ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 985 – ตามลำพัง
ท้องฟ้าที่สดใส เริ่มกลับคืนสู่ความมืด
แต่มันก็ไม่ได้มืดสนิท เนื่องจาก ในท้องฟ้ายังคงมีแสงสีม่วงส่องสว่างลอยอยู่ อย่างสวยสดงดงาม
แสงของมันทอดยาวออกไปทั่วท้องฟ้าและสามารถมองเห็นพื้นที่ได้ส่วนหนึ่ง สิ่งที่สำคัญ แม้ว่ามันจะมีลักษณะเป็น ระฆังขนาดใหญ่ส่องแสงอ่อนๆออกมา แต่มันกับทำให้รู้สึกถึงพลังทำลายที่สูงส่ง จนทำให้รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวและยำเกรง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการปรากฏของมันจะน่าเกรงกลัว แต่ไม่มีใครสักคนที่รู้สึกกลัวมัน กลับกันใบหน้าของทุกคนยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าพลังนี้มาจากไหน
* ฟู่วววว *
ในที่สุดมันก็เริ่มหดตัวลง และแสงสีม่วงเรืองรองก็กลับเข้าสู่ปราสาทลอยฟ้า เมื่อมันหายวับไป ความมืดที่ปกคลุมท้องฟ้าก็จางหายไป พลันปรากฏแสงสว่างสีฟ้า ขาวทอดยาวออกไปหลายลี้
ไม่หลังจากที่แสงสีม่วงเรือนหายไป ประตูประสาทก็ค่อยๆเปิดออก จากนั้น ก็มีร่างของสาวงามเดินออกมา
หญิงสาวผู้นันสวมชุดม่วง เข้ากันได้ดีกับสัดส่วนที่โค้งเว้าและหน้าตาอันงดงามของนาง นางเสมือนกับเทพธิดาที่ลงมายังผืนพิภพ ความงามของนางทำให้หลายคนต้องหยุดหายใจไปชั่วขณะ
แน่นอนว่าหญิงสาวบริสุทธิ์และครอบครองกายศักดิ์สิทธิ์ ผู้นี้คือ จื่อหลิง นอกจากนี้พลังวิญญาณของนางยังพุ่งสูงขึ้นมาก จนนางก้าวเข้าสู่อาณาจักร จ้าวแห่งสงคราม แม้ว่าจะเป็นระดับ 1 แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางคือยอดฝีมือ “ฮ่าฮ่า จื่อหลิง ทำสำเร็จไม๊ ?!”
ซูรู่, ซูเหม่ย และคนอื่นๆ ต่างพารัวคำถามหลังจากที่เห็นจื่อหลิงปรากฏ พวกเขาถามด้วยความตื่นเต้น โดยรอคอยการยืนยันจากนาง “อื้ม . . .”
จื่อหลิงยิ้ม ให้กับผู้ที่ต้องการฟังคำตอบพร้อมกับพยักหน้า
ได้ยินแบบนัน ทุกคนก็พากันตื่นเต้นและยินดีกันอย่างมาก
พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของผู้ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์จาก ทันไท่ เซว่ มาก่อน ตอนนี้ จื่อหลิง เองก็มีกายศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้เส้นทางการเพราะปลูกนางถูกเปิด อีกไม่นาน นางอาจจะไล่ตาม ทันไท่ เซว่ ได้ทัน “ชูเฟิง ?!”
แต่เมื่อ จื่อหลิง กวาดสายตาไปมองผู้คนที่พากันแสดงความยินดีรอบๆ สีหน้าของนางก็พลันเปลี่ยนเป็นยินดี
เพราะว่านางเห็น ชูเฟิง กำลังก้าวขึ้นมาจากยอดเขาสายหมอก
จื่อหลิงรีบกระโจนออกไปด้านหน้า พร้อมกับทะยานไปหา ชูเฟิง “ชูเฟิง ?!”
หลังจากที่เห็นท่าทางของจื่อหลิง ฝูงชนก็พากันหันไปมอง เมื่อเขาเห็น ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน และ ชูเยว่ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง เพราะตอนนั้นเขาพบว่า ชูเฟิง ก็เดินมากับพวกนาง พวกเขาตื่นเต้นยินดียิ่งกว่าเดิม ทุกคนในตอนนั้นต่างรีบวิ่งเข้ามาห้อมล้อม ชูเฟิง “ชูเฟิง ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว เจ้าเป็นยังไงบ้าง ยังรู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า ?!”
จื่อหลิง มองขึ้น – ลง เพื่อสำรวจร่างกายของ ชูเฟิง เพราะนางเกรงว่าชูเฟิง จะมีภาวะแทรกซ้อน “ไม่ต้องห่วง ข้าหายดีแล้ว”
ชูเฟิง ยิ้มเบาๆพร้อมกับนำมือลูบผมที่นุ่มนวลของจื่อหลิง และกล่าวต่อ”
จื่อหลิง ข้ายินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดเจ้าก็พ้นจากพันธนาการ เม็ดยาจับสวรรค์ บ้าๆนั้นเสียที””ข้าดีใจที่เจ้าฟื้นขึ้นมามากกว่า”
ดวงตาของ จื่อหลิง เป็นประกาย นางรีบโผลไปด้านหน้าตรงเข้าสู่อ้อมกอดของ ชูเฟิง
เขาไม่ได้ปฏิเสธ และอายผู้คนหลายคนที่ยืนดูอยู่รอบๆ ชูเฟิงเปิดอ้อมแขนออก พร้อมกับโอบกอดเอวสาวงามดึงเข้ามา
ไม่มีใครสามารถเก็บซ้อนความรู้สึกเขินอายเอาไว้ได้ เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้น แต่บนใบหน้าของพวกเขากับเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด เพราะภาพตรงหน้าหาดูได้ยากมาก
ขณะที่ จื่อหลิง กล่าวว่า หากเทียบกับการหายดีของนาง แต่สำหรับนาง การที่ชูเฟิงฟื้น คือสิ่งที่ทำให้นางยินดีมากกว่า ไม่ใช่แค่สำหรับ จื่อหลิง แต่เป็นทุกๆคน
เมื่อมีเรื่องที่น่ายินดีถึง สองเรื่อง จึงย่อมจะต้องมีการจัดงานเลี้ยงฉลอง ในวันนั้น ทุกคนต่างก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาและยกจอกสุราไว้ภายในมือ สังสรรค์กันอย่างมีความสุข
มันเป็นงานเลี้ยงสำหรับ ชูเฟิง และ จื่อหลิง อย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางคนที่แสนจะคุ้นหน้าคุ้นตา เขาก็พบกับคนที่ไม่สมควรที่จะอยู่ นั้นคือ นิรันดร์ที่ 1
อดีตผู้นำของ 9 นิรันดร์แห่งหมู่เกาะประหาร ที่ช่วยให้ ชูเฟิง รอดพ้นจากความตาย จึงเป็นข้อยกเว้นได้รับอนุญาติให้อยู่ในหุบเขาสายหมอก
วันแห่งความยินดี แต่ ชูเฟิง กับพบว่า ท่ามกลางความครื้นเครง เขากับมีสีหน้าที่ไม่มีความสุข ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความกังวลและหมดหวัง “พี่สาว ฟู่หยาน ทำไมข้าไม่หย่า เฟย ?!”
ชูเฟิง ถาม ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ท่ามกลางความสับสน “นี่ . . . . . . .””ชูเฟิง บอกเจ้าตามตรง ร่างกายของ หย่า เฟย ถูกทำลาย และยากมากในการที่จะสร้างมันขึ้นใหม่ จริงๆ ท่านแม่พูดโกหกกับนิรันดร์ที่ 1 “ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน กล่าว “โกหกนิรันดร์ที่ 1 นั้นก็หมายความว่า หย่า เฟยยังไม่ฟื้นกลับมาสินะ”
ชูเฟิงรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ “ท่านก็ไม่ได้โกหกซะทั้งหมด แม้หย่า เฟยจะยังไม่ฟื้นกลับมา แต่นางก็ยังไม่ตายซะทีเดียว แม้ว่าเราจะไม่สามารถสร้างร่างกายให้นางได้ แต่ดวงจิตนางก็จะไม่หายไป ตราบใดทีดวงจิตนางยังอยู่ในหุบเขาสายหมอก”
ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน กล่าว
“ก็จริง”
ชูเฟิง ดูเหมือนจะเข้าใจว่าทำไมนิรันดร์ที่ 1 จึงดูหมดอะไรตายอยาก โดยปกติเขาคงไม่มีทางที่จะมาอยู่ในหุบเขาสายหมอก แต่เขาทำไปเพราะหลานสาวของเขา
ชูเฟิง รู้สึกผิดเล็กน้อยต่อพวกเขา แม้ว่าข้อตกลงของเขากับนิรันดร์ที่ 1 จะไร้ข้อผูกมัด แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คงเป็นไปไม่ได้ที่ชูเฟิงจะได้ฝึกทักษะลับนิรันดร์ผันแปร ยิ่งไปกว่านั้นคงเปนไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะ เจียง ฉีซา และ มู่หรง หมิงเทียน
ตอนนี้ พวกเขาได้รับชัยชนะ พวกศัตรูก็ได้รับความพ่ายแพ้และหมดสิ้นจากทะเลตะวันออก ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า นิรันดร์ที่ 1 มีส่วนช่วย
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเก็บคำสัญญาเดิมของเขาที่ให้ไว้ ดังนั้น ชูเฟิง จึงรู้สึกโทษตัวเอง โดยเฉพาะ ตอนที่เขานึกถึงเรื่องที่นิรันดร์ที่ 1 ยอมหักหลังหมู่เกาะประหารเพื่อหลานสาว แต่เขาก็ไม่สามารถพานางกลับมาได้ ดังนั้น ชูเฟิง จึงรู้สึกผิดขึ้นไปอีก
ตอนนั้น ชูเฟิงตัดสินใจแน่แล้วว่า หากเขาสำเร็จในเส้นทางการเพาะปลูกในอนาคต เขาจะต้องกลับมายังทะเลตะวันออก และช่วยสร้างร่างกายใหม่ ให้กับ หย่า เฟย เพื่อตอบแทนนิรันดร์ที่ 1″อาวุโสนิรันดร์ ข้าต้องขอโทษสำหรับเรื่องของ หย่า เฟย”หลังจากได้ฟังรายละเอียด ชูเฟิง ก็กล่าวกับนิรันดร์ที่ 1 ด้วยความสำนึกผิด”มันไม่ใช่เพราะเจ้า และข้าจะไม่ได้โทษท่านหญิง เพียวเมี้ยว หากไม่ได้นาง หลานข้าคงไม่มีชีวิตรอดกลับมา แม้ว่านางจะเป็นเพียงดวงจิต อย่างน้อยนางก็ยังมาคุยเล่นกับข้าได้”
นิรันดร์ที่ 1 สายหน้า “อาวุโส อย่าได้กังวล โลกใบนี้แสนกว้างใหญ่ และเทคนิคลึกลับมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อข้าเข้าไปในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ข้าสัญญาว่าข้าจะต้องหาทางคืนชีพให้หย่า เฟย”
ชูเฟิงให้สัญญาด้วยความหนักแน่น
ทันใดนั้นใบหน้าของนิรันดร์ที่ 1 ก็ชะงัก พร้อมกับแสดงออกถึงความตื้นตันภายในดวงตาของเขา เขาไม่ได้กล่าวใดๆออกมา ได้แต่ผงักหัว หลังจากผ่านไปสักครู่เขาก็พูดว่า”
แล้วข้าจะรอจนกว่าวันที่เจ้าจะกลับมา”
นิรันดร์ที่ 1 แอบดีใจอย่างเงียบๆ เขารู้ดีว่า ความสามารถและศักยภาพของ ชูเฟิง มีมากแค่ไหน เมือ่ได้ยินคำพูดของเขา เขาก็รู้สึกว่า ชูเฟิง นั้นมันคนที่ยึดมั่นในคำพูด เขาตั้งความหวังไว้กับชูเฟิง หวังว่าสักวันเขาจะกลับมาชุบชีวิตให้กับหลานสาวของเขา
“ชูเฟิง”
สักแปป จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายเรียกดังขึ้น
เขาถึงกับต้องตะลึง เมื่อเขาหันไปมองยังทิศทางของเสียง ตอนนั้นเขาพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่กับผู้หญิงที่เขาแสนคุ้นเคย หญิงงามคนนั้นก็คือ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ส่วนเจ้าของเสียงนั้นก็คือผู้ที่ทรงพลังแห่งวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ “ชูเฟิง ข้าต้องการคุยกับเจ้าเพียงลำพัง เจ้าพอมีเวลาไม๊ ?”ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : เอาละเว้ยจะได้รู้เรื่อง ชีวะประวัติครอบครัวพี่เฟิงแล้วเว้ย!!!