บทที่ 880 – เเผนการของหมู่เกาะประหาร
 
 
 
“อาวุโส ฉิวชุ่ย ท่านมีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ”
 
 
 
ชูเฟิงถาม “มันเกี่ยวข้องกับพรรคมารทลายราตรี ความจริงข้าไม่ได้ต้องการที่จะบอกเจ้า เพราะเจ้าไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากที่เเห่งนั้น ข้ากลัวว่าเจ้าต้องการจะเสี่ยงอันตรายเเละจะสอดมือเข้าไปช่วย””เเต่ถึงยังไงเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรคมารทลายราตรีหลังจากข้าครุ่นคิดมาสักพักมันควรจะดีกว่าหากจะบอกให้เจ้าได้รับรู้ไว้”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าว “อาวุโส ฉิวชุ่ย เกิดอะไรขึ้น?”
 
 
 
ชูเฟิงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากจิตใต้สำนึกของเขากำลังเรียกร้องว่าพวกเขาเหล่านั้นกำลังเผชิญกับปัญหา “การต่อสู้ระหว่างหมู่เกาะประหารเเละพรรคมารทลายราตรีได้เเพร่กระจากไปอย่างสมบูรณ์เเละกว้างไกลตั้งเเต่ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มประทะกันก็ต่างบาดเจ็บกันทั้งสิ้นอย่างไรก็ตามคนจากพรรคมารทลายราตรีต่างก็ตกเป็นรองของหมู่เกาะประหาร” “ระหว่างที่ข้ากำลังตามหา ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ ข้าได้สะดุดตาไปเห็น การประชุมระหว่างหมู่เกาะประหารเเละ ตระกูล วิหคศักดิ์สิทธิ์.””ถึงเเม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้สนิทเชื้อชิดเเละติดต่อกับบุคคลอื่นๆ อย่างไรก็ตามหมู่เกาะประหารได้ส่งคำเชิญร่วมเป็นพันธมิตรกับ 3ขั้วอำนาจ เเละเชิญชวนพวกเขาให้เข้าร่วมเเผนการจัดการพรรคมารทลายราตรี ตระกูลวิหคศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นหนึ่งใน 3ขั้วอำนาจของพรรคพวกนั้น “ตอนที่ข้าได้เห็นพวกเขาข้าก็คิดไว้อยู่เเล้วว่าพวกเขาคงจะได้เป็นพันธมิตรกันเรียบร้อยพวกเขาทั้งสองที่เป็นมหาอำนาจได้ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับพรรคมารทลายราตรี” “ดังนั้นข้าจึงเเอบได้ยินการสนทนาบางอย่างของพวกเขามาบ้าง “มันเป็นเเผนการ ทุกอย่างที่ข้าได้ยินนั้นตรงกับความเข้าใจของข้าทุกอย่างพวกเขามีท่าทีที่จริงจังเเละกำลังวางเเผนเพื่อตอบโต้พรรคมารทลายราตรี” “พวกเขาวางเเผนจะทำสิ่งใดกันเเน่”
 
 
 
ชูเฟิงจู่ๆก็ลุกขึ้นโดนพลันเขาไม่สามารถที่จะนั่งได้อีกต่อไปเพราะสิ่งที่กำลังพูดนี้เกียวข้องกับพรรคมารทลายราตรีเป็นเพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคมารทลายราตรีเขาไม่สามารถทนอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเเละปล่อยให้พรรคมารทลายราตรีอยู่ในอันตรายได้ “เเน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์เเห่งสงครามนั้นมีค่อนข้างน้อย หมู่เกาะประหารในปัจจุบันได้ถูกจู่โจมในหลายสถานที่เพื่อการนั้น หมู่เกาะประหารจึงสั่งการให้ผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์เเห่งสงครามได้เฝ้าปกครองพื้นที่สำคัญต่างๆเอาไว้””พรรคมารทลายราตรีรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะพวกหมู่เกาะประหารบางพื้นที่ได้พวกเขาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญไปจัดการในสถานที่ซึ่งไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์สงคราม คอยปกป้อง ถึงเเม้ว่าวิธีการนี้มันจะน่ารังเกียจเเต่มันก็สามารถทำให้หมู่เกาะประหารได้รับความสูญเสียอย่างเห็นได้ชัด” “ตอนนี้หมู่เกาะประหารกำลังวางเเผนที่จะใช้กลยุทธ์บางส่วนที่จะตอบโต้เเผนนั้น พวกเขาได้ปล่อยข่าวลวงออกไปว่ามู่หรง ซุน เเละผู้เชี่ยวชาญที่เหลือของหมู่เกาะประหารจะออกไปเพื่อเตรียมพร้อมตอบโต้พรรคมารทลายราตรี””เเน่นอนว่า พวกเขาได้มีคนคอยสอดส่องการเคลื่อนไหวของผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์เเห่งสงครามของหมู่เกาะประหารหลังจากยืนยันได้เเล้วว่าพวกมันไม่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์เเห่งสงคราม มา เเน่นอนว่าพวกเขาจะต้องดักซุ่มโจมตีมู่หรง ซุน อย่างเเน่อน””พรรคมารทลายราตรีที่ได้ยินเเผนการก็ได้เตรียมผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเพื่อไปดักซุ่มโจมตีมู่หรงซุน” “เเต่พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับ ราชันย์เเห่งสงครามได้หลบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มที่นำโดยมู่หรง ซุน” “ทั้งสองราชันย์เเห่งสงครามเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่ง พวกเขาเป็นปราการที่สำคัญของตระกูล วิหคศักดิ์สิทธิ์ ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะมีพลังเพียง ระดับ 1 ราชันย์เเห่งสงคราม เเต่พวกเขาก็มีอำนาจพิเศษของสายเลือดเเละพวกเขายังมีเทคนิคที่เเข็งเเกร่งมากถึงเเม้จะเป็นระดับราชันย์ด้วยกันก็ไม่เเน่ว่าจะสามารถชนะพวกเขาได้” “ถ้าเกิดพรรคมารทลายราตรีไม่ได้ประมาทจนเกินไปเเล้วส่งผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์เเห่งสงครามไป 2 คนก็ถือว่ายังดีเเต่ถ้าเกิดพวกเขาส่งไปเพียงเเค่คนเดียวละก็เท่ากับว่าพวกเขาได้สูญเสียบุคคลที่เเข็งเเกร่งของตนไปเป็นที่เรียบร้อย” “เเละถ้าพรรคมารทลายราตรีไม่ได้รับรู้ถึงเเผนการที่เป็นกับดักนี้เเน่นอนว่าพวกเขาจะส่งไปเพียงเเค่คนเดียวอย่างเเน่นอน” “ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเจ้าจะเเจ้งให้พวกเขาได้รับรู้เเละบอกให้พวกเขาไม่หลงกลกับดักเหล่านั้น”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าว “อึ่้ย!”
 
 
 
ชูเฟิงขมวดคิ้วของเขาเเน่นเเละกล่าวออกมาว่า”
 
 
 
พวกเขาสามารถที่จะติดต่อกับข้าได้ เเต่ข้าไม่สามารถที่จะทำการติดต่อกับพวกเขาได้ เเละข้าก็ยังไม่รู้อีกว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เเละจนถึงตอนนี้ข้าก็ยังคงไม่ได้รับการติดต่อจากพวกเขาเลย” “หากเป็นเช่นนั้นจริงมันก็ข้างน่าหนักใจ”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าวพลางส่ายศรีษะอย่างน่าเห็นใจ “อาวุโส ฉิวชุ่ย ท่านรู้สถานที่ของ มู่หรง ซุนเเละคนอื่นๆ ที่กำลังเตรียมจะเดินทางไปหรือไม่? เเละสถานที่อยู่ในเส้นทางของพวกเขาจะต้องเป็นสถานที่ซุ่มโจมตีอย่างเเน่นอน?”
 
 
 
ชูเฟิงถาม “เหตุผลที่ข้าลังเลที่จะบอกเจ้าเป็นเพราะเจ้ากำลังรนหาเรื่องที่จะเสี่ยงเข้าไปในกับดัก! เจ้ากำลังนำพาตัวของเจ้าไปเผชิญหน้ากับกับดักเหล่านั้นเพื่อช่วยพวกเขา? เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่หมู่เกาะประหารอยากจะสังหารมากที่สุด!”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน รู้ทันที ที่ได้ยินชูเฟิงถาม เธอรู้ว่าชูเฟิงคิดอะไรอยู่ “แต่ อาวุโส ฉิวซุ่ย ข้าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคำว่า ‘ ภักดี ‘ จากก้นบึ้งของหัวใจ หากข้าไม่รู้ก็แล้วไป แต่ในเมื่อข้ารู้ข้าก็ไม่อาจนิ่งเฉยไ่ด้ ข้ามั่นใจว่าหากเป็นข้าที่ตกอยู่ในอันตรายพวกเขาก็จะมาช่วยข้า “ตอนนี้ข้ามีพลังมากพอที่จะสามารถรักษาชีวิตของตัวเองได้ ถึงเเม้ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์เเห่งสงครามก็อาจจะไม่สามารถทำอะไรกับข้าได้มากนัก ถึงอย่างน้อยพวกเขาก็ลืมเรื่องสังหารข้าไปได้เลย” “นอกจากนี้ข้าไม่ได้คิดจะโยนตัวเองเข้าสู่กับดัก ข้าเเค่อยากจะหยุดพรรคมารทลายราตรีไม่ให้ตกหลุมพรางกับดักเหล่านั้น”
 
 
 
ชูเฟิงอธิบาย “ชูเฟิงเจ้าไม่ต้องทำปากเเข็งมากนัก”
 
 
 
ประการเเรกหลายคนรู้ว่าเจ้าไม่ได้สนิทเชื้อชิดกับพรรคมารทลายราตรีมากนัก เเละมันก็ไม่คุ้มค่าที่จะใช้ชีวิตของเจ้าเพื่อจะเสี่ยงเพื่อพวกเขา “อย่างน้อยถึงเจ้าจะไม่ห่วงชีวิตตัวเอง เเต่เจ้าไม่คิดว่า จื่อหลิง ซูรู่ว เเละ ซูเหม่ย จะรู้สึกอย่างไรหากเสียเจ้าไป” “เจ้าก็รู้พวกเขารู้สึกกังวลใจอย่างมากทุกครั้งที่เจ้าเอาตัวของเจ้าเข้าไปเผชิญอันตราย เเน่นอนว่าทุกอย่างจะดีถ้าหากเจ้าทำเป็นไม่สนใจเเละกลับไปเเบบสงบ เเต่ถ้ามันเป็นจริงถ้าหากว่าเจ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าคิดว่าพวกเขาจะอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรอย่างงั้นหรือ?”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าวอย่างเคร่งครัดใส่ชูเฟิง 
 
 
 
ในทันทีใบหน้าของเขาเเสดงออกถึงความขัดเเย้งที่มีต่อใจเขาเเน่นอนว่าเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรือไม่เเต่เขาก็กล่าวออกมาว่า”
 
 
 
อาวุโส ฉิวชุ่ย ข้ารู้ว่าท่านพูดเพราะเห็นเเก่พวกเรา” “เเต่ท่านคงไม่ต้องการที่จะให้ข้าเป็นพวกหักหลังพวกพ้องหรือการเป็นพวกไร้น้ำใจใช่หรือไม่? ข้าเเน่ใจว่า จื่อหลิง ซูรู่ว เเละ ซูเหม่ย จะต้องสนับสนุนเเละเข้าใจข้าเรื่องนี้เเน่นอน” “อ่าเอาเถอะ ถึงเเม้ข้าจะไม่สามารถเอาชนะความดื้อรั้นของเจ้าได้ เเต่ว่าการเดินทางครั้งนี้นับว่าอันตรายอย่างมาก เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น ข้าจะเดินทางไปพร้อมกับเจ้าด้วย”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าวออกมาเป็นเพราะนางรู้สึกไร้อำนาจเมื่อต้องเถียงกับคนเช่นชูเฟิง “ชูเฟิงรู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อเขาได้ยินว่าเธอจะเดินไปกับเขาด้วย เขารีบกล่าวออกมาว่า”
 
 
 
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ท่าน อาวุโส ฉิวชุ่ย ท่านปฏิบัติกับข้าอย่างดีเสมอ” 
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน เป็นผู้เชี่ยวชาญ ราชันย์เเห่งสงคราม เเละเธอยังเป็น ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของ วิหารเพลิงผลาญสวรรค์ ถึงเเม้ว่าเธอจะเป็นเพียงระดับ 1 ราชันย์เเห่งสงคราม เเต่เเน่นอนอยู่เเล้วว่าเธอไม่ได้อ่อนเเอเเม้เเต่น้อย ความเชื่อมั่นของชูเฟิงที่ได้เธอร่วมเดินทางนั้นเขารู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้น 
 
 
 
หลังจากตัดสินใจ ชูเฟิง และ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ไม่รอช้า หลังจากทีกล่าวอำลากับ จื่อหลิง และคนอื่นๆ พวกเขาก็ออกเดินทางในทันที เพื่อช่วยคนหลายชีวิตจะมัวเสียเวลาแม้แต่น้อยย่อมไม่ใช่เรื่องดี 
 
 
 
ในระหว่างการเดินทาง ฉิวชุ่ย ฟู่หยานเล่าให้ชูเฟิงได้ฟังว่า มู่หรง ซุนเเละคนอื่นๆของหมู่เกาะประหารได้มุ่งหน้าไปที่ดินเเดนอื่นๆเเละที่สำคัญ มันเป็น สถานที่ที่มีเหล็กอุกกาบาต
 
 
 
มีข่าวลือว่ามันเป็นเหล็กที่มาจากยุคโบราณ ถึงเเม้ว่ามันจะไม่ใช่ทรัพยากรที่เอาไว้ใช้บ่มเพาะพลังเเต่มันก็มีค่ามหาศาลเป็นเพราะมันเป็นส่วนประกอบหลักในการสร้าง ยอดยุทธภัณฑ์ ราชวงศ์ไม่สมบูรณ์ 
 
 
 
ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะไม่มีผู้เชื่อมต่อโลกวิญญานชุดคลุม ราชวงศ์ ในภูมิภาคทะเลภาคตะวันออก จึงไม่มีใครสามารถสร้าง ยอดยุทธภัณฑ์ชั้น ราชวงศ์สมบูรณ์ได้ เเต่พวกเขาก็ยังสามารถสร้างของเลียนเเบบได้คือ ยอดยุทธภัณฑ์ชั้น ราชวงศ์ไม่สมบูรณ์ 
 
 
 
เหล็กอุกบาตเหล่านั้นพวกเขานำมาใช้หลอมมัน เป็นยุทธภัณฑชั้น ราชวงศ์ไม่สมบูรณ์ ถึงเเม้มันจะไม่สมบูรณ์เเต่มันก็สามารถเพิ่มความเเข็งเเกร่งเเละอำนาจให้กับหมู่เกาะประหารได้ 
 
 
 
นอกจากนี้เขายังได้รู้มาจาก ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ว่าข่าวลือที่แพร่ออกมา อาจจะเป็นกับดักของหมุ่เกาะประหาร ว่าหมู่เกาะประหารได้ครอบครองแร่เหล็กอุกกาบาตโบราณ ที่ใช้สร้างยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์ไม่สมบูรณ์จำนวนมาก แต่เขาก็ยังเลือกที่จะไปเผชิญหน้ากับ มุ่หรง ซุน และ หมู่เกาะประหาร 
 
 
 
เเต่พวกเขาก็หาโอกาสเหล่านี้เพื่อปล่อยข่าวลวงออกไปพวกเขาต้องการที่จะให้พรรคมารทลายราตรีเดินทางเข้าสู่กับดักที่พวกเขาวางเอาไว้ 
 
 
 
เมื่อมันเป็นเช่นนี้ชูเฟิงตัดสินใจเเล้วว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้เเผนการที่หมู่เกาะประหารวางไว้ได้ประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน 
 
 
 
P’Film