บทที่ 946 – ความต้องการของผู้คน
 
 
 
“อะไรนะ ฆ่าชูเฟิง อย่างนั้นหรือ ทำไมเราต้องฆ่าชูเฟิงด้วย เขาไม่ใช่พรรคพวกของเราอย่างนั้นหรือ””ชูเฟิง นั้นเข้าร่วมกับพวกเราเพียงเพราะดาบผนึกมารจริงๆหรือ มันจะเป็นไปได้อย่างไร””ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ แต่ความจริงก็คือ เขานั้นตั้งตัวเป็นศัตรูกับหมู่เกาะประหารเพื่อช่วยพี่น้องของพรรคเรา เราจะโจมตีและฆ่าเขาได้อย่างไร”
 
 
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากคำสั่งให้ฆ่าชูเฟิง ของ โหยว หมิงเติงดังขึ้น ก็ไม่มีใครขยับตาม พวกเขานั้นยืนพูดคุยกันเรื่องชูเฟิง “ท่าน โหยว หมิงเติง ท่านไม่ได้พูดหรอกหรือว่า คนที่สามารถดึงดาบผนึกมารได้ จะกลายเป็นประมุขพรรค และพวกเราต้องฟังคำสั่งของเขาคนนั้น”
 
 
 
ผู้เฒ่า หลิว พูดขึ้นอีกครั้ง “สามหาว เจ้ายังจะปกป้องเจ้าชูเฟิงอยู่อีกอย่างนั้นหรือ หรือว่าเจ้าสมคบคิดกับมัน”
 
 
 
โหยว หมิงเติงตะโกนด้วยความโกรธ “ท่านโหยว หมิงเติง ข้าคิดว่าเขานั้นพูดถูกต้องแล้ว เพราะคำพูดของท่านประมุขที่ทิ้งไว้ และเราก็เห็นเขาดึงดาบขึ้นมาแล้ว ดังนั้นข้าเชื่อว่า เราควรทำตามคำสั่งเสีย ของประมุขพรรคองค์ก่อน”
 
 
 
ราชันย์ปฐพี พูดขึ้น “ท่าน ผู้พิทักษ์ หากไม่นับประมุขพรรค คำสั่งของท่านอาจจะเป็นคำสั่งสูงสุด แต่ตอนนี้ นั้นมันเป็นคำสั่งสุดท้ายของท่านประมุขพรรค ฉะนั้นท่านควรจะฟังมันและไม่ควรโน้มน้าวคนอื่นเช่นนี้!””ถูกต้อง นอกจากนี้ ชูเฟิงนั้นไม่ใช่คนทิ่เราไม่รู้จัก เพราะในที่ราบพายุโหมกระหน่ำนั้น ชูเฟิงได้เสี่ยงชีวิตเข้าปะทะกับหมู่เกาะประหาร แล้วช่วยพวกเรา ไม่เพียงพวกเราเท่านั้น รวมไปถึง ซวน เสี่ยวจาว โหยว ตงหาน และ ฟู่ เฟิงหมิงด้วย””ท่านโหยว หมิงเติง ท่านไม่เห็นอย่างนั้นหรือว่าใครกันที่พยายามสุดความสามารถเพื่อพวกเรา และ ใครกันที่สามารถยอมโยนชีวิตของตนเข้ามาเสี่ยงอันตราย เพื่อพรรคมารทะลายราตรีของพวกเรา”
 
 
 
ราชันย์วารี และ ราชันย์อัคคีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง คำพูดนั้นราวกับเป็นการตบหน้า โหยว หมิงเติงจังจัง “ทุกๆคน ข้ามั่นใจว่าพวกเราเคยได้ยินเรื่องที่ชูเฟิงทำให้กับพรรคมารทะลายราตรีแล้ว ข้ามั่นใจว่า ชูเฟิงนั้นที่สามารถดึงดาบผนึกมารขึ้นมาได้นั้น ย่อมมีคุณสมบัติพอที่จะนำพรรคมารทะลายราตรีของพวกเรา บอกข้าทีว่าเขามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นประมุขพรรคของพวกเรา ใช่หรือไม่”
 
 
 
ในตอนนั้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้นมาจากฝูงชน “ใช่—” เสียงตอบของคนนับล้านดังไปทั่ว เสียงนั้นราวกับบฟ้าผ่าลงมา และ แข็งแกร่งมาก พวกเขานั้นต้องการใช้ชูเฟิงกลายเป็นประมุขพรรค “พวกเจ้าช่างโง่เขลายิ่งนัก พวกเราไม่รู้ว่าเด็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายตีนนี่มาจากไหน แล้วยังให้มันเป็นประมุขพรรคอีกหรือ”
 
 
 
ท่าทางของ โหยว หมิงเติงในตอนนี้นั้นเห็นได้ชัดว่า โกรธจัดมาก ใจของเขานั้นแทบจะระเบิดจากความโกรธเกรี้ยว เขานั้นไม่สามารถทนต่ออีกได้แล้ว เขาพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และรีดกลิ่นอายออกมาจากร่างของเขาไม่สิ้นสุด และพุ่งเข้าโจมตีชูเฟิงอีกครั้ง 
 
 
 
*ฟิ่วววววว—* 
 
 
 
แต่อย่างไรก็ตาม หมอกที่ล้อมรอบชูเฟิงนั้น ก็พุ่งเข้าโจมตี โหยว หมิงเติง พร้อมกับเสียงที่แสบแก้วหู “ใครกันที่กล้ามาหยุดข้า!”
 
 
 
แต่โหยว หมิงเติงก็ไม่ได้เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม การโจมตีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายระดับ 4 ราชันย์สงครามที่แม้แต่อากาศยังเกิดเสียงแตกหักนั้น ถูกหมอกสีดำหยุดยั้งไว้ได้ 
 
 
 
*ฟิ่ว ฟิ่ว—* แต่อย่างไรก็ตามในตอนนั้น หมอกนั้นเริ่มกระจายตัว พุ่งเข้าใส่ โหยว หมิงเติง แล้วโจมตีเขา ราวกับกองทัพนับล้าน ซึ่งยากที่จะต่อกรได้ “ดูนั่น แม้กระทั่ง ดาบผนึกมารก็ปกป้องชูเฟิง เห็นได้ชัดว่ามันต้องการให้ชูเฟิงเป็นเจ้านายของมัน”
 
 
 
ผู้เฒ่าหลิวพูดขึ้น “นี่มันน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก อาจพูดได้ว่าดาบผนึกมารที่มีความโอหังระดับสุดยอด ที่แม้แต่ท่านประมุขก็ไม่สามารถใช้มันได้เต็มที่ แต่ตอนนี้ มันกลับปกป้องชูเฟิงด้วยตัว มัน ถ้าเป็นอย่างที่ผู้เฒ่าหลิว พูดนี่หมายความว่ามันนั้นต้องการให้ชูเฟิงเป็นนายของมันจริงๆ”
 
 
 
ผู้คนที่เข้าใจที่ผู้เฒ่าหลิว พูดนั้น ก็พูดขึ้นมา “นี่หรือว่า เป็นความต้องการของสวรรค์หรือ”
 
 
 
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้กระทั่ง เซว่ ซีเยว่ ก็ขมวดคิ้วด้วยความตกใจ “ท่านอาจารย์ รีบช่วยชูเฟิงเถิด ข้าเข้าใจว่า น้องชายชูเฟิงไม่ใช่คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ ความจริงแล้ว เขาเป็นดั่งที่ ราชันย์วารีและราชันย์อัคคีพูด หากไม่ได้ชูเฟิง พวกเราคงตายไปในที่ราบพายุโหมกระหน่ำแล้ว,”
 
 
 
ซวน เสี่ยวจาว พูดขึ้น “นี่…”
 
 
 
เซว่ ซีเยว่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ต้องมองในมุมมองของ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์ นางก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ชูเฟิงนั้นเป็นอัจริยะ นางรู้ แต่อย่างไรก็ตามนางก็คิดเหมือนกับ โหยว หมิงเติง ที่สงสัยภูมิหลังของเขา “โหยว หมิงเติง หยุดการกระทำซะ แม้แต่ดาบผนึกมารก็ต้องการให้ชูเฟิง เป็นประมุขทำไมถึงต้องสร้างปัญหาอีก””ทำตามคำสั่งของท่านประมุขรุ่นก่อนแล้วให้ชูเฟิงขึ้นเป็นประมุขซะ”
 
 
 
ฟู่ เหลียนเฉิงพูดขึ้นทันที นอกจากนี้ คำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่ามาจากใจจริงของเขา “ฟู่ เหลียนเฉิง เจ้าเพี้ยนไปแล้วหรือ เราไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี้มาจากไหน เราไม่รู้ว่ามันมีแผนอะไร ถ้ามันเป็นคนคนหนึ่งที่เกลียดพรรคมารทะลายราตรี แล้วนำพาเราสู่ความล่มสลาย ใครจะรับผิดชอบ”
 
 
 
โหยว หมิงเติงไม่หยุด เขาเมินถูกอย่าง และพุ่งโตมตีชูเฟิงอีกครั้ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังว่า”
 
 
 
ชูเฟิง ถ้าเจ้าไม่ได้พลังของดาบผนึกมาร อย่าคิดว่าเจ้าจะรอดไปได้ ถ้าข้าต้องการจะฆ่าเจ้า ใครจะกล้ามาหยุดข้า!”
 
 
 
*ตูม* ในตอนนั้น โหยว หมิงเติง คำรามลั่น และเหวี่ยงหมัดออกไป 
 
 
 
ในตอนนั้น หมัดที่ปล่อยเอามารุนแรงมาก พายุที่ล้อมรอบการโจมตีนั้นเปลี่ยนไปกลายเป็นหมัดที่มาพร้อมกับพายุขนาดยักษ์ 
 
 
 
ชั้นพลังของมันซ้อนทับหลายชั้น มันพุ่งผ่านทุกสิ่งทุกอย่างเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่การโจมตีธรรมดา มันเป็นทักษะระดับ 7 ที่รวมกับพลังระดับ 4 ราชันย์สงครามเข้าไปด้วย พลังของมันนั้นน่าเกรงขามมาก 
 
 
 
*ปัง ปัง ปัง* หมอกสีดำ ที่คุ้มครองชูเฟิงนั้นถูกผลักกลับไป มันไม่สามารถหยุดทักษะระดับ 7 ของ โหยว หมิงเติงได้ 
 
 
 
อย่างที่เขาพูด หากชูเฟิงนั้นไม่มีพลังของดาบผนึกมาร เขาก็อ่อนแอ เขานั้นไม่สามารถใช้พลังของดาบผนึกมาได้เต็มที่ จึงไม่สามารถรับการโจมตีระดับ 4 ราชันย์สงครามได้ 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////