ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1030 – ความโกรธของ ชูเฟิง
“หยุด !!”
ในขณะที่ ชูฟิง กำลังซ้อม ฮัน ฉี อยู่น้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เมื่อ ชูเฟิง หันกลับไปมองนั้น เขาก็พบผู้อาวุโสห้าคนปรากฏตัวออกมาที่ลานกว้าง
พวกเขาทั้งห้าคนมีการบ่มเพาะพลังที่ไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงคราม มีสองคนที่มีพลังระดับหนึ่ง อีกสองคนมีพลังระดับสอง และผู้อาวุโสที่มีผมสีดำมีพลังระดับสาม
ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยโกรธแค้น และแววตาของพวกเขาอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารขณะที่มองมายัง ชูเฟิง และมีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาที่ ฮั้น ฉี ด้วยความเจ็บปวด
จากท่าทางของพวกเขานั้น ชูเฟิง รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาทั้งห้าคนเป็นคนของตระกูลฮั้น อีกทั้งพวกเขาทั้งห้าคนยังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับ ฮั้น ฉี
ชูเฟิง มองผ่านผู้อาวุโสทั้งห้าคนไปที่ด้านหลัง เขาก็พบกับชายสามคน สามคนนี้คือคนที่ร่วมมือกับ ฮัน ฉี ในก่อนหน้านี้ แม้ว่าในตอนที่ ฮัน ฉี ถูกอัดในครั้งแรก พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องออกไปตามผู้อาวุโสมาจัดการ “โอ้….”
เมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งห้านั้น ฮั้น ฉี ก็พยายามตะเกียกตะกายยืนขึ้นมา พร้อมกับค่อยเดินตรงมาที่ผู้อาวุโสผมสีดำ ก่อนจะล้มลงตรงหน้าของเขา และร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา
เมื่อผู้อาวุโสผมดำเห็นว่าคางของ ฮั้น ฉี ถูกทำลายเช่นนี้ เขาก็โกรธอย่างมาก เขาตะโกนออกมาเสียงดังขณะที่ชี้ไปที่ ชูเฟิง ว่า”
ทำไมเจ้าถึงทำร้ายเขา !! นี่มันหมายความว่าไง !!””ทำไมข้าถึงทำร้ายเขางั้นรึ !! เจ้าควรจะถามเขามากกว่า !!”
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโทั้งห้านั้นไม่ได้มาด้วยเจตนาดี ชูเฟิง จึงกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส โดยไม่มีความเคารพแม้แต่น้อย “สามหาว !! แน่นอนว่าข้าต้องถามเขา !! แต่ข้าจะถามเจ้าก่อน แล้วเจ้าก็ต้องตอบคำถามของข้า !! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รู้ว่าการทำร้ายศิษย์ด้วยกันจะมีโทษเช่นไร !!”
ผู้อาวุโสผมดำกล่าวออกมาอย่างรุนแรง “กลางวันแสกๆ เช่นนี้ แต่ ฮัน ฉี กลับย่ำยีศิษย์ผู้หญิงต่อหน้าทุกคน ข้าจึงทนไม่ได้ และต้องเข้ามาหยุดเขา !!”
ชูเฟิง กล่าวตอบ “ย่ำยีศิษย์ผู้หญิงเช่นนั้นรึ !! ใครเห็นบ้าง !!”
ผู้อาวุโสคิ้วดาบกล่าวออกมา ขณะที่กวาดสายตาจ้องมองไปยังทุกคน
ด้วยแววตาที่รุนแรงเช่นนั้น ทุกคนต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย พวกเขาทำได้เพียงส่ายศรีษะไปมาเท่านั้น “คนที่ถูกกระทำก็นอนอยู่นั่นไง พวกเจ้าตาบอดรึ !!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็ชี้ไปที่ เฉิน หง พร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เมื่อเห็น เฉิน หง ที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่น่าเวทนาเช่นนั้น ผู้อาวุโสต่างขมวดคิ้วแน่น เพราะนี่หมายความว่านางถูกย่ำยีอย่างแน่นอน
แต่ผู้อาวุโสผมดำกลับเดินตรงไปที่ เฉิน หง พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า”
บอกข้ามาว่าที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่ !! ว่า ฮัน ฉี ย่ำยีเจ้า !! หากเจ้าโกหก เจ้าจะต้องถูกประหาร !!”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยวามข่มขู่ ทุกคนรู้ดีว่าผู้อาวุโสทั้งห้าคนมาที่นี่เพื่อแก้แค้นให้กับ ฮั้น ฉี ดังนั้น ทักคนจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพื่อไม่อยากติดร่างแหของเรื่องนี้ไปด้วย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉิน หง ก็มองไปที่ ฮั้น ฉี และหันกลับมามองที่ ชูเฟิง ที่ช่วยนางเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงไป และส่ายศรีษะโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา “เจ้า…….”
เมื่อเห็น เฉิน หง ส่ายศรีศะเช่นนั้น ความโกรธของ ชูเฟิง ก็ลุกฮือขึ้น เพราะเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือนาง และนี่ก็เป็นการสร้างปัญหาให้กับตัวเขาเอง แม้ว่าเขาไม่ต้องการให้นางตอบแทนเขาแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่นางตอบแทนเขากลับเป็นแบบนี้ “ฮึ่ม !! เจ้ามีอะไรจะพูดไหม !! ไม่เพียงแต่เจ้าจะทำร้ายศิษย์คนอื่น เจ้ายังใส่ร้ายเขาอีกเช่นนั้นรึ !! ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้า !!”
เมื่อได้รับการยืนยันจาก เฉิน หง ผู้อาวุโสผมดำก็ชี้มาที่ ชูเฟิง ด้วยความกราดเกรี้ยว พร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจน “เฉิน หง , เฉิน หลาง พวกเจ้าเจ้ามันขี้ขลาด ไม่กล้ายอมรับแม้กระทั่งเวลาที่มีคนรังแกพวกเจ้า พวกเจ้าก็จงอยู่ไปโดยให้ผู้อื่นเหยียดหยามต่อไปเถอะ !!”
ชูเฟิง ชี้ไปที่ เฉิน หลาง และน้องสาวของเขา พร้อมกับกวาดสายตามองไปที่คนจากเขตทะเลใต้ และตะโกนออกมา
ชูเฟิง ไม่ใช่คนขี้ขลาด ในเมื่อเขากล้าทำเช่นนี้ เขาก็รู้ผลที่จะตามมาอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่คิดว่าคนของเขตทะเลใต้จะเป็นคนขี้ขลาดเช่นนี้
คำกล่าวของ ชูเฟิง นั้นทำให้ทุกๆ คนจากเขตทะเลใต้ต่างนิ่งเงียบ แต่พวกเขาหวาดกลัวต่อผู้อาวุโส พวกเขาจึงไม่กล้ากล่าวอะไรออกมาแม้แต่น้อย “ข้าเป็นพยานได้ !! ข้าเป็นพยานให้ ชูเฟิง ได้ !!”
ในขณะที่ ชูเฟิง คิดว่าจะไม่มีใครกล้ากล่าวออกมานั้น หลี่ เล่ย ก็กล่าวออกมาอย่างกระทันหัน
เจ้าจะเป็นพยานเช่นนั้นรึ ไหนลองว่ามาสิ !!”
เมื่อเห็นว่า หลี่ เล่ย กล่าวออกมานั้น ผู้อาวุโสผมดำก็กล่าวถามออกมา น้ำเสียงของเขาไม่ใช่การสอบถาม แต่มันเป็นการข่มเหงอย่างชัดเจน “ข้าเป็นพยานให้ ชูเฟิง ได้ ก่อนหน้านี้ ฮัน ฉี ได้ย่ำยี เฉิน หง ต่อหน้าทุกๆ คน แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วย ชูเฟิง จึงทนไม่ได้ เขาจึงเข้าไปหยุด ฮัน ฉี !!”
หลี่ เล่ย กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับใบหน้าที่ชโลมไปด้วยเหงือจากความหวาดกลัว แต่ถึงอย่างไรนั้น เขาก็สามารถกล่าวออกมาได้
***** เพี๊ยะ *****
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ หลี่ เล่ย กล่าวจบนั้น ผู้อาวุโสผมดำก็ตบไปที่ใบหน้าของ หลี่ เล่ย อย่างรุนแรง แรงตบนั้นทำให้คางของ หลี่ เล่ย แตกภายในฉาดเดียว
ในขณะนั้น ใบหน้าของ หลี่ เล่ย เต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับที่เขาล่อยออกไป และหมดสติลง “นี่เป็นตัวอย่างของคนที่สมรู้ร่วมคิด พาตัวชายคนนี้ไปขัง ข้าจะสอนบทเรียนให้เขาทีหลัง !!”
หลังจากตบ หลี่ เล่ย แล้วนั้น ผู้อาวุโสผมดำก็หันกลับมามองที่ ชูเฟิง ด้วยแววตาเคียดแค้น “สวะเอ๊ย !!”
เมื่อเห็น หลี่ เลย อยู่ในสภาพเช่นนั้น ชูเฟิง ก็ไม่อาจสะกดความโกรธของเขาได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถยอมให้ผู้อาวุโสทั้งห้าคนนี้จับตัวเขาได้ง่ายๆ
ชูเฟิง ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกับปลดปล่อยพละงขั้นจ้าวสงครามระดับเก้าออกมาอย่างกราดเกรี้ยว
เพียงพริบตาเดียวนั้น ทั่วทั้งลานกว้างก็อัดแน่นไปด้วยความกราดเกรี้ยวของ ชูเฟิง
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : E ดอก เฉิน หง มืงต้องโดนกู!!!
B : กูเอาด้วย!!!!
C : กูขอปิดท้าย ใครเปิดก่อนโทษหนักสุดเท่ากับคนพามา ติดคุกยาวๆ!!!
A : ไม่สนแล้วกู ชม. นี้!!!
C : นี้มืง หื่น. . . หรือ โมโห กันแน่ ?!
A : กูหมายถึง กระทึบ มืงกำลังพูดถึงเรื่องไร ?!