ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 851 – เกลือชะโลมบาดแผล
ในตอนนั้น ชูเฟิง ก็ได้ค้นพบความลับของรูปแบบน้ำแข็งสังหาร เขาจะมาเสียเวลาที่นี่มากไม่ได้ ดังนั้นเขามีเพียงทางเลือกเดียวคือพุ่งตรงไปยังประตูวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ หากเขาเจอทางตันคงจะแย่ไม่น้อย “อ๊าาาา . . .”
อย่างไรก็ตาม เมื่อชูเฟิงหันกลับมา เขาก็พบว่าเป็น ประมุขนิกายดาบศิลา ที่ร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน ขณะที่อ้าปากสำลักเลือดเสียสีดำออกมา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็สูญเสียความสามารถในการทรงตัว ทรุดลงกับพื้น ขณะที่ดิ้นทุรนทุรายกรีดร้อง “อ๊า . . .”
ในทีแรก ประมุขนิกายดาบศิลาวางแผนที่จะฆ่าตัวตาย เมื่อผลกระทบจากยาต้องห้ามเริ่มทำงาน เขารู้ว่าฤทธิ์จากความเจ็บปวดหลังจากกินยาต้องห้ามเข้าไปมากมายมันน่ากลัวแค่ไหน แทนที่เขาจะต้องเผชิญความเจ็บปวดทรมาน ทำไมเขาถึงไม่จัดการตัวเองให้เสร็จๆ
แต่ผลลัพจากมันนั้นไม่มีโอกาสให้เขาได้ทำ เพราะเมื่อความเจ็บปวดถาโถมเข้ามา พลังมหาศาลที่เขาได้รับจากยาต้องห้ามก็พลันหายไป
และช่วงเวลานั้น เขาก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ เขาทำได้แค่เผชิญผลลัพธ์ที่แสนทุกข์ทรมานขณะที่ค่อยๆกัดกินร่างกายของเขา
ตอนนี้ เขาทำอะไรแม้แต่จะขยับตัว ขณะที่ผลลัพธ์จากยาต้องห้าม เขมือบหัวใจของเขา จนเขาต้องร้องโหยหวนออกมาดั่งหมาป่าหรือวิญญาณร้ายกรีดร้อง “อาเร๊ะ เหมือนมันจะเริ่มขึ้นแล้วสินะ ดูเขาสิ ช่างน่า . . .น่าสงสารยิ่งนัก”
เมื่อเขาเห็นประมุขนิกายดาบศิลาล่วงกระแทกพื้นดิ้นทุรนทุราย ชูเฟิงก็เลิกหนี พร้อมกับหันหลังกลับ เดินมานั่งบนโขดน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นจากพื้น โดยที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ ประมุขนิกายดาบศิลา
ถึงแม้ว่าจะแค่แว๊ปเดียว แต่เขารู้สึกสะใจจริงๆ ประมุขนิกายดาบศิลากินยาต้องห้ามที่ร้ายกาจเข้าไปถึง 16 เม็ด ตอนนี้ความเจ็บปวดทรมานที่เขาได้รับ แม้แต่ ชูเฟิง เองก็ยังไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน
ผิวหนังของเขาขณะนั้นเป็นสีแดงก่ำราวกับเลือด กระดูกทั่วร่างของเขาพุกร่อนแตกหักจนได้ยินเสียง แม้แต่อวัยวะภายในทั้งหมดยังถูกทำลายอย่างแสนสาหัส สภาพเขาในตอนนี้ เหมือนกับหมูที่กำลังถูกย่าง ซึ่งเป็นฉากที่ใครหลายคนไม่อาจจะทนดูได้
เพื่อที่จะให้ต้านต้านได้เห็นสภาพของประมุขนิกายดาบศิลา ด้วยตาของนาง ชูเฟิง จึงเปิดประตูโลกวิญญาณให้นางให้ออกมา “ฮ่าๆ สมน้ำหน้า!!! ไอสารเลวนี้มันสมควรได้รับแล้ว ใครใช้ให้มันกินยาต้องห้ามเข้าไปมากมายแบบนั้น”
ความคับแค้นใจที่ต้านต้านได้รับก่อนหน้านี้ ล้วนแต่พัดหายไปเมื่อนางได้เห็นแบบนั้น นางกระโดดโลดเต้นขณะที่ตบมือส่งเสียงสาปแช่ง เพราะนางรู้สึกว่าประมุขนิกายดาบศิลาสมควรได้รับ และต่อมานางก็ค่อยๆก้าวเข้าไปหาประมุขนิกายดาบศิลา “ชะ. .ชะ. . ช่วยข้าด้วย . . . .””ขะ . . . ขะ . . . . ข้าขอร้อง ให้ข้าตาย ให้ข้าตายเถิด”
ประมุขนิกายดาบศิลาไม่อาจทนแบกรับความเจ็บปวดนั้นได้ จนน้ำตาไหลอาบบนใบหน้าของเขา เมื่อเขาได้เห็นต้านต้าน เขาก็ทำหน้ายังกับว่าได้พบกับพระเจ้าผู้มาโปรด ขณะนั้นเขาพยายามขอร้องต้านต้านให้ฆ่าเขา
แน่นอน ว่าปกติแล้วราชีนีจะต้องใจดีมีเมตตาและใจกว้างดั่งมหาสมุทร โดยไม่อาจทนเห็นผู้คนเจ็บปวดทรมานและตายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อนึกแล้ว มุมปากของต้านต้านก็โค้งขึ้น บนใบหน้าอันงดงามของนาง ขณะที่พูดว่า”
ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย เด๋วข้าจะช่วยยึดชีวิตให้เจ้า “
ขณะที่ต้านต้านพูด นางก็ยกร่างของประมุขนิกายดาบศิลาลอยขึ้นไปในอากาศ ขณะที่ปล่อยเปลวเพลิงสีดำออกมารอบๆสอดเข้าไปใต้ท้ายทอยและแขนเสื้อของประมุขนิกายดาบศิลา สภาพเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากหมูย่างที่ถูกเสียบ
ในเวลาเดียวกัน ต้านต้านก็ยกมือขวาที่เรียวยาวขึ้นมาพร้อมกับใช้เปลวเพลิงสีดำสร้างมีดเล่มเล็กๆ
มันเป็นมีดที่คมและมีรูปร่างแปลกอย่างมาก บนส่วนคมมันเป็นทรงตะขอเล็กๆปรากฏอยู่นับไม่ถ้วน
* ซึบบ * ทันใดนั้นต้านต้านก็ใช้มีดแทงลึกเข้าไปในร่างกายของประมุขนิกายดาบศิลา “อ๊า . . .”
หลังจากนั้น ต้านต้านก็กระชากมันออกอย่างรวดเร็ว นางไม่เพียงแต่จะนำเลือดสีดำเสีย ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมา แม้แต่กล้ามเนื้อตายก็ยังติดตะขอออกมา จนทำให้ประมุขนิกายดาบศิลาส่งเสียงกรีดร้องออกมาราวกับว่าหัวใจของเขากำลังถูกฉีกออก
แล้วต้านต้านที่ช่วยเขา ก็โยนประมุขนิกายดาบศิลาไปในแอ่งน้ำเกลือที่นางสร้างโดยการละลายพื้นน้ำแข็งเพื่อใช้มันชะโลมบาดแผล “นังชั่ว!!! นางสารเลว นางปีศาจ!!!”
แม้ต้านต้านจะช่วยให้ประมุขนิกายดาบศิลารอดพ้นจากความทุกข์ทรมาน แต่ในทางตรงกันข้ามเป็นต้านต้านเองที่ทรมานเขาอย่างไร้ความปราณี อย่างไรก็ตาม เมื่อต้านต้านพูดคำต่อไปนี้ ทำให้เขาเกือบจะร้องไห้ออกมา “ถูกต้อง!!! ข้ามันชั่ว ข้าเป็นปีศาจ!!!”
ต้านต้านกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนน่าสะพรึง ขณะที่ใช้สายตาจ้องมองเขาอย่างโหดร้าย “ชูเฟิง เจ้าพอมียายึดชีวิตของคนที่กำลังจะตายหรือเปล่า ?!”ต้านต้านถาม ชูเฟิง พร้อมกับรอยยิ้ม “โอ้วว น่าสนใจ บังเอิญข้ามีมันพอดี เจ้าต้องการงั้นหรอ ?”
ชูเฟิงยิ้มออกมาบนใบหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าต้านต้านกำลังคิดจะทำอะไร แต่เขาก็ยังถามด้วยสีหน้าที่สับสน “ก็ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่อยากให้ไอแก่นี้อยู่ต่อไป เขาจะได้เพลิดเพลินกับความเจ็บปวดทรมานก่อนที่จะตาย อย่างน้อยๆคนต่ำช้าเช่นนี้ก็ไม่สมควรได้ตายสบาย”
ต้านต้านพูดพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ย “ฮ่าๆๆ ดี เป็นความดีที่ยอดมาก เอานี่!!!”
ชูเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะ และขณะที่เขาพูดเขาก็โยนยาหลายเม็ดไปให้ต้านต้าน
เมื่อประมุขพรรคดาบศิลาเห็นแบบนั้น ใบหน้าของเขาที่แดงก่ำที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดก็พลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ เขาเคยเห็นคนวิปริตมาก็ไม่น้อย แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครเลวทรามและโรคจิตเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงพยายามปิดปากสนิทเพราะเกรงว่าต้านต้านจะจับยาพวกนั้นกรอกเข้าไปในปากของเขา
* ซึบบบ *
แต่ต้านต้านไม่ได้กังวลกับการกระทำของเขา นำซ้ำยังมีดที่อยู่ในมือเสียบเข้าไปใต้ขากรรไกลล่างของเขาพร้อมกับง้างมันออก ขณะที่นำยาโยนเข้าไปในปาก หลังจากนั้นนางก็ใช้พลังของนางช่วยดันยาเหล่านั้นเข้าไปในท้องของเขา พร้อมกับกระตุ้นพวกมัน “อ๊าาา . . . อุ๊บบ . . . อ๊าาา”
ตอนนั้น ประมุขนิกายดาบศิลาที่ขากรรไกรถูกง้าง ไม่สามารถพูดได้ เขาทำได้เพียงร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนอง
ในตอนนั้น เขาเสียใจ เสียใจที่ไปทำให้ ชูเฟิง และ ต้านต้าน โกรธ ถ้าเขารู้ว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เขาคงไม่กล้าจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการต่อสู้เพื่อกำจัดชูเฟิง เขาน่าจะใช้ยาต้องห้ามเพียงเม็ดเดียว ในการหลบหนีเอาตัวรอด
แต่เขาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เนื่องจากในโลกนี้ไม่มียามารักษาความผิดหวังเสียใจ และในทำนองเดียวกันก็ไม่มีหนทางที่จะย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัดสินใจผิดพลาด ในตอนนี้เขามีทางเลือกเดียวคือยอมรับชะตากรรมจากผลการกระทำของตัวเอง “เจ้าทั้งสองช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก เจ้าควรหยุดมือเมื่อควรหยุด วันนี้พวกเจ้าต้องมาเจอข้า นับว่าถึงคราวซวยแล้ว”
ณ ตอนนั้น ก็มีเสียงที่ทรงพลังดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ จนรูปแบบน้ำแข็งสังหารพลันเกิดรอยแตกขนาดเล็กปรากฏนับไม่ถ้วน
ในเวลาเดียวกัน ก็มีแรงดันกวาดผ่านเข้ามาห่อหุ้มทุกอย่างรอบๆ ซึ่งเขาสัมผัสได้ว่ามันคือแรงดันวิญญาณในระดับราชันย์แห่งสงคราม
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน!!!
B : ไม่หรอกๆ ฉิวซุ่ย จะมาห้าม ชูเฟิง ทำไม มันเป็นไปไม่ได้หรอก!!!
C : อาจจะเป็นคนของหมู่เกาะประหารที่มาตามล่า ฉิวซุ่ย หรือเปล่า ?!
B : ก็อาจเป็นไปได้ แต่เป้าหมายของมันเป็นอะไรนั้นก็ยังไม่รู้แน่ ต้องรอดูว่าจริงๆมันเป็นใคร ?!