บทที่ 881 – การเเสดงที่ยอดเยี่ยม
 
 
 
สถานที่ใช้ขุด แร่เหล็กอุกกาบาตโบราณ เป็นสถานที่ที่มีชื่อว่า ที่ราบวายุโหมกระหน่ำ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สุดแห่งนึงของหมู่เกาะประหาร ซึ่งเป็นสถานที่ภายใต้การปกครองของ นิรันดร์ที่ 6 แห่งหมู่เกาะประหาร
 
 
 
นิรันด์ที่ 6 ของหมู่เกาะประหารเป็นเช่นเดียว กับ นิรันด์ที่ 7 เเละ นิรันด์ที่ 8 เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 1 ราชันย์เเห่งสงคราม เเต่ความเเข็งเเกร่งของเขาไกลเกินกว่าทั้งสองคนมาก มันสามารถบอกได้ว่าความเเข็งเเกร่งของเขานั้นสามารถต่อกรกับ ผู้เชี่ยวชาญระดับ 2 ราชันย์เเห่งสงครามได้ 
 
 
 
นั่นหมายความว่า นิรันด์ที่ 6เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 1 ราชันย์เเห่งสงครามที่เเข็งเเกร่งดังนั้นพรรคมารทลายราตรีจึงไม่ได้โจมตีพวกเขาโดยตรงที่ จึงคิดลอบเข้าไปที่ราบวายุโหมกระหน่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด 
 
 
 
พรรคมารทลายราตรีต้องการที่จะรับมือพวกเขาใน เหมืองแร่, พวกเขามีท่าทีที่จะไปซุ่มโจมตีมู่หรงซุนเเละคนอื่นๆ ภายในที่ราบวายุโหมกระหน่ำ ไม่เพียงเเต่พวกเขายังได้รับเเร่พวกเขายังสามารถดักตบมู่หรงซุนได้เท่ากับว่าเดินทางครั้งเดียวได้กำไรถึงสองต่อ เเต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า นี่มันเป็นกับดักที่หมู่เกาะประหารวางเอาไว้ 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง เเละ ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ได้เดินทางไปยังเครื่อง เทเลพอต ในทันที เเละเดินทางไปหาสถานที่ซุ่มโจมตีเป็นเพราะพวกเขาได้รับข่าวร้ายมา หลายวันที่ผ่านมา มู่หรงซุนได้นำผู้เชี่ยวชาญของหมู่เกาะประหารมุ่งหน้าไปทาง ที่ราบวายุโหมกระหน่ำ 
 
 
 
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน มู่หรง ซุน และคนอื่นๆก็คงสุ่มดักรอในที่ราบวายุโหมกระหน่่ำ ในสถานที่เหมืองแร่ โบราณ เพื่อรอดำเนินการ 
 
 
 
ชูเฟิงในตอนนี้กังวลว่าพรรคมารทลายราตรีจะมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับกับดักเหล่านั้นเเล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเขาได้พบกับกับดักที่ไม่คาดคิดไปเเล้วเเน่นอนว่าวพวกเขาจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่เเละหมู่เกาะประหารจะได้ลาภพลอยครั้งใหญ่ในการเดินทางครั้งนี้ “ชูเฟิงไม่ต้องกังวล ถึงเเม้ว่าข้าจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดกับการกระทำครั้งนี้ เเต่ข้าจะทำเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา” “หมู่เกาะประหารได้เชิญปราการทั้งสองจากตระกูล วิหคศักดิ์สิทธิ เเน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าข้าจะมาที่เเห่งนี้เเละช่วยเหลือฝ่ายตรงข้าม ถ้าพรรคมารทลายราตรีได้ตกลงสู่กับดักอย่างเเท้จริงมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เกินไปที่จะจัดการ พวกเราสามารถทำลายกับดักของพวกมันได้อย่างเเน่อน” “เปลวเพลิงของตระกูลวิหคศักดิ์สิทธิ์เเข็งเเกร่งมาก เเต่ข้าจะเเสดงให้เห็นว่าเปลวเพลิงที่เเข็งเเกร่งที่สุดคือ เพลิงผลาญสวรรค์ ของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานกล่าว ในขณะที่เธอมองไปเห็นความวิตกกังวลของชูเฟิง” “อาวุโส ฉิวชุ่ย ข้าขอโทษสำหรับการลากท่านเข้าสู่การต่อสู้ระหว่าง พรรคมารทลายราตรีเเละหมู่เกาะประหาร”
 
 
 
ชูเฟิงรู้สึกขอบคุณมากกับคำพูดของ ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน เพราะในปัจจุบันคนจากพรรคมารทลายราตรีกำลังประสบกับปัญหาเเละเป็นความจริงว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจาก ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน มันจะทำให้เธอนั้นได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหาร นี่คือความจริงที่ชูเฟิงไม่อาจปฏิเสธได้ “ถ้าเกิดว่าพวกเขาได้เข้าสู่กับดักจริงละก็พวกเขาก็จะต้องสูญเสียกันอย่างเเน่นอนเเต่ถ้า ฉิวชุ่ย ฟู่หยานเขาช่วยเหลือพวกเขาเเน่นอนว่าเธอจะเป็นกำลังที่สำคัญให้กับพวกเขาได้ในการทำศึกครั้งนี้” “เจ้าเด็กโง่ข้ารู้เจ้าคิดสิ่งใด? หมู่เกาะประหารได้เปิดศึกกับวิหารเพลิงผลาญสวรรค์มานานเเล้วถึงเเม้จะเพียงเเค่หนึ่งหรือสองวันไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็คงต้องเป็นศัตรูกันอยู่ดีเเทนที่จะรอให้พวกมันทำเปิดศึกโจมตีก่อนสู้เราเปิดศึกโจมตีมันก่อนไม่ดีกว่าหรือ? มันเป็นความจริงที่ว่าข้าเป็นคนของวิหารเพลิงผลาญสวรรค์สิ่งที่เป็นปรปักษ์กับพวกเขาก็เป็นปรปักษ์กับข้าเช่นเดียวกัน”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานกล่าวอย่างเเน่วเเน่ใบหน้าของเธอยามนี้ไม่ได้เกรงกลัวสักนิดที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหาร 
 
 
 
ชูเฟิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยจากคำพูดของเธอรอยยิ้มของเขาค่อยปรากฏความอิ่มเอมขึ้นมาในหัวใจเขาไม่น้อยมันเป็นความจริงว่าเธอยอมเสี่ยงเพื่อผลประโยชน์ของเขา มันเป็นความจริงว่า ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ยอมเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหารเพื่อเขานั้นเอง “ที่นั่นมีคนอยู่”
 
 
 
จู่ๆชูเฟิงก็ขมวดคิ้วทันที เป็นเพราะเพื่อที่จะหาคนของพรรคมารทลายราตรี เขาได้กระจายอำนาจวิญญานของเขาเพื่อตรวจสอบถึงเเม้ว่าจะมีระยะห่างมากเเต่เขาก็ยังค้นพบพวกเขาเหล่านั้นได้ 
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ก็ตรวจพบคนเหล่านั้นเช่นเดียวกัน เธอไม่ได้ตกใจเเต่อย่างใดเพียงยิ้มเเละกล่าวว่า”
 
 
 
ข้ารู้จักพวกเขาเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขามาจาก ที่รายวายุฯ บางทีเราสามารถสอบถามข้อมูลจากพวกเขาได้” “อาวุโส ฉิวชุ่ย ท่านรู้จักพวกเขาหรือ”
 
 
 
ชูเฟิงถาม “ใช่พวกมาจากผาคนรัก ไม่จำเป็นต้องสงสัย ข้าจะไปถามพวกเขาเอง”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน กล่าว “อืม..”
 
 
 
ชูเฟิงพยักหน้าทันทีในเวลาเดียวกันเขาได้ใชัหน้ากากเพื่อเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขา ในทันทีเขาก็ยังปรับพลังของเขาให้ลดลงเเละตามหลัง ฉิวชุ่ย ฟู่หยานไป เหมือนคนรับใช้ 
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ได้ลดความเร็วลงเเละบินออกไปโดยไม่รีบร้อน อันที่จริงพวกเขาก็ยังคงบินผ่านไปเรื่อยๆ 
 
 
 
พวกเขาคือห้าผู้อาวุโส พวกเขาสวมเสื้อผ้าทั่วไปเเละการบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ในจัดอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเจ้าเเห่งสงคราม เเม้ว่า ฉิวชุ่ย ฟู่หยานจะปกปิดใบหน้าของเธอ เเต่เธอก็ยังคงได้รับการเคารพเเละยอมรับ หลังจากที่พวกเขาเห็นเธอพวกเขาที่บินอยู่รีบหยุดเเละประสานมือคาราวะอย่างรวดเร็ว”
 
 
 
ท่านใช่ ท่านหญิง ฉิวชุ่ย จากผาคนรักใช่หรือไม่?” “พวกท่านทั้งหลายไม่ได้พบกันเสียนาน”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อ่า ใช่ท่านคือ ท่านหญิง ฉิวชุ่ย เเน่นอน”
 
 
 
ห้าอาวุโสมีความสุขมากหลังจากได้ยินเสียงของเธอเนื่องจากพวกเขาได้รับการยืนยันตัวตนเเล้วว่าเป็นเธอเเละเธอไม่ได้มาคนเดียว”
 
 
 
ท่านหญิง ฉิวชุ่ย ท่านกำลังวางเเผนไปทางที่ราบวายุฯ?” “ใช่เเล้ว”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พยักหน้าตอบ “มันจะเป็นไรหรือไม่หากพวกข้าเเนะนำท่านว่าอย่าได้ไปเลย เป็นเพราะการเดินทางไปนั้น ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ท่านคิด”
 
 
 
หนึ่งในนั้นกล่าว “ทำไมมันการเดินทางถึงไม่ได้ราบรื่นเช่นนั้น”
 
 
 
มีสิ่งใดเกิดขึ้น ?”ฉิวชุ่ย ฟู่หยานกล่าว พลางทำเเกล้งเป็นไม่รู้ “ความจริงนั้นที่พวกเราอยู่ที่นี่ เป็นเพราะพวกเราได้ถูกไล่ล่านั้นเอง”
 
 
 
เขากล่าวออกมา “ถูกไล่ล่า? ท่านหมายถึงอะไร?”
 
 
 
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานกล่าวถาม “ไม่กี่วันก่อนมีคนจากหมู่เกาะประหารได้มาที่ผาคนรักด้วยข้ออ้างที่ว่าเชิญพวกเราเเละบังคับพวกเราให้เข้าร่วมกับพวกมันเเละไปยังที่ราบวายุฯ ในพื้นที่ของหมู่เกาะประหาร “ตอนเเรกพวกเราค่อนข้างวิตกกังวล พวกเราเป็นห่วงว่าพวกเราได้ถูกรุกรานโดยหมู่เกาะประหารเเละพวกมันกำลังจะเป็นภัยกับพวกเรา” “อย่างไรก็ตามภายหลังผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ถูกจับมาโดยหมู่เกาะประหารนั้นเเม้เเต่หัวหน้านิกายเล็กๆ ก็ได้ถูกเชิญมายังที่ราบวายุ นอกจากพวกมันยังให้ความช่วยเหลือเราค่อนข้างดี พวกเขายังให้อาหาร น้ำ เเละเครื่องดื่ม อื่นๆ เเละไม่เเม้เเต่จำกัด เสรีภาพของพวกเรา พวกเขาเคารพ ทุกการเป็นอยู่ของเรา เเละดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นภัยอย่างที่คิด” “พวกเราได้ถามว่าทำไมพวกเขาได้เชิญเรามาที่เเห่งนี้ เเต่พวกเขาไม่ได้บอกเรา พวกเขากล่าวเพียงว่าเชิญพวกเรามาที่นี่เพื่อเป็นพยานเเละร่วมดูการเเสดงบางอย่าง “”เเละในวันนี้พวกเขาได้ปล่อยตัวพวกเราในที่สุดพวกเราก็ได้รู้ว่าการเเสดงที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาที่ว่าคืออะไร” “มันกลับกลายเป็นว่า หมู่เกาะประหาร มีลักษะคล้ายว่าจะร่วมมือกับ ตระกูลวิหคศักดิ์สิทธิ์ เเละพวกเขาได้วางเเผนเเละกับดักเพื่อล่อให้พรรคมารทลายราตรีมาเเละต้องการจะจับพวกเขาทั้งหมดในคราเดียว” “ตอนนี้พวกเขาได้ถูกจับไปเเละพวกเขาก็คงจะถูกฆ่าตายในไม่ช้าโดย หมู่เกาะประหารเเละ ตระกูล วิหคศักดิ์สิทธิ์ นี้เรียกกว่าการเเสดงที่ดี หรือ ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมกันเเน่”
 
 
 
พี่ใหญ่ในนั้นกล่าว “ท่านหญิง ฉิวชุ่ย ตอนนี้หมู่เกาะประหารกำลังเปิดศึกกับพรรคมารทลายราตรี มันคงจะดีกว่าถ้าท่านไม่ไป มิฉะนั้นพวกมันจะคิดว่าท่านได้ให้ความร่วมมือกับพรรคมารทลายราตรี” “ถ้าพวกเขาได้ลากเราไปเกี่ยวข้องด้วยมันจะไม่เป็นผลดีอันใดเลย” “ใช่ใช่ พวกเราทั้งหมดควรจะรีบออกจากที่นี่!”
 
 
 
พวกเราควรออกจากเขตภัยพิบัติเเห่งนี้!”
 
 
 
ทั้งสี่คนต่างก็เเสดงความคิดเห็นเดียวกัน 
 
 
 
เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นชูเฟิงรู้สึกโกรธ เขากำหมัดเเน่น ตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่ว่าจะการกระทำของหมู่เกาะประหารที่น่ารังเกียจ ไม่เพียงเเต่พวกเขาจะวางกับดักเอาไว้ พวกเขายังได้รวบรวมฝูงชนมาเพื่อฉีกหน้าพรรคมารทลายราตรีอีก “ชูเฟิง ไปเร็ว”
 
 
 
ในความเป็นจริงไม่เพียงเเต่ชูเฟิงที่โกรธเเค้น เเม้เเต่ ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ยังไม่อาจสงบนิ่งได้ เธอรีบคว้าเเขนชูเฟิงเเละบินหายไปในทันที ด้วยความเร็วสูงสุดมุ่งหน้าไปยัง ที่ราบวายุฯ 
 
 
 
ในขณะที่พวกเขาบินออกไปใบหน้าของห้าผู้เฒ่าที่ยืนอยู่ต่างก็เเสดงออกถึงความประหลาดใจพร้อมกัน”
 
 
 
เมื้อกี้ ท่านหญิง ฉิวชุ่ย ดูเหมือนจะกล่าวว่า…. ชายหนุ่มข้างๆเมื้อกี้นั้น เป็นชูเฟิง?” 
 
 
 
ขณะที่พวกเขาพูดผิวของเขาล้วนเกิดการเปลี่ยนเเปลงพวกเขาตระหนักได้ดีถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นพวกเขาได้เริ่มที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็วมากขึ้นเป็นเพราะพวกเขาต้องการที่จะรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้นั้นเอง 
 
 
 
P’Film