ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“บัดซบ ไอ้สารเลว เจ้าช่างโอหังยิ่งนัก ศิษย์พี่ รีบให้บทเรียนแก่มันเถิด ให้มันรู้จักที่สูงที่ต่ำเสียบ้าง.”
“ถูกต้องศิษย์พี่ รีบให้บทเรียนกับเจ้าสารเลวน่ารังเกียจนี่เถิด ให้มันได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของท่าน ให้มันได้รู้ว่าถ้ามันไม่ใช่อุบายมันจะไม่สามารถเอาชนะท่านได้.”
ซุน ยี่หาน และ คนอื่นๆ รู้สึกว่า เซว่ เจียน ชนะเพราะกลอุบาย ดังนั้นเมื่อเขาเย้ยหยัน เป็นธรรมดาที่พวกเธอต้องการจะเอาคืน
อย่างไรก็ตาม พวกเธอนั้นพูดกันไม่มีทีท่าว่าจะยอม จนทำให้ เจียง ว่านชือ ต้องขมวดคิ้วและนิ่งเงียบ
ที่เธอแพ้ ก็เพราะเธอประมาทในการประลองครั้งนั้น ด้วยระดับผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง เธอรู้ดีว่าการอำพรางความสามารถของรูปแบบวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก นั่นหมายความว่าเซว่ เจียนนั้นแข็งแกร่งมากเขาสามารถทำในสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้
ตอนนี้ เซว่ เจียนได้ยั่วยุเธอ มันเห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจมากว่าจะเอาชนะเธอได้ ดังนั้นเขาต้องมีรูปแบบอื่นอย่างแน่นอน
เซว่ เจียน เอาชนะ เจียง วานชือ ด้วยกลลวง แต่ความจริงแล้วถ้าเขาโจมตีตรงๆ เขาก็ยังสามารถเอาชนะ เจียง ว่านชือได้ แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น แน่นอนว่าเขาจงใจ
เขาจงใจทำให้เจียง ว่านชือ รู้สึกว่าเธอแพ้เพราะประมาทและด้วยเหตุผลนั้น ถ้าเซว่ เจียน ยั่วยุอีกครั้ง เจียง ว่านชือ ก็ต้องตอบรับการประลองของเขาแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะใช้พลังทั้งหมดเอาชนะเจียง ว่านชืออีกครั้ง
ในตอนนั้น เจียง ว่านชือหงุดหงิดมาก แน่นอนเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย และรู้ถึงแผนของเขา
มันอาจพูดได้ว่า เจียง ว่านชือ ตกอยู่ในสถาการณ์ลำบาก เธอนั้นไม่สามารถตอบตกลงได้ และ ปฏิเสธได้ ดังนั้นเธอจึงทำอะไรไม่ถูก
“แม่นาง เจียง อย่าไปรับคำท้านั้นเลย ปล่อยให้ข้าจัดการเถอะ ข้าสามารถเอาชนะเขาแทนท่านได้.”
ในตอนนั้น เสียงของชูเฟิงก็ดังขึ้นมาในหูของเจียง ว่านชือ.
“เจ้า ด้วยระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์น่ะหรือ อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงแล้ว”
โดยปกติแล้ว เธอนั้นไม่แยแสชูเฟิงเลย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอต้องมองเขาใหม่ เพราะตั้งแต่แรกเขาเตือนเธอแล้ว แต่เธอรั้นที่จะไม่ฟังเขา และผลก็ออกมาอย่างที่เห็นนี้
นั่นเพราะ ด้วยระดับการบ่มเพาะของชูเฟิงที่ไม่ได้แข็งแกร่ง ในสายตาเธอ เธอจึงมองเขาเป็นคนธรรมดา
“แม่นาง เจียง ถ้าอย่างนั้นท่านก็ลองใช้พลังของท่านตรวจสอบฝ่ามือข้าดูสิ “
ชูเฟิงส่งข้อความทางจิตพร้อมยิ่มขึ้น
*ฮึ่ม*
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เธอก็ไม่รอช้ารีบใช้พลังของเธอตรวจดูพลังฝ่ามือของชูเฟิงอย่างลับๆ
“นี่… นี่มัน!”
และเมื่อ เจียง ว่านชือ ตรวจสอบฝืมือของชูเฟิง ดวงตาของเธอก็ต้องเกิดประกาย และ ตกใจอย่างมาก
ในตอนนั้น ชูเฟิงได้วางรูปแบบไว้บนฝ่ามือของเขา รูปแบบนั้นไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถรับรู้ได้ด้วยพลังวิญญาณ
รูปแบบวิญญาณของชูเฟิงนั้น ทำให้ เจียง ว่านชือ สัมผัสได้ 2 สิ่ง อย่างแรกคือ ชูเฟิงนั้นเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วง
อีกอย่างคือ ชูเฟิงนั้นสามารถควบคุมรูปแบบวิญญาณ ได้อย่างเชี่ยวชาญ และเหนือกว่า เธออย่างมาก
“เจ้ามีเหตุผลอะไรที่ต้องมาช่วยข้าอย่างนั้นหรือ”
ในตอนนั้น เมื่อเธอได้เห็นถึงความสามารถของชูเฟิงแล้ว เธอจึงถามออกไปด้วยความสงสัย
“ข้าได้รับมอบหมายมาจากอาจารย์ของข้า ให้มาส่งข้อความบางอย่างกับ ผู้อาวุโส ฉิวซุ่ย นั่นคือเหตุผลที่ข้ามาที่นี่.”
“ท่านอาจารย์ของข้า และท่านอาวุโส ฉิวซุ่ย เป็นสหายเก่า ดังนั้นพวกเราก็เหมือนอยู่ฝั่งเดียวกัน และเมื่อท่านต้องเผชิญหน้ากับศัตรู จึงเป็นธรรมดาที่ข้าต้องช่วย”
ชูเฟิง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“อาจารย์ของเจ้าเป็นใคร”
เจียง ว่านชือ ถามขึ้น
“ข้าไม่สะดวกที่จะเปิดเผยชื่ออาจารย์ของข้า แต่แน่นอนว่าข้าไม่เป็นภัยกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็ไม่สามาถทำอะไรได้แล้ว,”
ชูเฟิง พูด
“แม่นาง เจียง ทำไมเจ้าถึงไม่ตอบรับล่ะ เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือ”
ในตอนนั้น เซว่ เจียนก็พูดขึ้น
“ศิษย์พี่ ทำไมท่านไม่ตอบรับเขาล่ะ ให้บทเรียนกับเขาและให้เขารู้ถึงพลังของเจ้าล่ะ!”
“ศิษย์พี่ ถ้าท่านไม่มีของที่จะเดิมพัน ข้ายังมีจ้าวโอสถระดับกลางอยู่ ข้าสามารถให้ท่านยืมได้,”
ศิษย์น้องของ เจียง ว่านชือพูดขึ้น
“เซว่ เจียง ถ้าเจ้าไม่ใช้กลลวง เจ้าจะเอาชนะแม่นางเจียงได้อย่างนั้นหรือ คนเช่นเจ้านั้นไม่มีค่าพอที่จะให้แม่นางเจียง ลงมือหรอก มันจะทำให้นาเสื่อมเสียเกียรติซะเปล่าๆ “
“ถ้าเจ้ากล้า ข้าจะเป็นคนรับมือกับเจ้าเอง อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าเจ้าต้องไม่กล้าอย่างแน่นอน”
ในตอนนั้น ชูเฟิงก็พูดขึ้น
“อะไร? เจ้านะเหรอ!!!”
คำพูดของชูเฟิงนั้นทำให้ผู้คนตกตะลึง ถ้าไม่ใช่ว่าเขาตะโกนเสียงดัง ผู้คนแทบไม่รู้ว่าเขามีตัวตน แต่เมื่อเขา ยั่วยุ เซว่ เจียน นั้นทำให้ทุกคนตกตะลึง
“เจ้าหนู เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรที่จะมาท้าสู้กับญาติของข้า ดูระดับของเจ้าสิ แม้เจ้าจะเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ คงเป็นได้แค่ชุดฟ้า เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าพอจะมาสู้กับญาติของข้าอย่างนั้นหรือ หาเรื่องตายซะเปล่าๆ,”
เซว่ ยี่ พูดเย้ยหยันชูเฟิงด้วยความไม่พอใจ
“ถูกต้อง เจ้าจะเป็นตัวแทนของศิษย์พี่ของข้าอย่างนั้นหรือ พวกเราไม่ได้สนิทกัน ดังนั้นอย่าทำให้พวกเราเสียหน้าเลยเรื่องนี้เราจัดการได้ เราไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า.”
ไม่เพียงแค่ เซว่ ยี่, ซุน ยี่หาน และคนอื่นๆต่างดูถูกชูเฟิง แต่ชูเฟิงก็ยังยืนกรานเช่นเดิม แม้คนอื่นๆจะดูถูกเขา
“ฮ่าฮ่า เจ้าหนู เจ้าช่างน่าสนใจจริงๆ เจ้าต้องการช่วยพวกเธอและเลียขาพวกเธออย่างนั้นสินะ แต่น่าเสียดายพวกเธอไม่สนใจเจ้าเลย รีบออกไปเสีย ขยะเช่นเจ้าไม่สมควรอยู่ที่นี่.”
ในตอนนั้น เซว่ เจียนก็พูดขึ้น เขาไม่แม้แต่จะมองไปที่ชูเฟิงตรงๆ เขาเพียงเหล่ตามองเท่านั้น
“ใครบอกว่าเราไม่สนใจเขาอย่างนั้นหรือ”
ในตอนนั้น เจียง ว่านชือก็พูดขึ้นน หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อว่า,
“ถ้าเจ้าต้องการประลองกับข้าอีกครั้ง นั่นไม่มีปัญหา”
“แต่เจ้าต้องเอาชนะเขาให้ได้เสียก่อน ถ้าเจ้าไม่สามารถชนะเขาได้เจ้าก็ไม่มีค่าพอที่จะประลองกับข้า เพราะว่า ข้านั้นไม่ชอบประลองกับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งแต่ด้านหลอกลวง”
เจียง ว่านชือ พูดขึ้น.
“ศิษย์พี่ ท่านพูดอะไรของท่าน ท่านจะให้เขาไปประลองกับเจ้าสารเลวน่ารังเกียจแทนท่านหรือ เขาอยู่ในระดับ 6 อาณาจักรสวรรค์เองนะ!”
ในตอนนั้น ซุน ยี่หาน และคนอื่นๆ ก็ตกใจอย่างมาก เพราะพวกเธอไม่เข้าใจว่า เจียง ว่านชือ คิดอะไรอยู่
“พวกเจ้าทั้งหมด หุบปาก,”
เจียง ว่านชือ ตะวาดใส่เหล่าศิษย์น้องของเธอ ดังนั้นเธอจึงหันหน้าไปที เซว่ เจียนแล้วพูดว่า
“ เจ้ากล้าหรือไม่”
ที่มา: