บทที่ 848 – สู้ด้วยชีวิต
 
 
 
ชูเฟิง ไม่ได้รู้เพียงแค่ว่าผู้นำนิกายกินยาต้องห้ามเข้าไปเท่านั้น แต่เขายังรู้อีกว่าอีกไม่นานผู้เฒ่าเก้านิ้วจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน 
 
 
 
หากทุกอย่างยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปนั้น ผู้เฒ่าเก้านิ้วจะต้องตายในไม่ช้า แต่เมื่อ ชูเฟิง ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเขาแล้วนั้น เขาย่อมจะช่วยจนถึงที่สุด และแล้วเขาก็ตะโกนตอบไปว่า”
 
 
 
ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ข้า ชูเฟิง ได้มาถึงที่นี่แล้ว และข้าจะไม่มีวันละทิ้งพวกท่านเอาไว้ !! ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นคนของพรรคมารทลายราตรี พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน !!ดังนั้น พวกเราควรลำบากและมีความสุขไปด้วยกัน !!””นิกายดาบศิลากล้ามาก!! ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพรรคมารทลายราตรีของพวกเรา !! แทนที่จะให้พี่น้องของพวกเราจัดการพวกเขา ทำไมพวกเราไม่จัดการพวกเขาเองล่ะ !!””ไม่จำเป็นต้องกลัว แย่ที่สุดพวกเราก็แค่ตาย !! แต่ถึงอย่างไร พวกเราก็จะสู้ให้ถึงที่สุด !!”
 
 
 
เสียงตะโกนของ ชูเฟิง ทำให้ฝูงชนโดยรอบต่างชื่นชมออกมา ไม่เว้นแม้แต่ผู้เฒ่าเก้านิ้วและคนอื่นๆ ทุกคนต่างชื่นชมในความกล้าหาญของ ชูเฟิง อย่างหมดใจ 
 
 
 
เพราะคำที่ ชูเฟิง ตะโกนออกมานั้น มันอัดแน่นไปด้วยคุณธรรมทั้งสิ้น 
 
 
 
ในโลกนี้คนที่เห็นแก่ตัวนั้นมีอยู่อย่างมาก แต่ ชูเฟิง ที่เป็นคนในรุ่นหนุ่มสาวกลับมีสิ่งที่เรียกว่าคุณธรรมอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งบุคคลเช่นนี้นั้น นับว่าได้ยากอย่างมาก 
 
 
 
ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ทุกคนได้ชื่นชมในตัว ชูเฟิง แต่พวกเขายังได้พบกับอัญมณีล้ำค่าอีกด้วย 
 
 
 
ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งที่โดดเด่นของเขาในคนรุ่นเดียวกัน แต่เขายังมีความโหดเหี้ยม และไร้ความปราณีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู แต่เมื่อเป็นกลุ่มพันธมิตรเดียวกันนั้น เขาก็เป็นคนที่ทุกคนสามารถไว้วางใจได้อย่างมาก 
 
 
 
แม้ว่าคำพูดของ ชูเฟิง จะทำให้ผู้เฒ่าเก้านิ้วและคนอื่นๆ เกิดความฮึกเหิมขึ้นมา แต่ ชูเฟิง ก็รู้ดีว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าผู้เฒ่าเก้านิ้วจะต้องพ่ายแพ้ต่อผู้นำนิกายดาบศิลาอย่างแน่นอน 
 
 
 
ด้วยสถานการณ์เช่นนั้ ชูเฟิง จึงไม่ซ่อนพลังของเขาอีกต่อไป เขาทุ่มพลังทั้งหมดในการกวัดแกว่งหอกมังกรเงินในมือเพื่อโจมตีออกไป เขาต้องการที่จะจัดการผู้เฒ่าทั้งหกคนให้เร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะไปสมทบผู้เฒ้าเก้านิ้ว 
 
 
 
***** ตูมมมมม ***** 
 
 
 
แต่ ชูเฟิง ยังคงประเมินผิดไป ด้วยพลังของยอดยุทธภัณฑ์ชั้นราชวงศ์ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะสามารถเอาชนะผู้เฒ่าทั้งหกคนได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะทำเช่นนั้น “ข้าเห็นว่าพวกเจ้าบ่มเพาะพลังกันมานาน จึงคิดจะให้ศพของพวกเจ้าอยู่ในสภาพที่ดีหน่อย แต่ตอนนี้พวกเจ้าได้บีบบังคับข้าเอง อย่าได้โทษข้าที่โหดร้าย !!”
 
 
 
ทันใดนั้น ใบหน้า และแววตาของ ชูเฟิง ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “ฮ่าๆ มีความมั่นใจดี !!””พวกเรายอมรับในความแข็งแกร่งของเจ้า ว่าเจ้าคืออัจฉริยะที่พวกเราไม่เคยพบมาก่อน แต่เจ้าคิดจะเอาชนะพวกเราได้นั้น เจ้าคิดผิดแล้ว !! วันนี้เจ้าจะต้องตาย !!”
 
 
 
ผู้เฒ่าทั้งหกคนนั้นปลีกตัวออกไปฝึกฝนเป็นเวลานาน ดังนั้น พวกเขาจึงไม่รู้เรื่องของ ชูเฟิง มากนัก ดังนั้น พวกเขาจึงคิดว่าพวกเขาจะสามารถจัดการกับ ชูเฟิง ได้ 
 
 
 
***** ฝุ่บ ***** 
 
 
 
แต่ ชูเฟิง ได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้แล้ว เขาเปิดประตูวิญญาณออกมาอย่างรวดเร็ว 
 
 
 
***** ครืนนนนนน ***** 
 
 
 
เสียงร้องอย่างโหยหวนดังขึ้นมา พร้อมกับที่เปลวเพลิงสีดำพุ่งออกมาห่อหุ้มร่างกายของทั้งหกคนเอาไว้อย่างรวดเร็ว “อ๊าาา !!””นี่มันอะไรวะเนี่ย !!”
 
 
 
ในเวลานั้น ใบหน้าของชายชราทั้งหกที่เคยเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในตอนนี้ใบหน้าของพวกเขากลับอัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัวอย่างชัดเจน 
 
 
 
ในทันทีที่เปลวเพลิงสีดำห่อหุ้มร่างกายของพวกเขานั้น พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ในเวลานั้น ค่ายกลที่พวกเขาสร้างขึ้นก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว “จงจำเอาไว้ ว่านี่คือพลังของ อสูรฟ้า !!”
 
 
 
ชูเฟิง ยิ้มเยาะออกมา พร้อมกับที่เขาปล่อยพลังจากหอกมังกรเงินในมืออกมา พุ่งทะลวงไปยังชายชราทั้งหกคน เพียงพริบตาเดียว ชายชราทั้งหกคนก็ไม่หลงเหลือชีพจรชีวิตอีกต่อไป อีกทั้งศพของพวกเขาก็ไม่มีเหลือแม้แต่น้อย เพราะ ชูเฟิง ได้ดูดเอาแหล่งพลังงานของพวกเขาไปจนหมด “ไอ๊หยา !! เจ้าไม่ให้ข้าออกไปเหรอ !?”
 
 
 
หลังจากที่ชายชราทั้งหกคนถูกสังหารแล้วนั้น สาวงามก็ก้าวออกมาจากประตูอย่างช้าๆ นางก็คือมหาราชินี ต้านต้าน “ว้าววว !! สวยจังเลย !! สาวงามเช่นนี้ยังมีในโลกอีกหรือเนี่ย !? นางเป็นใครกัน !?””เจ้าโง่ !! นั่นมันประตูวิญญาณ ถ้านางออกมาจากประตูนั่น ก็ชัดเจนแล้วว่านางคือมหาราชินีจากโลกวิญญาณพิภพอสูรฟ้า !!””แข็งแกร่งจริงๆ ในที่สุดหกผู้เฒ่าก็ถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของ ชูเฟิง ความสามารถของเขาโดดเด่นจริงๆ สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ !!”
 
 
 
หลังจากที่ ต้านต้าน ปรากฏตัวออกมานั้น ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก แม้ว่าพลังนั้นจะเป็นของนาง แต่ทุกคนก็ยังคงชื่นชม ชูเฟิง 
 
 
 
เพราะถึงอสูรวิญญาณจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่ทำพันธะสัญญาด้วย ดังนั้น ความแข็งแกร่งของอสูรวิญญาณ จึงล้วนขึ้นอยู่กับตัวของ ชูเฟิง เอง “บ้าเอ๊ย !! ไอ้เด็กนี่น่ากลัวจริงๆ !! แม้แต่ผู้เฒ่าทั้งหกก็ไม่อาจเอาชนะได้ !!”
 
 
 
เมื่อเห็นว่าหกผู้เฒ่าได้ตายไปแล้วนั้น ใบหน้าของผู้นำนิกายดาบศิลาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้ของเขาไม่ดีแล้ว เขาพลิกฝ่ามืออย่างรวดเร็ว พลันปรากฏยาต้องห้ามออกมาอีกสิบเม็ด เขากินมันลงไปในทันทีอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย 
 
 
 
***** ว๊ากกกกกกก ***** 
 
 
 
หลังจากกินยาต้องห้ามทั้งหมดเข้าไปนั้น ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่เพียงแต่ดวงตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงกร่ำ แต่เขายังคำรามออกมาอย่างดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่า 
 
 
 
ในทันทีนั้น เขาดูราวกับปิศาจในร่างมนุษย์ ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ออร่าพลังของเขายังแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน “สวรรค์ !! ผู้นำนิกายดาบศิลากินยาต้องห้ามมากเกินไปแล้ว !! เขาคงไม่ต้องการจะมีชีวิตอีกต่อไป !!”
 
 
 
เมื่อเห็นว่าเขาได้รับพลังจากยาต้องห้ามอย่างมหาศาล เหล่าผู้สังเกตการณ์ต่างตกใจอย่างมาก เพราะทุกคนรู้ดีว่าผลที่จะตามมานั้นเป็นเช่นไร 
 
 
 
ผลกระทบจากการใช้ยาต้องห้ามนั้นน่ากลัวอย่างมาก และในตอนนี้เขาก็กินยาต้องห้ามเข้าไปจำนวนมาก นั่นเท่ากับการฆ่าตัวตายอย่างชัดเจน “ไม่ใช่ !! เขายอมสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลก เพราะ ชูเฟิง นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก หากพ่ายแพ้ เขาก็จะต้องตาย หากเป็นข้า ข้าก็คงทำเช่นนั้น !!”อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่สามารถเข้าใจการกระทำของผู้นำนิกายดาบศิลาได้ 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
C : อำนาจพลังวิญญาณสีทอง เมื่อไหร่จะใช้สักที!!! 
 
 
 
A : ใจเย็นๆวัยรุ่น!!! 
 
 
 
B : ตอนหน้ามีสิทธิ์ค้างสูงมาก หากยังสู้กันยังไม่จบ . . . . . . 
 
 
 
C : ไม่สน ขอแค่ให้ได้โชว์พลังใหม่ก็พอ!!!