ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 741 – ก้าวเดียว
ในณะนั้น เมื่อถูกสกัดโดย จาง เทียนยี่ และคนอื่นๆ นั้น หลิว เฉินเปียว และคนอื่นๆ ต่างไม่กล้าที่ก้าวเข้าอีกแม้แต่น้อย
เพราะทั้งหมดในกลุ่มนั้น จาง เทียนยี่ แข็งแกร่งมากที่สุด และหากว่ากลุ่มของ หลิว เฉินเปียว ยังดึงดันที่จะเข้าไปนั้น พวกเขาจะต้องได้รับผลจากการกระทำแน่นอน
ในทันทีนั้น หลิว เฉินเปียว จึงหันกลับไปมองที่ หวัง เยว่ ที่มีพลังขั้นแดนสวรรค์ระดับแปด และขึ้นชื่อว่าเป็นศิษย์อัจฉริยะของรองเจ้าสำนัก
แต่ในขณะนั้น หวัง เยว่ ก็ไม่ได้ก้าวออกไปแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะเขาหวาดกลัว จาง เทียนยี่ อีกทั้งในใจของเขานั้น ไม่เคยสนใจ จาง เทียนยี่ หรือคนอื่นๆ แม้แต่น้อย
เขาไม่ได้หวาดกลัว จาง เทียนยี่ แต่คนที่เขาหวาดกลัวก็คือ ชูเฟิง
หลังจากที่ได้เห็นการกระทำของของ ชูเฟิง นั้น เขาก็รู้ว่า ชูเฟิง ไม่ใช่คนที่เขาจะจัดการได้ง่าย และเขาก็รู้ว่า ชูเฟิง เป็นคนที่ฉลาดแกมโกง และไม่กลัวสวรรค์หรือนรกทั้งสิ้น
ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกตินั้น เขาจะไม่สนใจ ชูเฟิง แม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้ ชูเฟิง ได้รับการปกป้องจาก ไต้กู๋ และหากว่าเขาทำให้ ชูเฟิง ต้องโกรธแค้น และจากลักษณะของ ชูเฟิง แน่นอนเลยว่าเขาจะต้องตาย และนั่นจึงทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก “ทำไมถึงไม่ให้ผ่าน !! พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไร !!”
แต่ในขณะนั้น หลาน หยานจื่อ ก็กล่าวออกมา นางไม่มีทีท่าว่าจะหวาดกลัวต่อ จาง เทียนยี่ หรือคนอื่นๆ แม้แต่น้อย อีกทั้งน้ำเสียงของนางยังบ่งบอกถึงความเหยียดหยามอย่างมาก
ในตอนแรกนั้น หลิว เฉินเปียว และคนอื่นๆ ต่างไม่เข้าใจว่าทำไม หลาน หยานจื่อ ถึงได้ทำเช่นนั้น แต่เพียงชั่วขณะพวกเขาก็เข้าใจ เพราะในตอนที่ ชูเฟิง สั่งให้ หวัง หลง คุกเข่านั้น หลาน หยานจื่อ ไม่ได้อยู่ที่นี่ นางจึงไม่รู้ถึงความน่ากลัวของ ชูเฟิง
และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมนางถึงยังจองหอง และไม่เห็น จาง เทียนยี่ และคนอื่นๆ อยู่ในสายตาเช่นนี้ และแน่นอนว่านางย่อมไม่เห็น ชูเฟิง อยู่ในสายตาเช่นกัน “สิทธิ์อะไรงั้นรึ !! สิทธิ์ที่พวกเราเป็นคนค้นพบสถานที่แห่งนี้ และพวกเราไม่ค้องการให้พวกเจ้าเข้าไป !!”
จาง เทียนยี่ ตะโกนออกมาเสียงดัง “นี่…..”
เมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านั้นของ จาง เทียนยี่ พวกเขาก็พูดไม่ออก เพราะพวกเขาต่างเห็น เจียง หวู่ชาง เปิดประตูบานนี้ด้วยกุญแจในมือของเขา “ไปตายซะ !! พวกเจ้าพบสถานที่แห่งนี้รึ !! ทำไมไม่บอกว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกเจ้าไปเลยล่ะ !!””อย่าลืมว่าที่นี่คืออาณาเขตของสำนักสี่คาบสมุทร ที่นี่สถานที่ของศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทร !! ถ้าข้าต้องการจะเข้า ข้าก็เข้า ไม่มีใครขวางข้าได้ หรือพูดง่ายๆ พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะขวางข้า !!”
หลาน หยานจื่อ กล่าวออกมาด้วยความหยิงผยอง ในขณะที่นางเดินตรงไปที่ ซูรู่ และกล่าวว่า”
หากพระเจ้าขวางทางข้า ข้าจะฆ่าพระเจ้า หากปิศาจขวางทางข้า ข้าก็จะฆ่าปิศาจ !!”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ หลาน หยานจื่อ กำลังจะผลัก ซูรู่ นั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
กระโปรงของ ซู่รู่ พริ้วไหว นางพุ่งเข้ามาปรากฏต่อหน้าของ หลาน หยานจื่อ ราวกับนางฟ้า และใช้ฝ่ามือที่ขาวบริสุทธิ์ของนางตบไปที่ใบหน้าของ หลาน หยานจื่อ อย่างรุนแรง ทำให้นางกระเด็นออกไปก่อนที่จะตั้งสติกลับมาได้ “เจ้ากล้าตบข้ารึ !!”
หลาน หยานจื่อ ถลึงตาด้วยความโกรธ พร้อมกับกัดฟันแน่น “หากเจ้ากล้าที่จะก้าวมาอีกเพียงก้าวเดียว ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ว่าข้าจะจัดการกับเจ้ายังไง !!”
ซูรู่ กล่าวออกมา ใบหน้าของนางนิ่งสงบ แต่แววตาของนางกลับเย็นชา จนราวกับว่าสามารถแช่แข็งทุกๆ อย่างได้
***** ฝุ่บ *****
ในขณะนั้น หลาน หยานจื่อ ได้ก้าวถอยหลังออกมา นางกำลังหวาดกลัว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็ตาม
เมื่อมองไปที่ หลาน หยานจื่อ ที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงนั้น ซูเหม่ย ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มออกมาบางๆ แม้ว่าพี่สาวของนางจะไม่ได้แข็งแกร่งมากในตอนที่มาถึงสำนักสี่คาบสมุทรในครั้งแรก มันทำให้ดูเหมือนว่านางเป็นคนที่สามารถรังแกได้ง่าย แต่ ซูเหม่ย ก็รู้ดีว่าพี่สาวของนาง ซูรู่ เป็นคนที่ใจเย็น และมีความอดทนสูง หากนางไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ นางก็จะอดทน และเมื่อใดก็ตามที่นางมีความแข็งแกร่งมากพอ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูของนาง นางจะไม่แสดงความปราณีออกมาแม้แต่น้อย อาจจะเรียกได้ว่านางคือ มารร้าย ก็ว่าได้ “ฮ่าๆ นครที่สาบสูญปลดผนึกแล้วรึ !! ดูเหมือนว่าข้าจะโชคดีเข้าแล้ว !!”
ในขณะนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากระยะใกล้ๆ
เมื่อ เจียง หวู่ชาง และคนอื่นหันกลับไปมองตามต้นเสียงนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะเจ้าของเสียงนั้นก็คือ หวัง หลง “พี่ใหญ่ หวัง หลง ท่านกลับมาได้ถูกเวลาจริงๆ !! นังนี่กล้าตบข้า !! มาช่วยข้าสอนบทเรียนให้นางเร็วเข้า !!”
เมื่อเห็น หวัง หลง นั้น หลาน หยานจื่อ ก็ดีใจอย่างมาก ราวกับนางพบพระผู้เป็นเจ้ามาโปรดนาง “ถ้าเจ้าบอกให้ข้า หวัง หลง ทำร้ายสาวงามเช่นนี้ ข้าว่าข้าจัดการเจ้าดีกว่า !!”
อย่างไรก็ตาม หลาน หยานจื่อ ก็พบว่า หวัง หลง ไม่คิดที่จะช่วยนางแม้แต่น้อย อีกทั้งในตอนนี้ แววตาของ หวัง หลง ที่มองไปยัง ซูรู่ และ ซูเหม่ย ยังเต็มไปด้วยความต้องการ บนใบหน้าของเขายังปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาที่มุมปาก ขณะที่เขายิงฟันให้พวกนาง
การกระทำของ หวัง หลง ทำให้ใบหน้าของ หลาน หยานจื่อ เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดด้วยความโกรธ
เพราะนางมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งกับ หวัง หลง อีกทั้งนางยังช่วยเขาทำร้ายพี่สาวของตัวเอง แต่เขากลับกล่าวออกมาเช่นนี้ มันทำให้นางไม่อาจยอมรับได้ “สำหรับสาวงาม ข้าไม่อาจทำได้แต่……..ผู้ชายข้าจะไม่ละเว้น !!””ตายซะ !!”
หลังจากกล่าวจบนั้น แววตาของ หวัง หลง ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พร้อมกับที่เขาระเบิดพลังสร้างแรงกดดันดันออกมาใส่ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง “อึ้ก !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแรงกดดัน แต่มันก็มีพลังถึงขั้นจ้าวสงครามระดับสี่
ในขณะนั้น พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลภายใต้แรงกดดันนั้น มันเป็นพลังที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ และพวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า หวัง หลง ต้องการฆ่าพวกเขาอย่างแท้จริง
***** ฝุ่บ *****
แต่ในขณะที่ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง รู้สึกว่าพวกเขากำลังจะตายนั้น แรงกดดันอีกสายหนึ่งก็ส่งลงมาจากท้องฟ้า และเข้าสกัดพลังของ หวัง หลง
***** ตูม *****
เมื่อแรงกดดันทั้งสองสายเข้าปะทะกันนั้น ก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง แม้ว่าแรงกดดันสายนี้จะสามารถสกัดแรงกดดันของ หวัง หลง ได้ แต่มันก็ทำให้ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง กระเด็นออกมาหลายเมตร แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “หลาน ยี่ !!”
หลังจากปะทะกันนั้น หวัง หลง ก็พบคนที่ช่วยเหลือ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง นั่นก็คือ หลาน ยี่
ในขณะนั้น ใบหน้าของ หลาน ยี่ แสดงออกถึงความอิดโรยอย่างมาก ร่างกายของนางดูอ่อล้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในขณะนั้นนางได้ยืนอยู่ในพื้นที่ห่างออกไป พร้อมกับจ้องมาที่ หวัง หลง ด้วยสายตาเย็นชาจากระยะไกล “หวัง หลง แรงกดดันขนาดนี้ก็สามารถฆ่าพวกเขาสองคนได้ เจ้าคิดที่จะฆ่าศิษย์ร่วมสำนักเช่นนั้นรึ !!”
หลาน ยี่ กล่าวออกมาอย่างรุนแรง “ฆ่าพวกเขา !! ถ้าข้าต้องการฆ่าพวกเขา พวกเขาจะมีชีวิตอยู่เช่นนี้รึ !!”
เมื่อเห็น หลาน ยี่ นั้น หวัง หลง ก็สูดหายเข้าอย่างเย็นชา เพราะเขารู้แล้วว่า พิษในร่างกายของนางได้ถูกขจัดออกไปแล้ว และนั่นก็ทำให้เขาหมดโอกาสที่นะได้ครอบครองร่างกายของนาง
นอกจากนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้า หลาน ยี่ เขาได้โบกแขนของเขา เป็นสัญญาณพาทุกคนเข้าไปในประตูที่สร้างขึ้นจากรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณบานนั้น
ReaDMGA/////////////////////////A : มืงรอแปป กูโทรตามพี่เฟิงก่อน
B : 1112 โทรเลย บอกเอาหน้า ฮาวาเอี้ยนใส่ชีสเยอะๆ อย่า งก นัก!!! สั่งขอบซีส กูนี้ส่องแล้วส่องอีก ไม่เจอเลย
A : ห่วงแต่ของแดก เขาจะฆ่าจะตายอยู่ล่ะ!!!