บทที่ 907 – ถูกบังคับให้ขอความชวยเหลือ
 
 
 
ในขณะนั้น เหล่าปิศาจเกือบสิบล้านตัวได้อยู่ในอากาศ จำนวนของพวกมันมีเท่ากับจำนวนของเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากหมู่เกาะประหาร และสามมหาอำนาจรวมกัน แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นเท่าเทียมกันหมด นั่นคือขั้นจ้าวสงครามระดับสูงสุด 
 
 
 
นอกจากนนี้ ยังดูราวกับว่าพวกมันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ไม่เหมือนกับถูกสร้างขึ้นมา พวกมันคล้ายกับว่าสติปัญญาเป็นของพวกมันเอง “ในโลกนี้มีรูปแบบที่สามารถสร้างกองกำลังเช่นนี้ด้วยรึ………..”
 
 
 
ชูเฟิง ขมวดคิ้วแน่น แม้ว่าเขาจะมีความสมารถด้านรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็คิดมาก่อนเลยว่า เจียง ฉีซา จะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ 
 
 
 
เจียง ฉีซา นั้นน่ากลัวอย่างมาก เขาสามารถสร้างกองปิศาจที่มีพลังขั้นจ้าวสงครามออกมาได้ถึงสิบล้านตัวเช่นนี้ “โฮะ !! ในที่สุดข้าก็ได้เห็นทักษะของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์!! แต่เจ้าดูถูกข้าเกินไป หากคิดจะฝ่ารูปแบบของข้ามาด้วยกองทัพเช่นนี้ !!”
 
 
 
มุมปากของท่านหญิง เพียวเมี่ยว เผยให้เห็นรอยยิ้ม พร้อมกับที่กระบี่ของรูปแบบกระบี่นิรันดร์เริ่มเคลื่อนไหวราวกับว่าพวกมันต้องการจะสังหารผู้บุกรุก 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เจียง ฉีซา ยิ้มหยันออกมา พร้อมกับชี้มาที่หุบเขาสายหมอก และตะโกนออกมาว่า”
 
 
 
ฆ่า !!”
 
 
 
***** โอ้ววววววว ***** 
 
 
 
ในเวลานั้น กองทัพปิศาจกว่าสิบล้านตัวก็พุ่งทะยานออกไป พร้อมกับคำรามออกดังสนั่น เข้าสู่หุบเขาสายหมอก 
 
 
 
ในขณะนั้น ผู้คนของหุบเขาสายหมอกต่างหวาดกลัว นอกจาก ชูเฟิง ,ท่านหญิง เพียวเมี่ยว และคนอื่นๆ แล้วนั้น ทุกคนต่างถอยร่นลงไป เพราะเกรงจะถูกเหล่าปิศาจสังหาร 
 
 
 
***** วิ้งงงงงงง ***** 
 
 
 
เมื่อเหล่าปิศาจเข้ามาใกล้นั้น กระบี่สีทองก็สั่นระรัว พร้อมกับพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว และพลังที่ราวกับจะสามารถบดขยี้ทุกสิ่งอย่างได้ 
 
 
 
***** ตูมมมมมมมมม ***** 
 
 
 
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว คลื่นพลังแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้าง เหล่าปิศาจไม่สามารถทนต่อการโจมตีของกระบี่สีทองได้แม้แต่นิดเดียว 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ปิศาจเหล่านั้นก็ไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย หากพวกมันไม่ถูกกระบี่สีทองจัดการนั้น พวกมันก็สามารถโต้กลับได้อย่างรวดเร็ว เพราะพวกมันมีสติปัญญาเป็นของตัวเอง 
 
 
 
***** ตูมมมมมมม ***** 
 
 
 
แม้ว่ากระบี่สีทองจะสามารถกำจัดเหล่าปิศาจได้จำนวนมาก แต่มันก็ไม่สามารถกำจัดได้หมด 
 
 
 
เหล่าปิศาจที่หลบการโจมตีของกระบี่สีทองได้นั้น ต่างพุ่งเข้ามาที่รูปแบบป้องกันของหุบเขาสายหมอก พวกมันระเบิดตัวเองเพื่อทำลายรูปแบบป้องกันในทันที แม้ว่าพลังของพวกมันจะเป็นเพียงขั้นจ้าวสงคราม แต่แรงระเบิดนั้นสามารถเทียบได้กับพลังของขั้นราชันย์สงคราม 
 
 
 
และด้วยจำนวนมหาศาลของพวกมันที่ผ่านการป้องกันของกระบี่สีทองมาได้นั้นมีจำนวนมาก ทำให้รูปแบบป้องกันทั้งหมดอยู่ในสภาวะที่อันตรายอย่างมาก “มันใช้ทักษะนี้เพื่อทำลายรูปแบบป้องกัน ไม่ได้ใช้เพื่อทำลายรูปแบบกระบี่นิรันดร์ !! ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิดไป !!”
 
 
 
ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ขมวดคิ้วแน่นน นางรู้แล้วว่า เจียง ฉีซา ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ “ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ปิศาจพวกนี้เกิดขึ้นจากยันต์พวกนั้น ความแข็งแกร่งของพวกมันน่าจะเป็นผลมาจากยันต์พวกนั้นเช่นกัน !!””แม้ว่าพลังของพวกมันจะไม่เท่ากับขั้นราชันย์สงคราม แต่ด้วยจำนวนของพวกมันก็สามารถทำลายรูปแบบป้องกันได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป รูปแบบป้องกันจะไม่สามารถต้านทานพวกมันได้อีก !!”
 
 
 
ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน กล่าวออกมาด้วยความกังวล “ฟู่หยาน เจ้าพูดถูก !! รูปแบบเหล่านี้มีความแข็งแกร่งมาก มันเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มาก ข้าคงรั้งไว้ได้อีกไม่นานนัก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายแน่ !!””ตอนนี้รีบพา ชูเฟิง ไปที่แท่นบูชาเร็ว ให้เขาลองติดต่อกับสิ่งลี้ลับในดินแดนตราประทับนิรันดร์ ให้ช่วยปกป้องที่นี่เพื่อประโยชน์ของ ชูเฟิง !!””หากเป็นเช่นนั้น คนจากดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์จะต้องตายที่นี่แน่ !! หากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเราก็จะต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด !!”ท่านหญิง เพียวเมี่ยว กล่าว “แต่ท่านที่เป็นผู้นำของที่ไปเองไม่ดีกว่าหรือ !?”
 
 
 
ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน กล่าวด้วยความสับสน “ถ้าข้าทำได้ ข้าคงทำไปแล้ว !! ในสายตาของคนภายนอก ข้าคือผู้ที่เป็นผู้นำที่นี่ และอาจจะได้รับบางสิ่งบางอย่างจากที่นี่ !!””แต่ความจริงแล้วข้ารู้ดี แม้ว่าข้าจะเป็นผู้นำที่นี่ แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขเฝ้าบ้านให้กับสิ่งลี้ลับในดินแดนตราประทับนิรันดร์ ที่คอยเก็บกวาดให้เท่านั้น !!””เขาไม่เคยใส่ใจพวกเรา แต่ ชูเฟิง นั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นคนพิเศษ บางทีเขาอาจจะสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งลี้ลับนั้นได้ !!””รีบพา ชูเฟิง ไปที่นั่นเร็ว หากเขาช่วยพวกเรานั่นจะเป็นสิ่งที่ดีมาก พวกเจ้าอย่าได้อยู่ที่นั่นนาน หากเขาไม่ตอบรับ ก็ให้รีบกลับออกมา !!”ท่านหญิง เพียวเมี่ยว กล่าวออกมาด้วยความเร่งรัด “ข้าเข้าใจแล้ว !!”
 
 
 
ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก นานคว้า ชูเฟิง และรีบบินเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาสายหมอก 
 
 
 
***** วูบบบบบบ ***** 
 
 
 
หลังจากที่ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน พา ชูเฟิง ออกไปนั้น คนของหมู่เกาะประหาร และคนของสามมหาอำนาจก็ส่งพลังชีวิตเข้าไปในประตูนั่นอีกครั้ง 
 
 
 
และในตอนนี้ เหล่าปิศาจเช่นเดียวกับชุดก่อนหน้านี้ก็ได้ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง และพวกมันก็พุ่งตรงมายังหุบเขาสายหมอกอย่างต่อเนื่อง 
 
 
 
ในขณะนั้น คนของหุบเขาสายหมอกต่างหวาดกลัวอย่างมาก พวกเขาสามารถบอกได้ทันทีว่า เมื่อใดก็ตามที่รูปแบบป้องกันถูกทำลายลงนั้น พวกเขาจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างแน่นอน 
 
 
 
ในความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่คนอื่นๆ แม้แต่ ชุน หวู , ฉิว ซือ และคนอื่นๆ พร้อมทั้งผู้นำของหุบเขาสายหมอก ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ยังขมวดคิ้วแน่น แต่นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นางใช้ทุกๆ อย่างเพื่อป้องกันหุบเขาสายหมอกเอาไว้อย่างเต็มกำลัง 
 
 
 
นางพยายามอย่างมาก และหวังว่า ชูเฟิง จะสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งลี้ลับนั้นได้ และสามารถยืมพลังของเขามาเพื่อกำจัดเหล่าผู้บุกรุกทั้งหมด 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : ทายาทแห่งวิหารสืบทอดมีหรือมันจะไม่ช่วย 
 
 
 
B : งานนี้ ถึงฆ่าพวกมันไม่ได้ แต่พี่เฟิงของกูก็รอดละว่ะงานนี้!!! 
 
 
 
C : พูดมากเหม็นขี้ฟัน จะอ่านต่อล่ะ 
 
 
 
B : ก็ได้. . . . . .