ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 826 – มีคนรอเจ้าอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็เกิดหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ เพราะเขาไม่อาจละเลยความปลอดภัยของ ซูรู่ และคนอื่นๆ ไปได้ จากนั้น ด้วยความรวดเร็ว ชูเฟิง เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของเขา และเข้าไปยังอาณาเขตของสำนักสี่คาบสมุทร
แต่เมื่อเขาเข้ามานั้น เขายิ่งพบกับความผิดปกติ เพราะเขาไม่พบกับประกาศจับตัวเขาแม้แต่ใบเดียว อีกทั้งเขายังไม่พบกับสมาขิกของสำนักสี่คาบสมุทรแม้แต่คนเดียว
เมื่อเขามาที่ทางเข้านั้น เขาก็พบว่ามันถูกปิดผนึกเอาไว้ ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปได้ และเหล่าศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทรก็ไม่ได้รับอนุญาตออกมาเช่นกัน “เกิดอะไรขึ้น หมู่เกาะประหารไม่ได้เป็นพันธมิตรกับสำนักสี่คาบสมุทรเช่นนั้นรึ !?”
เมื่อมาถึงนั้น ชูเฟิง ก็เกิดความกังวลอย่างมาก เพราะตอนนี้หมู่เกาะประหารได้ส่งคำเชิญเป็นพันธมิตรออกไปให้กับขุมอำนาจต่างๆ ของเขตทะเลตะวันออก และด้วยความแข็งแกร่งของสำนักสี่คาบสมุทร พวหเขาก็น่าจะได้รับคำเชิญนั้น “สหายข้า ชูเฟิง ข้ารอเจ้าอยู่ !!”
ในขณะที่ ชูเฟิง กำลังกังวลอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา มันคือเสียงที่เขาคุ้นเคย นั่นก็คือเสียงของ ไต้กู๋
เมื่อ ชูเฟิง ได้ยินเสียงนั้น หัวใจของเขาก็พลันรู้สึกมีความสุขขึ้นมา เขารีบหันไปรอบๆ เพื่อมองหาต้นเสียง และเขาพบว่าต้นเสียงนั้นดังขึ้นมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในบริเวณนั้นก็มีร่องรอยของชายชราขาเดียว ไต้กู๋ ทิ้งเอาไว้อยู่ “ผู้อาวุโส ไต้กู๋ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า ขนาดข้าปลอมตัวแล้วนะ !?”
ชูเฟิง กล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะในเวลานั้น ชูเฟิง ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของเขา แต่ ไต้กู๋ กลับเรียกชื่อของเขาออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถล่วงรู้ตัวตนของ ชูเฟิง ได้ “อ่า…มันก็เพียงของเล่นเด็กๆ เจ้าอาจจะหลอกผู้อื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้หรอก !!”
ไต้กู๋ กล่าวพลางยิ้มบางๆ ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
ชูเฟิง ก็ยังคงรู้สึกประหลาดใจอยู่มาก แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ไต้กู๋ นั้นแข็งแกร่ง แต่มาในวันนี้ เขากลับพบว่า ไต้กู๋ มีความแข็งแกร่งที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยเขาก็มีพลังขั้นราชันย์สงครามอย่างแน่นอน
ไต้กู๋ ไม่เคยกดดัน ชูเฟิง แต่อย่างใด อีกทั้งเขายังให้ความช่วยเหลือต่อ ชูเฟิง เป็นอย่างดี มาในวันนี้นั้น ชูเฟิง ได้ตรวจสอบพลังของเขาอีกครั้ง และเขาก็พบว่า ไต้กู๋ มีพลังเทียบได้กับ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน นั่นคือขั้นราชันย์สงคราม มากกว่าระดับหนึ่ง “ผู้อาวุโส ไต้กู๋ ท่านรู้สถานการณ์ของข้าแล้วใช่ไหม !?”
ชูเฟิง กล่าวถาม “เจ้าหมายถึงเรื่องที่เจ้าคือ หวู่ฉิง หรือเรื่องที่เกิดในหุบเขาคนโฉด หรือเรื่องที่เกิดกับตระกูลจื่อล่ะ !!”
ไต้กู๋ กล่าวถามพลางยิ้มบางๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนุก
ชูเฟิง เกาหัวเบาๆ พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ เขารู้แล้วว่า ไต้กู๋ รู้เรื่องของเขาทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงกล่าวถามออกไปตรงๆ”
ผู้อาวุโส ไต้กู๋ เพื่อนๆ ของข้าปลอดภัยดีไหม !?””ไม่ต้องกังวล พวกเขาออกจากเขตทะเลตะวันออกไปก่อนที่เรื่องของเจ้าจะกระจายออกมา !!”
ไต้กู๋ กล่าว “พวกเขาออกจากเขตทะเลตะวันออก !! ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ !?”
ชูเฟิง กล่าวถามออกมาอีกครั้ง “ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาได้มาพบกับข้า และบอกข้าว่สพวกเขาจะไปยังดินแดนที่ห่างไกล ที่ดินแดนนั้นแบ่งออกเป็นหลายอาณาจักร และปกครองโดยราชวงศ์ที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก !!””ราชวงศ์เหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากพอที่จะอยู่ในเขตทะเลตะวันออก พวกเขาเรียกตัวเองว่าราชาในพื้นที่ของเขตที่ห่างไกลออกไป ในทุกๆ ปีพวกเขาจะชุมนุมกันเพื่อสร้างพันธมิตร และในปีนี้ก็ถูกจัดขึ้นในบ้านเกิดของเจ้า ทวีปเก้าอาณาจักร พวกเขาจึงกลับไปเพื่อสนับสนุน เจียง หวู่ชาง !!”
ไต้กู๋ กล่าว “พวกเขาไปกันนานหรือยัง !?”
ชูเฟิง กล่าวถาม “พวกเขาออกไปเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เจ้าจากไป !!”
ไต้กู๋ กล่าว “นี่หมายความว่าในตอนนี้พวกเขาก็น่าจะไปถึงทวีปเก้าอาณาจักรแล้วสินะ !!”
หัวใจที่ตึงเครียดของ ชูเฟิง พลันผ่อนคลายลงอย่างมาก “ไม่ต้องกังวล แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ออกจากเขตทะเลตะว้นออก แต่ก็จะไม่มีใครสามารถทำอันตรายต่อพวกเขาได้ หากพวกเขาอยู่กับข้าที่นี่ !!”
ไต้กู๋ กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ
ชูเฟิง รู้สึกขอบคุณในหัวใจของเขาอย่างมาก เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าเขา และหมู่เกาะประหารต่างเป็นศัตรูต่อกัน
แต่ ไต้กู๋ กลับกล่าวออกมาเช่นนี้ มันหมายความว่า ถึงอย่างไรเขาก็จะยืนข้าง ชูเฟิง อย่างแน่นอน ชายชราที่เขาได้พบโดยบังเอิญคนนี้ กลับให้การสนับสนุนเขาจนถึงที่สุด “ผู้อาวุโส ไต้กู๋ ทำไมสำนักสี่คาบถึงถูกปิดผนึกเอาไว้ !?”
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยความอยากรู้ ในขณะที่เขากำลังรู้สึกตื้นตันใจ “มันเป็นการตัดสินใจของข้า หลังจากที่เข้าได้ปรึกษาเจ้าท่านเจ้าสำนัก !!”
ไต้กู๋ กล่าวพลางยิ้มบางๆ “เรื่องอะไรเหรอ !? ท่านบอกข้าได้ไหม !?”
ชูเฟิง กล่าวถามอีกครั้ง “แน่นอนว่าที่ข้าปิดผนึกสำนักสี่คาบสมุทรเอาไว้นั้นเกี่ยวข้องกับเจ้า !!”
ไต้กู๋ กล่าวพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาอีกว่า”
ก่อนที่ประกาศจับเจ้าจะแพร่กระจายออกมา ข้าก็คิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์เช่นนี้ต้องเกิดขึ้น !!””ด้วยความสัมพันธ์ของสำนักสี่คาบสมุทร อาจจะทำให้เรื่องเหล่านี้แพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็ว และอาจจะเกิดเรื่องขึ้นกับสหายของเจ้า หลังจากที่ข้าปรึกษากับท่านเจ้าสำนัก จ้าจึงปิดผนึกสำนักสี่คาบสมุทรทันที เพราะเหล่าศิษย์ของสำนักต่างก็รู้จักเจ้า ดังนั้น ไม่ช้าก็เร็วเรื่องเช่นนี้ก็ต้องเกิดขึ้น !!””ผู้อาวุโส ไต้กู๋………ท่านทำทุกอย่างเช่นนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของข้า ข้สไม่รู้ว่าจะตอบแทนความช่วยเหลือของท่านได้อย่างไร !!”
ชูเฟง ไม่เคยมาก่อนเลยว่าสำนักสี่คาบสมุทรจะให้ความช่วยเหลือเขามากถึงขนาดนี้ “อ่า….ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าสามารถปกปิดความลับภายในสำนักสี่คาบสมุทรได้ แต่ข้าไม่อาจปกปิดความลับภายนอกได้ มันอาจกล่าวได้ว่า ความลับไม่มีในโลก ไม่ช้าก็เร็ว เรื่องทุกอย่างจะต้องเปิดเผย !!””ยังไงก็ตาม เจ้าควรกลับไปที่ทวีปเก้าอาณาจักร และบอกกับ เจียง หวู่ชาง และคนอื่นๆ ว่ายังไม่ต้องกลับมาที่สำนักสี่คาบสมุทร หรือกลับมาที่เขตทะเลตะวันออก !!”
ไต้กู๋ กล่าว “ผู้อาวุโส หากข้าจากไปเช่นนี้ก็เท่ากับทิ้งปัญหาไว้กับสำนักสี่คาบสมุทรน่ะสิ !!”
ชูเฟิง กล่าวออกมาด้วยความกังวล “มันย่อมไม่มีปัญหา ตราบใดที่พวกเขากล่าวหาสำนักสี่คาบสมุทร พวกเราก็แค่ปฏิเสธออกไป ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่หลักฐาน หากหมู่เกาะประหารต้องการตรวจค้น ก็ให้พวกเขาค้นไป เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็จะไม่พบสิ่งใด !!” “นอกจากนี้ หมู่เกาะประหารได้ประกาศสงครามกับพรรคมารทลายราตรีอย่างชัดเจน หากพวกเขามีความคิดพอ ข้าคิดว่สพวกเขาย่อมไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่มอย่างแน่นอน !!””เช่นเดียวกับที่พวกเขารู้ว่านายหญิง เพียวเมี้ยว ให้ความช่วยเหลือเจ้า แต่พวกเขาก็ไม่กล้าประกาศสงครามกับหุบเขาสายหมอก แม้ว่าสำนักสี่คาบสมุทรจะไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่าหุบเขาสายหมอก แต่พวกเยาก็ยังเป็นขุมพลังที่ไม่อาจประมาทได้เช่นกัน !!”
ไต้กู๋ กล่าวออกมาเสียงเรียบ เขาไม่ได้หวาดกลัวต่อหมู่เกาะประหารแม้แต่น้อย แต่ที่เขาทำเช่นนี้ ก็เป็นเพราะเขากลัวว่า ชูเฟิง จะต้องเผชิญปัญหาใหญ่ “ผู้อาวุโส ท่านช่วยข้าไว้มากจริงๆ หากในอนาคตข้ายังไม่เป็นอะไรไปเสียก่อน ข้าจะต้องกลับมาตอบแทนท่านอย่างแน่นอน !!”
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ ชูเฟิง ต้องการจะตอบแทน ไต้กู๋ ด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของเขา มันเป็นเพราะ ไต้กู๋ ได้ช่วยเหลือเขามาโดยตลอด และไม่เคยขอสิ่งใดตอบแทน มันทำให้ ชูเฟิง รู้สึกขอบคุณเขาออกมาจากหัวใจ “เอาล่ะๆ !! ที่ข้าช่วยเจ้าเพราะข้าชื่นชมในตัวเจ้า ไม่มีเหตุผลอื่น อย่าได้ทำเหมือนกับว่าข้าต้องการอะไรจากเจ้าเช่นนี้ !!”
ไต้กู๋ กล่าวพลางยิ้มบางไปที่ ชูเฟิง ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นไปยังขอบฟ้าไกล และกล่สวออกมาว่า”
ไปเถอะ มีคนกำละงรอเจ้าอยู่ !!”
ชูเฟิง หันกลับไปมองทางที่ ไต้กู๋ มอง และเขาก็ต้องพบกับความตกตะลึง
ในเมฆขาวบนท้องฟ้านั้น มีบางสิ่งอยู่
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : รู้ป่ะว่า ไต้กู๋รู้จักกับ ฉิว ซานเฟิง!!!
B : เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ยังได้ยินมาอีกว่า ไม่กินเส้นกัน!!!
C : ไม่กินเส้น แต่กินข้าวช่ายป่ะ!!!
B : ไปไกลๆ ตีนไป . . . .