I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 870 – กลับสู่หุบเขาสายหมอก

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 870 – กลับสู่หุบเขาสายหมอก

 

“ไต้เท้า ชูเฟิง โปรดเมตตา !! ไต้เท้า ชูเฟิง โปรดเมตตา !!”

 

ในเวลานั้น ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ของพระราชวังต่างคุกเข่าลงไปที่พื้น เพื่อร้องขอความเมตตาต่อ ชูเฟิง

 

ชูเฟิง ได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาอย่างชัดเจน ความแข็งแกร่งของเขานั้น แม้แต่ไต้เท้า หยาน ก็ไม่อาจเอาชนะได้ ดังนั้น จึงไม่ทีผู้ใดอีกที่สามารถเอาชนะเขาได้ “ไต้เท้า ชูเฟิง โปรดเมตตา !! พวกเรายังไม่ได้เข้าร่วมกับหมู่เกาะประหาร !! พวกเราถูกบังคับให้มาที่นี่ !! มีหรือที่พวกเราจะกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับพรรคมารทลายราตรี !! ไต้เท้า ชูเฟิง โปรดอภัยด้วย !!”

 

ในเวลานั้น ทุกคนต่างคุกเข่าลงบนพื้น นอกจากไต้ซือ พิงจิง ที่มีความสัมพันธ์กับผู้นำนิกายดาบศิลาแล้วนั้น ทุกคนต่างคุกเข่าลงบนพื้นจนหมด “โปรดเมตตา !!”

 

ทุกคนคุกเข่าลงบนพื้นจนหมด ไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโส เหล่าศิษย์ของนิกายดาบศิลา หรือเหล่าผู้อาวุโส และเหล่าศิษย์จากสถานที่อื่นๆ ก็ตาม พวกเขาต่างคุกเข่าลง และร้องขอความเมตตาของ ชูเฟิง

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง เพียงยิ้มบางๆ และกล่าวออกมาว่า”

 

ข้ารู้ว่าทุกคนถูกบังคับให้มาที่นี่ ข้าจะไม่ทำอะไรพวกเจ้า !! แต่จงจำไว้ว่า หากพวกเจ้ากล้าเป็นศัตรูกับพรรคมารทลายราตรี หรือเข้าร่วมกับหมู่เกาะประหาร ไม่ว่าจะทางใด พวกเจ้าต้องตาย !!”

 

พลันแววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม พร้อมกับพลังบางอย่างปรากฏออกมาจากฝ่ามือของเขา มันราวกับเปลวไฟเข้าห่อหุ้มดวงจิตของ ฉือ จิงเถียน และไต้เท้า หยาน และเริ่มเผาดวงจิตทั้งสองอย่างช้าๆ “อ๊าาาาาา !!””ไอ้สารเลว !! ข้าจะของสาปแช่งเจ้า !! แม่ว่าข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ให้อภัยเจ้า !!””อ๊าาาา !!”

 

เมื่อพวกเขาถูกเผาไหม้ด้วยพลังพิเศษดังกล่าวนั้น ฉือ จิงเถียน และไต้เท้า หยาน ต่างรู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่สิ้นสุด แม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียร่างกายไปแล้วก็ตาม แต่พวหเขาก็รู้สึกเจ็บปวดจากการที่ดวงจิตถูกทำร้าย

 

ต่อหน้าสายตายของทุกคนนั้น พวกเขาถูกกลั่นอย่างช้าๆ และในที่สุด พวกเขาก็ได้หายไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์

 

หลังจากกลั่นดวงจิตทั้งสองดวงแล้วนั้น ชูเฟิง ก็สะบัดมือของเขาอย่างรวดเร็ว พลันคลื่นพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกไปปกคลุมนิกายดาบศิลาทั้งหมดเอาไว้

 

ในเวลานั้น เมื่อคลื่นพลังแผ่ออกไป เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานก็ดังขึ้นมาในกลุ่มของฝูงชนด้านล่าง พร้อมกับที่มีอีกหลายคนพุ่งเข้าไปที่ ชูเฟิง แต่พวกเขากลับกลิ้งไปมาในอากาศ

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเข้าถึงตัวของ ชูเฟิง นั้น พวกเขาก็กลายเป็นละอองเลือดในอากาศ พร้อมกับเกิดเสียงระเบิดราวกับประทัด “คนเหล่านี้คือคนที่ติดตาม ฉือ จิงเถียน และฆ่าสมาชิกของพรรคมารทลายราตรี พวกเขาสมควรตาย !!””แต่พวกเจ้า……..ยังคงบริสุทธิ์ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป แต่ข้าแนะนำว่าให้พวกเจ้าทำทำตัวดีๆ !!”

 

หลังจากกล่าวจบนั้น ชูเฟิง ก็กลายเป็นลำแสงพุ่งหายลับไปทางประตูเคลื่อนย้าย “ขอบคุณไต้เท้า ชูเฟิง ที่เมตตา !! ของคุณไต้เท้า ชูเฟิง ที่เมตตา !!”

 

แม้ว่า ชูเฟิง จะจากไปแล้วนั้น พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะยืนขึ้น พวกเขายังคุกเข่าอยู่บนพื้น และตะโกนขอบคุณ ชูเฟิง ออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาหวาดกลัว ชูเฟิง อย่างมาก

 

หลังจากที่พวกเขามั่นใจแล้วว่า ชูเฟิง ได้จากไปแล้ว พวกเขาก็รีบยืนขึ้น ราวกับลูกนกตัวน้อยๆ

 

ไม่ว่านะเป็นคนของนิกายดาบศิลา หรือคนจากที่อื่นๆ ต่างแตกฮือออกไป พวกเขาต้องการหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

หลังเสร็จธุระแล้วนั้น ชูเฟิง ก็ไปยังหุบเขาสายหมอกโดยผ่านประตูเคลื่อนย้าย

 

หลังจากออกมาแล้วนั้น ต้านต้าน ได้ถาม ชูเฟิง ว่าทำไมไม่สังหารคนของนิกายดาบศิลาทั้งหมด เพื่อเป็นคำเตือน

 

ชูเฟิง กล่าวว่า ผู้นำนิกายดาบศิลา และไต้เท้า หยาน ล้วนสมควรตาย แต่อีกหลายคนนั้นยังไม่ควร

 

ในตอนนี้เขาเป็นสมาชิกของพรรคมารทลายราตรี ดังนั้น การกระทำของเขา ไม่เพียงจะมีผลกระทบต่อตัวเขาเอง แต่ยังมีผลกระทบต่อพรรคมารทลายราตรีเช่นกัน

 

ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะรวมตัวกันที่นิกายดาบศิลา แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อหมู่เกาะประหาร แม้ว่าพวกเขาสมควรถูกสังหาร แต่มันก็ยังไม่ถึงเวลา

 

แทนที่จะสังหารหมู่พวกเขา เพื่อเป็นคำเตือน ทำไมไม่ทำเส้นแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างความแค้น และความโหดเหี้ยม การทำเช่นนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคมารทลายราตรี ไม่ได้บ้าคลั่ง และไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์

 

มันย่อมทำให้หลีกเลี่ยงความแค้นจากคนจำนวนมากได้ และอาจได้รับการปกป้องจากขุมพลังอื่นๆ เล่นกัน

 

นอกจากนี้ ชูเฟิง ยังหวังว่าพวกเขาจะออกจากนิกายดาบศิลา และออกจาที่ราบเหน็บหนาว พร้อมทั้งกระจายตัวออกไปในเขตทะเลตะวันออก

 

และหวังพวกเขากระจ่ายข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้ออกไป ว่าผู้ใดที่เข้าร่วมกับหมู่เกาะประหาร หรือตั้งตัวเป็นศัตรูกับพรรคมารทลายราตรี พวกเขาจะต้องตาย

 

หลังจากที่ ชูเฟิง กลับมาถึงหุบเขาสายหมอก เขาก็พบว่า ชุน หวู ได้กลับมาแล้วเช่นกัน

 

เพราะในขณะนั้น นางได้ยืนอยู่ที่ทางเข้าหุบเขาสายหมอก

 

ไม่ได้มีเพียง ชุน หวู เท่านั้น แม้แต่ จื่อหลิง , ซูรู่ และ ซูเหม่ย ก็ยืนอยู่ที่ทางเข้าเช่นกัน พวกนางทั้งสี่คนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

 

เหตุผลที่พวกนางมายืนอยู่ที่นี่นั้น ก็เป็นเพราะพวกนางมารอรับ ชูเฟิง และเมื่อพวกนางเห็นเขานั้น พวกนางก็แสดงความสุขออกมาบนใบหน้าของพวกนาง พร้อมกี่พวกนางบินเข้ามาหาเขาเพื่อต้อนรับ “ชูเฟิง ในที่สุดเจ้าก็กลับมา !!”

 

เมื่อพวกนางเห็น ชูเฟิง นั้น พวกนางก็มีความสุขอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จื่อหลิง , ซูรู่ และ ซูเหม่ย พวกนางไม่ได้มีความสุขอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกนางยังมีความสบายใจที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ในขณะที่ ชูเฟิง ทิ้งพวกนางไว้นั้น พวกนางต่างกังวลอย่างมาก “ศิษย์น้อง ชูเฟิง การบ่มเพาะพลังของเจ้า !! จริงหรือเนี่ย……. !!”

 

ในขณะนั้น ชุน หวู ก็สังเกตเห็นการบ่มเพาะพลังของ ชูเฟิง ในก่อนหน้านี้เขาห่างจากนางสองระดับ แต่ในตอนนี้ เขากลับมีพลังเท่ากับนาง “ว๊าวววว !! ชูเฟิง เจ้าทำสำเร็จอีกแล้ว !!”

 

หลังจากได้ยินคำกล่าวของ ชุน หวู นั้น จื่อหลิง และอื่นๆ ต่างก็สังเกตเห็นการบ่มเพาะพลังที่เพิ่มขึ้นของเขา ในตอนนี้เขามีพลังขั้นจ้าวสงครามระดับห้า “ฮี่ๆ !! แน่นอน ข้าได้รับบางอย่างในวิหารเพลิงผลาญสวรรค์ !!”ชูเฟิง กล่าวพลางยิ้มบาง “ฮ่าๆ นี่เป็นข่าวดี !! แต่ผู้อาวุโส จาง กับน้อง หวู่ชาง ที่รอเจ้ากลับมาจะต้องเศร้าแน่นอน !!”

 

ซูเหม่ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหม่ยน้อย เจ้าหมายความว่ายังไง !?”

 

ชูเฟิง กล่าวถามด้วยความสับสน “ฮี่ๆ ชูเฟิง พวกเขาทั้งสองคนได้ออกไปฝึกฝน เพื่อที่จะรีบตามเจ้าให้ทัน และตอนนี้ พวกเขาก็ทำได้สำเร็จแล้ว พวกเขาเข้าสู่ระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ !!””แต่ตอนนี้ พวกเขาคงจะผิดหวังเสียแล้ว เพราะเจ้าไม่ได้หยุดการบ่มเพาะพลังของเจ้าเลย และกลับมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่รวดเร็วมากกว่าพวกเขา !!”

 

ซูเหม่ย กล่าวพลางหัวเราะคิกคัก “เอิ่ม….นี่……”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิง ก็พลันหม่นหมองไปในทันที

 

ReaDMGA //////////////////////////

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments