I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 779 – กำลังจะได้ดูของดี

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 779 – กำลังจะได้ดูของดี

 

ผู้คนบนพื้นดิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใต้ชั้นใต้ดินส่วนลึก

 

ตอนนี้ผู้คนจากทั่วสารทิศจากทะเลตะวันออก พากันชะเง้อหัวมอง เพื่อรอการปรากฏตัวของ ศิษย์สามปราการ ด้วยอารมณ์ที่แสนจะตื่นเต้น “ทุกคนข้า ซวน เสี่ยวจาว ศิษย์1ใน4ปราการ เซวีย ซีเยว่ ต้องขออภัยที่ทำให้รอ!”

 

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังเข้ามา เมื่อมองไปยังต้นเสียง พวกเขาก็พบกับ ชายหนุ่มที่อยู่บนอากาศ ขณะที่เสื้อผ้าปลิวไสว ใบหน้าของเขาแสนดูเฉียบคม หล่อเหล่า ทั้งยังมีพลังในระดับ 8 จ้าวแห่งสงคราม “ในที่สุดเขาก็มา!!! นั้นคือ ศิษย์ของท่าน เซวีย ซีเยว่ ซวน เสี่ยวจาว สินะ ?!” “เซวีย ซีเยว่ เป็นปราการหญิงเพียงคนเดียวในพรรค ข้าได้เคยมาว่า นางชอบไล่สังหารศัตรูภายใต้แสงจันทร์ ผู้คนมากมายที่ตายภายใต้แสงจันทร์ เลือดจะไหลนองทั่วพื้น เมื่อแสงจันทร์สาดส่องจะเห็นพระจันทร์เลือด นั้นเป็นเหตุผลที่ทุกคนเรียกเรียกนางว่า เซวีย ซีเยว่”

 

[ T/N 血 เซวียะ = เลือด / 洗 ซี = ล้าง / 月 เยว่ = ดวงจันทร์ ชื่อนางความหมายรวมๆว่า เลือดชโลมดวงจันทร์ ]”โอ้ววว!!!! แม้ว่า เซวีย ซีเยว่ เป็นหญิง ในบรรดาสี่ปราการ แต่นางนับว่าเป็นปีศาจที่ไล่สังหารผู้คนเหมือนผักปลา ข้าไม่คิดเลยว่า ลูกศิษย์ของนางจะสุภาพมากแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ””เบาๆหน่อย!!! เคยได้ยินไม๊ที่เขากล่าว ว่าเราไม่ควรตัดสินหนังสือ จากปกของมัน ไม่ว่าเขาจะดูสุภาพ แต่เขาเป็นถึงศิษย์ของปราการแห่งพรรคมารทลายราตรี เจ้าไปเรียกนางว่าปีศาจฆ่าคน ระวังเถอะ นางจะมาฆ่าครอบครัวของเจ้า”

 

ลักษณะของ ซวน เสี่ยวจาว ดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนมาก พวกเขาเริ่มวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับอาจารย์ของเขาอย่างอลม่าน แม้ว่า ซวน เสี่ยวจาว จะแข็งแกร่ง แต่พวกเขากับให้ความสนใจกับอาจารย์ของเขามากกว่า

 

ชื่อเสียงของสี่ปราการเป็นที่รู้จักกันดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหายจากยุทธภพ แต่พวกเขาก็ยังเป็นที่น่าหวาดกลัว

 

และ ซวน เสี่ยวจาว ที่ปรากฏตัวออกมา ทำให้ผู้คนเริ่มต้นสนทนากันอย่างสนุกสนานปาก ไม่ว่าผู้คนจะพูดยังไง เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ เขายังคงยิ้มแย้มพร้อมกับมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า”

 

โยว่ ตงหาน เจ้ามาถึงแล้ว ทำไมไม่แสดงตัวออกมาล่ะ ?!” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ซวน เสี่ยวจาว ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้ายังจำข้าได้”หลังจากที่ ซวน เสี่ยวจาว พูดจบก็มีคนโดดออกมาจากฝูงชน

 

ลักษณะของเขาคล้ายคลึงกับ ซวน เสี่ยวจาว อย่างมาก หน้าเขาเรียวคม หล่อเหลา แต่ดวงตาของเขานั้นดูประหลาด มันเป็นสีเขียวอ่อน คล้ายกับโคมเรืองแสงในยามราตรี ซึ่งทำให้เขาดูน่ากลัวมากทีเดียว “ไม่ว่าเจ้าจะเปลี่ยนไปยังไง ข้าก็จำเจ้าได้ เพราะดวงตานั้นของเจ้า”

 

ซวน เสี่ยวจาว ตอบด้วยรอยยิ้ม “เขาคือลูกศิษย์ของ โยว่ หมิงเติง โยว่ ตงหาน เขามาที่นี้เป็นคนที่ 2 งั้นหรอ””เอ้อ! ! ! ข้าได้ยินมาว่า โยว่ หมิงเติง เลือกเขาเป็นศิษย์ เพราะดวงตาแปลกๆที่มีมาตั้งแต่เกิดของเขา และนั้นเป็นเหตุผลที่ โยว่ หมิงเติง ให้ โยว่ ตงหาน ใช้แซ่เดียวกับเขา”

 

การปรากฏตัวของเขาทำให้ผู้คนเกิดความโกลาหล สำหรับคนที่เป็นผู้รับใช้ของสี่ปราการมาก่อนต่างเข้าใจความแข็งแกร่งของเหล่าปราการ และลูกศิษย์พวกเขาเป็นอย่างดี “โอ้ว ท่านทั้งสอง ไม่ได้พบกันตั้งนาน ?!”

 

สักพัก ก็มีเสียงระเบิดดังกังวาลแหวกผ่านอากาศมาแต่ไกล

 

เมื่อหันไปมองพวกเขาก็พบกับชายร่างกำยำ ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล ไว้หนวดรอบๆปาก หัวของเขากลมไสยังกับลูกโลก ขณะที่เดินอยู่ในอากาศ

 

ผู้ชายคนนั้นดูโตกว่า ซวน เสี่ยวจาว และ โยว่ ตงหาน หากมองจากภายนอก แม้เขาจะดูเหมือนชายวัยกลางคน แต่ภายนอกเขากับดูกับเหมือนคนอายุ 40 ขึ้น

 

อย่างไรก็ตามม ผู้คนที่คุ้นเคยกับเขา จะรู้ว่าเขาพึ่งสามสิบเมื่อเร็วๆนี้ จริงๆอายุเขาอ่อนกว่า ซวน เสี่ยวจาว และ โยว่ ตงหาน เขาเป็นศิษย์ของ ฟู่ เหลียนเซิง ฟู่ เฟิงหมิง เขามีพลังเทียบเท่ากับ ซวน เสี่ยวจาว และ โยว่ ตงหาน นั้นคือระดับ 8 จ้าวแห่งสงคราม “ฟู่ เฟิงหมิง!!!””เขาคือศิษย์ของ ฟู่ เหลี่ยนเซิง , ฟู่ เฟิงหมิง””ทำไมล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น ?! เขาเด็กสุดในบรรดาสามอัจฉริยะไม่ใช่หรอ แล้วทำไมเขาถึงมีสภาพแบบนั้น””บอกได้เลยว่า โยว่ หมิงเติง , เซวีย ซีเยว่ เป็นคนไร้หัวใจ เขามักฝึกสาวกอย่างเข้มงวดด้วยความรุนแรงและโหดร้าย แต่กลายเป็นว่า ฟู่ เหลียนเซิง นั้นกับฝึกเอาเป็นเอาตายมากกว่า ดูจากลักษณะของ ฟู่ เฟิงหมิง ในตอนนี้สิ”

 

ลักษณะที่ปรากฏของ ฟู่ เฟิงหมิง กลายเป็นหัวข้อสนทนากันอย่างดุเดือด “นั้นคือ ศิษย์ของ ฟู่ เหลียนเซิง งั้นหรอ?!”

 

ชูเฟิง ทีอยู่ลึกลงไปใต้ดิน ให้ความสนใจอย่างมากกับเหตุการณ์บนพื้นดิน

 

หลังจากพบ ฟู่ เฟิงหมิง ชูเฟิงก็เริ่มวางแผนเข้าใกล้คนคนนั้น เพื่อหลอกถาม ที่อยู่ของ ฟู่ เหลียนเซิง

 

ชูเฟิง บอกได้เลยว่า ฟู่ เฟิงหมิง เป็นคนเจ้าเล่ห์มากกว่า ที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอก ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมองไม่ออก แต่ ชูเฟิง รู้สึกว่า ฟู่ เฟิงหมิง เป็นคนที่เหลี่ยมจัดมากที่สุดในบรรดาศิษย์ของสามปราการ

 

เนื่องจาก รูปแบบอำนาจพลังฯปิดล้อมรอบๆ ทุกคนภายนอกจึงไม่สามารถมองเห็น ลักษณะของ ฟู่ เฟิงหมิง และ คนอื่นๆ แต่ข่าวก็แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เกือบจะทันทีที่ ซวน เสี่ยวจาว มาถึง ข่าวก็แพร่กระจายออกไป

 

ในตอนนั้น เกือบจะทุกคนก็มุ่งหน้ามายังบริเวณนี้ มากขึ้น และผู้ที่เข้ามารอดูการประลองก็ต่างเฝ้ารอคอย เป็นสักขีพยานการต่อสู้ที่ดุเดือด “ข้าเคยได้ยินมาว่า เมื่อสี่ปราการมาเผชิญหน้ากัน พวกเขาก็ทำท่าทางราวกับเจอฆาตกรที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ของพวกเขา แล้วทำไมศิษย์ของพวกเขาถึงดูเป็นมิตรกันดีล่ะ””เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้อีกหรอ พรรคมารสิ้นความรุ่งโรจน์ดั่งครั้งอดีตไปหมดแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ บางทีตัวเหล่าปราการเองก็อาจละทิ้งความแค้นไปเหมือนๆกัน””ทิ้งความแค้น ?! ถ้าเป็นเช่นนั้น การประลองในวันนี้ก็ต้องยกเลิกอ่ะสิ ?!”

 

เห็นการสนทนาที่สงบสุขของเหล่าบรรดาศิษย์ มีคนเกิดความกังวลว่า ศึกประลองในวันนี้ ที่พวกเขารอคอยมานาน มันจะไม่เกิดขึ้น “พี่จาว พี่หาน เรามาสถานที่แห่งนี้ เพราะคำสั่งของอาจารย์ ให้พวกเราทดสอบว่าใครเหนือกว่าใคร ทุกคนที่นี้ก็คงรอดูเช่นกัน ดังนั้นพวกเราเริ่มกันเลยดีไม๊ ?”

 

ฟู่ เฟิงหมิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

หลังจากที่เขาพูด ทุกคนก็เกิดความตื่นเต้น เลือดภายในร่างพวกเขาเดือดพล่าน เพราะ ฟู่ เฟิงหมิง แถลงความสงสัยของพวกเขา ตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปว่า สามอัจฉริยะจะไม่ประลองกัน “น้องหมิง ไม่จำเป็นต้องรีบ ทุกคนล้วนแต่เป็นสาวกของพรรคมารทลายราตรี หากเราจะสู้กันก็ควรสู้ในแดนของพรรคมารทลายราตรี “เรื่องแรกที่พวกเราต้องทำคือ ปลดผนึกรูปแบบอำนาจพลังฯของหุบเขาคนโฉด และค่อยหาว่าใครคือผู้ชนะ”

 

ซวน เสี่ยวจาว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าก็คิดเช่นนั้น”

 

ฟู่ เฟิงหมิง และ โยว่ ตงหาน พยักหน้าพร้อมกัน หลังจากนั้น ฝูงชนก็จับตามองพวกเขา ที่กำลังจะเปิดผนึกรูปแบบฯ “สวรรค์ พวกเขาทุกคน เป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดทอง ด้วยอายุเท่านี้ได้แล้วงั้นหรอ สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์ที่สามปราการเลือกมากับมือ”

 

เมื่อเห็นพวกเขาแผ่อำนาจพลังสีทอง สว่างวาบ ทุกคนก็รู้ได้ทันที ว่าพวกเขาเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทอง “เยี่ยม พวกเขากำลังเริ่มเปิดผนึกรูปแบบนั้นแล้ว ?! ดูเหมือนว่าพรรคมารจะเริ่มแผนการหลังที่เปิดรูปแบบฯนั้นเสร็จสิ้นสินะ”

 

ชูเฟิง ให้ความสนใจกับทั้งสามขณะที่พวกเขากำลังวางสัญลักษณ์ รอยยิ้มของเขาปรากฏขึ้นที่มุมปาก เพราะเขารู้ว่ากำลังจะได้เห็นของดีๆ

 

ReaDMGA////////////////////////////////////////////////////////////A : เปิดไปสู้กันข้างในจริงๆหรือเปล่า ?!!!

 

B : พี่เฟิงตรงดิ่งไปเอาสมบัติเลย!!! ของเทพซ่อนอยู่ในนั้น!!!

 

C : ถ้าทำแบบนั้น คงได้กลายเป็นศัตรูกับพรรคมารทุกคนอ่ะ ฝันร้ายชัดๆ

 

B : เออก็จริงว่ะ!!! ช่างแม่งขอให้เทพแล้วฆ่าล้างหมู่เกาะประหารได้ก็พอ เมื่อเป้าหมายสำเร็จ ค่อยเอามาคืนก็ได้!!!

 

C : เห้อ . . . . . . ล้างแค้นมันก็ดีอยู่ แต่หากไม่ใช้สมองเลยก็ไม่ไหวนะ!!! ถึงเวลาพระเอกไม่ต้องทำแบบนั้นเด๋วก็มีคนมายัดเยียด ไม่เชื่อคอยดู!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments