมากสำหรับเขาที่ได้เล่าเรื่องนี้ออกมา “เอาล่ะ ในงานเลี้ยงวันนั้น ท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา ได้กล่าวว่า หวู่ฉิง ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับป้ายสายหมอก !!””เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองนั้น หวู่ฉิง ได้ท้าประลองกับศิษย์ทั้งสองคนของท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา โดยเดิมพันกันว่า ผู้แพ้จะต้องสละป้ายหมอก และไม่เข้าสู่ดินแดนตราประทับนิรันดร์ หลังจากนั้นภายใต้สายตาของทุกคน หวู่ฉิง สามารถเอาชนะศิษย์ทั้งสองคนของท่านเจ้าววิหาร หวู่หยา ได้ด้วยพลังเพียงระดับหนึ่ง และได้รับป้ายหมอกมาอย่างชอบธรรม และยังได้เข้าสู่ดินแดนตราประทับนิรันดร์ !!”
ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างจริงจัง “จริงรึ !! ข้าเคยได้ยินมาว่าศิษย์รักของท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา , จู เทียนหมิง เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสาม ขั้นจ้าวสงคราม เขายังได้รับป้ายหมอก…….เอ๊ะ !! ไม่จริงใช่ไหม !? เจ้าจะบอกว่านอกจาก จู ตี่กวง แม้แต่ จู เทียนหมิง ที่ได้รับป้ายหมอกมาโดยที่ไม่ต้องตรวจสอบนั้น ได้พ่ายแพ้ให้กับ หวู่ฉิง เช่นนั้นรึ !?”
อยู่ๆ ใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญระดับสองก็แสดงความเข้าใจออกมา แต่มันก็ถูกลบไปด้วยความตกตะลึง และความไม่เชื่อในคำกล่าวเหล่านั้น “เดี๋ยวก่อน !! ไม่เพียงแค่นั้น !! อาจารย์ของ หวู่ฉิง ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งและลึกลับ อีกทั้งเขายังได้รับการสนับสนุนจาก ท่าน ฉิวซุ่ย ของผาคนรักอีกด้วย !!””เจ้าไม่รู้จักท่าน ฉิวซุ่ย ใช่หรือไม่ !? คนทั่วไปจะไม่ค่อยรู้จักท่าน ฉิวซุ่ย มากนัก และมีคนอยู่จำนวนน้อยมากที่จะรู้จักกับท่าน แต่ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลยว่าท่าน ฉิวซุ่ย คือผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงคราม ในวันนั้น ท่านเกือบจะฆ่าท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา เพียงเพราะเขากระทำการที่รุนแรงต่อ หวู่ฉิง แต่ด้วยทักษะดาบของท่านเจ้าวิหาร หวู่หยา เขาจึงสามารถหลบหนีออกไปได้ !!” “นอกจากนี้ ท่าน ฉิวซุ่ย ยังได้กล่าวเตือนทุกๆ คนเอาไว้ว่าอย่าได้คิดร้ายต่อ หวู่ฉิง เพราะอาจารย์ของเขาสามารถฆ่าทุกคนได้ในพริบตาเท่านั้น และอาจารย์ของ หวู่ฉิง ก็แข็งแกร่งกว่าท่าน ฉิวซุ่ย มาก !!”
ชายหนุ่มกล่าว
ReadMGA /////////////////////////////////////////////////// A : การเล่า วีรกรรมบทขี้ประติ๋ว จบไปอีก 1 ตอน รอออกจากดินแดนตราประทับนิรันดร์ ก่อนเถอะตำนานบทใหม่จะถูกแผ่กระจายไปทั่วทั้ง ทะเลตะวันออก
B : ไม่ใช่แค่นั้น สาม ผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าของหมู่เกาะประหาร ที่มี หย่า เฟย , มู่หรง ว่าน และ ชายอีกคน ก็ยังโดนพี่เฟิงอัด หนีกันกระจุยกระจาย ตอนแรกพวกมันทิ้งยันต์ระเบิดหวังฆ่า ชูเฟิง แต่ที่ไหนได้ ชูเฟิง ไม่ตาย ตอนชูเฟิงกลับออกมานี้ หน้าแต่ละคนซีดเปนผี . . . . . .
A : ผู้เชี่ยวชาญระดับ 1 จ้าวสงคราม อัดพวก ระดับ 5 ระดับ 6 ได้ด้วยงั้นหรอ!!!
B : มันจะยากอะไรล่ะ!!!