ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 742 – ความน่ากลัวของสัตว์ยักษ์
เมื่อเห็นว่า หวัง หลง ก้าวเข้าไปนั้น หวัง เยว่ และคนอื่นๆ ก็ก้าวตามเข้าไปอย่างใกล้ชิด
หลาน หยานจื่อ ก็ก้าวตามไปอย่างใกล้ชิดเช่นกัน นางไม่สนจนพี่สาวของนางแม้แต่น้อย นางไม่กล้าที่จะสบตากับ หลาน ยี่ แม้แต่นิดเดียว เพราะนางรู้สึกถึงความผิดในหัวใจของนาง และหวาดกลัวว่า หลาน ยี่ จะสามารถสัมผัสได้ถึงความผิดนั้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแววตาที่ดุร้ายของ หวัง หลง และแววตาที่หื่นกระหายของเขา ซูรู่ และ ซูเหม่ย ก็ทำได้เพียงเปิดเส้นทางให้พวกเขาเข้าไปเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ หวัง หลง ก้าวเข้าไปนั้น เขาได้หยุดเดิน พร้อมกับหันกลับมามองที่ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง อีกทั้งยังกล่าวออกมาด้วยความเย้ยหยันว่า”
บอกสารเลว ชูเฟิง ด้วยว่า นี่คือที่ของข้า มันจะดีกว่าหากไม่ตามเข้าไป เพราะมันจะไม่มีทางที่พวกเจ้าจะได้กลับออกมา !!”
หลังจากทิ้งคำกล่าวเหล่านี้ไว้เบื้องหลัวนั้น หวัง หลง ก็หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาหัวเราะเย้ยหยันออกมาถึงความลำบากของ ชูเฟิง และคนอื่นๆ แต่กลับไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กลับไป
ภายใต้เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งนั้น หวัง หลง และคนอื่นๆ ก็เข้าไปยังนครที่สาบสูญในส่วนที่ถูกผนึกเอาไว้ และทิ้งห่างกลุ่มของ เจียง หวู่ชาง ไว้ด้านนอก “พวกเจ้าได้เห็นการกระทำของ หวัง หลง แล้ว เขาต้องการจะฆ่าพวกเจ้า แม้ว่าพวกเจ้าจะไม่เข้าไปในนั้น แต่หากว่าเขาพบกับพวกเจ้าอีกครั้ง เขาจะต้องจัดการกับพวกเจ้าแน่ๆ เชื่อข้า อย่าให้ ชูเฟิง เข้าไปในนั้นเด็ดขาด หากเป็นเช่นนั้น แม้แต่ข้าก็ไม่อาจช่วยเหลือพวกเจ้าได้ !!”
หลาน ยี่ ไม่รู้ว่าประตูนี้ถูกเปิดเพราะพวกของ เจียง หวู่ชาง แต่นางรู้ว่าภายในนั้นคือนครที่สาบสูญส่วนที่ถูกผนึกเอาไว้ หลังจากกล่าวเตือน เจียง หวู่ชาง และคนอื่นๆ แล้วนั้น นางก็ก้าวตามคนอื่นๆ ไป เพราะนางไม่ต้องการพลาดโอกาสที่หาได้ยากเช่นนี้
ในขณะที่ทุกคนผ่านเข้าไปในประตูนั้น ก็มีประกายแสงปรากฏขึ้นมาบนพื้นที่บริเวณนั้น พร้อมกับมีคนก้าวออกมา
เมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมาจากประกายแสงนั้นอย่างชัดเจน ทั้ง เจียง หวู่ชาง , จาง เทียนยี่ , ซูรู่ และ ซูเหม่ย ต่างดีใจอย่างมาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล และความหม่นหมองในก่อนหน้านี้ ได้ถูกแทนที่ด้วยความอิ่มเอมใจอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ปรากฏตัวออกมานั้นก็คือ ชูเฟิง “ชูเฟิง !! เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บเลย !! นี่มันเยี่ยมจริงๆ !!”
หลังจากเห็นเขา ซูรู่ และ ซูเหม่ยก็กระโดดกอด ชูเฟิง ในทันที เห็นได้ชัดว่าพวกนางกังวลต่อความปลอดภัยของเขาอย่างมาก ไม่เช่นนั้นพวกนางคงไม่แสดงท่าทีออกมาเช่นนี้
ทั้ง เจียง หวู่ชาง แบะ จาง เทียนยี่ เองนั้น พวกเขาไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ดีว่า ชูเฟิง ที่เข้าไปปลดผนึกรูปแบบเปล่งแสงเพียงลำพังนั้นอันตรายอย่างมาก มันทำให้พวกเขากังวลอย่างมากเช่นกัน “พี่ จาง , น้อง หวู่ชาว ทำไมถึงได้บาดเจ็บเช่นนี้ !!”
ในขณะที่ ชูเฟิง กำลังปลอบสองสาวงามอยู่นั้นทเขาก็มองไปที่ เจียง หวู่ชาง และ จาง เทียนยี่ เขาพบว่าทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังมีคราบเลือดปรากฏอยู่ที่มุมปากของพวกเขา ชูเฟิง ขมวดคิ้วขึ้นในทันที ความกราดเกรี้ยวพลันปะทุขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของเขา “มันเป็นฝีมือของ หวัง หลง ไม่เพียงแต่เขาจะทำร้ายพวกเรา เขายังห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไป !!”
จาง เทียนยี่ กล่าว
ส่วน เจียง หวู่ชาง เพียงนิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าเขามีความกังวลอย่างมาก เพราะในตอนนี้พวกเขาได้พบกับความลับของพลังของสายเลือดจักรพรรดิ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปค้นหามันได้ เพียงเพราะพวกเขาไม่แกร่งพอที่จะต่อต้านคนพวกนั้น
หลังจากได้ยินคำกล่าวของ จาง เทียนยี่ นั้น ใบหน้าของ ชูเฟิง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ราวกับว่าทุกๆ อย่างจะอยู่ภายใต้การคาดเดาของเขาทั้งหมด เขากล่าวออกมาว่า”
ไปข้างในกันเถอะ !!””พี่ใหญ่ ชูเฟิง อย่าเลย !!”
ในขณะนั้น เจียง หวู่ชาง ก็ก้าวออกมาที่ด้านหน้าของ ชูเฟิง และกล่าวว่า”
พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านทำเพื่อประโยชน์ของพวกเรา และเพื่อประโยชน์ของข้า !!””แต่ข้าไม่อยากให้ท่านเข้าไป เพราะ หวัง หลง จะต้องฆ่าพวกเราแน่ๆ ข้าไม่อยากให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่อพวกเรา เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของข้า ข้า………ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ใส่ต่อพลังของสายเลือดจักรพรรดิอีก !!”
ในขณะที่กล่าวออกมานั้น ใบหน้าของ เจียง หวู่ชาง ก็แสดงออกมาถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน เพราะพลังของสายเลือดจักรพรรดินั้นมีความสำคัญอย่างมาก แต่เขาก็รู้ดีถึงอันตรายภายในนครที่สาบสูญส่วนที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ และเขาก็ไม่ต้องการให้ ชูเฟิง และคนอื่นๆ ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเขา ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องช่วยทุกคน แม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดก็ตาม “น้อง หวู่ชาง เจ้าคงไม่คิดว่าพี่ใหญ่ ชูเฟิง คนนี้จะกลัว หวัง หลง ใช่ไหม !?”
ชูเฟิง กล่าวถามพลางยิ้มออกมา “พี่ใหญ่ ชูเฟิง ท่านหมายความว่ายังไง !?”
เมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น ทุกๆ คนต่างตกตะลึงในทันที พวกเขาพากันมองมาที่ ชูเฟิง ด้วยความตกใจ เพราะจากคำกล่าวของ ชูเฟิง นั้น พวกเขาสามารถคาดเดาบางอย่างได้ “เอาล่ะ !!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาของทุกคนนั้น ชูเฟิง ไม่ได้กล่าวตอบออกมาแต่อย่างใด เขาเพียงกล่าวออกมาว่า”
ทุกคนยังไม่รู้ถึงการบ่มเพาะพลังของข้าในตอนนี้ แต่เมื่อพบกับ หวัง หลง ทุกคนจะรู้เอง”
หลังจากกล่าวจบนั้น ชูเฟิง ก็เดินเข้าไปในประตูอย่างสง่างาม
เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูรู่ และคนอื่นๆ ต่างมองหน้ากันพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ แม้ว่า ชูเฟิง ยะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่เห็นได้ชัดว่า ชูเฟิง มีความมั่นใจอย่างมากว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้แน่นอน
ในเวลาเพียงครึ่งปีที่ชายหนุ่มผู้นี้ได้ออกมาจากทวีปเก้าอาณาจักร พลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัวอย่างมากแน่นอน
ดังนั้น ซูรู่ และคนอื่นๆ ต่างไม่ได้ตั้งคำถามใดๆ ออกมา พวกเขาเพียงเดินตาม ชูเฟิง ผ่านประตูนั้นเข้าไปยังนครที่สาบสูญในส่วนที่ถูกปิดผนึกเอาไว้
แม้ว่าภายในนี้จะมีพื้นขนาดใหญ่ แต่ด้วยความเร็วของ ชูเฟิง และคนอื่นๆ นั้น ไม่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งมันก็มีเส้นทางหลักขนาดใหญ่เพียงเส้นทางเดียว ที่ทอดยาวตรงไปยังพระราชวังหลังใหญ่ที่งดงาม
พระราชวังหลังนั้นมีขนาดใหญ่มากที่สุดภายในนครที่สาบสูญส่วนที่ถูกปิดผนึกไว้แห่งนี้ ตราบใดที่พวกเขาไม่ใช่คนโง่นั้น พวกเขาย่อมรู้ได้ในทันที่ว่าพระราชวังหลังนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
ในทันทีที่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ มาถึงหน้าพระราชวังหลังนี้ พวกเขาก็พบว่าประตูทางเข้าได้ถูกเปิดออก นี่นหมายความว่า หวัง หลง , หลาน ยี่ และคนอื่นๆ ได้เข้าไปข้างในแน่นอน และนั่นจึงทำให้ ชูเฟิง แบะคนอื่นๆ ไม่อาจรอช้าได้ เพราะพวกเขาไม่อาจปล่อยให้คนอื่นชิงความได้เปรียบไปได้ “อ๊าาาาาาาา !!”
***** ตูม ครืนนนนนน *****
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ก้าวเข้าไปในพระราชวังนั้น ก็มีเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังออกมา
พร้อมกับกลุ่มควันฟุ้งกระจายออกมาจากภายในพระราชวัง “กระจาย !!”
ชูเฟิง ปัดเป่ากลุ่มควันที่เข้ามาปะทะในทันที เมื่อพวกเขาเข้ามาในพระราชวังนั้น ไม่ต้องกล่าวถึง ซูรู และคนอื่นๆ แม้แต่ ชูเฟิง เอง ก็มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยตกตะลึง
เพราะในพระราชวังที่ถูกตกแต่งไว้อย่างงดงามนี้ หวัง หลง , หลาน ยี่ และคนอื่นๆ ต่างกำลังวังหนีมาทาง ชูเฟิง ด้วยใบหน้าที่หวาดกลัวอย่างมาก
เมื่อพวกเขาเห็น ชูเฟิง มันก็ทำให้ความหวาดกลัวของพวกเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จึงทำให้พวกเขาถูกบังคับให้วิ่งไปที่มุมหนึ่งของพระราชวัง
เหตุผลที่พวกเขาหนีออกมาเช่นนี้ เพราะในส่วนลึกของพระราชวังมีสัตว์ร้ายที่มีร่างกายขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากอยู่
สัตว์ยักษ์ตัวนั้น สูงหลายสิบเมตร หากเปรียบเทียบกับมนุษย์นั้น ก็เท่ากับมนุษย์เป็นเพียงมดตัวเล็กๆ เท่านั้น ดวงตาของมันมีสีแดงกร่ำ อีกทั้งร่างกายของมันยังปกคลุมด้วยเปลวไฟที่รุนแรง
เมื่อมันโจมตีออกมานั้น แม้แต่ท้องฟ้า และผืนดินต่างสั่นไหวอย่างรุนแรง พลังของสัตว์ยักษ์ที่มากมายมหาศาลเช่นนี้เป็นสิ่งที่ ชูเฟิง ไม่เคยเห็นมาก่อน และแน่นอนว่านี่เป็นสัตว์ยักษ์ที่ดุร้ายมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
ในขณะนั้น หวัง หลง และ หลาน ยี่ กำลังรวมพลังกันรับมือกับสัตว์ร้าย แม้ว่าพวกเขาจะพลังถึงขันจ้าวสงครามระดับสี่ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ยักษ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มันก็ทำให้พวกเขากดดันอย่างมาก
ReaDMGA ////////////////////////// B : จะตายเพราะสัตว์ยักษ์หรือตายด้วยมือพี่เฟิง ไปอ่านต่อกันเลยจร้าาาา!!!