บทที่ 940 – โยว่ หมิงเติงช่างไร้ยางอาย
 
 
 
ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ ไม่ใช่อะไรที่ ผู้เชี่ยวชาญระดับราชันย์สงครามทั่วไป จะสร้างได้ มันไม่เพียงบ่งบอกถึงพลัง แต่มันยังบอกไปถึงว่าคนคนนั้นเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมราชวงศ์ 
 
 
 
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ จึงมีน้อยในภูมิภาคทะเลตะวันออก เพราะในที่แห่งนี้นั้น ไม่มีผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมราชวงศ์แม้แต่คนเดียว 
 
 
 
ยุทธภัณฑ์ระดับจักรพรรดิก็เช่นเดียวกัน ผู้สร้างนั้นนอกจากเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามแล้วยังต้องเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมนิรันดร์กาลอีกด้วย 
 
 
 
หากผู้เชี่ยวชาญระดับจักรพรรดิสงครามนั้นต้องการสร้างยุทธภัณฑ์ในตอนที่เขาเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับราชวงศ์ แล้ว เขาสร้างได้เพียงยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าดาบผนึกมาร นี้คือ ยุทธภัณฑ์ในกรณีนั้น “ชูเฟิงรูปแบบที่ล้อมรอบ ดาบผนึกมารได้เปลี่ยนไปแล้ว”
 
 
 
ต้านต้านพูดขึ้น 
 
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิงก็ตรวจสอบดูแล้วพบว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ชั้นของแสงที่มาจากดาบนั้น มีทั้งหมด 10 ชั้นและทุกๆชั้นนั้นมีแรงกดดันต่างจากเดิมมาก “พวกมันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก แต่เพียงแค่เปลี่ยนบางอย่างจากปกติเท่านั้น นี่ต้องเป็นฝีมือของผู้พิทักษ์แน่นอน แต่ข้าก็ไม่สนใจนักไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร”
 
 
 
ชูเฟิง พูดขึ้น “เห เจ้าพวกโง่นั้น กล้าเลือกประมุขพรรคอย่างนั้นหรือ พวกมันไม่รู้อย่างนั้นสินะ ว่าบุคคลที่เหมาะสมนั้นอยู่ตรงนี้แล้ว”
 
 
 
ต้านต้านพูดเย้ยหยัน และบุคคลที่ต้านต้านหมายถึงก็คือชูเฟิง “ไม่ว่ายังไง พวกเราก็ทำได้อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเราควรจะแสดงป่าหี่ดึงดาบให้พวกเขาดูเสียหน่อย”
 
 
 
ชูเฟิง ยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น 
 
 
 
ในตอนนั้น ที่ โหยว หมิงเติง ได้ไล่ชูเฟิงออกไปเป็นเพราะ เขาเกรงกลัวในพรสวรรค์ของชูเฟิง เขากลัวผลกระทบที่ตามมาเมื่อชูเฟิง อยู่ในพรรคมารทะลายราตรี เขากลัวว่าชูเฟิงจะมีชื่อเสียงมากขึ้น จนทุกคนดันเขาเป็นประมุข 
 
 
 
แต่วันนี้ เมื่อ โหยว หมิงเติงได้วางแผนขึ้นเป็นประมุขพรรค ชูเฟิงนั้นได้รู้หมดแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ชูเฟิงก็ได้วางแผนดักไว้แล้ว ดังนั้น ตำแหน่งนั้นย่อมเป็นของชูเฟิงแน่นอน “ทุกคน ข้าต้องขอขอบใจจริงๆ ที่พวกเจ้าทุกคนกลับมายังพรรควันนี้ หลังจากแยกย้ายกันไปนาน” “พวกข้าทั้ง 3 นั้นพยายามที่จะรวบรวมเหล่าพี่น้อง เพื่อฟื้นคืนพรรคของพวกเรา และ สร้างครอบครัวของพวกเราขึ้นมาใหม่”
 
 
 
“ข้าไม่คิดมาก่อนว่า จะเป็นอย่างนี้ หลังจากผ่านไปหลายปี หลังจากพรรคได้แตกแยกไป เมื่อถึงวันที่พวกข้านั้นเรียกรวมพรรคแล้ว เหล่าพี่น้องทั้งหลายก็ได้มารวมกัน นี่มันช่างเหนือจินตนาการยิ่งนัก””ข้ารู้สึกมีความสุขอย่างมาก จนต้องออกมากล่าวขอบคุณ ทุกๆคน หากท่านประมุขที่อยู่บนสวรรค์รับรู้ เขาต้องย่อมมีความสุขอย่างแน่นอน.”
 
 
 
โหยว หมิงเติง ลุกขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียง เคารพ เขาลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคมารที่มารวมตัวกันด้วยใจจริง “พี่ชาย ท่านจำคำสัตย์ของพรรคมารทะลายราตรีได้หรือไม่ ท่านจำคำสาบานที่พวกเรากล่าวเมื่อเข้าร่วมพรรคได้หรือไม่”
 
 
 
ในตอนนั้นก็มีคนพูดขึ้นมา “ข้าจะทุ่มเทชีวิตให้กับพรรคมารทะลายราตรี ข้าจะทุ่มเทแรงกายให้กับพรรคมารทะลายราตรี หากพรรคแข็งแกร่ง พวกเราย่อมแข็งแกร่ง หากพรรคล้มเหลว พวกเรายอมล้มเหลว เมื่อพรรคยังคงอยู่ เราย่อมยังคงอยู่ เมื่อพรรคได้สิ้นสลาย พวกเรายอมตาย!”
 
 
 
หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นเป็นตัวจุดชนวน หลังจากนั้นภายในอุโมงค์ผู้คนกว่า 10 ล้านคนที่มารวมตัวกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำหนึ่งใจเดียวกันว่า “เมื่อพรรคคงอยู่ เราย่อมคงอยู่ พวกพรรคสิ้นสลาย พวกเรายอมตาย!”
 
 
 
คำปฏิญานตน ของคนจากพรรคมารทะลายราตรีดังลั่น ราวกับฟ้าผ่า ไม่เพียงทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน มันยังทำให้จิตใจผู้คนต่างสั่นสะเทือนเช่นกัน. “ดีจริงๆ พี่น้องของข้าช่างกล้าหาญยิ่งนัก พวกท่านทุกคนล้วนเป็นมังกร ในหมู่มนุษย์””อย่างไรก็ตาม หมู่มวลประชามังกรก็ไม่สามารถข้าจ่าฝูงได้ พรรคมารทะลายราตรีก็เช่นกัน” “ถ้าพวกเราไม่ขาดผู้นำมาหลายต่อหลายปี หมู่เกาะประหารก็ไม่มีวันกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ พวกมันจะไม่มีวันกล้าท้าทายเราเช่นนี้””ในตอนนี้พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับโชคชะตา พวกเราไม่สามารถนั่งและรอความตายได้ พวกเราต้องสวนกลับแต่ก่อนหน้านั้นพวกเราต้องหาประมุขคนใหม่เสียก่อน””และในวันนี้ พวกเรานั้นเรียกพวกท่านมาเพราะเรื่องนี้ ข้ามั่นใจว่าประมุขคนที่ถูกเลือกในวันนี้ จะอยู่ในใจพวกท่านแล้ว”
 
 
 
“และถ้าข้าเดาไม่ผิด ประมุขคนนั้นต้องมาจากพวกเรา 4 ผู้พิทักษ์ และบุคคลนั้นที่พวกท่านส่วนใหญ่เลือกย่อมเป็น เป็นฉิว ซานเฟิงแน่นอน”
 
 
 
“ถูกต้องในตอนนี้นั้น บุคคลที่เหมาะเป็นประมุขมีเพียง พี่ใหญ่ ฉิว ซานเฟิง เพราะเขาคือผู้นำใน 4 ผู้พิทักษ์เช่นกัน แต่โชคร้าย พี่ใหญ่ของเรานั้นได้หายไปกว่า 2 ปีและข้าก็ไม่ได้ยินข่าวคราวอันใดจากเขาเลย””เมื่อถึงตอนที่พรรคมารทะลายราตรีต่อสู้กับ หมู่เกาะประหาร เขาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา จากที่ข้ารู้เขาไม่ใช่คนที่จะเพิกเฉยเรื่องแบบนี้ ถ้าเขารู้เขาย่อมมาเป็นบุคคลแรกที่จะมายืนข้างเคียงกับพวกเรา””แต่ตอนนี้ เขายังไม่ปรากฏตัว ซึ่งมันน่าแปลกใจยิ่งนัก ข้านั้นได้พยายามหาตัวเขาในทุกๆที่ที่เขาไปพักแต่ก็ไม่พบตัวเขา และไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน” “ไม่มีเหตุผลที่พี่ใหญ่ ฉิว ซานเฟิง จะหายตัวไปเช่นนี้ ดังนั้นมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขาอาจโชคร้ายและถูกฆ่าโดย หมู่เกาะประหาร”โหยว หมิงเติงพูดด้วย น้ำเสียงเศร้าโศก “อะไรนะ ท่านฉิว ซานเฟิง…”
 
 
 
ทุกๆคนรู้สึกตกใจมาก เพราะเรื่องที่ได้ยินมันยากที่จะรับได้ “เขาช่างไร้ยางอายยิ่งนัก เพื่อผลประโยชน์เขากลับมาบอกว่าอาจารย์ของข้าตายไปแล้ว”
 
 
 
ชูเฟิง สาปแช่งในใจ เมื่อเห็นความไร้ยางอายของ โหยว หมิงเติง “แม้ว่านี่เป็นการคาดเดา แต่มันก็ใกล้เคียงความจริงที่สุด แม้ว่าพี่ใหญ่ ฉิว ซานเฟิง จะแข็งแกร่งแต่ตอนนี้ข้ามั่นใจว่าพวกท่านได้รู้จัก ปีศาจเฒ่า ของหมู่เกาะประหาร อย่าง มู่หรง หมิงเทียนแล้ว””มู่หรง หมิงเทียน เอาชนะได้แม้กระทั่ง ท่านหญิงเพียวเมี้ยว และข้าก็เกรงว่าหากประมุขเรายังอยู่ก็ไม่อาจสู้เขาได้ แม้พี่ใหญ่ฉิว ซานเฟิง จะไปสู้กับเขา เขาย่อมพ่ายแพ้แน่นอน.”
 
 
 
ในตอนนั้น เซว่ ซือเยว่ ก็พูดขึ้น ดวงตาของนางนั้นแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่านางโศกเศร้าอย่างมาก “แก้แค้นให้ท่านผู้พิทักษ์ แก้แค้นให้ท่านผู้พิทักษ์””เลือดต้องล้างด้วยเลือด เลือดต้องล้างด้วยเลือด”
 
 
 
เสียงคนคนหนึ่งพูดขึ้น ตามด้วยเสียงผู้คนกำหมัดและตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงของพวกเขาดังราวกับฟ้าผ่า ทุกๆคำดังและชัดเจนมาก เห็นได้ชัดว่า สถานะของฉิว ซานเฟิง ในใจของพวกเรานั้นอยู่สูงแค่ไหน มันอาจจะมากกว่า ผู้พิทักษ์ที่เหลือรวมกันเสียอีก 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : ไอบ้านี้แม่ง ไม่ตบสั่งสอนสักทีคงไม่หราบ 
 
 
 
B : ใจเย็นๆ พี่เฟิงก็บอกอยู่ ว่าจะรอดูปาหี่!!! 
 
 
 
C : ปาหี่ นี้เหมือนกับ ปาท่องโก๋ ป่ะ ?! 
 
 
 
B : . . . . . . . . . . 
 
 
 
A : กลับไปเล่นกะไอ B4 ไป!!! มุขฟายๆ เด๋วกูให้แม่งกราบรถกูซะหนิ!!!