ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 731 – เพื่อน้องชาย
“ฮ่าๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเจอเร็วขนาดนี้ !! ดูเหมือนว่ารูปแบบเปล่งแสงพวกนี้จะถูกวางไว้โดยผู้เชื่อมต่อโลกระดับราชวงศ์ !!”
หลังจากเห็นรูปแบบเปล่งแสง และส่วนประกอบหลายๆ อย่างนั้น ชูเฟิง ก็มั่นใจว่าผู้ที่วางรูปแบบเปล่งแสงนี้คือผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ อีกทั้งเขายังน่าจะมีพลังอย่างน้อยอยู่ในขั้นราชันย์สงคราม และเขาก็น่าจะเป็นบุคคลที่ครอบครองพลังสายเลือดจักรพรรดิ ที่ได้เข้ามากวาดล้างเหล่าสัตว์ยักษ์ภายในนครที่สาบสูญแห่งนี้
ชูเฟิง จริงจังอย่างมาก หลังจากที่เขาพบรูปแบบเปล่งแสงนั้น เขาได้วางรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขาปิดกั้นพื้นที่โดยรอบทันที เพื่อความปลอดภัย หรือป้องกันเหตุไม่คาดฝันขณะที่เขาปลดผนึกรูปแบบเปล่งแสง
แต่หลังจากที่วางรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณปิดกั้นพื้นที่ไว้แล้วนั้น ชูเฟิง ไม่ได้ทำการปลดผนึกรูปแบบเปล่งแสงในทันที
แม้ว่ามันจะเป็นรูปแบบที่ถูกวางไว้โดยผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ แต่ด้วยพลังของเนตรสวรรค์ของ ชูเฟิง นั้น เขาก็สามารถมองเห็นจุดอ่อนของมันได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ที่วางรูปแบบเปล่งแสงไว้นั้นยังทำให้มันลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เขาไม่ได้วางรูปแบบไว้เพื่อเน้นไปที่ความแข็งแกร่ง แต่เขาเน้นไปที่การปิดยังเสียมากกว่า ดังนั้น การปลดผนึกรูปแบบเปล่งแสงนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ชูเฟิง
***** พรึ่บ *****
ในเวลานั้น อำนาจพลังวิญญาณก็แผ่กระจายออกมา เพียงพริบตาเดียวด้วยอำนาจพลังวิญญาณก็ก่อให้เกิดพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำขึ้นจนผืนแผ่นดินสั่นไหว ในขณะเดียวกันนั้น ประตูขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาจากพื้นดิน
ประตูบานนี้เป็นสีทอง แต่มันเป็นสีทองที่แตกต่างจากอำนาจพลังวิญญาณของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสีทอง มันสามารถเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างนี้ เพราะประตูบานนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ “ดีนะเนี่ย ที่ข้าเตรียมตัวมาก่อน ไม่งั้นข้าคงจมไปกับความงดงามและน่าดึงดูดใจของมันอย่างแน่นอน !!”
เมื่อ ชูเฟิง เห็นประตูที่ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของผู้เชื่อต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือทางเข้าสู่รูปแบบเปล่งแสง
ชูเฟิง ก้าวผ่านประตูนั้นมาเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น เขาก็พบกับเส้นทางสามเส้นปรากฏออกมาต่อหน้าของเขา
ชูเฟิง ไม่ผลีผลามเข้าไปแต่อย่างใด เขาสัมผัสได้ว่ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ ดังนั้น เขาจึงใช้พลังของเนตรสวรรค์ตรวจสอบดู และเขาก็พบว่าภายในนั้นมันเป็นเขาวงกต หากเขาเลือกเส้นทางผิด เขาจะติดอยู่ภายในนั้นโดยที่ไม่สามารถออกมาได้
ผู้สร้างสถานที่นี้เป็นบุคคลที่ร้ายกาจอย่างมาก เขาไม่ได้วางกับดัก หรือไม่ทิ้งผู้ดูแลที่แข็งแกร่งไว้ แต่เขากลับสร้างสิ่งที่อันตราย และซับซ้อนอย่างมากเอาไว้แทน
ภายในเขาวงกตนั้นมีเส้นทางนับไม่ถ้วน หากเลือกเส้นทางผิดแม้แต่เส้นทางเดียว หรือเลือกประตูผิดเพียงบานเดียว มันก็จะมีเพียงสิ่งเดียวที่รออยู่ นั่นคือ ความตาย
โชคดีที่ ชูเฟิง มีพลังของเนตรสวรรค์ เขาก้าวออกไปด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เขาสามารถตรวจสอบกับดัก และค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องได้อย่างแม่นยำ แต่ในทุกๆ ครั้งที่เขาต้องเลือกเส้นทาง เขาจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบทุกครั้งก่อนที่เขาจะเข้าไป
ในสภานการณ์ที่เต็มไปด้วยความตรึงเครียดเช่นนี้นั้น ชูเฟิง ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไร หรือไม่รู้ว่าเขาผ่านมากี่เส้นทาง เข้าประตูมาแล้วกี่บาน แต่ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่พบอันตรายใดๆ นั้นทำให้เขารู้ว่าทุกเส้นทางที่เขาก้าวผ่านมา มันเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง และยังยืนยันได้อีกว่าความคิดของเขานั้นถูกต้อง
ในท้ายที่สุดนั้น ประกายแสงก็สาดส่องออกมาต่อหน้าของ ชูเฟิง มันคือทางออกจากรูปแบบเปล่งแสง ในก่อนหน้านี้ ชูเฟิง ได้พบกับประตูเปล่งแสงมากมาย แต่นั่นไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง แต่ประตูบานนี้คือทางออกที่แท้จริงอย่างแน่นอน
ที่ด้านหน้าของทางออกนั้น มีกุญแจลอยอยู่ในอากาศ มันยาวประมาณสามฟุต และมีลักษณะคล้ายกับกริช
หลังจากก้าวผ่านประตูบานนั้นออกมา ชูเฟิง ก็มาปรากฏตัวอยู่ในจุดที่เขาเข้าไปยังรูปแบบเปล่งแสง
เมื่อเขามองไปรอบๆ เขาก็พบว่านอกจากท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นยามค่ำคืนแล้วนั้น ทุกอย่างรอบตัวของเขาก็ยังเป็นเช่นเดิม สายลมเย็นยังคงพัดโชยอยู่ตลอด เมื่อเขามองในมือของเขานั้นก็มีกุญแจที่เขาได้มาจากรูปแบบเปล่งแสง และอำนาจพลังวิญญาณก็ยังคงอยู่โดยรอบ แต่เมื่อเขาใช้พลังของเนตรสวรรค์มองไปอีกครั้งนั้น เขาก็พบว่ารูปแบบเปล่งแสงได้หายไปแล้ว “ชูเฟิง เจ้าทำสำเร็จ !! เจ้าสามารถปลดผนึกรูปแบบที่วางไว้โดยผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ได้สำเร็จ !!””หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป แน่นอนเลยว่าชื่อเสียงของเจ้าจะต้องโด่งดังไปทั่วโลก !!””รูปแบบนี้ถูกวางไว้โดยผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์อย่างละเอียด สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปลดผนึกมันได้ แต่เจ้าก็สามารถทำมันได้ !! นี่มันเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างมาก ต้องบอกเลยว่าการพัฒนารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเจ้า ก้าวกระโดดมากกว่าการบ่มเพาะพลังของเจ้ามาก !!””สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการวางรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็คือ ‘ปัญญา’ ไม่ว่าผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากพวกเขาขาดซึ่งปัญญา พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นผู้ที่ยืนในอยู่ในจุดสูงสุดได้ !!””และมีสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจน นอกจากการบ่มเพาะพลังของเจ้า ในแง่ของรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเจ้านั้น แม้แต่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสีทอง ที่มีพลังขั้นราชันย์สงคราม ก็จะอ่อนแอกว่าเจ้า !!”
ต้านต้าน กล่าวชื่นชม ชูเฟิง ออกมาอย่างไม่จบ เพราะตั้งแต่เข้าไปในรูปแบบเปล่งแสงนั้น นางไม่ได้กล่าวเตือนสิ่งใดต่อ ชูเฟิง เลยแม้แต่น้อย ทุกๆ ทางเลือก ล้วนเป็นทางที่เขาเลือกเองทั้งหมด
ในความเป็นจริงนั้น นางไม่มีโอกาสได้เตือน ชูเฟิง มากกว่า เพราะในทุกๆ ครั้งที่นางพบความผิดปกติ ชูเฟิง ก็จะพบความผิดปกติเช่นกัน การพัฒนารูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของ ชูเฟิง จึงทำให้นางรู้สึกสบายใจ และรู้สึกชื่นชมเขาอย่างมาก “หากพูดถึงปัญญา แน่นอนว่าผู้ที่วางรูปแบบนี้ไว้เป็นคนฉลาดอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้วางกับดักเอาไว้ และดูเพียงผิวเผินเหมือนมันจะง่าย แต่ในความเป็นจริงกลับมีอันตรายอยู่รอบด้าน หากประมาทเพียงนิดเดียวจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่โชคดี ที่ข้ามีพลังของเนตรสวรรค์ ไม่เช่นนั้น ด้วยพลังของข้า ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรแม้แต่น้อย !!”
ชูเฟิง กล่าวพลางยิ้มบาง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น สำเร็จได้ด้วยพลังของเนตรสวรรค์ “เนตรสวรรค์เป็นสิ่งที่ข้าสอนเจ้า และที่ข้าสอนเจ้า เพราะข้าหวังดีต่อเจ้า และที่ข้าหวังดีต่อเจ้า ก็เพราะความสามารถของเจ้า !!””แม้ว่าข้าจะถูกผนึกในโลกวิญญาณของเจ้า แต่หากเจ้าไม่สามารถทำให้ข้ายอมรับได้ เจ้าก็จะไม่ได้ความแข็งแกร่งใดๆ จากข้า แต่ในท้ายที่สุด เจ้าก็สามารถทำให้ข้ายอมรับเจ้าได้ นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่ง และความสามารถของเจ้า !!”
ต้านต้าน ชื่นชม ชูเฟิง ออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของนาง การเติบโตขึ้นของ ชูเฟิง ทำให้นางมัความสุขอย่างแท้จริง
ความชื่นชมของ ต้านต้าน นั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้ ชูเฟิง รู้สึกมั่นใจมากขึ้น แต่มันก็ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีก หลังจากเก็บกุญแจในมือแล้วนั้น ชูเฟิง ไม่ได้พักผ่อนแต่อย่างใด เขารีบก้าวออกไป เพื่อค้นหารูปแบบเปล่งแสงต่อไป
เพราะเมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วนั้น นี่หมายความเขาใช้เวลาค่อนข้างมากในรูปแบบเปล่งแสงรูปแบบแรก ตามกฏของสำนักสี่คาบสมุทรนั้น เขามีเวลาเพียงสิบวันภายในนครที่สาบสูญแห่งนี้ มันหมายความว่า ไม่เพียงแต่เขาจะต้องปลดผนึกทั้งหมดในสิบวัน แต่เขายังต้องไขความลับของนครที่สาบสูญให้ได้ในสิบวันเช่นกัน เขาจึงไม่คิดที่จะหยุดพัก เขาจะทำมันทั้งหมด เพื่อน้องชายของเขา
ReaDMGA ///////////////////////////////////////////////////A : ชูเฟิง มีน้องตอนไหนว่ะ!!!
B : คนแต่งพูดถึง หวู่ชาง เจียง หวู่ชาง ไอควาย!!!
C : ขนาดเด็กปฐม ยังรู้เลย!!!
A : แหม่ ว่ากู ปฐมมืงยังเขียนไม่ถูกเลย นั้นมันปฐมนคร เด็กประถมเค้าเขียนแบบนี้ ไอควาย!!!
A4 : เออด่ากันมันส์ดีเว้ยเห้ย!!!