ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 811 – ล้อมรอบ
ภายในพระราชวังใต้ดินชูเฟิงเเละจื่อหลิงพวกเขาทั้งสองตอนนี้กำลังกอดกันซึ่งกันเเละกันอยู่บรรยากาศเงียบเชียบพวกเขายังเป็นเช่นนี้เเละยังทำต่อไปพวกเขาไม่สนใจสิ่งอื่นหลังจากที่หนีมา1ชั่วยามเต็ม
ในทันที จื่อ ซวนหยวน ก็อยากจะให้พวกเขาทั้งสองนั้นมีเวลาหวานเช่นนี้อีกหน่อยเเต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำเป็นไม่สนใจได้อีกเขาจึงเริ่มกล่าวขึ้น”
ชูเฟิงพวกเราควรรีบออกจากที่นี่โดยเร็วในขณะที่เรายังคงไม่ถูกพบตัวเข้า” “ใช่เเล้วเราไม่ควรมาเสียเวลาตรงนี้เราควรรีบออกจากสถานที่เเห่งนี้เป็นอันดับเเรก”
พ่อเเม่จื่อหลิงก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อจื่อหลิงเเละชูเฟิงกอดกัน จื่อ ซวนหยวนพยายามส่งข้อความทางจิตหาพวกเขาเเละเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวิธีการณ์ที่เขาเเละชูเฟิงมาถึงที่นี่พ่อเเม่จื่อหลิงรู้ว่าชูเฟิงได้มาที่นี่เพื่อที่จะช่วยพวกเขา
เเม้ว่าพ่อเเม่ของจื่อหลิงจะไม่เชื่อว่าทำไมการบ่มเพาะพลังของชูเฟิงจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงนี้ในช่วงเวลาสั้นๆเเต่เมื่อมันถูกเปิดเผยออกมาพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจำใจเชื่อสิ่งที่เห็น
อาวุโส ซวนหยวน พวกเราถูกเจอตัวเเล้ว”
ชูเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เเยเเสในขณะนั้นเขาก็คลายอ้อมกอดจื่อหลิงในทันที” “ว่าไรนะ? พวกเราถูกพบตัวเเล้วอย่างงั้นหรือ?”
ไม่ต้องพูดถึง จื่อซวนหยวน เเละพ่อเเม่ของจื่อหลิง เเม้เเต่ตัวจื่อหลิงเองก็รู้สึกตกใจ
วางรูปเเบบอำนาจวิญญานในพระวังเเห่งนี้ไว้เเต่เเรกเเละรู้ว่ามันถูกปิดใช้งานจากคนอื่นดังนั้นคนที่วางรูปเเบบนี้ก็คงจะรู้สถานที่หลบซ่อนของเราเเละตอนนี้พวกเราคงถูกล้อมอยู่ก่อนเเล้ว”
เป็นชูเฟิงที่พูดดังออกมาพร้อมมองไปยังเบื้องหลังเเละกล่าวว่า”
ออกมาได้เเล้วมั้งคิดจะเเอบไปถึงไหนกัน” “ฮ่า ๆ ๆ ไม่น่าเชื่อว่าทักษะของเจ้าจะเเข็งเเกร่งเเละสามารถตรวจพบเราตั้งเเต่เเรก ?”
ในขณะนั้นทางเดินในพระราชวังใต้ดินที่กว้างใหญ่ก็มีเสียงดังหัวเราะดังออกมาในขณะเดียวกันรูปแบบอำนาจพลังวิญญานที่ถูกใช้เริ่มคลายลงในขณะนั้นปรากฏร่างคนนับร้อยรายล้อมอยู่
มีทั้งหญิงทั้งชายเเละคนรุ่นใหม่ คนเหล่านั้นมีจำนวนเกือบร้อยคนที่อยู่ในระดับ เจ้าเเห่งสงคราม เเละส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้นอยู่ในอาณาจักรวิญญานสวรรค์ ทั้งหมดล้วนเเล้วเเต่เป็นคนของตระกูลจื่อ เเละผู้นำของพวกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เฒ่าของตระกูลจื่อ ,จื่อ ติงคง.
ข้าไม่เคยลืมที่จะเเนะนำให้เขารู้จักกับพวกเจ้า ไอเด็กเหลือขอนี่คือเพื่อนของนางจากอาณาจักรมังกรฟ้า และเป็นคนที่โง่งมที่จะให้จื่อหลิงออกห่างจาก ท่าน มู่หรง ซุน”
ผู้เฒ่าอธิบายให้ฝูงชนด้านหลังเขาได้ยิน “ดังนั้นเขาจึงเป็นเด็กที่ไม่รู้จักประมาณตนที่คิดจะเเต่งงานกับเธอ เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะยืนเคียงข้างต่อสู้กับจื่อหลิงของพวกเราเพื่อที่จะสู้กับ นายน้อย มู่หรง ซุน งั้นหรือ”
หลังจากที่ยินคำพูดของผู้เฒ่าฝูงชนของตระกูลจื่อเริ่มที่จะส่งเสียเยาะเย้ยเขาจากการสังเกตุดูก็จะบอกได้ว่าพวกเขาไม่เพียงเเต่เป็น สุนัขที่คอยเชื่อฟังผู้เฒ่า ของตระกูลจื่อ เเละพวกเขายังเป็นสุนัขที่เชื่อฟังของ มู่หรง ซุน อีกด้วย
พวกเจ้าทั้งหมดหุบปาก! ข้าเป็นของชูเฟิงเพียงคนเดียวเท่านั้น มู่หรงซุนนั้น ไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าเเม้เพียงนิดเดียว”
จื่อหลิงโกรธเป็นอย่างมากเมื่อเธอได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากฝูงชนที่ด่าทอชูเฟิงเธอตระโกนเเละชี้ด่าออกไป “จื่อหลิง อย่าได้พูดเช่นนี้ เจ้ากำลังเลือกที่จะเดินเส้นทางที่ผิดเเละถูกหลอกโดยเจ้าสารเลวตัวน้อยนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความสามารถหรืออำนาจที่เขาไม่มี ? เขาเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือเเต่เจ้าก็ต้องการที่จะอยู่กับเขาเช่นนั้นหรือ”
ใช่เเล้วหลิงเอ๋อ ท่านต้องไม่หลงกลโดยการกระทำของเขา! คู่ครองที่สมบูรณ์เเบบต่อท่านมีเพียง นายน้อย มู่หรง ซุน!”
เหล่าผู้คนที่มาจากตระกูล จื่อ พวกเขาพูดจาที่ข่อนข้างสุภาพกับจื่อหลิง “หุบปากซะ! อย่าได้เอาข้าไปเหมารวมกับ มู่หรง ซุน ข้าไม่ได้ต้องการที่จะอยู่กับเขา”
จื่อหลิงตระโกนออกมาใบหน้าของเธอที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ” “อ่า จื่อหลง เจ้ายังไม่ได้เห็น นายน้อยมู่หรง ซุน เลย หากเจ้าเห็นเขาเจ้าจะบอกว่าไอเด็กเหลือขอนี่ไม่ต่างจากคนธรรมดาเมื่อเทียบกับเขา มีคนนับไม่ถ้วนที่ชอบเขาในทะเลภาคตะวันออก ในที่เเห่งนี้มีเพียง นายน้อย มู่หรง ซุนเท่านั้นที่มีค่าพอที่จะยืนเคียงกับเจ้า””จื่อหลิง ไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง นายน้อยได้เเจ้งกับพวกเราเเล้ว ในวันกี่วันนี้หลังจากเขาทำธุระเสร็จเขาจะมาเยี่ยมท่าน ในเวลานั้น ท่านจะต้องชื่นชอบคู่หมั้นของท่านเเน่นอน”
คนที่มาจากตระกูลจื่อ ต่างพยายามโน้มน้าวจื่อหลิงโดยพวกเขา ได้พูดเเสดงถึงตัวตนอันยิ่งใหญ่ของมู่หรง ซุน “พวกเจ้ามัน…..”
คิ้วของจื่อหลิงเหี่ยวย่นด้วยความโกรธใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน ถ้าเธอนั้นมีความเเข็งเเกร่งมากพอเธอก็จะฆ่าพวกน่าขยะเเขยงของตระกูลจื่อ ให้หมดไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว “จื่อหลิง ไม่ต้องเสียเวลาเถียงกับพวกสุนัขรับใช้หรอก เดี๋ยวข้าจัดการเอง”
ชูเฟิงกล่าวออกมา หลังจากที่ได้ยินคำพูดของชูเฟิง จื่อหลิง เชื่อฟังเเละพยักหน้าตอบรับ เธอนั้นเริ่มที่จะถอยห่างออกเเละไปอยู่รวมกับพ่อเเม่เเละปู่ของเธอ
********ปั้ง******** ทันใดนั้นเองชูเฟิงได้ลงมืออย่างรวดเร็วทันที เขานั้นได้ทำการหักขาหลานชาย ของผู้เฒ่า จื่อ “อ๊าาา”
หลังจากที่โดนจู่โจมในทันทีเขานั้นเกือบที่จะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดเเต่อาการเจ็บขานั้นได้ทำให้สติของเขาตื่นตัว เเละเริ่มที่จะคร่ำครวญออกมาหลังจากนั้นเขาหันไปมองทางด้านของตระกูลจื่อเเละร้องขอความช่วยเหลือในทันที”
ท่านพ่อท่านเเม่เเละท่านปู่ช่วยข้าด้วย” “คุน เอ๋อ!”
ในขณะนั้นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนนั้นเเสดงออกถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปพวกเขารีบวิ่งไปทางชูเฟิงเพื่อหวังที่จะช่วยหลานชายของผู้เฒ่าจื่อ หลังจากที่เห็นเขานั้นถูกหักขา พวกเขาพุ่งตัวออกไปพร้อมที่จะไปช่วย จื่อ คุน ในทันที “ถ้าขืนพวกเจ้ากล้าที่จะเข้ามาใกล้อีกนิดเดียว ข้าจะเหยียบหัวของเขาให้เเบนซะ”
ชูเฟิงกล่าวออกมาโดยไม่รีรอให้พวกเขานั้นได้เข้าใกล้ ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้เท้าของชูเฟิงก็ได้ไปประทับอยู่ที่ใบหน้านั้นเเล้ว “อย่า!”
พ่อเเม่ของ จื่อ คุน หยุดการเคลื่อนไหวในทันทีพวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลามเเต่พวกเขากลับโยนสายตาของความช่วยเหลือไปยัง ผู้เฒ่าจื่อ “อย่าได้คิดที่จะนำหลานชายของข้ามาขู่เเละส่งตัวจื่อหลิงมา?”เปรียบเทียบระหว่างพ่อเเม่ของ จื่อ คุน ผู้เฒ่าจื่อนั้นไม่ได้กังวลมากเกินไปสำหรับหลานชายของเขาเองในสายตาของเขาได้มองผ่านชูเฟิงทะลุเข้าไปเเม้ว่าระดับพลังของชูเฟิงจะทำให้เขาตกใจอย่างมากเเต่ในสายตาของเขาชูเฟิงก็ยังไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขานัก “ขู่อย่างงั้นรึ หากเจ้าคิดว่าชีวิตของหลานชายของเจ้าไม่มีค่าพอที่จะมีชีวิตต่อมันคงจะดีกว่าหากข้าจะช่วยให้เขาหายจากไปโดยการระเบิดหัวของเขา”
ชูเฟิงกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเเม้เขาจะถูกล้อมรอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญของตระกูลจื่อ เเต่การเเสดงออกของเขาก็ยังคงสงบนิ่งมาก
คนที่มาจากตระกูลจื่อ ที่เคยไม่ใส่ใจชูเฟิงในสายตา เเต่ตอนนี้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสลักชื่อชูเฟิงเข้าไปในดวงตาเเละจดจำเขา? “ฮ่าๆ ช่างเป็นเรื่องน่าขัน ด้วยการบ่มเพาะพลังของเจ้าเพียงเเค่ระดับ เจ้าเเห่งสงครามระดับ 3 เเต่เจ้ากับกล้าที่จะขู่ข้า”
ทันใดนั้นผู้เฒ่าจื่อ ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาคิ้วของเขาเป๋มากขึ้นในขณะนั้นคลื่นกระเเทกที่มองไม่เห็นได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขาในทันที
เขาโจมตีออกไป โดยที่ไม่ได้คิดถึงสิ่งใดออกมา ระดับพลังที่ปลดปล่อยออกมาอยู่ระดับ 6 เจ้าเเห่งสงคราม คลื่นพลังที่มองไม่เห็นเริ่มที่จะพุ่งไปทางชูเฟิงด้วยความรวดเร็วเขาต้องการที่จะจัดการชูเฟิงอย่างรวดเร็วเเละช่วยหลานชายของเขาเช่นเดียวกัน
เเต่เขาก็ยังประเมินชูเฟิงต่ำไป ชูเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาก่อนที่จะยกมือขึ้นเล็กน้อยเเละปล่อยพลังออกมาเข้าปะทะทำให้เกิดการระเบิดขึ้น เเต่ในเวลานั้นการโจมตีของผู้เฒ่าจื่อนั้นได้เเตกสลายหายไปเเล้ว “ดูเหมือนว่าเจ้านั้นจะไม่ห่วงชีวิตของหลานชายของเจ้า ดีเช่นนั้นข้าจะทำสิ่งที่เจ้าต้องการ”
ในทันทีหลังจากชูเฟิงขยับเท้าของเขาเพียงเล็กน้อยบนหัวของ จื่อ คุน เขากดลงไปในทันที เลือดเริ่มที่จะทะลักออกมาในปริมาณครึ่งหัวของ จื่อ คุน ในขณะนี้หัวของเขาได้ถูกชูเฟิงเหยียบจนเเบนเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว “อ๊าาา!!!”
ในทันทีเสียงกรีดร้องจากปากของ จื่อ คุน ได้ดังลั่นกึกก้องทั่วพระราชวังใต้ดิน สภาพของเขาตอนนี้ราวกับหมูที่ถูกเชือดก็มิปาน
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
ปล. ทีมงานโดนจดหมายลูกโซ่
คนไทยเราเชื่อว่า ทุกคนล้วนแต่รักในหลวงคับ รักเป็นสิ่งที่ฝังลึกในจิตใจ ไม่ใช่คำพูดหรือข้อความ พวกเราว่าการกระทำสำคัญสุด ทุกท่านสมัครสมานสามัคคี ไม่เห็นแก่ตัว รักบ้านเมือง ทำให้ประเทศเราพัฒนา ผมว่านั้นแหละคับการแสดงความรักที่มีต่อพ่อหลวง