I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 939 – สุดยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 939 – สุดยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์

 

โหยว หมิงเติง เซว์ ซือเยว์ และ ฟู่ เหลียนเฉิง รู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นไม่สู้ดีนัก

 

พวกเขารู้ดีว่าถ้าพวกเขาทั้ง 3 นั้นรวบรวมคนของพรรคที่แตกแยกออกไปนั้นผลที่ตามมาคือ การถูกกำจัด

 

หาก พวกเขาทำเช่นนั้น หมู่เกาะประหารนั้น ย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไว้อย่างแน่นอน

 

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ต้องรีบรวบรวม คนของพรรคจากภูมิภาคทะเลตะวันออก ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย จะสู้หรือจะหนี พวกเขานั้นต้องทำมันด้วยกัน

 

อย่างไรก็ตาม ที่พรรคมารนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะ พวกเขาเปรียบดั่งมังกรที่ไร้หัว แม้แต่ทั้ง 3 ผู้พิทักษ์นั้นก็ไม่เชื่อใจกันและคน ดังนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะเลือกประมุข

 

ในความจริงแล้ว มีผู้คนมากนักที่ไม่รู้บทสรุปที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ ชูเฟิง และ ฉิว ซานเฟิง ทำนั้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับพวกเขา “ท่าน อาจารย์ดูเหมือนว่า พวกเขานั้นจะมีแผนอย่างนั้นสินะ”

 

ชูเฟิงพูดขึ้น “อืม เจ้าแฝงตัวเข้าไปซะ เข้าไปดูสภานการณ์ แต่อย่าเพิ่งลงมือใดๆทั้งสิ้น ขอข้าดูสิ่งที่เจ้าแก่ทั้ง 3 จะทำเสียหน่อย”

 

ฉิว ซานเฟิง พยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น

 

ในตอนนั้น ชูเฟิง และ ฉิว ซานเฟิง ได้แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน หลังจากปลอมตัวเป็นคนธรรมดา พวกเขานั้นหลีกเลี่ยง ที่จะแสดงตน

 

พวกเขานั้น มาที่หุบเขาคนโฉด เพราะรู้ดีว่าจะมีการเลือกประมุขพรรค ที่สามารถดึงดาบออกมาได้

 

ในตอนนั้น พวกเขาพบว่าวิหารใต้ดินนั้น ได้ถูกปรับปรุงใหม่ แม้มันจะไม่ได้หรูหรา แต่มันก็กว้างขึ้นมาก มากพอที่จะจุคนได้มากมาย

 

อาจพูดได้ว่า 3 ผู้พิทักษ์นั้น จะมาพบกันเพราะจะคุยเรื่องบางอย่างในวันนี้

 

แต่ถึงอย่างนั้น ที่นี่นั้นแออัดอย่างมาก มีคนกว่าล้านคนนั้นมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ แต่ภายในใต้ดินนั้นก็นับว่าเป็นส่วนน้อย เพราเหนือพื้นดินนั้นยังมีกลุ่มคนอีกกว่า 10 ล้านคนที่มารวมตัวกัน

 

นี่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีของคนในพรรคมารทะลายราตรีอย่างมาก

 

ตอนที่พรรคนั้นแตกออก เนื่องจากขาดผู้นำ แต่เมื่อมีสารด่วนเข้ามา พวกเขาจึงรีบมารวมตัวกัน เพื่อพรรคของพวกเขา

 

ในที่สุด ชูเฟิงและฉิว ซานเฟิง ก็มาถึงวิหารที่มีดาบผนึกมารอยู่ โครงสร้างของวิหารนั้นใหญ่ขึ้นมาก ในตอนนี้มีคนกว่า พันคน มารวมตัวกันในวิหารนี้

 

อย่างไรก็ตาม คนที่มีสถานะในพรรคเท่านั้นที่จะสามารถอยู่ในวิหารได้ ส่วนที่เหลืออยู่ที่ทางเข้าเพื่อคอยตรวจสอบไม่ให้คนเข้ามารบกวน

 

นั่นเป็นเพราะว่า วิหารนั้นถึงแม้ว่าจะใหญ่แต่ก็ไม่สามารถบรรจุคนทั้งหมดได้ มันจึงมีขีดจำกัดเหมือนกัน เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกประมุขจึงต้องทำเช่นนี้

 

ในตอนนี้นั้น ทุกคนก็หวังที่จะเป็นสักขีพยานในการเลือกตั้ง ประมุขคนใหม่ แต่มันก็ไม่ยากที่ชูเฟิง และ ฉิว ซานเฟิง จะแทรกซึมเข้าไป “ชูเฟิง เข้าไปซะ ข้าจะรอที่นี่”

 

ฉิว ซานเฟิง ส่งข้อความทางจิตมาบอก ชูเฟิง “อืม”

 

ชูเฟิง รู้ว่า ฉิว ซานเฟิง ไม่ต้องการเปิดเผยตนเอง ดังนั้นจึงให้เขาเข้าไปในใจกลางวิหารก่อน

 

วิหารนี้ กว้างมากแต่มันก็เต็มไปด้วยผู้คน เมี่อชายหนุ่มเช่น ชูเฟิงเข้ามาเขาก็ต้องดันคนอื่นๆเพื่อแทรกตัวเข้าไป ส่งผลให้หลายคนนั้นไม่พอใจอย่างมาก

 

แต่ชายหนุ่มนั้น ทำเป็นไม่สนและทำต่อๆไป

 

จนในที่สุดเขาก็ผ่านฝูงชน มาถึงจุดๆหนึ่งในตอนนั้นเขาก็พบคนคุ้นเคยอยู่ในสายตา

 

อัจฉริยะ ทั้ง 3 พวกเขานั้นคุยกันอย่างลับๆ แต่แรงกดดันจากพวกเขานั้นรุนแรงมาก

 

นอกเหนือจากทั้ง 3 ก็ยังมี สิบพี่น้องชุดทอง จนกระทั่ง ราชันย์ 5 ธาตุ อีกด้วย

 

ใน 5 ราชันย์นั้น ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือ ราชันย์ทอง เขาอยู่ในระดับ 3 ราชันย์สงคราม

 

แน่นอน ว่าคนที่มีสถานะสูงที่สุดในตอนนี้ ที่สามารถคุมกำลังมากมายที่นี่ได้ อย่าง 3 ผู้พิทักษ์ ก็อยู่ที่นี่

 

โหยว หมิงเติง—ชูเฟิง นั้นเคยเห็นเขามาก่อน เขาจำได้แน่นอนว่าเจ้าแก่สารเลวคนนี้ได้ทำอะไรกับเขาไว้บ้าง

 

เขานั้นอยู่บนเก้าอี้ที่สร้างจากรูปแบบวิญญาณ ท่าทางของเขานั้นสบายๆอย่างมาก ด้านข้างของเขานั้นผู้พิทักษ์ทั้ง 2 ก็นั่งอยู่เช่นกัน

 

1 ในนั้น คือ สตรีที่มีรูปร่างดึงดูดผู้คน และ แต่งหน้าหนาเตอะ นางนั้นดูเหมือน สตรีวัยกลางคน แต่ทุกคนรู้ดีว่านางนั้น คือหญิงชรา ที่มีอายุมากว่า 200 ปี

 

อีก 1 นั้นคือ ชายชราผมขาวที่ใส่เสื้อรัดรูปธรรมดาๆ ลักษณะของเขานั้นปกติอย่างมาก แต่ในดวงตาของเขานั้นมีแววตาที่คมกริบ และนั่นเป็นจุดเด่นของเขา.

 

ระดับพลังของทั้ง 2 นั้นสูงมาก เช่นเดียว กับ โหยว หมิงเติง ทั้ง 2 นั้นอยู่ในระดับ 4 ราชันย์สงคราม พวกเขานั้นไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็เคลื่อนไหวกันอยู่เพราะพวกเขานั้น ใช้การสื่อสารผ่านทางจิตกัน

 

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากคนดังเหล่านั้น ชูเฟิง ก็มองไปที่ใจกลางวิหาร เพราะที่แห่งนั้น ปกคลุมด้วยแสงสีดำ ที่เป็นกลิ่นอายมาจากดาบสีดำอยู่ มันคือ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ ดาบผนึกมาร

 

ในตอนนี้ ชูเฟิงนั้นคือคนที่สามารถใช้ดาบนั้น ได้ เมื่อเขาดึงครั้งที่ 2 เขาจะรู้สึกถึงพลังของมัน อย่างแน่นอน พลังของมันที่ว่ากันว่า เป็นราชันย์แห่งยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ . “คุณสมบัติของอาวุธชิ้นนี้นั้นสูงมาก ถ้าเขาเดาไม่ผิด คนที่สร้างมันคือ ผู้เชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามแน่นอน และอาวุธระดับราชันย์สงครามที่ถูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญระดับนั้น ย่อมมีพลังที่สูงมากแน่นอน “ต้านต้านพูด “เป็นอย่างนั้นเองหรือ ถ้าอย่างนั้นก็สมเหตุสมผลแล้ว ความต่างระหว่างพลังของราชันย์สงครามและ จักรพรรดิสงครามต่างกันราวฟ้ากับเหว””ถ้าทั้ง 2 นั้นสร้างยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ มันย่อมมีความสามารถต่างกันมาก ถ้าเป็นอาวุธของผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์สงคราม อาจกล่าวได้ว่ายังไม่ยอดที่สุด แน่นอนว่า อาวุธของผู้เชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามนั้นต้องสุดยอดอย่างแน่นอน.”

 

ชูเฟิง พยักหัวเห็นด้วยกับต้านต้าน

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : โยว่ หมิงเติง เตรียมตัว. . . . .

 

B : ช่วงนี้ระมันส์!!!

 

C : อย่าจบตรงช่วงที่ทำให้คนอ่านค้างนะ!!!

 

A : ทำไม!!!

 

C : เด๋ว มืงก็โดนกราบหรอก!!!

 

A : เออ!!! ประเด็นนี้ สุดๆเลย ตอนแรกก็ งงๆ ว่า กราบรถกู คือไร ?! แต่พอได้ดูคลิปแล้ว สุดๆเลยว่ะ

 

B : เออ สะเทือนใจสุดๆ!!! วัตถุมีค่ามากกว่าคนเลยหรอว่ะ ?! รถกูโดนไฟแนนซ์ ยึดยังไม่บ่นไรสักคำ!!!

 

C : ของมืงมันก็สมควร เล่นไม่ส่งค่างวดเลย!!!

 

B : ส่งตลอดนะ!!!

 

A : นั้นมันค่าเทอมนักศึกษา!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments