ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 824 – ที่พึ่งพิง
“ชูเฟิง ใครเป็นคนส่งสาส์นนี้มาให้เจ้าหรือ เป็นพรรคมารทะลายราตรีอย่างนั้นหรือ?”
จื่อหลิงถามขึ้น “อืมเป็นผู้อาวุโส ราชันย์ปฐพีจากพรรคมารทะลายราตรีน่ะ เขาส่งสาส์นมาว่าอยากพบข้า เพราะเขามีบางอย่างจะบอก”
ชูเฟิงตอบตามตรง. “ถ้าอย่างนั้นเจ้ารีบไปหาพวกเขาเถิด ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกเรา ท่านพ่อและท่านแม่ได้วางรูปแบบปิดบังตัวตนไว้แล้ว ดังนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ถ้าพวกเราจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่”
จื่อหลิง พูดขึ้น “ไม่ มันไม่ปลอดภัยพอหรอก พวกเราไม่รู้ว่าหมู่เกาะประหารนั้น มีทักษะหรือวิชาอะไรบ้าง แม้แต่รูปแบบวิญญาณ ข้านั้นยังไม่สามารถหลุดจากพวกเขาได้เลยถ้าพวกเขาส่งผู้เชี่ยวชาญมาที่นี่ มันย่อมต้องพบเข้าอย่างแน่นอน”
ชูเฟิง ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นเขาไม่ต้องการให้จื่อหลิง เข้าปากเสืออีกครั้ง “แต่ตอนนี้ พรรคมารทะลายราตรีและหมู่เกาะประหารก็เหมือนน้ำกับไฟ เพื่อจัดการกับพรรคมารทะลายราตรี หมู่เกาะประหาร ย่อมต้องใช้อำนาจบังคับ ให้ 3 ตระกูลใหญ่มาทำสงครามกับพรรคมารทะลายราตรีอย่างแน่นอน””ในตอนนี้นั้น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญของพรรคมารทะลายราตรีนั้น จะแสดงตัวออกมาเพียงน้อยนิดแต่ ถ้า 3 ตระกูลใหญ่ ได้เข้าร่วมกับหมู่เกาะประหาร มันย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ดังนั้นเจ้ารีบไปเร็วเข้า พวกเขาต้องมีเรื่องสำคัญที่จะหารือกับเจ้าแน่นอน”
จื่อหลิงพูดขึ้น”
เมื่อเห็นท่าทางของจื่อ หลิง ชูเฟิงนั้นรู้สึกชื่นใจอย่างมาก เพราะนางเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีอย่างมาก ไม่เพียงแต่สำหรับเขา แต่ยังรวมไปถึง เรื่องของโลกภายนอกอีกด้วย “ตอนนี้ มีที่นึงที่ข้าคิดว่าน่าจะปลอดภัย นั่นคือหุบเขาสายหมอกข้าจะพาเจ้าไปอยู่ที่นั่นก่อน แล้วค่อยไป สำนัก 4 คาบสมุทร”
ชูเฟิงพูดขึ้น “สำนักสี่คาบสมุทรอย่างนั้นหรือ ซู รู่ว ซู เหม่ย และ คนอื่นๆ ยังอยู่ที่นั่นใช่หรือไม่”
จื่อหลิง ถามขึ้น “อืม แต่เจ้าไม่ต้องกังวล แม้หมู่เกาะประหารจะรู้ว่าข้าคือชูเฟิง แต่พวกมันก็ไม่อาจหาพวกเขาได้โดยเร็วแน่นอน เพราะโลกนี้นั้นกว้างใหญ่มาก และมีผู้คนที่โด่งดังเต็มไปหมดมันจึงต้องใช้เวลาในการหาคนที่เกี่ยวกับข้า”
ชูเฟิงพูดขึ้น “แต่ … ราชันย์ปฐพี ไม่ได้มีเรื่องจะคุยกับเจ้าอย่างนั้นหรือ”
จื่อหลิงยังคงเป็นกังวล นางกลัวว่าชูเฟิงจะพลาดเรื่องสำคัญเพราะนาง “เขาไม่ได้บอกรายละเอียดกับข้า แต่เขาบอกให้ข้าไปพบ ตอนนี้ ข้าบอกเขาให้ไปพบข้าที่สำนักสี่สมุทร หลังจากส่งเจ้าแล้วข้าจะไปหาเขา”
ชูเฟิงพูด “ถ้าอย่างนั้นก็ดี.”
จื่อหลิง เห็นชูเฟิงพูดเช่นนั้น จึงสบายใจ
หลังจากนั้น ชูเฟิงก็ได้พาจื่อหลิง และคนอื่นๆ ออกจากหุบเขา และเขาก็พบจุดเคลื่อนย้ายที่ไม่มีคนจากหมู่เกาะประหารเฝ้าอยู่
หากใช้มัน พวกเขาก็จะถูกส่งไปยังหุบเขาสายหมอกทันที แม้หมู่เกาะประหารจะรู้ตัว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถมาหยุดเขาได้ เพราะหากท่านหญิงเพียวเมี่ยวโกรธนางที่เป็นดั่งปีศาจที่มีอายุกว่า 1000 ปีนั้นย่อมน่าเกรงกลัว พวกเขาจึงไม่กล้ามาที่หุบเขาสายหมอก.
หลังจากชูเฟิง และคนอื่นๆ เดินออกมาจากจุดเคลื่อนย้ายแล้วมองไปยังภาพที่คุ้นเคยเขาก็รู้สึกเบาใจลงทันที ที่แห่งนี้คือพื้นที่ที่ท่านหญิงเพียวเมี้ยวอยู่ จึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับพวกเขา
ในตอนนั้นเขากังวลเรื่อง หุบเขาสายหมอกจะไม่ยอมรับพวก จื่อหลิง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง!”
ในตอนนั้น เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น และมีบุคคลที่คุ้นเคยบินมาหาพวกเขา นางคือ ชุน หวูนั่นเอง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง ในที่สุดเจ้าก็มา”
หลังจากที่เห็นชูเฟิง นางก็มีความสุขอย่างมาก จากนั้นนางก็มองไปที่คนอื่นๆ จนสุดท้าย สายตาของนางก็มาตกที่จื่อหลิง แล้วนางก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า”
หรือว่า นี่คือคู่หมั้นของ มู่หรง ซุน อย่างนั้นหรือ นางงดงามยิ่งกว่า ศิษย์พี่ ฉิว ซือ เสียอีก!””ศิษย์พี่ ชุน หวู นี่คือ จื่อหลิง นางไม่ใช่คู่หมั้นของมันหรอก แต่นางคือคู่หมั้นของข้า”
ชูเฟิง พูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ ชุน หวู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ตอนเราเดินทางมาที่นี่ ชูเฟิงได้เล่าเรื่องท่านให้ฟัง และบอกว่าท่านช่วยเขาไว้เยอะแยะเลย”
จื่อหลิงพูดขึ้น นางพูดกับชุนหวูด้วยความเคารพและขอบคุณที่ชุน หวูได้ช่วยชูเฟิงไว้มากมาย “เอ๋ นี้ไม่ได้หมายความว่าเจ้าคือ น้องสะใภ้ของข้าหรือ สวัสดี คุณน้องสะใภ้”
ชุน หวูยิ้มแล้วพูดออกมา “ศิษย์พี่ ชุน หวู มันดูเหมือนว่าท่านกำลังรอพวกเราอยู่เลย”
ชูเฟิง ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้องอาจารย์ข้า รู้ว่าเจ้าจะขึ้นมา และยังบอกว่าเจ้ายังพาคนจากตระกูลจื่อมาอีกด้วย ดังนั้น นางจึงบอกให้ข้ามาที่นี่และพาเจ้าเข้าไป ประตูหุบเขาสายหมอกได้เปิดขึ้นนแล้ว พวกเราต้อนรับเจ้าเสมอ””ข้าไม่คิดว่าจะต้องรอนานขนาดนี้ ข้านั้นคิดว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว แต่โชคดีในตอนนี้เจ้ามาแล้ว แสดงว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าสิถ้า ฮี่ฮี่”
ชุน หวู พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แสดงว่า ท่านหญิงเพียวเมี้ยวคาดไว้แล้วสินะว่าข้าต้องมา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชูเฟิงก็เข้าใจทันที และเขาก็พูดกับชุนหวูว่า”
ศิษย์พี่ ชุน หวู ข้าขอโทษ ที่ให้ท่านรอเสียนาน.””ศิษย์น้องชูเฟิง เจ้าอย่าพูดเช่นนี้เลย เพราะตอนอยู่ที่หุบเขาคนโฉด หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้ ข้าอาจตายไปแล้วก็เป็นได้ และนั่นมันทำให้เจ้าต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหาร”
ชุนหวูพูดขึ้น. “ก่อนที่ข้าจะได้พบกับหมู่เกาะประหาร ข้าก็พร้อมจะตั้งต้นเป็นศัตรูกับพวกมันอยู่แล้ว แต่ยังโชคดี ที่เรื่องในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพวกท่านด้วย”
ชูเฟิง พูดขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชุน หวูก็มองไปที่จื่อหลิง แต่นางไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มบางๆ จากนั้นก็พูดว่า”
ตามข้ามา ผู้อาวุโสฉิวชุ่ย อยู่ที่นี่ พวกนางคงมีความสุขที่ได้พบเจ้า”
ไม่นานหลังจากนั้น ชูเฟิง และ คนอื่นๆ ก็ตาม ชุน หวู เข้าไปยัง หุบเขาสายหมอก หลังจากเข้ามา ชุน หวู ก็พาชูเฟิงและคนอื่นๆ เข้าที่พักทันที หลังจากนั้น ชุน หวู ก็บอกให้ชูเฟิง และ จื่อหลิง รอที่นี่ จากนั้นก็พา จื่อ ซวนหยวน และ ครอบครัวของจื่อหลิง เข้าที่พัก. “ชูเฟิงเจ้าช่างร้ายยิ่งนัก!”
หลังจาก ชุน หวูเดินไป เสี่ยวฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ก็ดังขึ้น เมื่องเขาหันไปมอง เขาก็เห็นว่าไม่เพียงฉิวชุ่ย ฟู่หยานอยู่ตรงนั้น แต่ยังมี ท่านหญิงเพียวเมี้ยว อยู่ด้วย
แม้ว่า ทั้ง 2 จะเป็นผู้เชี่ยวชาญยอดฝีมือ เมื่อ ชูเฟิงมองทั้งคู่ เขาก็ปราศจากความกังวลใดๆ มีเพียงแต่ความรู้สึกว่าเป็นคนสนิทกันเท่านั้น
หลังจากที่ได้รู้จักกันมาพอสมควรทั้ง 2 นั้นได้ยอมรับเขา และเป็นผู้ที่แสดงเจตนาดีดีกับเขาตลอด และยังเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนเขาด้วย
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : พี่เฟิงพาจื่อหลิงมาที่นี่นอกจากเพื่อป้องกันหมู่เกาะประหารแล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า ?!
B : ถูกต้อง ชูเฟิงต้องการพานางมาถอนพิษเม็ดยา3ชั้น ?!
C : กูรู้สึกว่า ชื่อยามันไม่ใช่แบบนี้นะ ยาผนึกพลัง หรือ ยาอะไรสักอย่าง โบราณๆ!!!
B : เอาเป็นว่าพามาถอนพิษล่ะกัน . . . .