ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 926 – ด้อยกว่าสุนัข
เจียง ฉีซา ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ในขณะที่เขาเห็นว่า มู่หรง หมิงเทียน ยอมรับความพ่ายแพ้ของเขา เขากระชับในง้าวสีแดงฉานในมือแน่น แม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับสี่ แต่ออร่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า มู่หรง หมิงเทียน อย่างชัดเจน
เขายืนอย่างมั่นคง ราวกับเทพสงครามที่ไร้พ่าย เขาสามารถสังหารทุกคนในบริเวณนี้ได้อย่างง่ายดาย ในเวลานี้ เขาได้สร้างความหวาดกลัวเข้าไปเกาะกินหัวใจของทุกๆ คนอย่างชัดเจน
ในขณะนั้น เจียง ฉีซา ควงง้าวในมือพร้อมชี้ไปที่ มู่หรง หมิงเทียน และกล่าวว่า”
มู่หรง หมิงเทียน ข้าเคารพเจ้า เพราะเจ้าอายุมากกว่าข้า และข้าก็ไม่เคยทำให้เจ้าต้องลำบากเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้สืบทอดของเจ้า !!””แต่ในเมื่อเจ้าไม่ไว้หน้าข้า !! เจ้าลืมว่าผู้ใดอ่อนแอ และผู้ใดแข็งแกร่ง !! เจ้าลืมว่าผู้ใดเป็นนาย ผู้ใดเป็นบ่าว !! เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าพลังขั้นราชันย์สงครามระดับเจ็ด เจ้าจะสามารถเทียบได้กับคนของนิกายสาปพสุธาเช่นนั้นรึ !!”
เจียง ฉีซา กล่าวออกมา พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาจากง้าวของเขา แรงกดดันนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่ มู่หรง หมิงเทียน ยังสั่นสะท้าน เขาต้องถอยออกไปพึงสองก้าว เพื่อรักษาความมั่นคงของร่างกายของเขา
นอกจาก มู่หรง หมิงเทียน แล้วนั้น คนอื่นๆ จากหมู่เกาะประหารต่างถูกบังคับให้คุกเข่าลงบนพื้น บางคนถึงกลับล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น “สหาย เจียง โปรดเมตตา !! ข้าผิดไปแล้ว ข้าย่อมรู้ว่าอยู่ในสถานะใด !!””ตราบใดที่ให้โอกาสกับพวกเราอีกครั้ง พวกเราจะสวามิภักดิ์ต่อนิกายสาปพสุธา และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของนิกายสาปพสุธา!!”
มู่หรง หมิงเทียน กล่าวออกมาอย่างน่าสมเพช พร้อมกับที่เขาคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง และโค้งคาราวะ
อย่างไรก็ตา เจียง ฉีซา เพียงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวออกมาว่า”
หากเจ้าต้องการมีชีวิตอยู่ จงคุกเข่าลงไป และอ้อนวอนให้ข้ายกโทษให้ !! ตราวใดที่เจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะละเว้นให้ !!”
ใครบางคนของหมู่เกาะประหารตะโกนขึ้นมา”
เจ้าต้องการให้บรรพบุรุษของข้าคุกเข่าเช่นนั้นรึ !! อย่าได้แม้แต่จะคิด !!”
***** ตูมมมม *****
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะกล่าวจบนั้น ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับร่างของเขากลายเป็นทะเลเลือดในพริบตา อนิจจาตัวประกอบ จ้าง 300 เล่นเป็นแสน !! “เจ้า…….”
พวกเขาพลันตกตะลึง แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ มู่หรง หมิงเทียน เป็นบรรพบุรุษของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองได้ แต่หากให้ มู่หรง หมิงเทียน คุกเข่า มันย่อมเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจยอมรับได้ “ทุกคนเงียบ !!”
แต่ในขณะนั้น มู่หรง หมิงเทียน ก็ตะโกนออกมา
หลังจากตะโกนออกมานั้น เขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่จริงใจว่า”
สหาย เจียง ข้า มู่หรง หมิงเทียน ได้ทำผิดไปแล้ว ไม่ว่าจะทรมานหรือฆ่าข้า ข้าจะไม่ร้องขอชีวิตแต่อย่างใด แต่ได้โปรดละเว้นผู้สืบทอดของข้า ให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไป !!”
จากนั้นเขาก็ก้มลงไปบนพื้นและโขกศรีษะลงไปบนพื้น เพื่อยอมรับความผิดของเขา
***** ฝุ่บ *****
แต่ก่อนที่ศรีษะของเขาจะกระแทกลงกับพื้นนั้น ก็มีมือหนึ่งเข้ามารับศรีษะของเขาเอาไว้
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปนั้น เขาก็พบว่า เจียง ฉีซา ได้ทิ้งง้าวสีแดง และเข้าประคองเขาไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้า เขากล่าวออกมาว่า “มู่หรง หมิงเทียน ทำไมเจ้าต้องทำให้มันเป็นเรื่องยากในตอนแรก เจ้าจึงต้องมาเสียใจในตอนนี้ ยังไงก็ตาม ในเมื่อเจ้าสำนึกผิด ข้าย่อมให้อภัยเจ้า !!”
หลังจากนั้น เจียง ฉีซา ก็ประคอง มู่หรง หมิงเทียน ให้ยืนขึ้นพร้อมกับที่เขากลับไปนั่งในพระราชวัง และกล่าวออกมาว่า”
พวกเจ้าลุกขึ้น !!”
เจียง ฉีซา กล่าวออกมาพร้อมกับสลายแรงกดดันออก แต่คนของหมู่เกาะประหารกลับไม่ลุกขึ้น “พวกเจ้าลุกขึ้น !!”
มู่หรง หมิงเทียน หันกลับมาที่ทุกคน และกล่าวออกมา
หลังจาก มู่หรง หมิงเทียน กล่าวออกมานั้น ทุกคนก็ยืนขึ้นด้วยร่างกายที่อาบไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบ
สีหน้าของทุกคนผิดเพี้ยนไปอย่างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาแสดงออกมาเหมือนกันนั่นก็คือ ร่างกายที่สะท้านด้วยความหวาดกลัวของพวกเขา ไม่เส้นแม้แต่ มู่หรง เนี่ยคง ที่ดูราวกับว่าเขาเพิ่งจะผ่านสงครามครั้งใหญ่มาก็ไม่ปาน “ไม่ต้องกังวล ในสายตาของคนนอก พวกเรายังคงเป็นพันธมิตรกัน และเจ้ายังคงเป็นประมุขของเขตทะเลตะวันออก !!””แต่จงรู้ไว้ว่า พวกเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน พวกเราเป็นนายของพวกเจ้า !!””หากยังมีครั้งที่สอง ที่พวกเจ้าไม่สุภาพต่อพวกเรา ข้าจะไม่ปราณีพวกเจ้าเช่นนี้อีก !!”
เจียง ฉีซา กล่าว น้ำเสียงของเขาราวกับเจ้านายกำลังดุด่าคนรับใช้ “สหาย เจียง ขอบคุณสำหรับความเมตตาของเจ้า !!”
มู่หรง หมิงเทียน กล่าว “ไปซะ !! ไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพวกข้า ในวันข้างหน้า ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเปิดโลกการบ่มเพาะพลังของพวกเจ้า !!”
เจียง ฉีซา กล่าวออกมาพร้อมกับโบกมือไปมาอย่างไม่แยแส
มู่หรง หมิงเทียน และคนอื่นๆ ต่างจมลงไปในความเงียบ พวกเขาไม่กล้าหยิ่งผยองเช่นเดียวกับในตอนแรกที่พวกเขาแสดงออก
ทุกคนของหมู่เกาะประหารต่างรู้สึกถูกกดขี่ แต่พวกเขาก็ไม่กล่าวอะไรออกมา
หลังจากออกมาจากพระราชวังแล้วนั้น มู่หรง หมิงเทียน ก็กล่าวออกมาว่า”
เจ้าคงจะสับสนว่าทำไมข้าถึงไม่โจมตีใส่ เจียง ฉีซา และยอมรับใช้เขาใช่ไหม !?””บรรพบุรุษ ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องมีเหตุผล !!”
มู่หรง เนี่ยคง และคนอื่นๆ ต่างพยักหน้า
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น หมู่เกาะประหารได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยคำสั่งจากเขา ดังนั้น ทุกคนจึงเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา “อาวุธของ เจียง ฉีซา นั้นไม่ธรรมดาเลย มันคล้ายกับดาบตราประทับผนึกมาร มันสามารถต้านทานอาวุธของข้าได้อย่างง่ายดาย !!””ในการต่อสู้ของยอดยุทธภัณฑ์นั้น หากฝ่ายใดหวาดกลัวก่อน มันย่อมไม่ใช่เรื่องดี และข้าก็ไม่มั่นใจว่ายอดยุทธภัณฑ์นั่นจะเป็นไพ่ตายสุดท้ายของเขาหรือไม่ !!””ในสถานการณ์ที่ไม่มีหลักประกันเช่นนั้น มันย่อมจะดีกว่าหากเราไม่ต้งตัวเป็นศัตรูกับเขาอย่างเปิดเผย เพราะหากข้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ไม่เพียงแต่ข้าที่จะต้องตาย แต่รวมถึงพวกเจ้าทุกๆ คน !!”
มู่หรง หมิงเทียน กล่าว “บรรพบุรุษ ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไร !?”
มู่หรง เนี่ยคง กล่าวถาม “อ่า…………”
มู่หรง หมิงเทียน สูดหายใจเข้ายาวๆ ก่อนจะกล่าวออกมาว่า”
อดทน !!”
ภายในพระาชวังของ เจียง ฉีซา นี้น พวกเขากำลังยิ้มเยาะออกมาอย่างชัดเจน “ศิษย์พี่ เมื่อ มู่หรง หมิงเทียน มีพลังที่เพิ่มขึ้นถึงระดับเจ็ด เขาก็แสดงธาตุแท้ออกมา ทำไมท่านถึงไม่ฆ่าพวกเขา !?”
จาว เยว่เทียน และ หวู่ คุนหลุน ต่างกล่าวออกมาด้วยความสับสน “ถ้าข้าสู้กับเขา ข้าย่อมชนะ แต่ขั้นราชันย์สงครามระดับเจ็ด ย่อมไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าข้าจะสามารถเอาชนะเขาได้ แต่ข้าก็ได้บาดเจ็บไม่น้อย !!””ในตอนนี้ พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ดังนั้นมันย่อมจะดีกว่าที่พวกเราจะไม่ฆ่ากันเองก่อน !!””นอกจากนี้ ในสายตาของข้า เขาก็เป็นเพียงสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ เขาย่อมจะกัดคนอื่นเพื่อข้าได้ !!””แต่พวกเจ้าจงจำไว้ สุนัขยังไงก็เป็นสุนัข อย่าได้ปฏิบัติต่อพวกมันเช่นเดียวกันคน หากวันใดที่มันกล้าแว้งกัดเจ้าของ ข้าจะฆ่า และกินเนื้อของมัน !!””ทุกอย่างอยู่ในกำมือของข้า ข้าได้หยิบยื่นโอกาสให้กับพื้นที่ที่อ่อนแอเช่นนี้ และในตอนนี้ ศัตรูของพวกเรามีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือแม่มด และนางย่อมไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือของข้าไปได้ !!”
เจียง ฉีซา ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ทันไท่ เซว่ มีอะไรพิเศษนะ คนพวกนี้ถึงได้ไล่ล่า แล้วทำไมพวกมันต้องเรียกนางว่า นางแม่มด นางมารน้อย
B : ย่อมมีแน่ ระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม กับสามารถสู้กับ คนที่มีพลังวิญญาณสูงกว่าได้ถึง 4 ระดับ 5 ระดับ นางย่อมมีทักษะลับต้องห้าม + กายศักดิ์สิทธิ์ ไม่แน่นางอาจจะมี สายเลือดสืบทอดก็ได้
C : คนเดียว ครอบครองพลังแฝงถึง 3 อย่างเลย กายศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานหรือพลังที่สวรรค์มอบให้แต่กำเนิด สายเลือดสืบทอด คือ สิ่งที่สืบต่อกันมาจากต้นตระกูลที่แข็งแกร่ง จากรุ่นสู่รุ่น ทักษะลับต้องห้าม คือ ผู้ได้ครอบครองพลังที่เท่าเทียมกับ กายศักดิ์สิทธิ์ แต่โชคชะตานั้นทอดทิ้ง จึงมุ่งสู่วิถีมาร
A : พลังพวกนี้ คล้ายๆกับพลังแฝงติดตัว หรือ สกิลพิเศษติดตัว มีแต่ ทักษะลับต้องห้ามที่สามารถฝึกฝนได้ ถ้าพี่เฟิง ฝึกมั้งนี้แจ่มแมว!!!
B : ไม่แน่หรอกว่านางจะมี กูก็เดาๆไปงั้น