บทที่ 778 – มีแผนอะไร ?
 
 
 
“เจ้าคือ หวู่ชิง ที่เอาชนะอัจฉริยะต่างๆจากหุบเขาสายหมอก ทั้งยังได้รับวิญญาณตราประทับมามากมาย คนนั้นหรือ ?!”
 
 
 
ชายชรากล่าวถาม “อาวุโส ข้าน้อยเอง”
 
 
 
ชูเฟิงพยักหน้าตอบ “ข้าเคยได้ยินว่าเจ้า เก่งเรื่องทักษะอำนาจพลังวิญญาณ ขนาดแผนภาพลึกลับของเพียวเมี้ยวยังทำอะไรเจ้าไม่ได้ มิน่าล่ะ เจ้ามีฝีมือสมกับที่เขาล่ำลือกันจริงๆ””แล้วทำไมคนจากหมู่เกาะประหารถึงไล่ล่าเจ้าล่ะ หรือว่าเพราะเจ้าทำให้พวกเขาเสียหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงเคียดแค้นเจ้า ?!”
 
 
 
ชายชราถามอีกครั้ง “ป่าวคับ ที่พวกเขาไล่ล่าข้าเป็นเพราะข้าไปทำให้ฉาน เฟิง ลูกชายของนิรันดร์ที่ 2 ของหมู่เกาะประหารพิการภายในหุบเขาคนโฉด นั้นคือเหตุผลที่พวกเขาตามล่าข้า”
 
 
 
ชูเฟิงตอบ “อะไรนะ ?! เจ้าทำให้ฉาน เฟิง พิการ ?!”
 
 
 
ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ยินเหล่านั้นถึงกับสะอึก ทั้งสายตาที่พวกเขามอง ชูเฟิง ยังเต็มไปด้วยความชื่นชม 
 
 
 
พวกเขารู้ว่า ฉาน เฟิง นั้นมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา แต่นั้นไม่ได้สำคัญ ที่สำคัญคือพ่อของเขาคือ หนึ่งในสุดยอดผู้เชี่ยวชาญของหมู่เกาะประหาร 
 
 
 
แต่ ชูเฟิง กับกล้าทำร้าย ฉาน เฟิง ทั้งๆที่รู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความ กล้าหาญของ ชูเฟิง “คำพูดของเจ้าเพียงคนเดียว ไม่อาจเชื่อถือได้””น้องแปด น้องเก้า น้องสิบ ออกไปตรวจสอบว่าคำพูดของเด็กคนนี้จริงไม่จริง แล้วตรวจสอบ ซวน เสี่ยวจาว ด้วยว่าเขายังปลอดภัยดีหรือไม่”
 
 
 
ชายชรากล่าว “ทราบ!!!”
 
 
 
จอมยุทธทั้ง 3 เปิดรูปแบบพร้อมกับทะยานขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังหุบเขาคนโฉด 
 
 
 
หลังจากที่พวกเขาส่วนหนึ่งออกไป ชายชรา ยังคงสอบถามบางอย่าง อย่างลับๆกับชูเฟิงอีกสองสามเรื่อง 
 
 
 
ชูเฟิงบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น โดยอ้างอิงจากผลรับจากการที่ไปตรวจสอบ พวกเขารู้ว่า คำพูดของชูเฟิงนั้นเป็นเรื่องจริง ฉาน เฟิง อัจฉริยะจากหมู่เกาะประหารนั้นได้พิการเพราะน้ำมือเขา นำซ้ำ มู่หรง ซุน ยังปะทะกับ ซวน เสี่ยวจาว จริงๆ แต่ตอนนี้กับหาร่องรอยของเขาไม่พบ . . . . 
 
 
 
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จากนั้นไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญของหมู่เกาะประหารจำนวนมากก็มาถึงเทือกเขาที่พวกเขาใช้หลบซ่อนตัว 
 
 
 
แม้แต่ มู่หรง ซุน ตลอดจน 3 ใน 9 นิรันดร์ ยอดฝีมือของหมู่เกาะประหาร พวกเขาเหมือนจะรู้แล้วว่าพวกพรรคที่เขาส่งมาล้วนแต่ถูกฆ่าตาย 
 
 
 
แต่เนื่องจากมันเป็นฝีมือของ พรรคมารทลายราตรี พวกเขาจึงไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ หมู่เกาะประหารจึงไม่พบร่องรอยอะไร อย่างน้อยๆพวกเขาก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นผู้ที่สังหารคนของหมู่เกาะประหาร “ฮ่าๆๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะบ้าบิ่นแบบนี้”
 
 
 
ในตอนนั้นหลังจากที่ทราบเรื่องจากรายงาน ชายชราก็หัวเราะชอบใจ พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมมองเขา จากนั้นก็กล่าวกับ ชูเฟิง ว่า”
 
 
 
สหาย หวู่ชิง แม้ว่าเจ้าจะเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหารจริงๆ แต่เจ้าไม่ใช่คนของพรรคมารทลายราตรี ดังนั้นข้าไม่อาจไว้ใจเจ้าได้”
 
 
 
[ T/N พี่เฟิงเป็น!!! “จะยังก็ช่าง ข้านั้นถูกใจเจ้ามาก ดังนั้น แม้ว่าเจ้าจะล่วงรู้ความลับของเรา ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าไปตอนนี้ได้ ตอนนี้ให้เจ้าอดทนตามพวกเรามา หลังจากที่เสร็จเรื่องครั้งนี้แล้วลงจากหุบเขา เราจะปล่อยเจ้าไป”
 
 
 
หลังจากพูดจบ ชายชราก็สบัดแขนเขาพร้อมๆกับ 9 ยอดฝีมือ ดูเหมือนว่า พวกเขามีบางอย่างที่ต้องจัดการ 
 
 
 
ตอนนี้ ชูเฟิง ไม่อาจไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ ภายในรูปแบบอำนาจฯนี้ เพราะเขาถูกคนของพรรคมารเฝ้าคอยจับตา 
 
 
 
แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัด เพราะเขารู้ดีว่า คนของพรรคมารทลายราตรีนั้นกำลังเตรียมทำอะไร เขาจึงดูอยู่เงียบๆ อย่างใจเย็น อีกทั้งยังได้ข้อสรุปว่าที่คนของพรรคมารมารวมตัวกันในหุบเขาคนโฉด อาจเป็นเพราะว่าพวกเขามาเฝ้ารอดู การต่อสู้ของ ศิษย์ ของเหล่าปราการ อีกทั้งเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นหมู่เกาะประหารเข้าห้ำหั่นกับพรรคมารทลายราตรี 
 
 
 
ชูเฟิงจึงตัดสินใจอยู่นิ่งๆ ซึ่งคนของพรรคมารก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับเขา นำซ้ำพวกเขายังคอยดูแลเขาเป็นอย่างดี ขนาดที่ว่าคอยนำอาหารจานเนื้อมาให้ อีกทั้งยังพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับหลายๆเรื่อง 
 
 
 
เช่นเรื่อง ที่ชูเฟิงไปเจอมาภายใน ดินแดนตราประทับนิรันดร์ พวกเขาฟังได้เรื่องราวอย่างละเอียดจนขนาดเกิดความประทับใจขึ้นมาภายในจิตใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มสนทนากันเรื่อง คบหากันเป็นมิตรสหาย 
 
 
 
แน่นอน ว่าทุกสรรพสิ่งต้องมีสองด้านเสมอ ถึงแม้ว่าคนใหญ่จะชอบ ชูเฟิง แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ไม่ค่อยขี้หน้าเขา พวกเขาหงุดหงิดมากเมื่อมอง ชูเฟิง 
 
 
 
หลังจากที่อยู่ร่วมสนทนากันมาพักนึง เขาก็แอบฟังเรื่องบางอย่างอย่างลับๆไปด้วย และชูเฟิงก็ได้ความจากการสนทนาของคนเหล่านั้น 
 
 
 
ชูเฟิง พอรู้เลยว่า พรรคมารทลายราตรี นอกจากจะส่งยอดฝีมือมาหุบเขาคนโฉดมากมาย พวกเขายังส่งสองราชันย์สงครามออกมาด้วย 
 
 
 
คนเหล่านี้ล้วนแต่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับ ชูเฟิง เพราะพวกเขาเป็นคนรับใช้ของ ฉิว ซานเฟิง ผู้นำของสี่ปราการ 
 
 
 
พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ พวกเขาส่วนใหญ่จึงมีทักษะอำนาจพลังวิญญาณ ทั้งนี้ยอดฝีมือทั้ง 10 ยังได้สาบานเป็นพี่น้องกัน ภายในพรรคมารพวกเขายังได้สมยานามว่า พี่น้องเสื้อทอง
 
 
 
ถึงแม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญจ้าวแห่งสงคราม แต่หลายปีผ่านมา พวกเขาทุกคนล้วนแต่กลายเป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดทอง สำหรับ พี่ใหญ่ของสิบพี่น้อง ทุกคนต่างเรียกว่า ผู้เฒ่าหลิว ซึ่งเขาไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรจ้าวแห่งสงครามมาหลายสิบปี ในปัจจุบันเขายังมีแนวโน้มสูงมากที่เขาจะสามารถทะลวงผ่านเป็นผู้เชี่ยวชาญราชันย์แห่งสงคราม 
 
 
 
ตลอดเวลาเขาทำภารกิจปกป้องระแวกนี้เรื่อยมา แต่ว่าเพราะอะไรนั้น ชูเฟิง ไม่อาจรู้ได้ แต่ถึงยังไง คนของพรรคมารที่มารวมกันที่นี่มีเป้าหมายชัดเจนแล้วว่า เพื่อโค่นล้มความยโสของหมู่เกาะประหาร แม้ว่าหมู่เกาะจะระวังตัวแจ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะก้าวสู่กับดักที่พรรคมารวางเอาไว้ซะเอง 
 
 
 
หลังจากที่ได้รู้เรื่องราว ชูเฟิงจึงรู้สึกวางใจพวกเขามากขึ้น หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะพูดกับพวกเขาว่า”
 
 
 
จริงๆแล้วข้าคือลูกศิษย์ ของ ฉิว ซานเฟิง !”
 
 
 
หากเขาทำเช่นนั้น ยังไงก็ตามพวกเขาจะต้องซักไซร้แค้นความเรื่องฉิว ซานเฟิง และ ตรวจสอบประวัติเขาอย่างถี่ยิบ 
 
 
 
แต่ ฉิว ซานเฟิง กำชับเขาอย่างชัดเจน ว่านอกจาก ฟู่ เหลียนเซิง อย่าได้บอกใครว่าเขาติดอยู่ภายในสุสานจักรพรรดิ 
 
 
 
ดังนั้นหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ ชูเฟิงจึงล้มเลิกความคิด นอกจากนี้พวกเขายังไม่ไว้ใจ ชูเฟิง ดังนั้นชูเฟิงจะต้องระวังตัว 
 
 
 
ในที่สุดก็ถึงวัน ที่มีการนัดประลอง ระหว่าง ศิษย์ของ 3 ปราการ คนของพรรคมารทลายราตรีเริ่มมีการเคลื่อนไหว พวกเขาไม่ได้ทิ้ง ชูเฟิงเอาไว้ จึงพาเขาตามไปด้วย 
 
 
 
ชูเฟิง อดที่จะดีใจไม่ได้ เพราะในที่สุดเขาก็จะได้เป็นสักขีพยานกับสิ่งที่หาดูที่ไหนไม่ได้ 
 
 
 
พี่น้องเสื้อทอง นำทางพวกเขาเข้าไปในส่วนลึกของทะเลสาบ โดยใช้เส้นทางที่ลึกลับซับซ้อน และเมื่อเดินมาตามเส้นทาง ในที่สุดพวกเขาก็มีถึงใจกลางพื้นที่หลักของหุบเขาคนโฉด 
 
 
 
พวกเขาอยู่ใต้ดินลึกลงไป แต่พวกเขาก็สามารถมองเห็นภายนอกได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าที่นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยอำนาจพลังวิญญาณ
 
 
 
ดังนั้น ชูเฟิง จึงเห็นได้ชัดว่า มีคนจำนวนนึงรวมตัวกันอยู่พื้นที่หลักด้านบนของหุบเขาคนโฉด ผ่านไปไม่ช้าคนที่ขึ้นเขามาก็มารวมตัวกันดั่งมหาสมุทรฝูงชน รอบๆเต็มไปด้วยความครึกครื้น อย่างน้อยๆก็มีประมาณหลายหมื่นคน 
 
 
 
และนั้นคือคนที่เดินทางมาจากป่าศิลามรณะ ที่มาจากทั่วทุกมุมจากทะเลตะวันออก พวกเขาค้นหาวิธีต่างๆและพยายามบากบั่นขึ้นมาที่นี้ ด้วยความตื่นเต้น 
 
 
 
“พวกเรามาเริ่มกันเถอะ!!!”
 
 
 
ทันใดนั้นเอง ผู้นำของพี่น้องเสื้อทอง ผู้เฒ่าหลิว ก็พูดขึ้น 
 
 
 
ในเวลานั้น พรรคมารต่างส่งเสียงกู่ร้อง จากนั้นสิบพี่น้องเสื้อทอง ก็เดินตรงไปยังผนึกหลักของหุบเขาคนโฉด 
 
 
 
รูปแบบอำนาจฯนั้นได้ตัดขาดโลกภายนอก จากบนฟ้า จรดลงมายังผืนดิน มันเป็นตราประทับที่สมบูรณ์ของหุบเขาคนโฉด
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ 10ยอดฝีมือจ้าวแห่งสงคามม กำลังวางแผนที่จะเปิดผนึกรูปแบบฯ
 
 
 
ชูเฟิง ก็พบว่า สิบพี่น้องเสื้อทอง ไม่เพียงจะใช้รูปแบบฯที่ลึกลับซับซ้อน พวกเขายังนำหินอำนาจวิญญาณออกมาจำนวนมาก 
 
 
 
เนื่องจากพลังที่อยู่ภายในหินนั้นจะมีขีดจำกัด พวกเขาจึงใช้มันได้ในระยะเวลาสั้นๆ ในการเพิ่มอำนาจพลังวิญญาณให้กับรูปแบบของตนเอง 
 
 
 
เห็นแบบนั้น หัวใจของชูเฟิงก็เริ่มเต้นระรัวด้วยความสังสัย”
 
 
 
พวกเขาจะใช้หินกับรูปแบบฯนั้นยังไง ?! พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ?! แล้วแผนของพวกเขามันคืออะไร ?!”
 
 
 
ReaDMGA////////////////////////////////////////A : หลอกหมู่เกาะประหารเข้ามา แล้วกระทึบใช่ป่ะ?!
 
 
 
B : ไม่รู้อ่ะ อาจจะสร้างรูปแบบฯขึ้นมาป้องกันคนฉวยโอกาสในตอนที่ ศิษย์ 3 ปราการ สู้กันอยู่ก็ได้!!!
 
 
 
C : จะสู้กันจริงๆอ่อ จะมีเรื่องกับหมู่เกาะประหารอยู่ล่ะ นั้นมันจะไม่สมเหตุสมผลหน่อยหรอ!!!
 
 
 
B : อาจเป็นแผน หรือข่าวปล่อยออกไปให้ หมู่เกาะประหารมาติดกับก็ได้ แต่ก็ไม่แน่ เพราะเรื่องอนาคตไม่มีใครรู้ พวกเขาอาจจะเปิดผนึกแล้วให้ ศิษย์ทั้ง 3 ไปเอาสมบัติของประมุของค์ก่อนก็เป็นได้ 
 
 
 
A : เสร็จพี่เฟิงกูล่ะงานนี้!!!